[CR] จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 3 คานาซาว่า ชิรากาว่าโกะ ทะกะยาม่า

คำแนะนำ : รีวิวผมเป็นรีวิวกาก ๆ ที่ไม่ได้ใส่รายละเอียดข้อมูลแนะนำต่าง ๆ ไว้ให้นะครับ
เป็นเพียงแค่สิ่งที่ผมอยากเล่าให้ฟังกับประสบการณ์ที่ได้เดินทางไป ได้พบ ได้เจอเรื่องราวต่าง ๆ
แล้วก็อยากแชร์ภาพถ่ายให้ดู คิดซะว่าอ่านเล่น ๆ ยามว่างแล้วกันนะครับ
ภาษา ความรุนแรง ไม่เหมาะแก่เยาวชน นะครับ กรุณาใช้วิจารณญาณในการรับลม...เอ่ย..รับชม ด้วย

ความเดิมตอนที่แล้ว
จากบ้านไปไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 2 โอซาก้า เมืองหลวงแห่งคันไซ
http://ppantip.com/topic/31243734

เดินทางเมื่อ 29-30 มิถุนายน 2556

     ผ่านสัปดาห์ที่สามของการใช้ชีวิตอยู่ที่นี้ หลังจากได้ไปเกียวโตกับโอซาก้ามา รู้สึกคราวนี้จะเริ่มชินกับการเดินทางแล้วดิ เริ่มสนุกมากขึ้นกับการเดินทาง ได้คุยกับคนเยอะแยะไปหมด ได้รู้จักคนหลากหลายชาติมากขึ้น มันฉิหายกะการคุยกะคนแปลกหน้า ฟินฝุด ๆ กับการเห็นบ้านเมืองใหม่ ๆ เห็นธรรมชาติเจ๋ง ๆ แมร่ง..คิดแล้วรู้สึกดีวะ

     สัปดาห์นี้เลือกที่จะไปเมืองที่เคยขอทุนมาเรียนแต่ไม่ได้อย่างคานาซาว่า ที่นี้ไม่รู้ว่ามีไรดี เป็นเมืองการศึกษา มีสวนเคนโรคุเอ็นที่มีสะพานน้อย ๆ ในรูปถ่ายที่คนชอบมาถ่าย ๆ กัน ผมก้อกะว่าจะมาเอาไฮไลท์แค่นั้นแหละ อีกอย่างมันเปนเมืองที่ต้องมาเพราะต้องเดินทางต่อไปชิรากาว่าโกะซึ่งเป็นเป้าหมายหลัก

    ออกจากคะริยะเช่นเคย ไปต่อรถไฟอิกทีที่สถานีโอกากิ แล้วจึงนั่งรถไฟสายฮิดะวายวิวไปลงคานาซาว่า เป็นการนั่งที่เมื่อยตูดฝุด ๆ การเดินทางที่นี้ผมเลือกใช้บริการรถบัสนำเที่ยวที่เค้าคอยไปส่งตามที่ไฮไลท์ของเมือง มาเมืองนี้ยังกะเมืองร้างอะ เงียบสงบโคตร อยากมาอยู่เลยอะ

     ที่แรกเลย มุ่งสู่หมู่บ้านเก่าย่านฮิกาชิชายะ เดินเข้ามาบรรยากาศเหมือนในนิตยาสารเด่ะเรย เงียบเชียบมาก ดีนะที่ยังมีนักท่องเที่ยวเดิน ๆ บ้าง ร้านค้าแถวนี้ไม่รู้ว่าเป็นร้านอะไร หน้าร้านมันไม่มีรูปภาพอะ จะให้อ่านคันจิก้ออ่านไม่ออก ก้อได้แต่ถ่าย ๆ บรรยากาศไป




     หลังจากนั้น เดินทางกันต่อสู่ ปราสาทคานาซาว่า ที่นี้เปนปราสาทสร้างใหม่ทั้งหมด เนื่องจากของเก่าโดนเผาทำลายไปแล้ว เช่นเดียวกับปราสาทอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ปราสาทที่นี้สร้างบนเนินสูง ไม่รู้ว่ามันเปนเนินอยู่แล้ว รึว่าเนินทำเอา เอาเปนว่ามันสูงอะ มองเหนเมืองได้ จิง ๆ ที่นี้ไม่ค่อยมีไรน่าสนใจเท่าไหร่



     ข้ามสะพานเชื่อมระหว่างปราสาท ก้อจะเข้าสู่สวนเคนโรคุเอ็น ผมชอบที่นี้นะ สวนสวยมากอะ กว้างใหญ่มาก ๆ เสียดายที่ผมมาช่วงฤดูร้อน อะไร ๆ มันก้อเขียว ๆ ดูไม่ค่อยแปลกตาเท่าไหร่ ทัวร์จีนเยอะฉิหาย เดินไปทางไหนก้อมีแต่คนจีน กลุ่มน้องสาว ๆ ยุ่นก้อมีให้เหนบ้าง เดินผ่านที ผมต้องหยุดรอดูอะ อดใจไม่ได้ หน้าสวยจิงอะไรจิง





