ผมขอยอมรับว่าสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์ที่ยากมาก ๆ สำหรับผมที่จะเขียนให้เห็นถึงความแตกต่างอย่างเห็นได้ชัดในหลาย ๆ คู่นะครับ เพราะนักร้องส่วนใหญ่ที่จับมาชนกันเป็นนักร้องที่ไม่สามารถจะนำมาเทียบเคียงกันได้ในช่วงเวลาเดียวกัน เพราะต่างคนก็ต่างมีแนวทาง มีสไตล์ของตัวเองกันหมด แล้วสำหรับสัปดาห์นี้ผมเสียดายนักร้องทีมโค้ชก้องมาก ๆ มีนักร้องที่ดี ๆ หลายคนต้องตกรอบ เพราะไปกองกันอยู่ในทีมเยอะจนเกินไป เฮ้อ!!! ชีวิตมันช่างยากจริงหนอ
แล้วคุณโค้ช ๆ ทั้งหลายครับ การอวยนักร้องเกินจริงเนี่ย เพลา ๆ หน่อยก็ดีครับ หลาย ๆ คนก็อวยเกินจริงไปเยอะมาก ๆ จนจะเป็นเทพบุตรนางฟ้ากันไปหมดแล้วเนี่ย
เหมือนเดิมนะครับ ใครอยากออกความเห็นอะไรก็ทำได้ตามสบายสำหรับกระทู้นี้ แต่ขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์แล้วกันนะครับ
เมย์ - A Thousand Years VS ผึ้ง - Let's Stay Together
จะเปรียบเทียบกันยังไงดีอ่ะฮะสำหรับคู่นี้ คนนึงร้องเพลงเร็วอีกคนร้องเพลงช้า จริง ๆ แล้วคู่คี่กันมาก ๆ ถึงมากที่สุดเลย
ผึ้ง – สนุกไปมั๊ยเนี่ยคุณผึ้ง เพลงมันไม่ได้สนุกขนาดน๊านนนน แล้วใครได้ยินเหมือนผมบ้างครับว่าคุณผึ้งร้องท่อนนั้นว่า You make me feel so brand NO หรือ NEW กันแน่ จริง ๆ มันเป็นเรื่องซีเรียสนะครับ การออกเสียงให้ถูกต้องและตรงตามความหมายเนี่ย เพลงของ Al Green เพลงนี้จะหาใครร้องได้ดีไปกว่าต้นฉบับนี่ยากมากถึงมากที่สุด อารมณ์เพลงเดิมคือมีความสุข สดใส แต่ไม่ถึงกับสนุกขนาดนี้นะครับ นี่คือจุดสำคัญเลย การจะเอาเพลงมาร้องแล้วร้องแบบเดียวกับต้นฉบับนี่อย่าได้เสี่ยงถ้าทำได้ไม่ถึงต้นฉบับนะครับ
เมย์ – ถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นของ Christina Perri แล้ว เวอร์ชั่นของคุณเมย์จะนุ่มนวล ละมุมละไมกว่าเยอะเลยนะครับ แม้ว่าเสียงเวลาลากยาว ๆ จะมีแกว่งแต่โดยรวมแล้วถือว่าดีประมาณนึงเลยล่ะครับ
สรุป: สำหรับผมแล้วเป็นการเลือกที่ถูกต้องครับสำหรับโค้ชแสตมป์ที่เลือกคุณเมย์ เพราะเพลงที่คุณเมย์ร้องนั้นเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของเพลง ๆ นี้ได้ดีกว่าคุณผึ้งจริง ๆ ครับ
แก๊ป - ล้มบ้างก็ได้ VS นิค - Let It Be
เสียดายมาก ๆ ๆ ๆ เลยนะครับสำหรับน้องนิคเนี่ย ไม่น่าเลยจริง ๆ แงงงงงง!!
