เห็นแก่ตัวของคนเป็นแม่หรือพี่สาว

พี่สาวและแม่ไม่ให้อยู่หอ แต่สมัยพี่สาวอยู่หอแม่ไม่ห้าม เราอยู่หอพี่สาวไม่ให้โดยอ้างถึงปัญหาเด็กนักศึกษาปัจจุบันที่อาศัยอยู่หอ
เราคิดว่าพี่เห็นแก่ตัวเพราะถ้าเราอยู่หอค่าใช้จ่ายของพี่ต้องเพิ่มขึ้น และปีหน้าลูกของพี่สาวเข้าเตรียมอนุบาล  แต่ตอนพี่อยู่หอ ค่าขนมของเราได้น้อยลง เราคิดและพูด "เตรียมอนุบาลไม่จำเป็นต้องเรียนก็ได้"  พี่สาว "ปุ่นจะมาเลี้ยงลูกให้พี่หรอ" เรา"พี่เห็นแก่ตัว"  แม่ "แกแหละที่เห็นแก่ตัว"

พี่เห็นแก่ตัว ตอนที่พี่เรียนอยู่ปีแรกๆ พี่อยู่หอ  ตอนเราขออยู่หอพี่ไม่ให้ แล้วมาอ้างอันอ้างนี่ อ้างปัญหาเด็กนักศึกษา  
พี่อยู่หอพี่เดินทางสะดวก  แต่ไม่เคยคิดถึงน้องคิดถึงแต่ลูกตัวเอง และคิดถึงตัวเอง

พี่อยู่หอเราได้ค่าขนมน้อยลง ช่วยแม่ประหยัด เราขออยู่หอไม่ได้ ช่วยพี่ประหยัด หลานต้องเข้าเรียนเตรียมอนุบาล
ที่เราคิดมาและพูดมาพี่แต่พี่ที่เห็นแก่ตัว
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 127
อ่านคำตอบจากหลายๆคน คงเชื่อแล้วค่ะเงินหายาก ทำให้เห็นใจพี่สาวขึ้นมาบ้างค่ะ
เราคงไม่เรียกร้อง ถ้าตราบใดยังพึ่งพี่สาวอยู่.

แต่ก็อดเปรียบเทียบไม่ได้  ทำไมตั้งแต่เกิดมาต้องเป็นฝ่ายเข้าใจพี่สาวก่อนเสมอ  
นั้นเป็น เพราะเราเป็นน้อง เขาเป็นพี่  เราก็อยากมีน้องจะได้มีคนมาเข้าใจเราก่อน

ได้อ่านกระทู้พี่สาว ตามที่เข้าใจ  พี่สาวอยากให้ลูกมีตัวอย่างที่ดีเท่านั้น
บางครั้งพี่สาวและแม่บ่นเรา  เรารู้สึกอายหลาน จุดนี้ทำให้เข้าใจพี่มากขึ้น ทำไมพี่ต้องทำสาวเป็นคนดี หรือนางเอก เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้อง.   คนไม่มีอะไรที่สมบูรณ์  เราไม่สัญญา เราจะเปลี่ยนแปลงตัวเองได้หมด เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งค่ะ

ผู้ใหญ่ทางฝ่ายพี่เขย มองเราเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่มารยาท กลัวหลานจะมีแบบอย่างที่ไม่ดี
ตอนแรกไม่เข้าใจ พี่เขยจะมาอะไรมากมาย มาสอนจนเราไม่ชอบพี่เขย พี่เขยบอกด้วยเหตุแบบเข้าข้างพี่สาว ตอนนั้นคิดแค่ว่า พี่สาว และพี่เขยเป็นสามีภรรยาต้องเข้าข้างกันอยู่แแล้ว. ตอนนี้คิดได้แล้วค่ะ พี่เขยและพี่สาวอยากให้ลูกมีตัวอย่างที่ดี

เราพยายามไม่เถียง แม่ พี่สาว พี่เขย ต่อหน้าหลานเท่านั้นค่ะ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
เราว่าคุณเห็นแก่ตัวค่ะ  คิดแต่ว่า ตัวเองต้องได้ แต่ไม่เคยคิดว่า จะช่วยแบ่งเบาภาระคนในครอบครัวยังไงบ้าง
ได้เงินวันละ 100 บาท ทั้งที่ไม่ต้องทำงาน บ้านก็มีให้อยู่ ยังไม่พอใจ หาเรื่องตำหนิคนโน้นนี้ได้ตลอด
มองแต่ตัวเองไม่ได้อะไร แต่ไม่เคยคิดว่า ตัวเองให้อะไรกับคนอื่นบ้าง เห็นกี่กระทู้คุณก็ไม่ถูกกับคนอื่นตลอด

