[Spoil] Log Horizon Episode 8 การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนโปรดศึกษาให้ดีก่อนการตัดสินใจลงทุน

ในเอลเดอร์เทล เควสต์คือภารกิจรูปแบบหนึ่ง มีหลายระดับตั้งแต่ระดับง่าย อย่างหาคนหาย ไปจนถึงการผจญภัยใหญ่ แต่ละภารกิจก็จะมีรางวัลต่างกันไป เป็นค่าประสบการณ์บ้าง เหรียญทองบ้าง ไอเทมบ้าง เวทย์มนต์ หรือสูตรสร้างของ  หรืออย่างนกหวีดเรียกกริฟฟอนก็เป็นรางวัลของเควสต์ใหญ่เช่นกัน



คาราชิน มาสเตอร์กิลด์ถนนการค้าหมายเลข 8 ยืนดูคลังสินค้าใหญ่ของตนแล้วก็บ่นว่าโล่งเกินน่าจะซื้ออะไรมาใส่ ๆ ไปบ้าง แต่ว่านับจากวันโลกาวิบัติก็ไม่ค่อยมีกิลด์ไหนออกไปล่าวัตถุดิบนอกเมือง เพราะการไปสู้ด้วยร่างตัวเองมันน่ากลัวเกิน หลายคนเลยพร้อมใจกันเปลี่ยนอาชีพกันหมด วัตถุดิบก็เลยยิ่งหายากไปใหญ่ แล้วกิลด์ใหญ่ก็จะมีอำนาจต่อรองมากกว่า อย่างตัวแทนการค้าทางทะเล กับกิลด์พ่อค้าโรเดอริคก็ไปดึงกิลด์เล็กมาเป็นพวกหมด คาราชินก็บ่นว่าต่อให้ตนเป็นกิลด์พ่อค้าที่ใหญ่เป็นอันดับสามก็ใช่จะหาของได้ง่าย ๆ ดังนั้นจึงต้องรีบคว้าโอกาสที่มาถึงไว้



มาริเอลตื่นเต้น ขณะที่เฮนเรียตต้ากอดอาคัทสึกิอย่างเปี่ยมสุขเพื่อชาร์จพลังไว้เตรียมตัวไปสู้ จนอาคัทสึกิประท้วงว่าแอสแซสซินไม่ได้มีไว้ปลอบขวัญให้เธอสงบใจนะยะ แต่สาวแว่นก็หาได้สนใจคำของสาวโลลิไม่



สองสาวไปนั่งในห้องประชุมที่มีโต๊ะหมุนแบบจีน สักพักคาราชินก็เข้ามาทักทาย แล้วก็พูดถึงเรื่องที่สมัยมาริเอลกับคาราชินเล่นเกมกันใหม่ ๆ เคยไปร่วมล่าด้วยกัน แต่พอแยกย้ายกันตั้งกิลด์ก็ไม่มีเวลาเจอกันอีก ซึ่งกิลด์ของคาราชินมีสมาชิกร่วมเจ็ดร้อยเลยทีเดียว แต่ก็ยังสู้อีกสองกิลด์ใหญ่ไม่ได้  จากนั้นคาราชินก็เปลี่ยนจากพูดสบาย ๆ แบบเพื่อน หันมายิงคำถามเข้าประเด็นทันทีเลยว่าที่มานี่มีธุรกิจอะไรจะมาเจรจา





มาริเอลแม้จะหวั่นใจ แต่ก็ยังยิ้มแย้มตลอดก่อนจะบอกว่าสนใจสั่งซื้อวัตถุดิบทำเบอร์เกอร์จากกิลด์ของคาราชิน (ต่อไปก็จะได้ไม่ต้องไปล่าเองสินะ) คาราชินก็แอบคิดว่า กะแล้วว่าต้องมาเรื่องซื้อวัตถุดิบทำอาหาร เพราะไงใครกินแล้วก็คงกลับไปทนกินอาหารจืดไม่ลง เขาล่ะอยากเอากิจการนี้มาทำเองเหลือเกิน แล้วก็ถามออกไปถึงราคาที่ต้องการและปริมาณ เฮนเรียตต้าก็เขียนลงบนกระดาษโน้ตก่อนหมุนโต๊ะส่งไปให้



คาราชินคิดว่าราคานี้ก็ไม่เลว (เฮนเรียตต้าเขียนมา 6หมื่น) แต่ก็นึกว่าอยากจะต่อรองเพิ่มตามประสาพ่อค้า ซึ่งเฮนเรียตต้ากับมาริเอลก็คิดไว้อยู่แล้ว ชายหนุ่มก็ลองเลียบเคียงดูก่อนว่าจะทำอาหารสูตรใหม่หรือ มาริเอลก็ยิ้มแย้มและตอบว่าเชฟของเรามีความสุขมากที่คนกินกันอย่างมีความสุข ทั้งที่ในใจสั่นแทบแย่ว่าเธอพูดถูกหรือเปล่าน๊า ชิโร่ ขืนให้เธอเจรจาต่อนี่ไม่รู้จะไหวหรือเปล่า แล้วก็นึกถึงตอนที่ชิโรเอะวางแผนให้ว่า ให้มาริเอลยิ้มไว้ตลอดการเจรจาก็พอ แล้วปล่อยให้เฮนเรียตต้าจัดการเอง