นิค– ก็เธอนั่นแหล่ะ เธอนั่นแหล่ะที่ทำตัวเองแท้ ๆ อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วนะครับ น้องนิคเนี่ยเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ๆ แต่ยังไงซะน้องก็ยังเด็กครับ การเลือกเพลงนี่สำคัญมาก ๆ เลยนะครับในรอบ Knock Out เพราะมันหมายถึงคุณพลาดไม่ได้เลย หรือต่อให้ไม่พลาดแต่ถ้าเลือกเพลงที่ไม่ส่งความสามารถของตัวเองได้เพียงพอก็ลำบากเหมือนกัน เพลงแบบที่น้องร้องเมื่อรอบ Blind นั่นแหล่ะดีสุดแล้วน้องเอ๊ย เพราะเพลง Let it be ที่น้องร้องนั้น มันไม่ใช่เพลงที่จะทำให้พรสวรรค์ที่น้องมีนั้นส่องแสงออกมาได้มากพอเลยจริง ๆ ครับ
แก๊ป – ผมยอมรับเลยนะครับ คุณแก๊ปเนี่ย เค้าคือตัวอย่างของพรแสวงโดยแท้ เนื้อเสียงก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายนัก แต่คุณแก๊ปสามารถทดแทนได้ด้วยคุณภาพ ผมจินตนาการไม่ออกว่าคุณแก๊ปต้องทุ่มชีวิตของเค้าลงไปมากแค่ไหน ถึงได้สิ่งที่คุณแก๊ปมีอย่างทุกวันนี้นะครับ ตัวโน๊ตมากมายมหาศาลที่ใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด พรั่งพรูออกมาซะจนบางทีมันก็มากเกินไปนิด บังเอิญว่าผมไม่ค่อยจะชอบนักร้องที่ยัดเยียดตัวโน๊ตใส่ผู้ฟังมากจนเกินควร เพราะมันประมวลผลความรู้สึกในการฟังไม่ค่อยทันครับ
สรุป: ต้องบอกว่าน้องนิคเลือกเพลงไม่เหมาะกับตัวเองครับ ถ้าเจอคนอื่นอาจจะผ่านได้ แต่ไม่ใช่กับคุณแก๊ปแน่นอน นี่เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญเลยครับสำหรับน้องนิค น่าเสียดายนะครับ
สงกรานต์ - Apologize VS กิ๊ฟ – Butterfly
เย้!!!! ในที่สุดก็มีคู่ที่ตัดสินง่ายสำหรับผมแล้วครับ เพราะคนนึงแทบไม่มีอะไรต้องติเลย แต่อีกคนนึงพลาดมาก ถึงมากที่สุดฟังดี ๆ แล้วคุณทั้งหลายจะรู้ครับ
กิ๊ฟ – กล้าหาญและประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปครับ ผมสามารถพูดได้แบบนี้เลย หน้าน้องกิ๊ฟว่าเสียแล้วนะครับ แต่หน้าโค้ชแสตมป์เสียมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด หลังจากลงเวทีแล้วน้องควรจะต้องลงไปกราบคุณพี่มือกลองงาม ๆ เลยนะครับ เพราะเพลงนี้ถ้ามือกลองคนเก่งของเราไม่ช่วยตะครุบไว้เพลงนี้อาจจะถึงล่มได้เลย เพราะน้องร้องคร่อมจังหวะโดยสิ้นเชิง แล้วมันเป็นเรื่องร้ายแรงมากนะครับสำหรับนักร้อง ลองไปฟังดูนะครับนาทีที่ 3.11 ถึง 3.21 ของ Youtube Channel TheVoiceThailand (Officer) จะตบเท้าหรือเอามือเคาะโต๊ะก็ได้ครับ ตอนก่อนเข้าท่อนนี้กับตอนออกจากท่อนนี้จังหวะไม่ลงนะครับ แล้วก็ยังมีโน้ตที่ร้องเพี้ยนแถมเข้ามาอีก เรียกว่าเละตุ้มเปะครับงานนี้ การจะร้องเพลงของ Jason Mraz ได้นั้นต้องแน่ใจว่า Timing และ Dynamic ต้องเยี่ยมจริง ๆ เท่านั้นถึงจะร้องได้นะครับ โดยเฉพาะเพลงนี้ ไม่งั้นก็จะเป็นอย่างที่เห็นคือตายกลางเวทีครับ
สงกรานต์ – ชักเข้าท่านะครับหนุ่มคนนี้ มีดีมาโชว์มากขึ้นทุกวัน เสียงสูงที่ขึ้นไปนั่นเรียกว่าสบาย ๆ คอกันเลยทีเดียว โอเคถึงเสียง Distortion จะไม่ได้เซ๊กซี่เท่าต้าร์แต่ก็ไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ละครับ แล้ว Vibration ยังเพราะน่าฟังอีกต่างหาก แหล่มเลยครับคนนี้