พูดจริงๆนะ ถ้าเราเป็นพี่สาวคุณ เราไม่ทนใ้ห้คุณมาด่าลามปามหรอกค่ะ  
แค่ที่คุณเล่าในกระทู้ก่อนๆมันก็เป็นคำที่แย่เกินกว่าจะใช้กับคนร่วมครอบครัวแล้ว
ที่ไม่ได้เล่าจะอีกเท่าไร คือ สำหรับเรา ถ้าจะเก่งไม่ต้องเก่งแต่ปาก ไปเก่งข้างนอกใช้ชีวิตรอดเอาเอง

ที่ผ่านมาแม่คุณลำบากหาเงินส่งเสียทั้งพี่ทั้งน้อง  ต่อมาแม่คุณอยู่บ้านเลี้ยงหลานไม่ต้องเหนื่อยหาเงินแล้ว
คุณก็ไม่พอใจ เพราะคุณได้เงินน้อยลง แต่ทำไมไม่มองบ้างว่า แม่คุณแก่แล้ว ยังไงการอยู่บ้านมันก็เหนื่อยน้อยกว่าไปทำงาน
อีกอย่างนั่นก็หลานคุณเอง  หลานของแม่คุณด้วย เลือดเนื้อเชื้อไขสายตรงของแม่คุณเหมือนกัน

คนที่มารับภาระต่อคือ พี่สาวคุณ ที่ต้องดูแลทุกอย่างในบ้าน  คุณกลับเอาแต่โทษพี่คุณอย่างเดียว
คุณอยากให้แม่แก่ๆของคุณทำงานหาเงิน เพื่อมาปรนเปรอคุณใช่ไหมคะ จุดประสงค์หลักเลยคือ เงินตัวเดียว
หลานจะเข้าเตรียมอนุบาลก็ไม่ชอบ เพราะมันใช้เงินเพิ่ม คุณก็ได้น้อยลง ทั้งที่ถ้าหลานเข้าเรียนแม่คุณก็มีเวลาพักแท้ๆ
เหตุผลแบบพี่สาวใช้แม่ มันไม่ใช่หรอกค่ะ คุณก็แค่ยกมาอ้าง และไม่อยากให้หลานเข้าเรียนเพราะเงิน ไม่ได้เห็นแก่แม่เลย

คิดได้เห็นแก่ตัวมาก  คิดได้ไงว่า พี่สาวเหนื่อยไม่เกี่ยวกับคุณ เพราะรับปากแม่ไว้แล้ว จริงอยู่ที่เขารับปาก เขาก็ส่งเสียนี่
แต่คุณนี่ซิ ไม่คิดจะแบ่งเบาภาระอะไรเลย  ถ้าพี่สาวคุณไม่ส่งเรียนต่อซิ อันนี้ถึงว่า ผิดสัญญา แต่นี่เขาก็ส่งเรียนแต่มันก็ต้องมีขอบเขตบ้าง
ไม่ใช่ว่า อะไรก็ต้องเป็นไปตามใจที่คุณคิด ถ้าไม่ได้คุณก็พร้อมจะโทษคนอื่นแต่ไม่โทษตัวเอง แค่ชื่อกระทู้นี้ก็พอเห็นภาพล่ะ
ความคิดเห็นที่ 18
เราอ่านแล้วเราว่าคุณเห็นแก่ตัวสุดนะ ไม่มองปัญหาคนอื่น มองแต่ปัญหาตัวเอง พี่สาวคุณก็มีลูก ต้องดูแลส่งเสียลูกด้วยและส่งเสียคุณด้วย และคุณต้องยอมรับความจริงว่าบ้านคุณไม่รวยก็ต้องช่วยกันประหยัด ต้องยอมรับความลำบากในปัจจุบันเพื่ออนาคตที่ดีขึ้น ถ้าที่บ้านไม่สามารถจ่ายค่าหอได้ถ้าต้องเรียนตจว คุณก็ควรตั้งใจเรียนและสอบเข้าม.ในกรุงเทพให้ได้ ขอโทษที่อาจพูดตรงและแรง แต่เราคิดว่าแม่และพี่สาวคุณพยายามที่สุดแล้ว แต่เค้าอาจทำได้แค่นี้จริงๆ พี่สาาวคุณ+พี่เขยทำงานสองคน แต่ต้องเลี้ยงตัวเอง เลี้ยงลูก เลี้ยงแม่และคุณ รวมทั้งค่าใช้จ่ายต่างๆภายในบ้าน มันหนักเหมือนกันนะคะ
ความคิดเห็นที่ 57
ในฐานะที่พี่เรียนจบมาด้วยเงินของพี่สาว....อยู่ในกรอบที่พี่สาววางมาโดยตลอดคล้ายๆเรื่องของน้อง
พี่เลยอดที่จะคอมเมนท์ไม่ได้

