ต้องอ่าน!!ก่อนไปซื้อกองทุนLTF
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2556 08:34 น.
นักวิเคราะห์กองทุนรวม บล.ฟิลลิป แนะนักลงทุนขาช๊อป LTF เน้นดูผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ 1-5 ปีขึ้นไป ส่วนกองทุน RMF นั้นต้องเน้นกระจายความเสี่ยงแบ่งพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับตนเอง
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว่า สำหรับนักลงที่กำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน โดยเฉพาะกองทุน LTF-RMF ที่กำลังอยู่ในช่วงมหกรรมภาษี โดยการลงทุนในกองทุน LTF นั้นเราแนะนำให้นักลงทุนมองที่ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ 1ปี 3 ปี และ 5 ปีขึ้นไป เนื้องจากตัวเลขทั้งผลการดำเนินงานและผลตอบแทนนั้นจะสะท้อนให้เห็นการผ่านช่วงวิกฤติ และช่วงเฟื่องฟูของเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้น ส่วนการลงทุนในกองทุน RMF นั้นนักลงทุนก็ควรที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงเวลาและความเสี่ยงของตนเอง
ทั้งนี้เรายังคงคำแนะนำให้สะสมกองทุน LTF และ RMF ต่อไป โดยคาดว่าเดือนธันวาคมจะได้แรงหนุนจากกองทุน LTF-RMF ช่วยดึงดัชนีหุ้นไทยไปต่อได้ ส่วนกองทุนที่แนะนำได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดบรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ส่วนกองทุนหุ้นนั้นแนะนำให้เข้าซื้อได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรียุโรปอิควิตี้ และ กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน ส่วนกองทุนหุ้นจีนนั้นแนะนำให้สะสมเมื่อราคาปรับลง เราแนะนำ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์
"สำหรับงาน SET in the City ที่หลายคนเตรียมตัวจะไปดูรายละเอียดการลงทุน LTF - RMF นั้นผมแนะนำว่าก่อนเข้างาน ทีมงานที่จัดเขาจะมีการจัดอันดับกองทุนและผลตอบแทนเป็นป้ายอยู่บริเวณหน้างาน นักลงทุนก็อาจจะเช็คข้อมูลเหล่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนได้"
LTFผลงานเด่นรอบ 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในรอบ 5 ปีที่ดีที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2555) ได้แก่ อันดับที่ 1 กองทุนเปิดบรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว (CG-LTF) เดิมกองทุนนี้เคยบริหารจัดการโดยบลจ.ไอเอ็นจี และมีการเทคโอเวอร์โดยยูโอบี (ประเทศไทย ) ซึ่งกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 26.75% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 19.28% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 35.86%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดแวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) โดยบลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 22.40% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 18.19% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 35.60%
อันดับที่ 3 กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) โดยบลจ. กรุงศรี ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.58% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 17.54% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.65%
อันดับที่ 4 กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว (ABLTF) โดยบลจ.อเบอร์ดีน กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.83% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 19.89% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.40%
และอันดับที่ 5 กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ หุ้นระยะยาว( MS-CORE LTF) โดยบลจ.แมนูไลฟ์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 21.19% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 16.12% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.35%
ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐาน SET TR ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 14.16% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 16.41% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.82%
ขอบคุณที่มา : iBiz + Settrade
... เข้าใกล้ปลายปี มาซื้อ LTF RMF ลดหย่อนภาษีกันดีกว่า ...
*** ก่อนไปซื้อกองทุน LTF ***
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 21 พฤศจิกายน 2556 08:34 น.
นักวิเคราะห์กองทุนรวม บล.ฟิลลิป แนะนักลงทุนขาช๊อป LTF เน้นดูผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ 1-5 ปีขึ้นไป ส่วนกองทุน RMF นั้นต้องเน้นกระจายความเสี่ยงแบ่งพอร์ตลงทุนให้เหมาะกับตนเอง
นายสานุพงศ์ สุทัศน์ธรรมกุล Fund SuperMart Analyst บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) กล่าว่า สำหรับนักลงที่กำลังหาข้อมูลเพื่อประกอบการตัดสินใจในการลงทุน โดยเฉพาะกองทุน LTF-RMF ที่กำลังอยู่ในช่วงมหกรรมภาษี โดยการลงทุนในกองทุน LTF นั้นเราแนะนำให้นักลงทุนมองที่ผลตอบแทนย้อนหลังตั้งแต่ 1ปี 3 ปี และ 5 ปีขึ้นไป เนื้องจากตัวเลขทั้งผลการดำเนินงานและผลตอบแทนนั้นจะสะท้อนให้เห็นการผ่านช่วงวิกฤติ และช่วงเฟื่องฟูของเศรษฐกิจไทยและตลาดหุ้น ส่วนการลงทุนในกองทุน RMF นั้นนักลงทุนก็ควรที่จะกระจายพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสมกับช่วงเวลาและความเสี่ยงของตนเอง
ทั้งนี้เรายังคงคำแนะนำให้สะสมกองทุน LTF และ RMF ต่อไป โดยคาดว่าเดือนธันวาคมจะได้แรงหนุนจากกองทุน LTF-RMF ช่วยดึงดัชนีหุ้นไทยไปต่อได้ ส่วนกองทุนที่แนะนำได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล กองทุนเปิด อเบอร์ดีน สมาร์ทแคปปิตอล เพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนเปิดบรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว ส่วนกองทุนหุ้นนั้นแนะนำให้เข้าซื้อได้แก่ กองทุนเปิดกรุงศรียุโรปอิควิตี้ และ กองทุนเปิดเค ยูโรเปียน หุ้นทุน ส่วนกองทุนหุ้นจีนนั้นแนะนำให้สะสมเมื่อราคาปรับลง เราแนะนำ กองทุนเปิด อเบอร์ดีน ไชน่า เกทเวย์ ฟันด์
"สำหรับงาน SET in the City ที่หลายคนเตรียมตัวจะไปดูรายละเอียดการลงทุน LTF - RMF นั้นผมแนะนำว่าก่อนเข้างาน ทีมงานที่จัดเขาจะมีการจัดอันดับกองทุนและผลตอบแทนเป็นป้ายอยู่บริเวณหน้างาน นักลงทุนก็อาจจะเช็คข้อมูลเหล่านั้นก่อนที่จะตัดสินใจลงทุนได้"
LTFผลงานเด่นรอบ 5 ปี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทุน LTF ที่ให้ผลตอบแทนย้อนหลังในรอบ 5 ปีที่ดีที่สุด (ข้อมูล ณ วันที่ 20 พฤศจิกายน 2555) ได้แก่ อันดับที่ 1 กองทุนเปิดบรรษัทภิบาล หุ้นระยะยาว (CG-LTF) เดิมกองทุนนี้เคยบริหารจัดการโดยบลจ.ไอเอ็นจี และมีการเทคโอเวอร์โดยยูโอบี (ประเทศไทย ) ซึ่งกองทุนดังกล่าวให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 26.75% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 19.28% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 35.86%
อันดับที่ 2 คือกองทุนเปิดแวลูพลัส ปันผล หุ้นระยะยาว (VALUE-D LTF) โดยบลจ.ยูโอบี (ประเทศไทย) กองทุนนี้ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 22.40% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 18.19% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 35.60%
อันดับที่ 3 กองทุนเปิดกรุงศรีหุ้นระยะยาวปันผล (KFLTFDIV) โดยบลจ. กรุงศรี ซึ่งผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.58% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 17.54% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.65%
อันดับที่ 4 กองทุนเปิดอเบอร์ดีนหุ้นระยะยาว (ABLTF) โดยบลจ.อเบอร์ดีน กองทุนให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 11.83% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 19.89% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.40%
และอันดับที่ 5 กองทุนเปิดแมนูไลฟ์ สเตร็งค์ คอร์ หุ้นระยะยาว( MS-CORE LTF) โดยบลจ.แมนูไลฟ์ ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 21.19% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 16.12% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.35%
ทั้งนี้เกณฑ์มาตรฐาน SET TR ให้ผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปีอยู่ที่ 14.16% ส่วน 3 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 16.41% และ 5 ปีย้อนหลังอยู่ที่ 33.82%
ขอบคุณที่มา : iBiz + Settrade
... เข้าใกล้ปลายปี มาซื้อ LTF RMF ลดหย่อนภาษีกันดีกว่า ...