สรุป: นี่เป็นรอบ Knock Out ใช่มั๊ยครับ ถ้าเป็นมวย 12 ยก สงกรานต์ก็ชนะ TKO ประมาณยก 3 เลยครับ
เก่ง - ไว้ใจ VS โอปอล์ - I Won't Give Up
คงเป็นคู่ที่ผมชอบที่สุดแล้วละครับสำหรับสัปดาห์นี้ เพราะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพทั้งคู่จริง ๆ
โอปอล์ – ถึงแม้ว่าเพลงของ Jason Mraz เพลงนี้จะไม่ได้ยากถึงขนาดเพลงของกิ๊ฟ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ที่จะร้องจนจบเพลงได้โดยไม่มีแผลใด ๆ ถึงแม้อารมณ์จะไม่ได้เท่าต้นฉบับก็ตาม แต่มันก็ดีพอที่จะทำให้โค้ชและผู้ฟังสะใจได้ไปตาม ๆ กัน เพราะการที่จะต้องร้องตามหลังคุณเก่งที่มีครบทุกอย่างของความเป็นนักร้องที่ดีแล้วทำได้ดีถึงขนาดนี้นี่ ต้องนับว่ามีหัวใจที่แกร่งมากจริง ๆ นับถือเลยครับ
เก่ง – เอาจริงนะครับ รอบนี้คุณเก่งไม่ได้ปล่อยของออกมาเท่ากับรอบที่ผ่าน ๆ มา เน้นไปทางร้องสบาย ๆ ซะมากกว่า นี่คือคนที่มีประสบการณ์สูง ไม่ต้องไปร้องเพลงที่ยากมาก ๆ เพื่อให้รู้ว่ายาก แต่เลือกเอาเพลงที่ร้องได้สบาย ๆ แล้วใส่ความเป็นตัวเองลงไป ทำให้เพลงที่เราเคยฟังกันจนชินหู เกิดความหมายพิเศษบางอย่างขึ้นมาเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่ใช่นักร้องระดับนี้นี่ทำไม่ได้นะครับ เรื่องเสียงร้องคงไม่ได้ต้องมาสาธยายอะไรกันอีกแล้วสำหรับผู้หญิงคนนี้
สรุป: ผมต้องขอชมเชยปอล์จริง ๆ ครับสำหรับรอบนี้ คือมีอะไรก็ต้องปล่อยออกมาตอนนี้แหล่ะ เพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว การจะรอให้นักร้องระดับคุณเก่งพลาดนี่ไม่ต้องไปคิดเลย ถ้าประกบกับคนอื่นในทีมนี่ปอล์จะมีลุ้นมากกว่านี้หลายเท่าตัวเลยครับ เสียดายนักร้องดี ๆ ทีมโค้ชก้องจริง ๆ เลย
โอม - Stand By Me VS เบ็น - We Found Love
การร้องเพลงในระดับนี้นี่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็มองข้ามไปไม่ได้นะครับ เพราะทั้งหมดมันคือส่วนประกอบของความลงตัว เราคงไม่สามารถหาคนที่ Perfect ได้ในการร้องเพลง เพราะแต่ละคนก็มีแนวทางของตัวเองทั้งสิ้น เพื่อรองรับกับอารมณ์ที่หลากหลายของผู้ฟัง แต่สิ่งที่เป็นที่สุดของทุกสไตล์ก็คือความพอดีนั่นเอง
เบ็น – หลังจากรอดพ้นจากเงื้อมือคุณกิตมาจากรอบ Battle เปลี่ยนมาอยู่ทีมใหม่ ก็ยังคงสไตล์เดิมเอาไว้ น้องคนนี้นี่จริง ๆ มีของนะครับ แต่ต้องปรับจูนกันพอสมควรเลย คือการใส่พลังลงไปกับเพลงโดยไม่บันยะบันยังตั้งแต่แรกจนจบมันทำให้เพลงขาด Dynamic ครับ และมันทำให้เพลงไม่มีช่วงพีค แถมยังพลังตกอีกต่างหาก อีกอย่างนึง Vibration นี่ไม่ใช่ว่ายิ่งสั่นเร็วจะยิ่งเพราะนะครับ อย่าเข้าใจผิดครับ ศิลปะในการทำ Vibration เค้ามีของเค้าอยู่ มันคือการทำให้เกิดคลื่นเสียงที่สวยงามไม่ใช่การสั่นนะครับ