พี่ขอเเยกเป็นประเด็นให้เห็นชัดๆ ดังนี้นะคะ


ประการที่ 1 การที่พี่สาวของน้องให้แม่ลาออกจากงานมานั้น...
พี่สาวของพี่ก็ทำในวันที่เธอมั่นใจแล้วว่าเธอสามารถอยู่ในฐานะของ 'ลูกที่สามารถเลี้ยงดูแม่ได้'
ไม่ใช่แค่ว่าให้ออกมาช่วยเลี้ยงหลานเพียงอย่างเดียว ตามที่น้องคิอย่างเอาอคิติของตัวเองเป็นใหญ่

ประการที่ 2...การที่พี่สาวของน้อง ส่งเีสียน้องสาว...มันไม่ใช่แค่การรักษาคำพูด
แต่เป็นเพราะพี่สาวของน้องกำลังอยู่ในฐานะ 'พี่ที่สามารถดูแลน้องได้'
ฉะนั้นพี่สาวของน้องอาจจะผิดที่ไม่รู้จักพูดด้วยวิธีถนอมน้ำใจ หรืออาจจะเป็นคนที่ใช้อารมณ์มาก
เนื่องจากเธอมีภาระค่อนข้างหนัก น้องถามตัวเองหรือยังว่า น้องอยู่ในฐานะน้องที่ดีแค่ไหน คิดจะช่วงแบ่งเบาอะไรได้บ้าง

ประการที่ 3...การที่พี่สาวของน้อง ส่งลูกของตัวเองเข้าโรงเรียนเตรียมอนุบาลสองภาษา
นั่นเพราะพี่สาวของน้องกำลังอยู่ในฐานะ 'แม่ที่สามารถดูแลลูกได้'
ฉะนั้นการสรรหา เลือก ในสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกของตัวเองนั้น
มันเป็นเรื่องที่พี่สาวของน้องต้องทำำอยู่แล้ว เพราะความเป็น 'แม่'

ดังที่กล่าวมาข้างต้นนั้น...พี่คิดว่าน้องยังเด็กเกินกว่าที่จะเข้าใจนะคะ
ไม่ใช่เด็กที่อายุนะ แต่เป็นเด็กทางความคิดและวุฒิภาวะ

3 สถานะที่พี่สาวของน้องกำลังเป็นอยู่นั่น พี่แค่อยากถามเฉยๆว่า
ตัวน้องเองดำรงอยู่ในบ้านนั้นมีหน้าที่อะไร และอยู่สถานะใดบ้าง
แล้วตัวน้องน่ะ นอกจากมองทุกคนด้วยอคติ และจับผิดแล้ว น้องทำอะไรเพื่อลดความเป็นภาระบ้าง?

แค่เรื่องงานบ้าน น้องยังเอามาโววายได้เลยในกระทู้ก่อนๆ พี่แค่สงสัยว่า น้องไม่ต้องทำอะไรเลยหรือคะ
เรื่องหลานนั่นก็เหมือนกัน ถ้าน้องเพิ่มความใ่ส่ใจซักนิด แค่นิดเดียวเท่านั้น ไม่ได้ทำอย่างขอไปที
หลานน้องคงไม่ป่วย ถูกไหมคะ?

เพราะฉะนั้น อย่าโทษว่าคนอื่นเห็นแก่ตัวเลยค่ะ...เพราะคนเราเห็นแก่ตัวเองทั้งนั้น

แต่สิ่งที่น้องเป็นเขาไม่ได้เรียกเห็นแก่ตัว...เขาเรียกว่า...เห็นแต่ตัวเอง...
ฉะนั้นเเล้ว น้องควรพิจารณาที่ตัวเอง พยายามทำอะไรเพื่อคนอื่นเสียบางนะคะ
เท่านี้แหละค่ะที่พี่อยากจะบอก
ความคิดเห็นที่ 28
รายละเอียดของแต่ละครอบครัวไม่เหมือนกัน  ถ้าเราไม่ใช่คนในครอบครัวเราก็ไม่รู้ว่าเรื่องทั้งหมดคืออะไร
เราทราบจากสิ่งที่ถูกเล่า  ซึ่งอาจเล่าไม่หมด หรือถูกเลือกที่จะเล่าแค่บางส่วน
เราไม่รู้ว่าแม่ของครอบครัวนี้มีปัญหาในการทำงานหรือปล่าว มีปัญหาเรื่องสุขภาพหรือปล่าว
ลูกสาวจึงขอให้แม่ลาออกจากงาน  โดยยินดีที่จะรับผิดชอบที่จะเลี้ยงดูแม่ ดูแลค่าใช้จ่ายที่บ้านแม่และส่งเสียน้องจนจบ
หรือเลือกที่จะให้แม่ทำงานต่อไป แล้วตัวเองก็ให้เงินแม่รายเดือนให้ค่าขนมน้องบ้าง ส่งลูกไปเนิร์ส
จ้อยว่าอย่างแรกภาระค่าใช้จ่ายเยอะกว่าแบบหลังนะคะ  เป็นแค่อีกมุมที่อย่าพึ่งมองว่าให้แม่ออกจากงานมาเลี้ยงลูกให้เลยค่ะ

