ร้อยเวร สน.บางชัน เผยความคืบหน้าคดีลักลอบเปิดตู้เซฟ “เอ็กซ์-จักรกฤษณ์” ชี้พ่อมีสิทธิร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ แต่ต้องรอศาลประจวบฯ มีคำสั่งลงมาก่อนถึงจะเป็นผู้เสียหายแทน “เอ็กซ์” - เอาผิด “หมอนิ่ม” ลักลอบเปิดตู้เซฟจนมีทรัพย์สินสูญหายได้!
วันนี้ (20 พ.ย.) ร.ต.ท.มารุต ปัณดิษฐโต พนักงานสอบสวน สน.บางชัน เจ้าของคดีกรณีนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย แจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา ที่ลักลอบเปิดตู้เซฟธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งฟ้องผู้จัดการธนาคารดังกล่าวกล่าวเปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 25 พ.ย.นี้ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกนายมานพ พาณิชย์ผาติกรรม มาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมด้วยทนายความที่เดินทางมาแจ้งความพร้อมกับจักรกฤษณ์ในวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะยังไม่ได้ประสานไป โดยตำรวจจะแยกสอบนายมานพกับทนายความ หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อมูลครบจากทั้ง 2 คนแล้ว ตำรวจก็จะทำการเรียก พญ.นิธิวดี มาสอบปากคำต่อ สำหรับผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยนั้น คงไม่เรียกมาสอบปากคำอีกแล้วเพราะสอบปากคำไปหมดแล้ว แต่หากมีข้อมูลหรือประเด็นใหม่ที่ได้จากการสอบปากคำนายมานพ ทนายความและ พญ.นิธิวดี ก็อาจเรียกมาสอบใหม่ได้
ร.ต.ท.มารุตกล่าวต่อไปว่า นายมานพแจ้งกับทางตำรวจว่าตนได้ให้พระเครื่อง 3-4 องค์กับนายจักรกฤษณ์ มูลค่า 1.3 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในตู้เซฟธนาคารด้วย แต่ทรัพย์สินส่วนอื่นทางนายมานพไม่ทราบ ซึ่งก็ต้องสอบปากคำทั้ง พญ.นิธิวดี กับนายมานพ เพื่อดูว่าให้การตรงกันหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ การที่นายมานพจะเป็นผู้เสียหายแทนนายจักรกฤษณ์ในคดีนี้นั้น เบื้องต้นทางศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะต้องมีคำสั่งให้นายมานพเป็นผู้จัดการมรดกก่อนจึงสามารถเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ได้ ซึ่งนายมานพมีสิทธิที่จะเป็นได้ เพราะเป็นพ่อแท้ๆ ของนายจักรกฤษณ์ และหากได้เป็นผู้เสียหายแทนก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องทางคดีแพ่งได้ ส่วนทางอาญานั้นทางตำรวจก็จะดูสำนวนที่ได้จากการสอบปากคำเพื่อดูความเป็นไปได้ทางคดีต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144438
“พ่อเอ็กซ์” จ่อเป็นผู้จัดการมรดก-เอาผิด “หมอนิ่ม” แอบเปิดตู้เซฟลูกชาย
ร้อยเวร สน.บางชัน เผยความคืบหน้าคดีลักลอบเปิดตู้เซฟ “เอ็กซ์-จักรกฤษณ์” ชี้พ่อมีสิทธิร้องเป็นผู้จัดการมรดกได้ แต่ต้องรอศาลประจวบฯ มีคำสั่งลงมาก่อนถึงจะเป็นผู้เสียหายแทน “เอ็กซ์” - เอาผิด “หมอนิ่ม” ลักลอบเปิดตู้เซฟจนมีทรัพย์สินสูญหายได้!
วันนี้ (20 พ.ย.) ร.ต.ท.มารุต ปัณดิษฐโต พนักงานสอบสวน สน.บางชัน เจ้าของคดีกรณีนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม อดีตนักยิงปืนทีมชาติไทย แจ้งความให้ดำเนินคดีต่อ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา ที่ลักลอบเปิดตู้เซฟธนาคารกสิกรไทย รวมทั้งฟ้องผู้จัดการธนาคารดังกล่าวกล่าวเปิดเผยว่า วันจันทร์ที่ 25 พ.ย.นี้ทางพนักงานสอบสวนจะเรียกนายมานพ พาณิชย์ผาติกรรม มาสอบปากคำอีกครั้ง พร้อมด้วยทนายความที่เดินทางมาแจ้งความพร้อมกับจักรกฤษณ์ในวันเกิดเหตุ แต่ยังไม่สามารถระบุเวลาได้ เพราะยังไม่ได้ประสานไป โดยตำรวจจะแยกสอบนายมานพกับทนายความ หลังจากนั้นเมื่อได้ข้อมูลครบจากทั้ง 2 คนแล้ว ตำรวจก็จะทำการเรียก พญ.นิธิวดี มาสอบปากคำต่อ สำหรับผู้จัดการธนาคารกสิกรไทยนั้น คงไม่เรียกมาสอบปากคำอีกแล้วเพราะสอบปากคำไปหมดแล้ว แต่หากมีข้อมูลหรือประเด็นใหม่ที่ได้จากการสอบปากคำนายมานพ ทนายความและ พญ.นิธิวดี ก็อาจเรียกมาสอบใหม่ได้
ร.ต.ท.มารุตกล่าวต่อไปว่า นายมานพแจ้งกับทางตำรวจว่าตนได้ให้พระเครื่อง 3-4 องค์กับนายจักรกฤษณ์ มูลค่า 1.3 ล้านบาท ซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวอยู่ในตู้เซฟธนาคารด้วย แต่ทรัพย์สินส่วนอื่นทางนายมานพไม่ทราบ ซึ่งก็ต้องสอบปากคำทั้ง พญ.นิธิวดี กับนายมานพ เพื่อดูว่าให้การตรงกันหรือไม่ต่อไป ทั้งนี้ การที่นายมานพจะเป็นผู้เสียหายแทนนายจักรกฤษณ์ในคดีนี้นั้น เบื้องต้นทางศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์จะต้องมีคำสั่งให้นายมานพเป็นผู้จัดการมรดกก่อนจึงสามารถเป็นผู้เสียหายในคดีนี้ได้ ซึ่งนายมานพมีสิทธิที่จะเป็นได้ เพราะเป็นพ่อแท้ๆ ของนายจักรกฤษณ์ และหากได้เป็นผู้เสียหายแทนก็สามารถดำเนินการฟ้องร้องทางคดีแพ่งได้ ส่วนทางอาญานั้นทางตำรวจก็จะดูสำนวนที่ได้จากการสอบปากคำเพื่อดูความเป็นไปได้ทางคดีต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144438