โอม – สไตล์นี่มันเป็นเรื่องที่ว่ากันไม่ได้นะครับ การที่นักร้องสักคนนึงจะมีสไตล์ที่ชัดและโด่ดเด่นเป็นของตัวเองนี่มันไม่ได้เกิดมาจากการฝึกฝนนะครับ แต่มันเกิดมาจากสิ่งที่ฝังอยู่ภายใน การจะเปลี่ยนสไตล์เพลง ๆ นึงมาเป็นสไตล์ของตัวเองนี่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำกัน มันอยู่ที่ว่าคนฟังจะชอบหรือไม่เท่านั้น สำหรับเพลงนี้ของคุณโอมก็โอเคนะครับสำหรับผม
สรุป: สำหรับสัปดาห์นี้นี่ส่วนใหญ่คนที่เข้าวินจะเป็นคนที่ร้องคนแรกนะครับ จะเป็นเพราะว่าแรงกดดันน้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยทำให้ทำได้ดีกว่า แล้วคู่นี้ก็เป็นเช่นนั้นครับ
ต้า - ผิดที่ไว้ใจ VS แซม - We Are The Champion
ลุ้นแทบแย่สำหรับคู่นี้นึกว่าพลิกซะแล้ว
ต้า – ตั้งแต่รอบ Blind มาจนถึงรอบนี้ น้องต้าร์ร้องเพลงแบบเสียงแท้เต็ม ๆ เสียงให้ฟังชัด ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ซึ่งเสียงก็เรียกว่าพอใช้ได้เลยครับ แต่คิดว่าเราทุกคนคงรอแค่จังหวะนั้นจังหวะเดียว คือจังหวะที่น้องต้าร์จะหวีด พอผ่านตรงนั้นไปแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ
แซม – สำหรับนักร้องแนวร๊อคในปีนี้ผมเห็นแต่น้องแซมเนี่ยแหล่ะที่ตรงตามสเป๊กที่สุดแล้ว คือร๊อคแบบธรรมชาติเลย ร้องด้วยพลังทั้งหมดที่มี ชัดเจน หนักแน่น ตอนพีคก็ไม่มีตก ยืนระยะได้อย่างเข้มแข็งจริง ๆ นักร้องเพลงร๊อคนี่ต้องเกิดมาเพื่อเป็นนะครับ ไม่ใช่นึกจะร้องก็ร้อง เรื่องเทคนิคเสียงพิเศษสามารถเพิ่มเติมได้ครับ แต่พื้นฐานความเป็นร๊อคต้องมีอยู่ก่อนในตัวครับ
สรุป: ไม่ผิดแน่ครับที่จะเลือกน้องแซมเข้ารอบ ถ้าจะพูดถึงความเป็นร๊อคน้องแซมเหนือกว่าเห็น ๆ ครับ
ปอย - ดาว VS ตุ๊กตา – Angel
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีครับคู่นี้ จับคนเสียงน่ารักกับหน้าตาน่ารักมาคู่กัน ถือเป็นการพักผ่อนหูไปในตัวนะครับ
ปอย – ท่อนกำลังจะเปลี่ยนคีย์เพี้ยนต่ำนะจ๊ะน้อง นอกนั้นก็ร้องได้ตามมาตรฐานของตัวน้องเลยล่ะครับ สำหรับผมน้องไม่เหมาะกับเวทีนี้เท่าไหร่อ่ะครับ ต้องประมาณ The Star หรือ AF ดีกว่า เพราะคนละ Level กันเลย น้องเลยกลายเป็นน้องเล็กที่น่าเอ็นดู เหมือนเป็นของเล่นที่คอยให้ความบันเทิงให้พักผ่อนจากเรื่องเครียด ๆ ได้ดีทีเดียวครับ
ตุ๊กตา – ถือว่าเลือกร้องเพลงที่ยากเลยนะครับรอบนี้ และถ้าเธอไม่มั่นใจเธอคงไม่เสี่ยงแน่ ถึงแม้จะห่างไกลจากต้นฉบับมากมายนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเอาอยู่ประมาณนึงครับ เทคนิคการร้องไม่ได้มีอะไรมากมายไปจากที่เคย แค่พยายามใส่ Feeling และคุมเสียงร้องให้อยู่ก็ผ่านได้แล้วละครับ
สรุป: ถือว่าเป็นนักร้องคนละ Gen แล้วก็จริง ๆ คนละเวทีด้วยนะครับ เฉพาะฉะนั้นเราคงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่าใคร แต่ตุ๊กตาก็ยังเข้าใกล้ The Voice มากกว่าน้องปอยเยอะครับ
อั้มพ์ - Jailhouse Rock VS แตงโม - And I Am Telling You I’m Not Going
คนละเรื่อง คนละแนวทางเลยสำหรับคู่นี้ ไม่มีอะไรต้องเอามาเปรียบเทียบกันนะครับ ชอบแบบไหนก็ว่ากันไปตามถนัดเลยครับ
