คำแนะนำ : รีวิวผมเป็นรีวิวกาก ๆ ที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดข้อมูลแนะนำต่าง ๆ ไว้ให้นะครับ
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง ไม่เหมาะแก่เยาวชน นะครับ กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วย
ความเดิมตอนที่แล้ว
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 3 คานาซาว่า ชิรากาว่าโกะ ทะกะยาม่า
http://ppantip.com/topic/31281923
เดินทางเมื่อ 6-7กรกฎาคม2556
ผ่านมาเดือนนึงแล้วกับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น วันเวลาช่างเร็วอะไรเยี่ยงนี้ ช่วงนี้แหละที่เริ่มคิดถึงอะไรที่เมืองไทย แต่ยังไงก้อยังไม่อยากกลับอยู่ดี อิอิ สัปดาห์นี้ผมเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็น 1ใน5 ทะเลสาบรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ อันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นไปแล้ว ใครมาก้อต้องอยากมาเห็นความยิ่งใหญ่ด้วยตาตัวเองท้างนั้น ผมเองก้อเหมือนกัน เลยตัดสินใจมาที่นี้มันซะเลย
กว่าจะมาถึงที่นี้ได้เล่นเอาท้อเหมือนกัน ออกจากเมืองคาริยะด้วยรถไฟ ตอน 5:40 ตามปกติ ไปขึ้นชิงคังเซ็นที่โตโยฮาชิ แล้วไปต่ออีกขบวนที่มิชิม่า จากนั้นไปต่ออีกขบวนที่นูมาซุ แล้วต่ออีกขบวนไปโกเท็มบะ แมร่ง....อะไรจะหลายต่อขนาดน๊าน ยัง..ยังไม่จบนะ ต้องขึ้นรถบัสจากโกเท็มบะไปถึงทะเลสาบคาวากูจิโกะอิก รถแมร่งก้อติดทางขึ้นเขา รวมเวลาเดินทางเกือบ ๆ 5 ชั่วโมง หลับไปไม่รุกี่ตื่น ตอนที่นั่งรถไฟเข้าเขตเมืองโกเท็มบะนะ ..แม่จ้าววว หมอกแมร่งงงงงง โคตรพ่องโคตรแมร่งหมอกอะ เกิดมาไม่เคยเห็นหมอกอยู่ในเมืองเยอะขนาดนี้ เยอะขนาดคนที่ยื่นรอรถไฟที่สถานีหัวเปียกอะ หายใจเข้าไปรู้สึกได้ว่ามีน้ำปนอยู่ราวๆ 90% รู้สึกดีสุดตรีนอะ
มาถึงที่ทะเลสาบ จัดก่อนเลย ซื้อตั๋วรถนำเที่ยว ไปเยือนถ้ำเป็นที่แรก เค้าเคลมว่าข้างในถ้ำศูนย์องศา เราก้อจัดซะหน่อย เมืองไทยไม่มีถ้ำศูนย์องศาเฟ้ย ตอนเดินไป ในใจคิด มันจะนศูนย์ได้ไงวะ อากาศข้างนอก 35 เห็นจะได้ พอลงไปเท่านั้นแหละ “กรูหนาว หวาว หวาว หวาว หวาว” กว่าจะเดินวนกลับออกมา เล่นซะเล็บชาไปเบย เลนส์กล้องนี่เต็มไปด้วยไอน้ำดับสนิท รอไปอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะถ่ายได้
จากนั้นก้อไปต่อยังถ้ำค้างคาว ที่ซึ่งไม่มีค้างคาวซ๊ากกาตัว แอบนอยนิสนึง อยากเห็นค้างคาวห้อยหัวตัวเป็น ๆ กะเค้าบ้างไรบ้าง