     ที่เมืองนี้ไม่ค่อยวุ่นวาย รถก้อน้อย เมืองเงียบ อากาศเย็นสบาย แต่ตอนผมไปนี่ร้อนเชี่ย ๆ นะ เดิน ๆ ไป เก็บภาพเมืองไป ก้อหนุกดี เดินจนมาถึงพิพิธภัณฑ์ศิลปะ ที่นี้มีการแสดงโชว์ของพวกนักศึกษาอาร์ท ๆ อะไรทำนองนี้ นึกในใจ ดีเถ่ะวะ มีที่ให้แสดงความเก็บกด 55




     นั่งรถต่อไปยังย่านธุรกิจแห่งเมืองเล็ก ๆ นี้ดีกว่า หลังก้าวขึ้นประตูรถก้อต้องตกตะลึงกับพนักงานขับรถครับ อุทานในใจ “เยสสสสเข้ นี่แมร่งเนื้อคู่กรูชัด ๆ” ไม่รุจาให้พูดไง ตอนนั้นอยากเดินไปสะกิดน้องเค้าเบา ๆ แล้วพูดว่า “น้องครับ ไม่ต้องมาขับรถโดยสารก้อได้นะ ไปอยู่เมืองไทยกะพี่เห๊อะ” อาจจะดูเวอร์ แต่ลองดูภาพข้างล่าง ผมว่าผู้ชายทุกคนต้องอยากพูดอย่างผม 55


     ย่านธุรกิจของเมืองเล็ก ๆ แต่บรรยากาศก้อไม่เล็กนะครับ มีร้านค้าเบรนเนมดี ๆ เยอะพอสมควร ผมเหนว่าผมเองไม่มีปัญญาซื้อหรอก เลยเดินไปที่หมู่บ้านย่านดีกว่า หลังจากนั้น ขึ้นรถไปยังตลาดปลาแห่งเมืองคานาซาว่า เดินเข้าไปมีปลาสด ๆ มากมาย เสียงเรียกของพ่อค้าระงม นอกจากปลา ก้อมีสินค้าทะเลทุกอย่าง ปูตัวใหญ่ กุ้งตัวใหญ่กว่า หอยนางรมตัวเท่าหัวเด็ก 55 เห็นแบบนี้ อยากกินปลาดิบขึ้นมาทันทีเรย แต่ต้องอดใจไว้กินเย็น เพราะไม่อยากใช้ตังค์เยอะ งบมีจำกัด

ช่วงก่อนค่ำก้อเข้าที่พัก คืนนี้ผมนอนที่โฮลเทสโอชาคาเระ คนดูแลที่นี้บอกว่ายังใหม่อยู่ ตอนที่ผมไปเค้ามีลูกค้าอยู่แค่คนเดียว เป็นคนญี่ปุ่นมาจากโตเกียว เค้าทำงานเกียวกับพวกอาร์ท นิตยาสาร ออกแบบหน้าปก ประมาณนั้น เนื่องจากมีกันสองคน แล้วอยู่ห้องเดียวกัน เลยได้คุยกันยาว นั่งจิบเบียร์ไป คุยไป อังกฤษบ้าง ญี่ปุ่นบ้างก้อมันส์ดี ค่ำ ๆ หน่อยก้อออกไปหาไรกิน อย่างที่บอกด้วยความที่อยากกินปลาดิบมาก เลยต้องจัดซะเต็มเหนี่ยว

เช้าวันถัดมา รีบตื่นแต่เช้า เพราะต้องมาขึ้นรถบัสสายที่ไปยังชิรากาว่าโกะ ตั๋วโดยสารรอบที่ผมไป เป็นรอบเช้า ซึ่งจะมีคนใช้บริการเยอะ ต้องโทจองล้วงหน้านะครับ ใครจะมาก้อหาข้อมูลในเน็ตแล้วกันแล้วโทมาจอง แต่อาจจะลำบากนิดหน่อยถ้าพูดญี่ปุ่นไม่ได้นะครับ เพราะดูท่าแล้ว เค้าพูดภาษาอังกฤษไม่เก่งเลย

ระหว่างเข้าแถวรอรถ ผมก้อตีมึนชวนคุณป้าข้างหน้าคุย เค้าเป็นท่านทูตมาจากออสเตรเลีย พอรู้ว่าเราเปนคนไทยเท่านั้นแหละ คุยใหญ่เลย ว่าอยากไปเมืองไทยมาก ยังไม่ได้ไปเลย ไอ้เราก้อหวังดี ก้อเลยบอกแต่เรื่องดีดีของเมืองไทยเลย อย่าง...ระวังกระเป๋านะเวลาไปไหนมาไหน เด่วโดนกรีด....อย่าไว้ใจคนแปลกหน้านะ เค้าชอบหลอกฝรั่ง...ตอนกลางคืนอย่าเดินที่มืด ๆ นะ เด๋วโดนจี้...ตำรวจก้อพึ่งพาไรไม่ได้นะ ดูแลตัวเองด้วย....ประมาณนี้ แต่ละเรื่องน่าภูมิใจฝุด ๆ เนอะ เมืองไทยของเรา...