ซึ่งเฮนเรียตต้าก็กะจังหวะได้พอดีเลยว่า มาริเอลใกล้จะไม่ไหวแล้ว หลังจากนี้เธอต้องเป็นคนเจรจาเองแล้ว ขณะที่คาราชินเริ่มรุกเสนอว่าอยากให้กิลด์จันทร์เสี้ยวมาเป็นพันธมิตรกับเขา เฮนเรียตต้าก็ขัดจังหวะด้วยการบอกว่าได้เวลาที่นัดกับอีกสองกิลด์ใหญ่ไว้แล้วเรื่องลงทุนเกี่ยวกับการขายเบอร์เกอร์จันทร์เสี้ยว ทำเอาคาราชินเหวอไปเลย จนในที่สุดก็ร้อนรนกลัวเสียประโยชน์ อยากรู้ว่าจะไปเจรจาอะไรกับอีกสองกิลด์ เฮนเรียตต้าก็ได้ทีต่อรองว่าอยากรู้ขนาดให้ราคาได้เท่าไหร่ล่ะ คาราชินก็บอกว่าจะจัดหาวัตถุดิบที่กิลด์จันทร์เสี้ยวต้องการในราคา5หมื่น สาวแว่นที่ถือไพ่เหนือกว่าก็ต่อราคาแบบเชือดนิ่ม ๆ ว่า 3หมื่น ซึ่งชายหนุ่มก็รีบกัดฟันตกลงสัญญา (ตกลงชื่อตอนนี้นี่หมายถึงสาวแว่นด้วยสินะ)







มาริเอลเลยยิ้มแล้วพูดกับเฮนเรียตต้าว่ายอมให้คาราชินอยู่ฟังการคุยกับอีกสองกิลด์ต่อก็ได้  แต่จริง ๆ ในใจแอบถอนหายใจโล่งอกที่เป็นไปตามแผน  ฝ่ายคาราชินแม้ภายนอกจะยิ้ม แต่ในใจนั้นร้องไห้กับราคาที่โดนลดสะบั้นหั่นแหลกยิ่งกว่าซัมเมอร์เซลไปแล้ว



ด้านมิโนริที่เย็บถุงมือหนังได้เป็นกล่องเลยนั้น ได้เลเวลช่างเย็บไปถึง32 แล้วเลยถูกสั่งให้เย็บเครื่องหนังระดับเลเวล 30 เป็นผ้ากันเปื้อนหนัง (มันเอาไว้ทำอะไรเนี่ย) เพื่อเพิ่มเลเวลขึ้นไปอีก (ขนาดโดนแฮ๊บ EXP Pot ยังเพิ่มเลเวลไปขนาดนี้นี่ ท่าทางจะเย็บทั้งวันทั้งคืนเลยจริง ๆ แฮะ โรงงานนรกนี่)


หลังจากนั้นก็เป็นภาค "ความหดหู่ของมิโนริ" ที่นึกย้อนกลับไปตอนหลุดเข้ามาในโลกเอลเดอร์เทลครั้งแรก ตัวเธอตกใจและเสียขวัญมากจนร้องไห้ไม่หยุด แต่เมื่อเห็นโทยะร่าเริงและตื่นเต้นที่จะออกไปสำรวจ สาวน้อยก็ค่อยคลายวิตก และลองออกไปในป่านอกเมืองกัน แต่แล้วก็โดนแก๊ง PK มาปล้นทรัพย์และฆ่า มิโนริฟื้นกลับมาที่โบสถ์ แล้วก็เจอโทยะข้างนอก มิโนริกับโทยะก็ไปนั่งห่อเหี่ยวตากฝนเพราะโดนปล้นทรัพย์ไปหมด ยิ่งมานึกได้ทีหลังว่าชิโรเอะเคยพูดเรื่องฝากของในธนาคาร สาวน้อยก็ยิ่งจมในอารมณ์มืดมัว จนกระทั่งหัวกิลด์โรงงานนรกมาเจอ ซึ่ง ณ ตอนนั้นมิโนริไม่สนแล้วว่าจะเป็นใคร ดีเลวยังไง ขอแค่มาช่วยให้พ้นจากที่เป็นอยู่ เธอก็ยินดีจะไปด้วย ที่ของคุณชิโรเอะนั้น เป็นสิ่งที่ชายหนุ่มสร้างขึ้นมาด้วยตัวเขาเอง ส่วนตัวเธอนั้นทำอะไรไม่ได้นอกจากร่ำไห้ในความไร้พลังของตัวเอง  เธอจึงไม่มีสิทธิ์รับความช่วยเหลือจากคุณชิโรเอะเป็นอันขาด