เส็ดแล้วก้อรอรถไปต่อยังหมู่บ้านไซโกะ อิยาชิ โนะ ซาโตะ เน็นบะ จากหมูบ้านนี้ จะมองเห็นวิวฟูจิซัง
ช่วงเย็นไปรอถ่ายวิวฟูจิซังยามค่ำคืน ระหว่างที่รอ ๆ ไป เริ่มมีคนมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ มีตากล้องมาตั้งกล้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้เราก้อคิดว่า อะไรมันจะมีคนอยากถ่ายเหมือนเราาเยอะะขนาดนี้ฟระเนี่ย ก้อเลยถามพี่ยุ่นข้าง ๆ เค้าบอกว่าวันนี้มีพลุ แค่นั้นแระ อยากจะตะโกนอะไรก้อได้ด้วยความดีใจ (เป็นคนบ้าพลุอะ) คิดดูดิ ฉากหน้าเป็นทะเลสาบ ฉากหลังเป็นฟูจิซัง แมร่งงงง ฟินขนาด
ลองสังเกตุภาพดีดี ระหว่างพลุสองลูก ตรงกลาง จะเห็นไฟหริบ ๆ เป็นทางขึ้นไป อันนั้นเป็นแสงไฟที่คนกะลังเดินขึ้นฟูจิซังนะครับ
ปีหน้า ผมจะไปขึ้นกะเค้าให้ได้ คราวนี้ไปแบบโง่ ๆ ไปหน่อย ไม่ได้เอาสนตรีนสนแตกอะไรไปเลย อดตามระเบียบ
เช้าอีกวัน รีบตื่นแต่เช้า มาเช่าจักรยาน ปั่นเลยคับทีนี้ รอบ ๆ ทะเลสาบเลย หามุมดีดีถ่ายรูปซะหน่อย ที่นี้จิง ๆ แล้วไม่ค่อยมีไรเที่ยวมากหรอก แค่ทะเลสาบ แล้วก้อทะเลสาบ
ปั่นไปซักหน่อย ก้อมาแวะขึ้นระเช้าโรปเวย์ ข้างบนมองเห็นวิวทะเลสาบอย่างชัดเจน พร้อมได้สัมผัสความอลังการของฟูจิซังครับ
มองไปข้างล่างเห็นสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ด้วย เด๋วบ่าย ๆ ไปเล่นกัน
สิ่งที่ชอบมาก ๆ เวลาเดินทางไปไหน ในวันหยุด มักจะเห็นชาวบ้านเค้ารวมตัวกัน ทำความสะอาดเมืองครับ หรือแม้แต่วันธรรมดาเอง ผมเห็นบางคนเดินใส่สูท แต่ถือถุงดำ เดินเก็บขยะก่อนไปทำงาน ไม่แปลกใจที่บ้านเมืองเค้าสะอาด เพราะคนเค้าดีครับ ชุมชนเข้มแข็ง ทุกคนนึกถึงแต่คนอื่นก่อนตัวเองเสมอ เมืองไทยคงไม่มีวันเปนแบบนั้นได้ อันนี้ผมยอมรับ และขอดูถูกคนไทยด้วยกันเองเลย
ช่วงบ่าย ๆ ไปเล่นโรลเลอโคสเตอร์กันที่สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ นั่งรถไฟไป 5 นาที โรลเลอโคสเตอร์ที่นี้รู้สึกจะยาวที่สุดในโลกด้วยนะเออ...นอกจากยาวแล้ว มันยังพิเศษตรงที่ มันสามารถหมุนรอบตัวเองได้ด้วยนะ แต่ไม่ได้หมุนติ้ว ๆ นะ ไม่งั้นอ้วกตาย ลงมาแมร่งรู้สึกอยากต่อคิวเล่นต่อเลยอะ มันส์ฉิหาย คิดดูทั้งหมุนควง หมุนตีตังกา แถมด้วยหมุนรอบตัวเองอิก มันส์เชี่ย ๆ อะ (บ้าโรลเลอโคสเตอร์เหมือนพลุ)
สังเกตุในภาพอีกครั้งครับ ที่ผมบอกว่ามันตีลังกา หมุนควง แล้วหมุนรอบตัวเองได้ด้วย ในภาพจะเห็นว่า ที่นั่งแถวหลังกำลังหมุนพลิกรอบตัวเองอยู่ครับ
หลังจากนั้นก้อเดือนทางกลับด้วยวิธีเดิม..แค่คิดถึงก้อเพลียแระ....เฮ้อ....
โปรดติดตามตอนต่อไปกับ
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 5 สงคราม ความโศกเศร้า และสันติสุข แห่งฮิโรชิม่า
http://ppantip.com/topic/31380945
[CR] จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 4 ฟูจิซังขี้อาย.... (6-7กรกฎาคม2556)
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง ไม่เหมาะแก่เยาวชน นะครับ กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วย
ความเดิมตอนที่แล้ว
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 3 คานาซาว่า ชิรากาว่าโกะ ทะกะยาม่า
http://ppantip.com/topic/31281923
เดินทางเมื่อ 6-7กรกฎาคม2556
ผ่านมาเดือนนึงแล้วกับการใช้ชีวิตในญี่ปุ่น วันเวลาช่างเร็วอะไรเยี่ยงนี้ ช่วงนี้แหละที่เริ่มคิดถึงอะไรที่เมืองไทย แต่ยังไงก้อยังไม่อยากกลับอยู่ดี อิอิ สัปดาห์นี้ผมเดินทางไปยังทะเลสาบคาวากูจิโกะ เป็น 1ใน5 ทะเลสาบรอบ ๆ ภูเขาไฟฟูจิ อันเป็นสัญลักษณ์ของญี่ปุ่นไปแล้ว ใครมาก้อต้องอยากมาเห็นความยิ่งใหญ่ด้วยตาตัวเองท้างนั้น ผมเองก้อเหมือนกัน เลยตัดสินใจมาที่นี้มันซะเลย
กว่าจะมาถึงที่นี้ได้เล่นเอาท้อเหมือนกัน ออกจากเมืองคาริยะด้วยรถไฟ ตอน 5:40 ตามปกติ ไปขึ้นชิงคังเซ็นที่โตโยฮาชิ แล้วไปต่ออีกขบวนที่มิชิม่า จากนั้นไปต่ออีกขบวนที่นูมาซุ แล้วต่ออีกขบวนไปโกเท็มบะ แมร่ง....อะไรจะหลายต่อขนาดน๊าน ยัง..ยังไม่จบนะ ต้องขึ้นรถบัสจากโกเท็มบะไปถึงทะเลสาบคาวากูจิโกะอิก รถแมร่งก้อติดทางขึ้นเขา รวมเวลาเดินทางเกือบ ๆ 5 ชั่วโมง หลับไปไม่รุกี่ตื่น ตอนที่นั่งรถไฟเข้าเขตเมืองโกเท็มบะนะ ..แม่จ้าววว หมอกแมร่งงงงงง โคตรพ่องโคตรแมร่งหมอกอะ เกิดมาไม่เคยเห็นหมอกอยู่ในเมืองเยอะขนาดนี้ เยอะขนาดคนที่ยื่นรอรถไฟที่สถานีหัวเปียกอะ หายใจเข้าไปรู้สึกได้ว่ามีน้ำปนอยู่ราวๆ 90% รู้สึกดีสุดตรีนอะ
มาถึงที่ทะเลสาบ จัดก่อนเลย ซื้อตั๋วรถนำเที่ยว ไปเยือนถ้ำเป็นที่แรก เค้าเคลมว่าข้างในถ้ำศูนย์องศา เราก้อจัดซะหน่อย เมืองไทยไม่มีถ้ำศูนย์องศาเฟ้ย ตอนเดินไป ในใจคิด มันจะนศูนย์ได้ไงวะ อากาศข้างนอก 35 เห็นจะได้ พอลงไปเท่านั้นแหละ “กรูหนาว หวาว หวาว หวาว หวาว” กว่าจะเดินวนกลับออกมา เล่นซะเล็บชาไปเบย เลนส์กล้องนี่เต็มไปด้วยไอน้ำดับสนิท รอไปอีกครึ่งชั่วโมงถึงจะถ่ายได้
จากนั้นก้อไปต่อยังถ้ำค้างคาว ที่ซึ่งไม่มีค้างคาวซ๊ากกาตัว แอบนอยนิสนึง อยากเห็นค้างคาวห้อยหัวตัวเป็น ๆ กะเค้าบ้างไรบ้าง
เส็ดแล้วก้อรอรถไปต่อยังหมู่บ้านไซโกะ อิยาชิ โนะ ซาโตะ เน็นบะ จากหมูบ้านนี้ จะมองเห็นวิวฟูจิซัง
