credit : thanonline.com
------
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค. เตรียมปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2556 ใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3 จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ร้อยละ 3.7 เนื่องจากการส่งออก การลงทุนและการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยและสถาบันการเงินยังแข็งแกร่งเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.6 - 0.7 เงินคงคลังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งมีความต้านทานต่อความผันผวนต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
ส่วนปัจจัยทางการเมืองต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะไม่กระทบเศรษฐกิจ หากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรง นอกจากนี้คาดว่าในปี 2557เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีตามไปด้วย แต่จะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใดต้องติดตามการลงทุนภาครัฐที่เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีหน้า
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน นี้ เชื่อว่าจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากระดับร้อยละ 2.5 ในปัจจุบัน เพราะถือว่ามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ได้พิจารณาปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 2556 เหลือเพียง 3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวในช่วง 3.8-4.3% เนื่องจากการส่งออกขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ รวมทั้งปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งปีมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายของภาคเอกชนที่ตั้งไว้ 2.5 ล้านคัน ขณะที่การดำเนินการของแผนการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งยังมีผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย
=================================
เศรษฐกิจไทยปีหน้าสาหัส 2ล้านล้านไม่เกิด
credit : bangkokbiznews.com
------
เวิลด์แบงก์ห่วงเศรฐกิจไทยปี"57 อาการสาหัส หากลงทุน 2 ล้านล้านไม่เกิด คาดจีดีพีโตไม่ถึง 4-5% การเมืองป่วนยังไม่กระทบการบริโภคในประเทศ
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ แต่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้หากเกิดความรุนแรงขึ้น รัฐบาลจะต้องเร่งเสถียรภาพทางการเมืองให้มากขึ้น ขณะที่ในระยะยาวรัฐบาลจะต้องเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการเพื่อช่วยผลักดันการส่งออกให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 พบว่า ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ดังนั้น ธนาคารโลกจึงเตรียมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงในเดือนหน้า จากคาดการณ์เดิมที่ 4-5% พร้อมทั้งลดประมาณการส่งออกไทยจาก 2-2.5% เหลือ 1% ด้วยหลังจากการส่งออกไทยชะลอตัวลงมากตามภาวะเศรษฐกิจโลก
ส่วน 2557 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลดมาตรการคิวอี และปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ ที่จะสร้างความผันผวนในตลาดการเงินโลก ซึ่งภาครัฐต้องเร่งผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส เวิลด์แบงก์ ประจำประเทศไทย กล่าวอีกว่า หากมีการตีความพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จนไม่สามารถลงทุนได้ ก็จะส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศ อาจทำให้จีดีพีปีหน้าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4-5% ส่วนการส่งออกจะขยายตัวที่ 5% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก
สศค. จ่อปรับลดประมาณการ ศก. ไทยโตแค่ 3% คาด กนง. คงดอกเบี้ย
------
