เรื่องสั้น : เธอไม่เคยไปไกลถึงที่นั่น

เธอว่า...ในโลกล้วนมีวัฒนธรรมที่แตกต่าง และแม้จะแตกต่างก็หลอมรวมให้เป็นหนึ่งเดียวได้ด้วยหัวใจ เขาฟังแล้วหัวเราะหัวใคร่ จะเป็นไปได้ยังไงเพราะวัฒนธรรมประเพณี เชื้อชาติ ศาสนา ภาษา และความเชื่อ หล่อหลอมคนแต่ละคนมาให้ไม่เหมือนกัน เอาง่ายๆ แค่ภาคใต้กับภาคอีสาน ก็กินอาหารไม่เหมือนกัน ภาษาพูดแตกต่างกัน ความเชื่อก็ไม่เหมือนกันด้วย จะให้อยู่ด้วยกันได้ยังไง ไม่มีทางหรอก - -

นั่นทำให้เธอร้าวไปถึงกระดูก ปวดไปถึงลำไส้ เมื่อได้ยินประโยค เพราะเธอมาจากจังหวัดเหนือสุดของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และเขามาจากภาคใต้ กรุงเทพมหานคร คือศูนย์รวมของความแตกต่าง นั่นทำให้กรุงเทพฯ ไม่มีเอกลักษณ์ของตัวเองโดดเด่น เว้นแต่เมื่อถึงฤดูเทศกาลที่คนต่างจังหวัดต้องกลับบ้านเกิด กรุงเทพฯ จะเป็นตัวของตัวเองให้รถเมล์เหยียบคันเร่งไว้หนี-ยมบาล กรุงเทพฯ เหมือนเมืองร้างไปชั่วขณะ ถ้ากรุงเทพฯ เป็นคน ก็คงปลดภาระอันหนักอึ้งลงบนบ่าแม้สักชั่วขณะเวลา...

เธอมาจากริมแม่น้ำโขง จังหวัดเลย เขามาจากริมฝั่งทะเลอันดามัน จังหวัดภูเก็ต เธอรักเขาอย่างตรงไปตรงมาในความรักแบบหญิงสาวกับชายหนุ่มทั่วโลกที่มีความรัก และความรักของเธอกับเขาก็น่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีถ้าหากไม่มีวันหนึ่งที่ทั้งคู่มีเรื่องเบาะแว้งเพราะความไม่เข้าใจกัน ประโยคหนึ่งที่หลุดออกมาจากปากเขาโดยไม่ตั้งใจ... อย่างน้อยเธอก็เชื่ออย่างนั้น

“ผู้หญิงคนนั้นก็เป็นคนใต้เหมือนผม คุยกันง่าย เข้าใจกันง่าย” เธออึ้ง นิ่งเงียบในโลกสุญญากาศ แต่ขอโทษขอโพย – ฉันไม่ได้ตั้งใจทำให้คุณโกรธ... ถ้าไม่ใช่เพราะความรัก เธอจะไม่เอ่ยออกไปอย่างนั้น แต่นั่นไม่ได้ช่วยรั้งให้เขาอยู่ เพราะหัวใจคนเมื่อต้องการจากไป ไม่เคยมีอะไรฉุดรั้งเอาไว้ได้

