สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
เราค่ะ
แฟนเก่าเราตอนมหาวิทยาลัยเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่ายมาก ขี้หงุดหงิด พูดอะไรไม่เข้าหูจะด่าก่อนเลย
พอคบไปซักพักเริ่มปากล่องทิชชู่ในรถใส่ หยิบมือถือจากมือเราไปปาลงพื้น ทุบตัวเอง ตีหัวตัวเอง
พอเราตีตัวออกห่างก็ตามมาหาถึงบ้าน ขับรถมาเฉี่ยวรถพี่ชายเราที่จอดอยู่หน้าบ้าน
เราพยายามเลิกหลายทีแล้วเค้าไม่ให้เลิก เราก็โง่ค่ะตอนนั้นไม่กล้าบอกที่บ้าน กลัวพ่อแม่เครียด
มีวันนึงหลวมตัวไปห้างด้วยกัน นั่งไปในรถ เค้าถามเรื่องว่าทำไมไม่รักเค้าแล้ว แล้วเค้าก็ทุบไหปาร้าเรา กระชากผมเราดึงไปที่ด้านคนขับ แล้วก็ทุบหลังเรา เราร้องไห้กรี๊ดแหกปากโวยวายขอโทษเค้า เค้าก็ปล่อย แล้วพามาส่งบ้าน แล้วจากนั้นก็โทรขู่เราตลอดว่าถ้าเลิกกันเรากับที่บ้านต้องตาย เราเลยบอกที่บ้านแล้วพี่ชายเราพาไปโรงพักทำบันทึกประจำวัน แล้วเราสแกนใบแจ้งความส่งอีเมลไปให้เค้าดู เค้าถึงเลิกทำค่ะ
เข็ดมากๆค่ะผู้ชายแบบนี้ จากนั้นมาเราเห็นผู้ชายคนไหนที่มีสัญญาณบ่งบอกว่าใจร้อน วู่วาม เอะอะก็ปาของหรือทำตึงตังๆเวลาไม่พอใจ เราชิ่งเลยค่ะ และเรากลายเป็นมีนิสัยไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนรู้บ้านเราด้วยค่ะ เวลาไปเที่ยวไปกินข้าวไม่ต้องมารับหรือส่งเรา เราไปรถไฟฟ้าเอาอย่างเดียว
แฟนเก่าเราตอนมหาวิทยาลัยเป็นคนอารมณ์ร้อน โมโหง่ายมาก ขี้หงุดหงิด พูดอะไรไม่เข้าหูจะด่าก่อนเลย
พอคบไปซักพักเริ่มปากล่องทิชชู่ในรถใส่ หยิบมือถือจากมือเราไปปาลงพื้น ทุบตัวเอง ตีหัวตัวเอง
พอเราตีตัวออกห่างก็ตามมาหาถึงบ้าน ขับรถมาเฉี่ยวรถพี่ชายเราที่จอดอยู่หน้าบ้าน
เราพยายามเลิกหลายทีแล้วเค้าไม่ให้เลิก เราก็โง่ค่ะตอนนั้นไม่กล้าบอกที่บ้าน กลัวพ่อแม่เครียด
มีวันนึงหลวมตัวไปห้างด้วยกัน นั่งไปในรถ เค้าถามเรื่องว่าทำไมไม่รักเค้าแล้ว แล้วเค้าก็ทุบไหปาร้าเรา กระชากผมเราดึงไปที่ด้านคนขับ แล้วก็ทุบหลังเรา เราร้องไห้กรี๊ดแหกปากโวยวายขอโทษเค้า เค้าก็ปล่อย แล้วพามาส่งบ้าน แล้วจากนั้นก็โทรขู่เราตลอดว่าถ้าเลิกกันเรากับที่บ้านต้องตาย เราเลยบอกที่บ้านแล้วพี่ชายเราพาไปโรงพักทำบันทึกประจำวัน แล้วเราสแกนใบแจ้งความส่งอีเมลไปให้เค้าดู เค้าถึงเลิกทำค่ะ
เข็ดมากๆค่ะผู้ชายแบบนี้ จากนั้นมาเราเห็นผู้ชายคนไหนที่มีสัญญาณบ่งบอกว่าใจร้อน วู่วาม เอะอะก็ปาของหรือทำตึงตังๆเวลาไม่พอใจ เราชิ่งเลยค่ะ และเรากลายเป็นมีนิสัยไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนรู้บ้านเราด้วยค่ะ เวลาไปเที่ยวไปกินข้าวไม่ต้องมารับหรือส่งเรา เราไปรถไฟฟ้าเอาอย่างเดียว
ความคิดเห็นที่ 8
ดิฉันทำงานด้านนี้อยู่ต่างประเทศ สิ่งที่อยากเห็นเกิดขึ้นในประเทศไทยคือ ขอให้ตำรวจรับแจ้งความในคดีที่เป็นการ abuse ไม่ว่าจะเป็นการทำร้ายร่างกาย ทะเลาะเบาะแว้งทุ่มข้าวของใส่กัน หรือกักขังหน่วงเหนี่ยว ฯลฯ จะมาอ้างว่าเรื่องของผัวเมียเดี๋ยวก็ดีกัน มันไม่ใช่แค่นั้น
