หลังจากจบทองเนื้อเก้าคืนนี้คนคงไปทำบุญกันเยอะในวันพรุ่งนี้ ผมมีข้อคิดอยากแชร์
วันนี้หลังจากใส่บาตรเสร็จ
ขณะที่ใส่บาตรมีหลายครั้งที่จิตก็แว๊ปไปว่าพระแท้ พระเทียม ใส่แล้วจะได้บุญเยอะไหม ช่วงนี้ต้องวิ่งตามจิตให้ทัน ซึ่งผมจะอนุโมนาสาธุ และไม่คิดอะไรเลย คิดแต่คุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เท่านั้น ขณะรับพรก็น้อมจิตแผ่ไปให้ทุกท่าน ตามที่ผมเขียนไว้ให้ทุกท่านอนุโมทนาบุญร่วมกันในวันที่ผมทำบุญ
สำหรับผมแล้วการใส่บาตร ผมไม่เคยซื้ออาหารที่เขาขายเป็นชุดๆ ชุดละ สามสิบบาทตามตลาดเลย จำเป็นต้องเดินหา เนื่องจากอยากใส่อาหารอื่นๆที่หากพระท่านไม่ฉันแล้ว คนหรือสัตว์ที่มารับอาหารต่อสามารถรับประทานได้ต่ออย่างมีความสุข
ใส่บาตรเสร็จ ผมเดินไปเห็น คนขายสัตว์เพื่อปล่อย เพื่อทำบุญ ขณะนั้น จิตก็วิ่งไปคิดอีกว่า ถ้าซื้อนกตอนนั้น จะเป็นการสนับสนุนคนทำอาชีพนี้ สนับสนุนไปจับมาขังกรงอีก ผมจึงพยายามไม่สนใจและเดินผ่านไป บังเอิญเดินไป เห็นกรงนกใหญ่ๆ ที่มีนกเต็มไปหมด เบียดเสียด แออัด ปีกตีกันไปมา
แน่นอนครับผมเดินกลับมา แล้วซื้อนก 2 ตัวปล่อย ขณะปล่อยไป มันสุขใจเหลือเกิน ได้เห็นนกบินออกไปอย่างมีอิสระ มีความรู้สึกว่า ไม่ได้ช่วยนกสองตัวนี้เท่านั้นแต่ได้ช่วยนกอีกหลายตัวในกรงใหญ่ ให้มีพื้นที่ในกรงมากขึ้นด้วย เพราะเขาก็ต้องเอานกออกจากกรงนั้นมาอีก 2 ตัว ใส่แทนในกรงเดิมที่ผมปล่อยไป
มันเป็นความสุขที่มากกว่าการมานั่งคิดว่า จะปล่อยนกวันไหนเพื่อให้ได้บุญเยอะ ปล่อยกี่ตัว 9 ตัวเหรอ เพื่อให้ได้บุญเยอะ
ทำบุญ อย่าไปคิดอะไรครับ ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยจิตบริสุทธิ์ คิดถึงผู้รับ มากกว่าตัวเอง (ไอ้ที่เรามักคิดกันคือ ขอให้รวย โชคดีๆ ขอให้ได้ขึ้นสวรรค์) นั่นแหละคือบุญอันสุดยอดคุณจะรู้สึกอิ่มเอมมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ทำบุญเสร็จให้บอกผู้อื่นให้อนุโมทนาบุญกับเราด้วย ไม่ใช่เป็นการเพิ่มโบนัสกับบุญที่ได้นะครับ แต่เพื่อชี้นำให้เขาเหล่านั้น เห็นถึงความดีอันเป็นสิ่งที่ควรทำ และอยากจะทำความดีนั้นๆ บ้าง การทำดีเหมือนแชร์ลูกโซ่ครับ ถ้าคุณมีเพื่อน 10 คน เพื่อนของคุณทำดี ตามคุณ 10 คน และเมื่อเพื่อนของคุณเห็นผลของความดี ก็จะบอกไปอีก 10 คน บอกต่อกันไปเรื่อยๆ โลกเราจะสงบสุขมากขึ้นครับ เรียกว่าเป็นการได้บุญแบบ passive จริงๆ เพราะโลกเราจะสงบสุขมากขึ้นกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว มั่นคง