ในที่สุดมิจิทากะ (หนุ่มล่ำ) จากตัวแทนการค้าทางทะเล กับโรเดอริค (แว่นหัวขาว) จากกิลด์พ่อค้าโรเดอริคก็มาถึง ซึ่งตอนนี้คาราชินก็ไปนั่งฝั่งเดียวกับมาริเอลเป็นที่เรียบร้อย (คนญี่ปุ่นถือว่าการเจรจาธุรกิจ การนั่งฝั่งเดียวกันคือฝ่ายเดียวกัน ดังนั้นเวลาจะนัดคุยงานลูกค้า หัวหน้างานมักจะรอให้ทุกคนนั่งครบหมดแล้ว แล้วตนจึงไปนั่งฝั่งลูกค้า เพื่อแสดงความเป็นพวกเดียวกัน)




เฮนเรียตต้าตั้งใจมั่นว่าการเจรจาครั้งนี้ต้องทำให้สำเร็จตามแผนของชิโรเอะให้ได้ เพื่อทุกคนที่ลำบากเหนื่อยยากกับทุกขั้นตอนการทำงานร้านแมคที่ผ่านมา ไม่ให้สูญเปล่าไปเป็นอันขาด




สาวแว่นก็โยนเหยื่อไปก่อนเลยว่าที่เชิญคาราชินมาก่อนก็เพื่อเจรจาจัดซื้อวัตถุดิบกับทางถนนการค้าหมายเลข 8 มิจิทากะก็บ่นเลยว่าแล้วจะเชิญพวกเขามาทำไม แต่โรเดอริคก็บอกว่าไม่หรอก ถ้าเป็นแบบนั้นคงไม่เชิญพวกเขามาแต่แรก

เฮนเรียตต้าได้ยินแค่นั้นก็สวมวิญญาณนักคำนวณ วิเคราะห์นิสัยของมาสเตอร์กิลด์ทั้งสองจากปฏิกิริยาเมื่อครู่ทันทีว่า มิจิทากะเป็นผู้นำที่น่านับถือ แต่ไม่ละเอียดอ่อน ส่วนโรเดอริคฉลาดก็จริงแต่ยังไม่มีกึ๋นเท่าชิโรเอะ

ย้อนกลับไปตอนชิโรเอะอธิบายแผนให้ฟัง หนุ่มแว่นบอกว่าอาวุธลับที่เราจะใช้ในการต่อรองมีสิ่งเดียวคือ วิธีการทำอาหาร ซึ่งหากใครรู้แล้วก็สามารถที่จะทำเหมือนกันได้ไม่ยาก ดังนั้นจึงปล่อยให้เครื่องต่อรองนี้หลุดออกไปไม่ได้เป็นอันขาด แต่ข้อได้เปรียบของฝ่ายตนก็คือการรู้ว่าสิ่งที่อีกสามคนนั้นต้องการคือกำไร จึงสามารถหาทางต่อรองได้ เพราะชิโรเอะถือว่าเรามีสิทธิ์บอกข้อมูลเท่าที่เราอยากบอกได้ เพื่อรักษาอาวุธลับเอาไว้ในมือต่อไป แค่พูดชี้นำแล้วให้คนฟังไปคิดต่อเอาเอง แต่ห้ามโกหกเพราะยังต้องทำงานร่วมกันอีก (ออกแนวไม่ให้คำพูดกลับมามัดตัวเอง เพราะฉันไม่ได้พูดซะอย่าง) ทำเอาเฮนเรียตต้าคิดว่างานหนักแบบนี้เธอคงต้องขออาคัทสึกิไว้สักอาทิตย์ถึงจะคุ้ม





เฮนเรียตต้าโยนไพ่ไปว่าต้องการทำภารกิจใหญ่ที่ไม่อาจทำเองได้ ซึ่งอีกสองกิลด์ก็ติดกับ และพูดตีความออกมาว่าจะทำเควสต์สินะ แล้วก็อยากรู้รายละเอียด สาวแว่นจึงโยนไพ่ไปเพิ่มอีกว่า ชิโรเอะเป็นคนวางแผนในภารกิจใหญ่นี้ เพียงแค่นั้นก็ทำเอาสามหนุ่มตกตะลึงจนอุทานออกมาถึงสมญานาม แว่นวายร้าย อันดังกระฉ่อนจนมาสเตอร์กิลด์ทั้งสามเชื่อสนิทเลยว่างานนี้เควสต์ใหญ่ชัวร์ ซึ่งเฮนเรียตต้าก็อดชื่นชมแบบจิกกัดในใจไม่ได้ว่า สมญานาม แว่นวายร้าย นี่ไม่ใช่แค่ชื่อหลอก ๆ สินะ ทำเอาชิโรเอะจามออกมาเลยทีเดียว จนอาคัทสึกิที่อยู่บนเพดานทักลงมา

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่