นายสมชัย สัจจพงษ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) กล่าวว่า สศค. เตรียมปรับประมาณการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของปี 2556 ใหม่ในเดือนธันวาคมนี้ คาดว่าเศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3 จากเดิมที่คาดว่าจะโตได้ร้อยละ 3.7 เนื่องจากการส่งออก การลงทุนและการบริโภคภายในประเทศที่ชะลอตัว แต่เสถียรภาพเศรษฐกิจไทยและสถาบันการเงินยังแข็งแกร่งเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำ อัตราการว่างงานอยู่ที่ร้อยละ 0.6 - 0.7 เงินคงคลังอยู่ในระดับสูง รวมทั้งมีความต้านทานต่อความผันผวนต่อเศรษฐกิจโลกมากขึ้น
ส่วนปัจจัยทางการเมืองต้องติดตามอย่างใกล้ชิด เชื่อว่าจะไม่กระทบเศรษฐกิจ หากไม่เกิดสถานการณ์รุนแรง นอกจากนี้คาดว่าในปี 2557เศรษฐกิจโลกจะฟื้นตัวดีขึ้น และจะส่งผลให้เศรษฐกิจไทยเติบโตได้ดีตามไปด้วย แต่จะขยายตัวได้มากน้อยเพียงใดต้องติดตามการลงทุนภาครัฐที่เป็นปัจจัยหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจปีหน้า
สำหรับการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันที่ 27 พฤศจิกายน นี้ เชื่อว่าจะไม่มีการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย จากระดับร้อยละ 2.5 ในปัจจุบัน เพราะถือว่ามีความเหมาะสมและสอดคล้องกับเศรษฐกิจในปัจจุบัน
อนึ่ง เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือ สภาพัฒน์ ได้พิจารณาปรับลดคาดการณ์อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(GDP)ของไทยในปี 2556 เหลือเพียง 3% จากเดิมคาดการณ์ไว้ว่าจะขยายตัวในช่วง 3.8-4.3% เนื่องจากการส่งออกขยายตัวต่ำกว่าคาดการณ์ รวมทั้งปริมาณการผลิตรถยนต์ทั้งปีมีแนวโน้มต่ำกว่าเป้าหมายของภาคเอกชนที่ตั้งไว้ 2.5 ล้านคัน ขณะที่การดำเนินการของแผนการลงทุนที่สำคัญของภาครัฐไม่เป็นไปตามเป้าหมาย รวมทั้งยังมีผลกระทบจากปัญหาอุทกภัย
=================================
เศรษฐกิจไทยปีหน้าสาหัส 2ล้านล้านไม่เกิด
credit : bangkokbiznews.com
------
เวิลด์แบงก์ห่วงเศรฐกิจไทยปี"57 อาการสาหัส หากลงทุน 2 ล้านล้านไม่เกิด คาดจีดีพีโตไม่ถึง 4-5% การเมืองป่วนยังไม่กระทบการบริโภคในประเทศ
น.ส.กิริฎา เภาพิจิตร นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส ธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัญหาการเมืองในขณะนี้ไม่ส่งผลกระทบต่อการบริโภคในประเทศ แต่อาจส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวได้หากเกิดความรุนแรงขึ้น รัฐบาลจะต้องเร่งเสถียรภาพทางการเมืองให้มากขึ้น ขณะที่ในระยะยาวรัฐบาลจะต้องเพิ่มขีดความสามารถให้กับผู้ประกอบการเพื่อช่วยผลักดันการส่งออกให้เพิ่มขึ้น
ทั้งนี้ จากการติดตามภาวะเศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 พบว่า ขยายตัวต่ำกว่าที่คาดไว้ ดังนั้น ธนาคารโลกจึงเตรียมปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปีนี้ลงในเดือนหน้า จากคาดการณ์เดิมที่ 4-5% พร้อมทั้งลดประมาณการส่งออกไทยจาก 2-2.5% เหลือ 1% ด้วยหลังจากการส่งออกไทยชะลอตัวลงมากตามภาวะเศรษฐกิจโลก
ส่วน 2557 ความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกยังเป็นปัจจัยเสี่ยงหลักของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะการลดมาตรการคิวอี และปัญหาเพดานหนี้สาธารณะของสหรัฐ ที่จะสร้างความผันผวนในตลาดการเงินโลก ซึ่งภาครัฐต้องเร่งผลักดันโครงการลงทุนต่างๆ ทั้งบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาท และโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท ให้เห็นเป็นรูปธรรม เพื่อกระตุ้นการลงทุนของภาคเอกชน
นักเศรษฐศาสตร์อาวุโส เวิลด์แบงก์ ประจำประเทศไทย กล่าวอีกว่า หากมีการตีความพ.ร.บ.ลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน 2 ล้านล้านบาท จนไม่สามารถลงทุนได้ ก็จะส่งผลกระทบกับภาวะเศรษฐกิจในประเทศ อาจทำให้จีดีพีปีหน้าขยายตัวต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ที่ 4-5% ส่วนการส่งออกจะขยายตัวที่ 5% ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก