*** เชือดเช็ด เชเชน: Part II The Farmer, the Sparrow, and the Hound ***

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว นกกระจอกกับสุนัขแก่เป็นสหายสนิทกัน



วันหนึ่งขณะที่สุนัขกำลังนอนหลับอยู่บนถนน นกกระจอกบินไปพบชาวนาคนหนึ่ง กำลังขี่รถม้าบรรทุกไวน์มาอย่างรวดเร็ว นกกระจอกตกใจมาก จะปลุกสุนัขแก่ให้ตื่นก็คงไม่ทัน จึงบินไปบอกชาวนาว่า “ท่านที่รัก โปรดจงชะลอรถลงเถิด สุนัขแก่เพื่อนของฉันกำลังหลับอยู่ข้างหน้านี้”



แต่ชาวนาไม่สนใจ ยังตะบึงรถม้าแล่นทับสุนัขแก่จนขาดใจตาย!

นกกระจอกตกใจมาก จึงร้องว่า “อ้ายคนใจร้าย แกจะต้องฉิบหายจากการกระทำนี้”

ชาวนาได้ยินอย่างนั้นก็หัวเราะ “โฮะโฮะ นกตัวจ้อยอย่างแกจะมีปัญญาทำอะไรฉันได้ เชิญเลย จะเอาไงก็เชิญ เดี๋ยวพ่อตบดิ้น”

นกกระจอกปล่อยให้ชาวนาเดินทางต่อไปอีกหน่อย พอเห็นเผลอจึงบินไปปลดจุกก๊อกถังไวน์บนรถม้า ทำให้ไวน์ไหลลงพื้นหมดสิ้น

ครั้นชาวนารู้ตัวก็ต้องอุทานว่า “ฉิบหายละ ไวน์หกหมดแล้ว!”

“ยังฉิบหายไม่พอ” นกกระจอกกล่าว จึงบินไปเกาะหัวม้าของชาวนา

ชาวนาโกรธมาก “แก ออกจากตรงนั้นเดี๋ยวนี้นะ!” เขาร้อง จึงหยิบขวานขึ้นมาขว้างใส่นกกระจอก แต่นกกระจอกหลบทัน กลายเป็นขวานของชาวนาผันไปโดนม้าของเขาตาย



“ฉิบหายละ ม้าตาย!” ชาวนาอุทานอีก

“ยังฉิบหายไม่พอ” นกกระจอกกล่าว หลังจากนั้นเขาก็สร้างความพินาศให้แก่ชาวนาอีกหลายอย่าง ทั้งพาเพื่อนมาจิกกินข้าวสาลีในไร่จนหมด หรือบินไปกวนจนชาวนาเป็นโรคประสาททำลายข้าวของในบ้านตนเอง

จนสุดท้ายนกกระจอกล่อให้ภรรยาชาวนาเอาขวานจามสามีตนเองตาย จบการแก้แค้นโดยสมบูรณ์



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า “อย่ารังแกคนที่อ่อนแอกว่าเพราะเห็นว่าเขาไม่มีทางสู้ แท้จริงแล้วคนอ่อนแอนั้นอาจสร้างความพินาศให้คนที่แข็งแรงกว่าอย่างคาดไม่ถึง”

จากนิทาน “สุนัข และ นกกระจอก” โดยพี่น้องตระกูลกริมม์

ครับ... ในกระทู้ที่แล้วท่านได้รับทราบถึงประวัติศาสตร์อันทารุณของชาวเชเชน



ท่านได้เห็นสงครามอันสูญเปล่า ที่พวกเขาถูกหลอกทำให้เข้าร่วม



ท่านได้เห็นการที่สตาลินเนรเทศ “คนทั้งประเทศ” ไปเผชิญชะตากรรมในดินแดนทุเรศกันดาร



ท่านได้เห็นพวกเขาถูกกระทำอย่างโหดเหี้ยม อย่างยากจะหาเรื่องราวใดมาเทียบเท่า



และในกระทู้นี้ ...ท่านจะได้เห็นการกลับมาของนกกระจอก...



...มันแค้น...



ท่านจะเห็นการแก้แค้น



ท่านจะเห็นการที่ “ชาวนา” ถูกฝูงนกที่เขาเคยรังแกรุมจิกตี



ท่านจะเห็นการล่มสลายของจักรวรรดิที่เคยมีอิทธิพลที่สุดในยุคร่วมสมัย!



...

...

...

...แต่ตามธรรมดาที่เรื่องราวในโลกนั้นไม่เคยจบลงอย่างแท้จริง...

นิทานเรื่องนี้ก็เช่นกัน... มันยังไม่จบ...

...ท่านจะได้เห็นว่ายังมีสุนัขล่าเนื้อที่ชาวนาเคยเลี้ยงไว้ตัวหนึ่ง...



...มันเป็นชนิดที่ดมกลิ่นเก่ง แกะรอยเก่ง...



...ยามที่มันพรางตัว ไม่มีใครอาจเห็นมันได้ ...ยามที่มันโจมตี มันจะขย้ำเหยื่อจนกว่าจะตาย



และทีละเล็กทีละน้อย... ท่านจะได้เห็นสุนัขล่าเนื้อตัวนั้น เปลี่ยนแปลงโลกที่ท่านใช้ชีวิตอยู่ในปัจจุบัน...



:::  :::  :::

เรียนผู้อ่านทุกท่าน กระทู้นี้เป็นส่วนหนึ่งของสารคดีสงครามชุด The Wild Chronicles หากชื่นชอบสามารถกดไลค์เพจผมได้ที่ https://www.facebook.com/pongsorn.bhumiwat นะครับ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่