การทำร้ายร่างกาย เป็นหนึ่งในเหตุแห่งการหย่า คือฝ่ายที่ถูกทำร้ายสามารถฟ้องหย่าได้ทันที แต่ปัญหาคือ เมื่อตำรวจไม่รับแจ้งความ ทำให้ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการยื่นฟ้องหย่า/เรียกค่าเลี้ยงดูบุตร พยานก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง และหากเข้ามายุ่งก็ต้องเปิดเผยตัว ต่างกับในหลายๆ ประเทศ ที่ตำรวจต้องรับแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร คนที่เป็นพยาน สามารถให้ปากคำเป็นจดหมายได้ และมีการปกปิดตัวตนของพยานเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ยินดีให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ถูกทำร้าย
นอกจากนั้น ยังมีการใช้อำนาจศาลออกเอกสารห้ามฝ่ายที่ทำร้ายเขา เข้าใกล้เกินกว่าระยะ 100 หลา หรือที่เรียกว่า restraining order เพื่อป้องกัน คุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ถูกทำร้าย หากฝ่าฝืน restraining order ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันทีและโทษคือนอนกรงอย่างเดียว ไม่มีการประกันตัว อยากให้กฏหมายไทยมีตรงนี้ด้วย
ที่ว่าสถิติของไทยสูงมากขนาดนั้น ดิฉันไม่แปลกใจเลย เพราะกลไกของกฏหมายและวิธีการปฏิบัติงานของตำรวจไทย ทำให้ผู้หญิงหมดที่พึ่ง มูลนิธิปวีณาแห่งเดียวไม่พอหรอกค่ะ
การทำร้ายร่างกาย เป็นหนึ่งในเหตุแห่งการหย่า คือฝ่ายที่ถูกทำร้ายสามารถฟ้องหย่าได้ทันที แต่ปัญหาคือ เมื่อตำรวจไม่รับแจ้งความ ทำให้ไม่มีพยานหลักฐานเพียงพอในการยื่นฟ้องหย่า/เรียกค่าเลี้ยงดูบุตร พยานก็ไม่อยากเข้ามายุ่ง และหากเข้ามายุ่งก็ต้องเปิดเผยตัว ต่างกับในหลายๆ ประเทศ ที่ตำรวจต้องรับแจ้งความ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร คนที่เป็นพยาน สามารถให้ปากคำเป็นจดหมายได้ และมีการปกปิดตัวตนของพยานเพื่อเหตุผลด้านความปลอดภัย ทำให้คนที่เห็นเหตุการณ์ยินดีให้ความช่วยเหลือผู้หญิงและเด็กที่ถูกทำร้าย
นอกจากนั้น ยังมีการใช้อำนาจศาลออกเอกสารห้ามฝ่ายที่ทำร้ายเขา เข้าใกล้เกินกว่าระยะ 100 หลา หรือที่เรียกว่า restraining order เพื่อป้องกัน คุ้มครองสวัสดิภาพของผู้ถูกทำร้าย หากฝ่าฝืน restraining order ตำรวจสามารถจับกุมได้ทันทีและโทษคือนอนกรงอย่างเดียว ไม่มีการประกันตัว อยากให้กฏหมายไทยมีตรงนี้ด้วย
ที่ว่าสถิติของไทยสูงมากขนาดนั้น ดิฉันไม่แปลกใจเลย เพราะกลไกของกฏหมายและวิธีการปฏิบัติงานของตำรวจไทย ทำให้ผู้หญิงหมดที่พึ่ง มูลนิธิปวีณาแห่งเดียวไม่พอหรอกค่ะ
แสดงความคิดเห็น
ใครที่เคยโดน ตบตี หรือถูกผู้ชายทำร้ายบ้าง ช่วยมาแชร์หน่อยค่ะ (วันนี้วันที่ 25 พย)เป็นวันต่อต้านความรุนแรงต่อสตรีและเด็ก
และที่น่าตกใจกว่านั้นคือ ผู้หญิงไทยยอมรับการทำร้ายร่างกายจากผู้ชายเป็นอันดับ 2 ของโลก
เราก็ไม่รู้ว่าข้อนี้เป็นความจริงหรือไม่ เลยมาถามในกระทู้นี้ค่ะ
ข่าวที่น่าตกในคือ 62 เปอร์เซ็นต์ของคนไทยหรือ 2 ใน 3 จะเมินผู้หญิงที่ถูกทำร้าย เพราะเห็นเป็นเรื่องครอบครัวไม่อยากยุ่ง
เราเลยอยากหาทางออกด้วยการที่ อยากให้ผู้หญิงเล่าเรื่องที่ถูกผู้ชายทำร้ายร่างกายและจิตใจ มาแชร์เป็นประสบการณ์ค่ะ
ส่วนผู้ชายที่โดนผู้หญิงทำร้ายก็สามารถแชร์ประสบการณ์ได้นะค่ะ (สงสารจัง)
เครดิต : https://www.facebook.com/ContrastTH
(ขออยุญาติแท็กในห้องที่มีคนมาตอบเยอะๆนะค่ะ อาจจะไม่เกี่ยวกัน)