     ระหว่างทางที่ขึ้นรถ ผมนั่งติดกะป้าญี่ปุ่นคนนึง แกนั่งแยกกะแก๊ง คงไม่มีเพื่อนคุย เลยทักผมขึ้นมาก่อน “มาคนเดียวเหรอคะ” ผมก้อ “ครับ ๆ คนเดียว” จากนั้นป้าแกเริ่มร่ายยาวสนตรีนสนแตกไรม้ายรุ เยอะจัด เราก้อเลยต้องตัดลำบอกป้าแกไป “เออ..พูดช้า ๆ หน่อยป้า ผมมาจากเมืองไทย” พอแมร่งรู้ว่าผมมาจากไทย จัดหนักก่าเดิมอิก เหมือนป้าออสซี่เมื่อกี้เลย บอกเนี่ยชอบไทยมาก ไปตีกอล์ฟทุกปีเลย ชอบอาหารไทยฝุด ๆ ชวนคุยแม่มทุกเรื่อง ไอ้เรากะว่าจะหลับระหว่างทางซะหน่อย อีก 2 ชั่วโมงกว่าจะถึง ป้าแกเล่นชวนคุยยันชิรากาว่าโกะเลยอะ

     ถึงชิรากาว่าโกะ เป็นอะไรที่ฟินมาก ๆ คงไม่มีหญิงใดในโลกทำผมฟินมากกว่าวิวที่ชิรากาว่าโกะอิกแล้ว เสียดายที่เป็นน่าร้อน ไม่งั้นคงจะได้ภาพแปลกตา กว่าสีเขียว ๆ ฤดูหนาวปีหน้า ที่นี่ยังคงเป็นเพลนของผมที่จะต้องมาเก็บภาพหิมะท่วมตัวให้ได้เลย อยากพาแฟนไปขอแต่งงานในบรรยากาศแบบนั้นจัง คงจะมีความสุขสุดตรีน เมืองนี้เป็นเมืองเล็ก ๆ เดินเก็บภาพแบบชิว ๆ 4 ชั่วโมงก้อเกินพอแล้ว ผมยังมีที่ต้องไปต่ออีกเมืองนึง ก่อนจะกลับคาริยะ












นั่งรถออกจากชิรากาว่าโกะ ด้วยความสุขเต็มเปี่ยม สู่เมืองทาคะยาม่า เมืองนี้ยิ่งเงียบมากกว่าคานาซาว่าอิก เมืองเล็กโคตร เป็นเมืองเก่า ไม่มีตึกสูง แต่ก้อมีที่ให้เที่ยวพอสมควร ผมเลือกที่จะเช่าจักรยานแทนการเดิน เนื่องจากกรูเดินไม่ไหวแระ เดินมาท้างวัน ค่าเช่าตกชั่วโมงละ 700 เยนมั้งถ้าจำไม่ผิด แล้วก้อปั่นไปถามแผนที่เลย

เมืองนี้มีไฮไลท์แค่อย่างเดียว คือไอ้สะพานสีแดง ๆ เนี่ยแหละ นอกนั้นก้อเป็นสภาพเมืองเก่า จิง ๆ ต้องมาช่วงที่เค้ามีงานพิธีแห่อะไรซักอย่าง แต่ว่าผมไม่ได้มาช่วงนั้น เมืองเลยไม่ค่อยมีอะไร อีกอย่างผมมาในวันอาทิตย์ ร้านค้าส่วนใหญ่ ต่างก้อพากันปิดไปหมด เหลืออยู่ไม่กี่ร้าน

ผมมีเวลาที่นี้ประมาณ 4 ชั่วโมง ก้อปั่นเที่ยวจนหมดแล้ว หลังจากนั้นขึ้นรถไฟกลับคะริยะ นั่งตูดบานอิกตามเคย แต่ขากลับเนี่ย อยากบอกว่า วิวสวยเชี่ย ๆ รางรถไฟวิ่งเลียบไปกับแม่น้ำสายเล็ก ๆ แต่ว่าสวยดีอะ ข้ามสลับไปๆ มาๆ กับแม่น้ำ นั่งจิบเบียร์เย็น ๆ ปรับเบาะแอนจนสุด แบบไม่เกรงใจญี่ปุ่นหน้าไหน 55 ฟินอิกตามเคย....











แล้วติดตามผมต่ออีกในตอนหน้านะครับกับ
จากบ้านมาไกล สู่ดินแดนอาทิตอุทัย ตอนที่ 4 นายฟูจิซังขี้อาย......
http://ppantip.com/topic/31307044
ชื่อสินค้า:   Kanazawa, Shirakawago, Takayama
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่