อั้มพ์ – ท่าทางจะอินและชอบแนวนี้มาก ๆ เลยนะครับสำหรับน้องอั้ม ซึ่งจริง ๆ ก็เข้าถึงได้ประมาณนึงอย่างที่โค้ชคิ้มว่าครับ แต่เป็นระดับ Junior สร้างความสนุกสนานให้ได้ดีทีเดียวครับ
แตงโม – ต้องบอกว่าเด็ดขาดจริง ๆ ครับรอบนี้ ต้องร้องมากี่รอบครับเนี่ยสำหรับเพลงนี้ ถึงจะได้แบบนี้ เหมือนมันอยู่ในเนื้อหนังในจิตวิญญาณเลยนะเนี่ย ลองไปหาเวอร์ชั่นของ Jennifer Hudson มาฟัง แล้วก็กลับมาฟังคุณแตงโมร้องอีกรอบนะครับ ถึงแม้จะยังเทียบกันไม่ได้กับ Hudson แต่ก็เข้าถึงอารมณ์เพลงได้ดีมากเลย แล้วเทคนิคการร้องต่าง ๆ ก็โชว์ออกมาได้เยี่ยมมาก ฟังเธอร้องเพลงนี้แล้วต้องยอมรับว่าน่ากลัวเลยละครับสำหรับคุณเก่ง อยู่ทีมเดียวกันซะด้วย
สรุป: ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนคุณแตงโมก็ดีกว่าหมดแหล่ะครับ สงสัยจะต้องร้องเพลงของ Jennifer Hudson ในรอบต่อ ๆ ไปซะแล้ว เพราะดูเหมือนว่าเพลงแบบนี้จะเข้ากับเธอมากจริง ๆ ครับ
[CR] The Voice Thailand Review: Knock Out Round 24/11/2013
แล้วคุณโค้ช ๆ ทั้งหลายครับ การอวยนักร้องเกินจริงเนี่ย เพลา ๆ หน่อยก็ดีครับ หลาย ๆ คนก็อวยเกินจริงไปเยอะมาก ๆ จนจะเป็นเทพบุตรนางฟ้ากันไปหมดแล้วเนี่ย
เหมือนเดิมนะครับ ใครอยากออกความเห็นอะไรก็ทำได้ตามสบายสำหรับกระทู้นี้ แต่ขอให้เป็นไปอย่างสร้างสรรค์แล้วกันนะครับ
เมย์ - A Thousand Years VS ผึ้ง - Let's Stay Together
จะเปรียบเทียบกันยังไงดีอ่ะฮะสำหรับคู่นี้ คนนึงร้องเพลงเร็วอีกคนร้องเพลงช้า จริง ๆ แล้วคู่คี่กันมาก ๆ ถึงมากที่สุดเลย
ผึ้ง – สนุกไปมั๊ยเนี่ยคุณผึ้ง เพลงมันไม่ได้สนุกขนาดน๊านนนน แล้วใครได้ยินเหมือนผมบ้างครับว่าคุณผึ้งร้องท่อนนั้นว่า You make me feel so brand NO หรือ NEW กันแน่ จริง ๆ มันเป็นเรื่องซีเรียสนะครับ การออกเสียงให้ถูกต้องและตรงตามความหมายเนี่ย เพลงของ Al Green เพลงนี้จะหาใครร้องได้ดีไปกว่าต้นฉบับนี่ยากมากถึงมากที่สุด อารมณ์เพลงเดิมคือมีความสุข สดใส แต่ไม่ถึงกับสนุกขนาดนี้นะครับ นี่คือจุดสำคัญเลย การจะเอาเพลงมาร้องแล้วร้องแบบเดียวกับต้นฉบับนี่อย่าได้เสี่ยงถ้าทำได้ไม่ถึงต้นฉบับนะครับ
เมย์ – ถ้าเทียบกับเวอร์ชั่นของ Christina Perri แล้ว เวอร์ชั่นของคุณเมย์จะนุ่มนวล ละมุมละไมกว่าเยอะเลยนะครับ แม้ว่าเสียงเวลาลากยาว ๆ จะมีแกว่งแต่โดยรวมแล้วถือว่าดีประมาณนึงเลยล่ะครับ
สรุป: สำหรับผมแล้วเป็นการเลือกที่ถูกต้องครับสำหรับโค้ชแสตมป์ที่เลือกคุณเมย์ เพราะเพลงที่คุณเมย์ร้องนั้นเข้าถึงความหมายที่แท้จริงของเพลง ๆ นี้ได้ดีกว่าคุณผึ้งจริง ๆ ครับ
แก๊ป - ล้มบ้างก็ได้ VS นิค - Let It Be
เสียดายมาก ๆ ๆ ๆ เลยนะครับสำหรับน้องนิคเนี่ย ไม่น่าเลยจริง ๆ แงงงงงง!!
นิค– ก็เธอนั่นแหล่ะ เธอนั่นแหล่ะที่ทำตัวเองแท้ ๆ อย่างที่ผมเคยบอกไปแล้วนะครับ น้องนิคเนี่ยเป็นคนมีพรสวรรค์มาก ๆ แต่ยังไงซะน้องก็ยังเด็กครับ การเลือกเพลงนี่สำคัญมาก ๆ เลยนะครับในรอบ Knock Out เพราะมันหมายถึงคุณพลาดไม่ได้เลย หรือต่อให้ไม่พลาดแต่ถ้าเลือกเพลงที่ไม่ส่งความสามารถของตัวเองได้เพียงพอก็ลำบากเหมือนกัน เพลงแบบที่น้องร้องเมื่อรอบ Blind นั่นแหล่ะดีสุดแล้วน้องเอ๊ย เพราะเพลง Let it be ที่น้องร้องนั้น มันไม่ใช่เพลงที่จะทำให้พรสวรรค์ที่น้องมีนั้นส่องแสงออกมาได้มากพอเลยจริง ๆ ครับ