จ้อยรู้ว่าพี่สาว จขกท ได้มาอ่านกระทู้นี้  อยากบอกคุณว่า
หากน้องเอ็นติดมหาวิทยาลัย ตจว. คุณควรให้น้องไปเรียนค่ะ  ให้เธอได้โอกาสที่จะเลือกอนาคตของเธอเอง
ตอนนี้น้องของคุณอยู่ที่บ้านด้วยความคิดอคติ ให้เธอมีอิสระตามวัยของเธอ และให้เธอได้ไปเรียนรู้การอยู่ร่วมกับคนอื่น


ส่วน จขกท ก็ต้องเข้าใจว่าพี่ของคุณส่งเสียให้คุณได้ตามกำลังที่เธอจะส่ง อาจไม่ได้ทั้งหมดอยากที่คุณอยากได้

ที่คุณมาเล่าคุณเล่าทั้งหมดรึปล่าวคะ  
จริงรึปล่าวคะที่พี่ของคุณขอให้คุณอยู่ในหอในมหาวิทยาลัยแต่คุณอยากอยู่หอนอก


การอยู่หอนอกกฎระเบียบไม่มีและค่าใช้จ่ายย่อมสูงขึ้น
คุณอย่ามองแค่ว่าเค้าไม่ยอมให้อยู่หอนอกเพราะไม่อยากจ่าย แล้วโยงเรื่องที่พี่ของคุณจะส่งน้องไปเตรียมอนุบาล

เค้าไม่ให้คุณอยู่หอนอกเพราะเค้าเป็นห่วงคุณ  ถึงไม่สะดวกสบายเท่าหอนอก
แต่แม่คุณสบายใจว่าหอในมีกฎระเบียบคุณจะปลอดภัยมากกว่าอยู่หอนอก


จขกท เล่าเองไม่ใช่เหรอคะว่าแม่คุณไม่แข็งแรง พี่สาวคุณส่งลูกเรียนเตรียมอนุบาลได้ไม่ดีเหรอคะที่แม่คุณจะได้พัก
หรือหากถ้าพี่คุณมีกำลังที่จะส่งเสียคุณได้แค่อยู่หอในคุณก็ต้องยอมรับว่าเค้าให้คุณได้เท่านั้น
กระทู้ก่อนคุณอยากหางานทำเลี้ยงดูตัวเอง  คุณก็หาพิเศษทำเพื่อย้ายมาอยู่หอนอกเอง
ก็เป็นโอกาสของคุณแล้วที่จะทำอย่างที่คุณพูดค่ะ แล้วตอนนั้นพี่สาวคุณก็ไม่มีสิทธิ์มาบ่นคุณแล้วหล่ะค่ะ
ความคิดเห็นที่ 14
เข้าใจและเห็นใจ จขกท.นะคะ
พี่สาวคุณเห็นแก่ตัวมาก ให้แม่ลาออกมาเลี้ยงลูกตัวเองให้ >>>
ทำให้แม่คุณไม่มีรายได้ ไม่มีสิทธิ์เสียงในบ้านอีกต่อไป เพราะต้องพึ่งพิงการเงินจากพี่สาวคุณ

แต่...คุณจขกท.ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะยังไงต้องพึ่งพิงการเงินจากพี่สาวคุณอยู่ดี
มันคงเป็นความคับแค้นใจ น้อยใจ ใช่ไหมคะ

เพราะฉะนั้น อยากให้จขกท.ตั้งใจเรียนให้มากที่สุดคะ เลือกเรียนคณะที่เป็นวิชาชีพ หมอ พยาบาล วิศวะ เภสัช แล้วกู้ กยศ.
และรบกวนเงินทางบ้านให้น้อยที่สุดคะ เมื่อคุณเรียนจบ พี่สาวจะได้ไม่มาลำเลิกบุญคุณกับคุณให้ปวดตับอีก
เอาความคับแค้น น้อยใจ มาเป็นพลังด้านบวกเพื่อขับเคลื่อนชีวิตนะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่