เธอ – ในวัยที่อายุเลยเลขสองมาแล้วไม่มาก เคยมีเพื่อนหลายคนเป็นมุสลิม กรุงเทพฯ สอนให้เธอเปิดใจรับเพื่อนต่างศาสนาหรืออีกบางทีอาจเพราะภาวะกำจัดบางอย่างทำให้จำเป็นต้องมีเพื่อนต่างศาสนา แต่เธอเคยคัดง้างความรู้สึกนี้ของตัวเอง, ไม่ใช่เพราะกรุงเทพฯ แต่เพราะมิตรภาพ... เธอมีเพื่อนที่นับถือศาสนาอิสลามมาตั้งแต่สมัยเรียนปริญญา เธอติดสอยห้อยตามพวกเขาไปทำพิธีกรรมทางศาสนา ไปงานชุมนุมสานสัมพันธ์ของเพื่อนมุสลิมด้วยกัน และกิจกรรมต่างๆ ของพวกเขา เธอก็มักจะเข้าร่วมโดยไม่รู้สึกถึงความแปลกแยกของตัวเอง และแน่นอน พวกเขายิ้มรับกับมิตรสหายต่างศาสนาอย่างไม่มีเงื่อนไข จนเมื่อออกมาทำงานก็มีเพื่อนร่วมงานและร่วมห้องพักเป็นสาวสวยนับถือศาสนาอิสลาม นั่นทำให้หลายคนแปลกใจ ทำไมเราอยู่ด้วยกันได้, คนหนึ่งไหว้พระก่อนนอน มีพระพุทธรูปอยู่บนหัวนอน จุดธูป เทียน วางมาลัยดอกไม้ในวันพระ ขณะอีกคนละหมาดวันละห้าเวลา มีปฏิทินศาสนาแขวนอยู่ใกล้ๆ มีผ้าละหมาดพับเรียบร้อยวางอยู่ข้างหมอน
และในเวลานอน เราสองคนหันหัวไปคนละทาง...

เมื่อได้ยินคำถามทำไมเราอยู่ด้วยกันได้ เราสองคนหัวเราะร่า และยิ้มให้กัน เธอตอบคำถามนั้นว่าเพราะเราต่างก็มีศรัทธาของใครของมันแต่เรามีมิตรภาพเป็นอันเดียวกัน --อย่างนั้นตลอดมา จนตราบเมื่อเพื่อนย้ายไปทำงานที่อื่น มิตรภาพของเราก็หาได้เหือดหายไปกับเวลา เพื่อนมุสลิมยังคอยส่งของฝากมาให้อยู่เรื่อยๆ ถึงรอมฎอนก็ส่งอินทผาลัมมาให้ ถึงหน้าลองกองก็ให้ไปรับกล่องใหญ่ที่หัวลำโพง ข้าวเกรียบปลาของโปรดจากปัตตานี มักจะส่งมาทางกล่องไปรษณีย์อยู่บ่อยครั้ง หรือแม้คราวที่อยู่ด้วยกัน เมื่อใดเพื่อนกลับปัตตานีไปก็มักกลับขึ้นมาพร้อมเครื่องแกงสำหรับประกอบอาหารที่เธอก็ไม่รู้ว่าไปหลงชอบเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่มักจะรอคอยอย่างกระตือรือร้นเสมอที่จะได้กินอาหารใต้

เธอชอบคนใต้ เธอบอกตัวเองอย่างนั้น ไม่ใช่เพราะของฝากหรืออาหาร แต่เพราะความแตกต่างทางวัฒนธรรมประเพณี และทุกๆ อย่างที่รวมเป็นคนใต้ - คนใต้ที่ไม่ใช่จำกัดว่าเป็นมุสลิม...

เธออ่านงานเขียนของกนกพงศ์ สงสมพันธ์ นักเขียนซีไรต์ปี 2539 ทุกเล่มและทุกเรื่องอย่างละเมียดละไม ไล่สายตาไปทุกบรรทัดอย่างไม่มีบกพร่อง เธอชอบการบรรยายถึงความเป็น “ภาคใต้” ของกนกพงศ์ โลกของภาคใต้สำหรับเธอชัดเจนในงานเขียนของเขา เธอแปลกและอัศจรรย์ใจถึงวิธีการบรรยายและเล่าเรื่องอย่างละเอียดอดทนของนักเขียนคนนี้ จนในหลายคราวครั้งเธอเผลอนึกว่าตัวเองนั่งอยู่เคียงข้างในระหว่างที่เขากำลังเขียนเรื่องสั้นสักเรื่อง, ไม่ใช่แต่กนกพงศ์เท่านั้นที่เธอชื่นชอบถึงขั้นหลงไหลในผลงาน แต่นักเขียนภาคใต้หลายคนที่เธอกวาดหนังสือเขามาทั้งแผง... เรื่องราวเกี่ยวกับภาคใต้ในรูปแบบของเรื่องสั้น นวนิยาย นั่นทำให้เธอจินตนาการถึง “ภาคใต้” ที่เธอไม่เคยไปเยือนไกลกว่าระนอง... ระนองก็แค่เกาะหาดทรายดำ ในคราวไปช่วยสร้างบ้านเมื่อครั้งคลื่นยักษ์สึนามิถล่มทำลาย คราวนั้นเธอเจ็บปวดรวดร้าว ราวภูกระดึง ภูหลวงทลายลงต่อหน้า เห็นอกเห็นใจสงสารผู้คนจนน้ำตานองคลอสองตา ตลอดเวลาการขนอิฐ ขนกระเบื้องลงจากเรือเพื่อสร้างบาราย เธอสลดใจและเศร้าไปกับพวกเขา เธอไปภาคใต้ใกลถึงระนอง แต่เธออยากไปไกลกว่านั้น เมื่อเธอมองไปยังสุดขอบทะเล

เธอวาดภาพของภาคใต้เอาไว้ในใจ เธออยากเห็นโลกของภาคใต้ให้ชัดเจนกว่านั้น แต่ข่าวสารข้อมูลที่กระหน่ำเข้ามาทุกวันถึงความไม่ปลอดภัยของสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ทำให้เธอลังเลที่จะไปเยือน ข่าวสารที่สื่ออกมามักจะน่าตกใจอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นการวางระเบิด การเผาโรงเรียน การลอบยิงไปจนถึงยิงแบบไม่ต้องลอบ ทั้งหมดเป็นเรื่องที่น่าหดหู่สำหรับคนที่ไม่เคยไปไกลถึงที่นั่น เธอมองภาพทั้งหมดไม่ออก แต่เธอรู้ว่าน่ากลัว และรู้สึกกลัวทั้งที่เธอไม่เคยไปที่นั่น- - แต่กระนั้นก็ตามเธอก็ยังหมายใจเอาไว้ว่าสักวันเธอจะต้องหาโอกาสไปเยือนภาคใต้อย่างที่เคยตั้งใจเอาไว้ให้ได้

เธอเคยมีความรักและคนรักเป็นคนใต้ – คนที่ไม่ใช่เขาตอนนี้,

เขาคนนั้นเป็นคนจังหวัดสงขลา อำเภอหาดใหญ่ แต่ชีวิตทันสมัยของกรุงเทพฯ ก็ฉุดลากเขาให้เปลี่ยนแปลงตัวเองกับสังคมที่อยู่ เขาไม่เหลือคราบคนน้ำเค็มเมื่อเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของธนาคารแห่งชาติ สองถึงสามปีต่อครั้งที่เขาจะกลับไปเยี่ยมพ่อแม่ที่หาดใหญ่ เขาว่าเดินทางไกล ค่าใช้จ่ายสูง เขาคิดตามแบบฉบับของคนการเงินแต่ไม่พูดถึงการเดินทางด้วยเครื่องบินของเขา เธอรักกับเขาอยู่หลายปี เคยร้องขอจะไปเที่ยวหาดใหญ่ดูบ้างสักที แต่สามปีกลับบ้านครั้ง ทำให้เธอรู้ว่าไม่มีทางถ้าจะหวังเอากับเขา เธออยากเห็นหาดสมิหรา เธออยากรู้ว่าทะเลอันดามันกับทะเลไทยต่างกันตรงไหน เธออยากกินแกงไตปลาที่เป็นฝีมือของคนใต้แท้ๆ ทำให้กิน เพราะหลายครั้งที่เธอซื้อติดมือกลับบ้านแล้วเขาวางช้อนลงทันทีที่ตักเข้าปากคำแรก “ไม่ใช่คนใต้ทำ”

- - การเป็นเจ้าหน้าที่การเงินของธนาคารแห่งชาติ ไม่ได้ช่วยให้เขาลืมรสชาติอาหารของบ้านเกิดสักนิด เขาเพียงแค่คิดว่าเขาลืมมันได้...