ช่วงเย็นไปรอถ่ายวิวฟูจิซังยามค่ำคืน ระหว่างที่รอ ๆ ไป เริ่มมีคนมาเยอะขึ้นเรื่อย ๆ มีตากล้องมาตั้งกล้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ไอ้เราก้อคิดว่า อะไรมันจะมีคนอยากถ่ายเหมือนเราาเยอะะขนาดนี้ฟระเนี่ย ก้อเลยถามพี่ยุ่นข้าง ๆ เค้าบอกว่าวันนี้มีพลุ แค่นั้นแระ อยากจะตะโกนอะไรก้อได้ด้วยความดีใจ (เป็นคนบ้าพลุอะ) คิดดูดิ ฉากหน้าเป็นทะเลสาบ ฉากหลังเป็นฟูจิซัง แมร่งงงง ฟินขนาด
ลองสังเกตุภาพดีดี ระหว่างพลุสองลูก ตรงกลาง จะเห็นไฟหริบ ๆ เป็นทางขึ้นไป อันนั้นเป็นแสงไฟที่คนกะลังเดินขึ้นฟูจิซังนะครับ
ปีหน้า ผมจะไปขึ้นกะเค้าให้ได้ คราวนี้ไปแบบโง่ ๆ ไปหน่อย ไม่ได้เอาสนตรีนสนแตกอะไรไปเลย อดตามระเบียบ
เช้าอีกวัน รีบตื่นแต่เช้า มาเช่าจักรยาน ปั่นเลยคับทีนี้ รอบ ๆ ทะเลสาบเลย หามุมดีดีถ่ายรูปซะหน่อย ที่นี้จิง ๆ แล้วไม่ค่อยมีไรเที่ยวมากหรอก แค่ทะเลสาบ แล้วก้อทะเลสาบ
ปั่นไปซักหน่อย ก้อมาแวะขึ้นระเช้าโรปเวย์ ข้างบนมองเห็นวิวทะเลสาบอย่างชัดเจน พร้อมได้สัมผัสความอลังการของฟูจิซังครับ
มองไปข้างล่างเห็นสวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ด้วย เด๋วบ่าย ๆ ไปเล่นกัน
สิ่งที่ชอบมาก ๆ เวลาเดินทางไปไหน ในวันหยุด มักจะเห็นชาวบ้านเค้ารวมตัวกัน ทำความสะอาดเมืองครับ หรือแม้แต่วันธรรมดาเอง ผมเห็นบางคนเดินใส่สูท แต่ถือถุงดำ เดินเก็บขยะก่อนไปทำงาน ไม่แปลกใจที่บ้านเมืองเค้าสะอาด เพราะคนเค้าดีครับ ชุมชนเข้มแข็ง ทุกคนนึกถึงแต่คนอื่นก่อนตัวเองเสมอ เมืองไทยคงไม่มีวันเปนแบบนั้นได้ อันนี้ผมยอมรับ และขอดูถูกคนไทยด้วยกันเองเลย
ช่วงบ่าย ๆ ไปเล่นโรลเลอโคสเตอร์กันที่สวนสนุกฟูจิคิวไฮแลนด์ อยู่ไม่ไกลจากทะเลสาบ นั่งรถไฟไป 5 นาที โรลเลอโคสเตอร์ที่นี้รู้สึกจะยาวที่สุดในโลกด้วยนะเออ...นอกจากยาวแล้ว มันยังพิเศษตรงที่ มันสามารถหมุนรอบตัวเองได้ด้วยนะ แต่ไม่ได้หมุนติ้ว ๆ นะ ไม่งั้นอ้วกตาย ลงมาแมร่งรู้สึกอยากต่อคิวเล่นต่อเลยอะ มันส์ฉิหาย คิดดูทั้งหมุนควง หมุนตีตังกา แถมด้วยหมุนรอบตัวเองอิก มันส์เชี่ย ๆ อะ (บ้าโรลเลอโคสเตอร์เหมือนพลุ)
สังเกตุในภาพอีกครั้งครับ ที่ผมบอกว่ามันตีลังกา หมุนควง แล้วหมุนรอบตัวเองได้ด้วย ในภาพจะเห็นว่า ที่นั่งแถวหลังกำลังหมุนพลิกรอบตัวเองอยู่ครับ
หลังจากนั้นก้อเดือนทางกลับด้วยวิธีเดิม..แค่คิดถึงก้อเพลียแระ....เฮ้อ....
โปรดติดตามตอนต่อไปกับ
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 5 สงคราม ความโศกเศร้า และสันติสุข แห่งฮิโรชิม่า
http://ppantip.com/topic/31380945