แก๊ป – ผมยอมรับเลยนะครับ คุณแก๊ปเนี่ย เค้าคือตัวอย่างของพรแสวงโดยแท้ เนื้อเสียงก็ไม่ได้ดีอะไรมากมายนัก แต่คุณแก๊ปสามารถทดแทนได้ด้วยคุณภาพ ผมจินตนาการไม่ออกว่าคุณแก๊ปต้องทุ่มชีวิตของเค้าลงไปมากแค่ไหน ถึงได้สิ่งที่คุณแก๊ปมีอย่างทุกวันนี้นะครับ ตัวโน๊ตมากมายมหาศาลที่ใช้ยังไงก็ไม่มีวันหมด พรั่งพรูออกมาซะจนบางทีมันก็มากเกินไปนิด บังเอิญว่าผมไม่ค่อยจะชอบนักร้องที่ยัดเยียดตัวโน๊ตใส่ผู้ฟังมากจนเกินควร เพราะมันประมวลผลความรู้สึกในการฟังไม่ค่อยทันครับ
สรุป: ต้องบอกว่าน้องนิคเลือกเพลงไม่เหมาะกับตัวเองครับ ถ้าเจอคนอื่นอาจจะผ่านได้ แต่ไม่ใช่กับคุณแก๊ปแน่นอน นี่เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญเลยครับสำหรับน้องนิค น่าเสียดายนะครับ
สงกรานต์ - Apologize VS กิ๊ฟ – Butterfly
เย้!!!! ในที่สุดก็มีคู่ที่ตัดสินง่ายสำหรับผมแล้วครับ เพราะคนนึงแทบไม่มีอะไรต้องติเลย แต่อีกคนนึงพลาดมาก ถึงมากที่สุดฟังดี ๆ แล้วคุณทั้งหลายจะรู้ครับ
กิ๊ฟ – กล้าหาญและประเมินความสามารถของตัวเองสูงเกินไปครับ ผมสามารถพูดได้แบบนี้เลย หน้าน้องกิ๊ฟว่าเสียแล้วนะครับ แต่หน้าโค้ชแสตมป์เสียมากกว่าอย่างเห็นได้ชัด หลังจากลงเวทีแล้วน้องควรจะต้องลงไปกราบคุณพี่มือกลองงาม ๆ เลยนะครับ เพราะเพลงนี้ถ้ามือกลองคนเก่งของเราไม่ช่วยตะครุบไว้เพลงนี้อาจจะถึงล่มได้เลย เพราะน้องร้องคร่อมจังหวะโดยสิ้นเชิง แล้วมันเป็นเรื่องร้ายแรงมากนะครับสำหรับนักร้อง ลองไปฟังดูนะครับนาทีที่ 3.11 ถึง 3.21 ของ Youtube Channel TheVoiceThailand (Officer) จะตบเท้าหรือเอามือเคาะโต๊ะก็ได้ครับ ตอนก่อนเข้าท่อนนี้กับตอนออกจากท่อนนี้จังหวะไม่ลงนะครับ แล้วก็ยังมีโน้ตที่ร้องเพี้ยนแถมเข้ามาอีก เรียกว่าเละตุ้มเปะครับงานนี้ การจะร้องเพลงของ Jason Mraz ได้นั้นต้องแน่ใจว่า Timing และ Dynamic ต้องเยี่ยมจริง ๆ เท่านั้นถึงจะร้องได้นะครับ โดยเฉพาะเพลงนี้ ไม่งั้นก็จะเป็นอย่างที่เห็นคือตายกลางเวทีครับ
สงกรานต์ – ชักเข้าท่านะครับหนุ่มคนนี้ มีดีมาโชว์มากขึ้นทุกวัน เสียงสูงที่ขึ้นไปนั่นเรียกว่าสบาย ๆ คอกันเลยทีเดียว โอเคถึงเสียง Distortion จะไม่ได้เซ๊กซี่เท่าต้าร์แต่ก็ไม่ทิ้งกันเท่าไหร่ละครับ แล้ว Vibration ยังเพราะน่าฟังอีกต่างหาก แหล่มเลยครับคนนี้
สรุป: นี่เป็นรอบ Knock Out ใช่มั๊ยครับ ถ้าเป็นมวย 12 ยก สงกรานต์ก็ชนะ TKO ประมาณยก 3 เลยครับ
เก่ง - ไว้ใจ VS โอปอล์ - I Won't Give Up
คงเป็นคู่ที่ผมชอบที่สุดแล้วละครับสำหรับสัปดาห์นี้ เพราะเปี่ยมไปด้วยคุณภาพทั้งคู่จริง ๆ