เธอเลิกร้างกับเขาคนนั้นไปหลายปีและมีเขาอีกคนเข้ามาในชีวิต เพราะความคิดและรูปแบบการใช้ชีวิตที่คล้ายคลึงกัน เราอ่านหนังสือประเภทเดียวกัน ชื่นชอบในอะไรหลายอย่างคลับคล้ายกัน ความคิดใกล้เคียงกัน นั่นทำให้เราต่างเชื่อว่าเราน่าจะอยู่ด้วยกันได้ในโลกที่ชื่อว่า กรุงเทพฯ และการอยู่ร่วมกันน่าจะดำเนินไปได้ด้วยดีถ้าเพียงแต่จะไม่มีเรื่องราวเล็กๆ น้อยที่เกี่ยวกับความเชื่อทางวัฒนธรรมมาเกี่ยวข้อง... เราจำเป็นต้องปรับตัวเข้าหากันในท่ามกลางความแตกต่างของความเป็นมา จังหวัดเลยของเธอมีทุ่งนา มีเด็กขี่ควาย มีภูเขาและมีแม่น้ำโขง มีอากาศที่หนาวจัดจนบางครั้งเวลาผ่านเลยมาถึงเที่ยงหมอกยังจับหนากลางภูเขา จังหวัดภูเก็ตของเขามีทะเล มีนักท่องเที่ยว ไม่มีทุ่งนา ไม่มีควาย และไม่มีอากาศหนาวจัด เขาไม่เคยสัมผัสอากาศหนาวจัดของจังหวัดเลย แม้จะเคยไปต่างประเทศที่หนาวยิ่งกว่า--

การบอกเล่าสู่กันฟังถึงวัฒนธรรมของตัวเองนั้นยากที่ใครอีกคนจะเข้าใจหากไม่เคยเข้าไปสัมผัส เธอคิดว่าหาดป่าตองก็คงไม่ต่างจากหาดบางแสน ภูเก็ตน่าจะเป็นเมืองที่เต็มไปด้วยชาวต่างชาติ และทุกสิ่งทุกอย่างราคาแพง เพราะที่นั่นเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญของประเทศ แต่สิ่งที่เธออยากรู้มากกว่านั้น ไม่ใช่เรื่องของชายหาดและนักท่องเที่ยว แต่เธออยากรู้จักต้นสะตอ หน้าตาของต้นสะตอ ต้นลูกเหนียง ต้นเต่าร้างแดง กระทั่งสวนยาง เธอไม่เคยเห็นสวนยาง เธอไม่รู้ว่าการกรีดยางต้องทำยังไง เธออ่านในหนังสือเกี่ยวกับการปลูกยาง--ละเอียดยิบ แต่ในนั้นไม่มีกลิ่น กลิ่นของน้ำยางที่ไหลออกมาจากต้น กลิ่นของต้นยางในอากาศชื้นของภาคใต้และเสียงของใบไม้เมื่อต้องลม...

เธออยากดูหนังตะลุง เธอไม่เคยเห็นการแสดงหนังตะลุง เธอรู้จัก-เท่งจากพวงกุญแจของที่ระลึกที่เพื่อนสาวจากปัตตานีเคยส่งมาให้ เป็นรูปคนจมูกยาวพุงโตยืนหันข้าง เจาะรูด้านบนร้อยเป็นพวงกุญแจ แค่นั้น แต่เธอไร้จินตนาการอย่างสิ้นเชิงถึง-เท่ง เธออยากรู้จักหมูขี้พร้า มันจะเหมือนหมูบ้าน หรือหมูป่าไหมก็ไม่รู้ เธออยากรู้วิธีการทำน้ำบูดู และกินแกงไตปลาฝีมือคนใต้แท้ๆ - - เธอ, โดยพื้นฐานไม่ชอบอาหารรสจัด โดยเฉพาะอาหารรสเผ็ด เธอจะไม่แตะมันถ้ารู้ว่ามันเผ็ด ยกเว้นอาหารปักษ์ใต้ทุกชนิด เธอกล้าหาญที่จะรับรสเผ็ด และกลิ่นแปลกๆ ของเครื่องแกงปักษ์ใต้

การกินอาหารปักษ์ใต้ก็เหมือนการเดินขึ้นภูกระดึง - - มันไม่สนุกหรอก, ถ้าให้คนอื่นเดินขึ้นไปแทน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่