ส่วนตัวเป็นครูโรงเรียนเอกชนซึ่งทำหน้าที่หลายอย่าง หนึ่งในนั้นก็คือการสัมภาษณ์ผู้ปกครองของเด็กที่มาสมัครเรียน
ครั้งที่ผ่านมาเมื่อสอบถามในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกรวมถึงขอให้ช่วยอธิบายถึงความรักความเอาใจใส่ต่อลูกอย่างเป็นรูปธรรม ต้องบอกว่าในครั้งนี้พ่อแม่หลายคนยกเอาเรื่องการที่ไม่เคยตีลูกมาเป็นคำตอบ เช่น คุณพ่อท่านนึงท่านตอบว่า “ผมลูกเลี้ยงมาไม่เคยตีแม้แต่แปะเดียว” คุณแม่อีกท่านบอกว่า “ถ้าลูกทำผิดไม่ว่าจะเรื่องอะไรดิฉันจะอธิบายด้วยเหตุผลทุกครั้ง ไม่เคยด่า ไม่เคยตี” อีกท่านตอบว่า “ผมเป็นคนดุ ลูกน้องที่ร้านกลัวผมทุกคน เคยมีคนบอกว่าเด็กคนไหนเกิดเป็นลูกผมคงโดนไม้เรียวลงก้นทุกวัน แต่ครูเชื่อไหมผมเลี้ยงลูกมาจนอายุเท่านี้ผมไม่เคยตีเธอแม้แต่ครั้งเดียว”
และเมื่อโรงเรียนอธิบายแนวทางในการดูแลเด็กของเราว่าทางโรงเรียนก็ไม่มีนโยบายในการลงโทษเด็กด้วยการตีรวมถึงกำชับครูทุกคนไม่ให้ลงโทษเด็กด้วยการตีโดยเด็ดขาด ในครั้งก่อนๆผู้ปกครองบางท่านยังตอบกลับว่า “แต่ผมคิดว่าบางครั้งไม้เรียวก็ยังจำเป็น” , “จริงๆถ้าตีอย่างสมเหตุสมผลดิฉันก็ยังยอมรับได้” , “แต่สำหรับลูกผมๆอนุญาตให้ตีได้นะ”
แต่ในครั้งนี้ไม่มีคำตอบในลักษณะนี้จากผู้ปกครองแม้แต่คนเดียว มีแต่ถ้าไม่พยักหน้าหรือ ตอบรับ ก็บอกว่า “ดีครับ” , “ได้ยินชัดเจนอย่างนี้แล้วผมสบายใจขึ้นเยอะ” , “ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างมาก”
ส่วนตัวก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องการทำโทษเด็กด้วยการตี แต่ก็ค่อนข้างประหลาดใจที่พ่อแม่หลายท่านยกเอาเรื่องการไม่ตีลูกมาแสดงว่าตัวเองเป็นคนรักลูกซึ่งในครั้งก่อนๆหน้านี้ต้องบอกว่าไม่เคยมี
เห็นด้วยไหมถ้าจะบอกว่าพ่อแม่ที่ไม่ลงโทษลูกด้วยการตีรักลูกมากกว่าพ่อแม่ที่ตีลูก
ครั้งที่ผ่านมาเมื่อสอบถามในเรื่องที่เกี่ยวกับการเลี้ยงดูอบรมสั่งสอนลูกรวมถึงขอให้ช่วยอธิบายถึงความรักความเอาใจใส่ต่อลูกอย่างเป็นรูปธรรม ต้องบอกว่าในครั้งนี้พ่อแม่หลายคนยกเอาเรื่องการที่ไม่เคยตีลูกมาเป็นคำตอบ เช่น คุณพ่อท่านนึงท่านตอบว่า “ผมลูกเลี้ยงมาไม่เคยตีแม้แต่แปะเดียว” คุณแม่อีกท่านบอกว่า “ถ้าลูกทำผิดไม่ว่าจะเรื่องอะไรดิฉันจะอธิบายด้วยเหตุผลทุกครั้ง ไม่เคยด่า ไม่เคยตี” อีกท่านตอบว่า “ผมเป็นคนดุ ลูกน้องที่ร้านกลัวผมทุกคน เคยมีคนบอกว่าเด็กคนไหนเกิดเป็นลูกผมคงโดนไม้เรียวลงก้นทุกวัน แต่ครูเชื่อไหมผมเลี้ยงลูกมาจนอายุเท่านี้ผมไม่เคยตีเธอแม้แต่ครั้งเดียว”
และเมื่อโรงเรียนอธิบายแนวทางในการดูแลเด็กของเราว่าทางโรงเรียนก็ไม่มีนโยบายในการลงโทษเด็กด้วยการตีรวมถึงกำชับครูทุกคนไม่ให้ลงโทษเด็กด้วยการตีโดยเด็ดขาด ในครั้งก่อนๆผู้ปกครองบางท่านยังตอบกลับว่า “แต่ผมคิดว่าบางครั้งไม้เรียวก็ยังจำเป็น” , “จริงๆถ้าตีอย่างสมเหตุสมผลดิฉันก็ยังยอมรับได้” , “แต่สำหรับลูกผมๆอนุญาตให้ตีได้นะ”
แต่ในครั้งนี้ไม่มีคำตอบในลักษณะนี้จากผู้ปกครองแม้แต่คนเดียว มีแต่ถ้าไม่พยักหน้าหรือ ตอบรับ ก็บอกว่า “ดีครับ” , “ได้ยินชัดเจนอย่างนี้แล้วผมสบายใจขึ้นเยอะ” , “ดิฉันเห็นด้วยเป็นอย่างมาก”
ส่วนตัวก็ไม่ได้สนับสนุนเรื่องการทำโทษเด็กด้วยการตี แต่ก็ค่อนข้างประหลาดใจที่พ่อแม่หลายท่านยกเอาเรื่องการไม่ตีลูกมาแสดงว่าตัวเองเป็นคนรักลูกซึ่งในครั้งก่อนๆหน้านี้ต้องบอกว่าไม่เคยมี