อนุโมทนาสาธุครับ
ทองเนื้อเก้า ทำให้คนเข้าวัดทำบุญกันเยอะแน่ๆ
วันนี้หลังจากใส่บาตรเสร็จ
ขณะที่ใส่บาตรมีหลายครั้งที่จิตก็แว๊ปไปว่าพระแท้ พระเทียม ใส่แล้วจะได้บุญเยอะไหม ช่วงนี้ต้องวิ่งตามจิตให้ทัน ซึ่งผมจะอนุโมนาสาธุ และไม่คิดอะไรเลย คิดแต่คุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์เท่านั้น ขณะรับพรก็น้อมจิตแผ่ไปให้ทุกท่าน ตามที่ผมเขียนไว้ให้ทุกท่านอนุโมทนาบุญร่วมกันในวันที่ผมทำบุญ
สำหรับผมแล้วการใส่บาตร ผมไม่เคยซื้ออาหารที่เขาขายเป็นชุดๆ ชุดละ สามสิบบาทตามตลาดเลย จำเป็นต้องเดินหา เนื่องจากอยากใส่อาหารอื่นๆที่หากพระท่านไม่ฉันแล้ว คนหรือสัตว์ที่มารับอาหารต่อสามารถรับประทานได้ต่ออย่างมีความสุข
ใส่บาตรเสร็จ ผมเดินไปเห็น คนขายสัตว์เพื่อปล่อย เพื่อทำบุญ ขณะนั้น จิตก็วิ่งไปคิดอีกว่า ถ้าซื้อนกตอนนั้น จะเป็นการสนับสนุนคนทำอาชีพนี้ สนับสนุนไปจับมาขังกรงอีก ผมจึงพยายามไม่สนใจและเดินผ่านไป บังเอิญเดินไป เห็นกรงนกใหญ่ๆ ที่มีนกเต็มไปหมด เบียดเสียด แออัด ปีกตีกันไปมา
แน่นอนครับผมเดินกลับมา แล้วซื้อนก 2 ตัวปล่อย ขณะปล่อยไป มันสุขใจเหลือเกิน ได้เห็นนกบินออกไปอย่างมีอิสระ มีความรู้สึกว่า ไม่ได้ช่วยนกสองตัวนี้เท่านั้นแต่ได้ช่วยนกอีกหลายตัวในกรงใหญ่ ให้มีพื้นที่ในกรงมากขึ้นด้วย เพราะเขาก็ต้องเอานกออกจากกรงนั้นมาอีก 2 ตัว ใส่แทนในกรงเดิมที่ผมปล่อยไป
มันเป็นความสุขที่มากกว่าการมานั่งคิดว่า จะปล่อยนกวันไหนเพื่อให้ได้บุญเยอะ ปล่อยกี่ตัว 9 ตัวเหรอ เพื่อให้ได้บุญเยอะ
ทำบุญ อย่าไปคิดอะไรครับ ทำด้วยใจบริสุทธิ์ ด้วยจิตบริสุทธิ์ คิดถึงผู้รับ มากกว่าตัวเอง (ไอ้ที่เรามักคิดกันคือ ขอให้รวย โชคดีๆ ขอให้ได้ขึ้นสวรรค์) นั่นแหละคือบุญอันสุดยอดคุณจะรู้สึกอิ่มเอมมากอย่างไม่เคยรู้สึกมาก่อน
ทำบุญเสร็จให้บอกผู้อื่นให้อนุโมทนาบุญกับเราด้วย ไม่ใช่เป็นการเพิ่มโบนัสกับบุญที่ได้นะครับ แต่เพื่อชี้นำให้เขาเหล่านั้น เห็นถึงความดีอันเป็นสิ่งที่ควรทำ และอยากจะทำความดีนั้นๆ บ้าง การทำดีเหมือนแชร์ลูกโซ่ครับ ถ้าคุณมีเพื่อน 10 คน เพื่อนของคุณทำดี ตามคุณ 10 คน และเมื่อเพื่อนของคุณเห็นผลของความดี ก็จะบอกไปอีก 10 คน บอกต่อกันไปเรื่อยๆ โลกเราจะสงบสุขมากขึ้นครับ เรียกว่าเป็นการได้บุญแบบ passive จริงๆ เพราะโลกเราจะสงบสุขมากขึ้นกว่าเดิมอย่างรวดเร็ว มั่นคง
อนุโมทนาสาธุครับ