โอปอล์ – ถึงแม้ว่าเพลงของ Jason Mraz เพลงนี้จะไม่ได้ยากถึงขนาดเพลงของกิ๊ฟ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายเลยนะครับ ที่จะร้องจนจบเพลงได้โดยไม่มีแผลใด ๆ ถึงแม้อารมณ์จะไม่ได้เท่าต้นฉบับก็ตาม แต่มันก็ดีพอที่จะทำให้โค้ชและผู้ฟังสะใจได้ไปตาม ๆ กัน เพราะการที่จะต้องร้องตามหลังคุณเก่งที่มีครบทุกอย่างของความเป็นนักร้องที่ดีแล้วทำได้ดีถึงขนาดนี้นี่ ต้องนับว่ามีหัวใจที่แกร่งมากจริง ๆ นับถือเลยครับ
เก่ง – เอาจริงนะครับ รอบนี้คุณเก่งไม่ได้ปล่อยของออกมาเท่ากับรอบที่ผ่าน ๆ มา เน้นไปทางร้องสบาย ๆ ซะมากกว่า นี่คือคนที่มีประสบการณ์สูง ไม่ต้องไปร้องเพลงที่ยากมาก ๆ เพื่อให้รู้ว่ายาก แต่เลือกเอาเพลงที่ร้องได้สบาย ๆ แล้วใส่ความเป็นตัวเองลงไป ทำให้เพลงที่เราเคยฟังกันจนชินหู เกิดความหมายพิเศษบางอย่างขึ้นมาเพิ่มมากขึ้น ถ้าไม่ใช่นักร้องระดับนี้นี่ทำไม่ได้นะครับ เรื่องเสียงร้องคงไม่ได้ต้องมาสาธยายอะไรกันอีกแล้วสำหรับผู้หญิงคนนี้
สรุป: ผมต้องขอชมเชยปอล์จริง ๆ ครับสำหรับรอบนี้ คือมีอะไรก็ต้องปล่อยออกมาตอนนี้แหล่ะ เพราะมันเป็นโอกาสสุดท้ายแล้ว การจะรอให้นักร้องระดับคุณเก่งพลาดนี่ไม่ต้องไปคิดเลย ถ้าประกบกับคนอื่นในทีมนี่ปอล์จะมีลุ้นมากกว่านี้หลายเท่าตัวเลยครับ เสียดายนักร้องดี ๆ ทีมโค้ชก้องจริง ๆ เลย
โอม - Stand By Me VS เบ็น - We Found Love
การร้องเพลงในระดับนี้นี่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เราก็มองข้ามไปไม่ได้นะครับ เพราะทั้งหมดมันคือส่วนประกอบของความลงตัว เราคงไม่สามารถหาคนที่ Perfect ได้ในการร้องเพลง เพราะแต่ละคนก็มีแนวทางของตัวเองทั้งสิ้น เพื่อรองรับกับอารมณ์ที่หลากหลายของผู้ฟัง แต่สิ่งที่เป็นที่สุดของทุกสไตล์ก็คือความพอดีนั่นเอง
เบ็น – หลังจากรอดพ้นจากเงื้อมือคุณกิตมาจากรอบ Battle เปลี่ยนมาอยู่ทีมใหม่ ก็ยังคงสไตล์เดิมเอาไว้ น้องคนนี้นี่จริง ๆ มีของนะครับ แต่ต้องปรับจูนกันพอสมควรเลย คือการใส่พลังลงไปกับเพลงโดยไม่บันยะบันยังตั้งแต่แรกจนจบมันทำให้เพลงขาด Dynamic ครับ และมันทำให้เพลงไม่มีช่วงพีค แถมยังพลังตกอีกต่างหาก อีกอย่างนึง Vibration นี่ไม่ใช่ว่ายิ่งสั่นเร็วจะยิ่งเพราะนะครับ อย่าเข้าใจผิดครับ ศิลปะในการทำ Vibration เค้ามีของเค้าอยู่ มันคือการทำให้เกิดคลื่นเสียงที่สวยงามไม่ใช่การสั่นนะครับ
โอม – สไตล์นี่มันเป็นเรื่องที่ว่ากันไม่ได้นะครับ การที่นักร้องสักคนนึงจะมีสไตล์ที่ชัดและโด่ดเด่นเป็นของตัวเองนี่มันไม่ได้เกิดมาจากการฝึกฝนนะครับ แต่มันเกิดมาจากสิ่งที่ฝังอยู่ภายใน การจะเปลี่ยนสไตล์เพลง ๆ นึงมาเป็นสไตล์ของตัวเองนี่เป็นเรื่องที่ใคร ๆ ก็ทำกัน มันอยู่ที่ว่าคนฟังจะชอบหรือไม่เท่านั้น สำหรับเพลงนี้ของคุณโอมก็โอเคนะครับสำหรับผม
สรุป: สำหรับสัปดาห์นี้นี่ส่วนใหญ่คนที่เข้าวินจะเป็นคนที่ร้องคนแรกนะครับ จะเป็นเพราะว่าแรงกดดันน้อยหรือเปล่าก็ไม่รู้ เลยทำให้ทำได้ดีกว่า แล้วคู่นี้ก็เป็นเช่นนั้นครับ
ต้า - ผิดที่ไว้ใจ VS แซม - We Are The Champion
ลุ้นแทบแย่สำหรับคู่นี้นึกว่าพลิกซะแล้ว
ต้า – ตั้งแต่รอบ Blind มาจนถึงรอบนี้ น้องต้าร์ร้องเพลงแบบเสียงแท้เต็ม ๆ เสียงให้ฟังชัด ๆ เป็นครั้งแรกเลยนะครับ ซึ่งเสียงก็เรียกว่าพอใช้ได้เลยครับ แต่คิดว่าเราทุกคนคงรอแค่จังหวะนั้นจังหวะเดียว คือจังหวะที่น้องต้าร์จะหวีด พอผ่านตรงนั้นไปแล้วก็ไม่มีอะไรแล้วล่ะครับ
แซม – สำหรับนักร้องแนวร๊อคในปีนี้ผมเห็นแต่น้องแซมเนี่ยแหล่ะที่ตรงตามสเป๊กที่สุดแล้ว คือร๊อคแบบธรรมชาติเลย ร้องด้วยพลังทั้งหมดที่มี ชัดเจน หนักแน่น ตอนพีคก็ไม่มีตก ยืนระยะได้อย่างเข้มแข็งจริง ๆ นักร้องเพลงร๊อคนี่ต้องเกิดมาเพื่อเป็นนะครับ ไม่ใช่นึกจะร้องก็ร้อง เรื่องเทคนิคเสียงพิเศษสามารถเพิ่มเติมได้ครับ แต่พื้นฐานความเป็นร๊อคต้องมีอยู่ก่อนในตัวครับ
สรุป: ไม่ผิดแน่ครับที่จะเลือกน้องแซมเข้ารอบ ถ้าจะพูดถึงความเป็นร๊อคน้องแซมเหนือกว่าเห็น ๆ ครับ
ปอย - ดาว VS ตุ๊กตา – Angel
ถ้อยทีถ้อยอาศัยกันดีครับคู่นี้ จับคนเสียงน่ารักกับหน้าตาน่ารักมาคู่กัน ถือเป็นการพักผ่อนหูไปในตัวนะครับ
ปอย – ท่อนกำลังจะเปลี่ยนคีย์เพี้ยนต่ำนะจ๊ะน้อง นอกนั้นก็ร้องได้ตามมาตรฐานของตัวน้องเลยล่ะครับ สำหรับผมน้องไม่เหมาะกับเวทีนี้เท่าไหร่อ่ะครับ ต้องประมาณ The Star หรือ AF ดีกว่า เพราะคนละ Level กันเลย น้องเลยกลายเป็นน้องเล็กที่น่าเอ็นดู เหมือนเป็นของเล่นที่คอยให้ความบันเทิงให้พักผ่อนจากเรื่องเครียด ๆ ได้ดีทีเดียวครับ
ตุ๊กตา – ถือว่าเลือกร้องเพลงที่ยากเลยนะครับรอบนี้ และถ้าเธอไม่มั่นใจเธอคงไม่เสี่ยงแน่ ถึงแม้จะห่างไกลจากต้นฉบับมากมายนัก แต่ก็ต้องยอมรับว่าเอาอยู่ประมาณนึงครับ เทคนิคการร้องไม่ได้มีอะไรมากมายไปจากที่เคย แค่พยายามใส่ Feeling และคุมเสียงร้องให้อยู่ก็ผ่านได้แล้วละครับ
สรุป: ถือว่าเป็นนักร้องคนละ Gen แล้วก็จริง ๆ คนละเวทีด้วยนะครับ เฉพาะฉะนั้นเราคงเอามาเปรียบเทียบกันไม่ได้ ไม่ได้บอกว่าใครดีกว่าใคร แต่ตุ๊กตาก็ยังเข้าใกล้ The Voice มากกว่าน้องปอยเยอะครับ
อั้มพ์ - Jailhouse Rock VS แตงโม - And I Am Telling You I’m Not Going
คนละเรื่อง คนละแนวทางเลยสำหรับคู่นี้ ไม่มีอะไรต้องเอามาเปรียบเทียบกันนะครับ ชอบแบบไหนก็ว่ากันไปตามถนัดเลยครับ
อั้มพ์ – ท่าทางจะอินและชอบแนวนี้มาก ๆ เลยนะครับสำหรับน้องอั้ม ซึ่งจริง ๆ ก็เข้าถึงได้ประมาณนึงอย่างที่โค้ชคิ้มว่าครับ แต่เป็นระดับ Junior สร้างความสนุกสนานให้ได้ดีทีเดียวครับ
แตงโม – ต้องบอกว่าเด็ดขาดจริง ๆ ครับรอบนี้ ต้องร้องมากี่รอบครับเนี่ยสำหรับเพลงนี้ ถึงจะได้แบบนี้ เหมือนมันอยู่ในเนื้อหนังในจิตวิญญาณเลยนะเนี่ย ลองไปหาเวอร์ชั่นของ Jennifer Hudson มาฟัง แล้วก็กลับมาฟังคุณแตงโมร้องอีกรอบนะครับ ถึงแม้จะยังเทียบกันไม่ได้กับ Hudson แต่ก็เข้าถึงอารมณ์เพลงได้ดีมากเลย แล้วเทคนิคการร้องต่าง ๆ ก็โชว์ออกมาได้เยี่ยมมาก ฟังเธอร้องเพลงนี้แล้วต้องยอมรับว่าน่ากลัวเลยละครับสำหรับคุณเก่ง อยู่ทีมเดียวกันซะด้วย
สรุป: ไม่ว่าจะเป็นมุมไหนคุณแตงโมก็ดีกว่าหมดแหล่ะครับ สงสัยจะต้องร้องเพลงของ Jennifer Hudson ในรอบต่อ ๆ ไปซะแล้ว เพราะดูเหมือนว่าเพลงแบบนี้จะเข้ากับเธอมากจริง ๆ ครับ