แตกประเด็นจากกระทู้
http://ppantip.com/topic/31151355
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - "แจ๊ด" จ่อตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯทิ้ง มุ่งสอบปมความขัดแย้งในครอบครัวเพียงประเด็นเดียวเป็นหลัก พร้อมส่งตำรวจเดินทางเข้ากองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง สอบปากคำ 4 สห.ทอ.ทีม รปภ."หมอนิ่ม" หลังสืบพบปมเบิกอาวุธในราชการทหารมาใช้ในระหว่างเกิดเหตุและรู้เห็น "หมอนิ่ม ทะเลาะ เอ็กซ์"วันที่ 9 และ 18 ต.ค.ก่อนเกิดเหตุ โฆษก ทอ.ไฟเขียวเต็มที่ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือหากลูกทัพฟ้ากระทำผิด ด้านพ่อแม่เอ็กซ์เข้าให้การตำรวจเพิ่มเติมในประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวพร้อมปิดปากเงียบ ด้านโฆษก กทม. ยืนยันไม่มีกล้องดัมมี่ มีเพียงกล้องเฟส2ที่รอเชื่อมไฟฟ้าเท่านั้น เผยคดีเอ็กซ์ส่งหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว ส่วน ผบช.น.เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี วันนี้ (29 ต.ค.) 10 โมงเช้า ที่ บช.น. โดยมีรายงานว่าตำรวจจะตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯออกอีก 1 ประเด็น มุ่งสอบปมปัญหาในครอบครัวเป็นชนวนสาเหตุหลัก จ่อออกหมายจับ 4 มือปืนสังหารทันที!
วานนี้(28 ต.ค.)พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่าจากแนวทางการสืบสวนของชุดทำงานที่มอบหมายงานให้ไปนั้น พบว่าปมความขัดแย้งในสมาคมยิงปืน ไม่น่าจะประเด็นที่นำไปสู่การสังหารนายจักรกฤษณ์ ขณะนี้ได้ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งในครอบครัว แต่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ขอเวลาอีกสักระยะน่าจะชัดเจนมากกว่านี้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการสอบปากคำ สห.ทอ. 4 คน เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แต่ตนอยากจะเตือนว่า การสอบปากคำไม่จำเป็นต้องพาสื่อมวลชนเข้าไป มันไม่ถูกต้อง จะทำให้หน่วยงานเขาเสียหาย ซึ่ง สห.ทอ.ทั้ง 4 คน ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา แต่ไปขอความร่วมมือในการให้ปากคำ เบื้องต้นไม่น่าจะมีปัญหา เป็นการสอบปากคำธรรมดา เพราะเป็นการทำงานนอกเวลา หลังจากเลิกงาน สห.ทอ.ทั้ง 4 คน ก็มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ พญ.นิธิวดี ไม่ใช่ว่าทั้ง 4 คน จะต้องเป็นคนลงมือก่อเหตุ
ส่วนคนในครอบครัวของ พญ.นิธิวดี พนักงานสอบสวนก็เชิญมาสอบปากคำบ้างแล้ว ให้ความร่วมมือดี แต่ยังไม่มีการระบุว่าคนสั่งการน่าจะเป็นคนไหน แค่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเหลือปมความขัดแย้งในครอบครัวเพียงเรื่องเดียวแล้ว ต้องหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนให้ชัดเจน ส่วนอาวุธปืนคงเป็นตามที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานระบุมา อย่างที่ผมเคยบอก คดีจ้างวานฆ่าอาจจะสืบสวนง่าย แต่การจับกุมค่อนข้างยาก พญ.นิธิวดี น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายจักรกฤษณ์ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่จากการสอบปากคำ พญ.นิธิวดี ก็ให้ความร่วมมือดี ผบช.น.กล่าว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ที่กองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี และหนึ่งในชุดคลี่คลายคดีการลอบยิงนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ปากซอยรามคำแหง 166 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมาที่กองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง เพื่อสอบปากคำ จ.อ.นคร ลังบุปผา พ.อ.ท.รัชมังคัล นาวิกวานิช พ.อ.ท.กร ศรีกลิ่นสุวรรณ และพ.อ.ท.ภาณุวัฒน์ ศุภกิจ ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยให้กับ พ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา
โดยมีการตั้งประเด็นในการสอบสวน กรณีที่สารวัตรทหารทั้ง 4 นาย รับจ้างเป็นชุดคุ้มกันให้กับ พ.ญ.นิธิวดี หลังจากที่นายจักรกฤษณ์ ได้รับการประกันตัวจากศาลทหารระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งมีการวางประเด็นเรื่องการเบิกใช้อาวุธในราชการทหารในช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนรู้เห็นกับเหตุทะเลาะเบาะแว้ง ระหว่างพ.ญ.นิธิวดี และนายจักรกฤษณ์ ในวันที่ 9 และ 18 ต.ค. ก่อนเกิดเหตุ รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้รถตู้เป็นยานพาหนะของแพทย์หญิงนิธิวดี ก่อนเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามเมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนเตรียมเอกสารมาไม่พร้อม จึงได้กลับไปเตรียมเอกสารมาใหม่ โดยมีรายงานว่าในช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้มีการเข้าสอบปากคำทหารอากาศทั้ง 4 นายอีกครั้ง
พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำเรื่องขอสอบปากคำสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) จำนวน 4 นาย ที่ถูกว่าจ้างให้มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับ พญ.นิธิวดี ว่า ขณะนี้ทราบว่าทางพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ติดต่อประสานงานกับทางสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมืองแล้ว ซึ่งทางกองทัพอากาศยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนในคดีดังกล่าว
ส่วนในเรื่องของคดี ต้องเป็นไปตามหลักฐานของทางพนักงานสอบสวนว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ก็ได้รับทราบเรื่องแล้ว และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ยืนยันว่า จะไม่มีการช่วยเหลือใดๆ หาก สห.ทอ.ทั้ง 4 นายเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อยากให้เป็นเรื่องของพนักงานสืบสวนสอบสวน ทางกองทัพอากาศคงบอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะเกรงว่าไปกระทบกับรูปคดีของพนักงานสอบสวน
ขณะที่บรรยากาศที่ สน.มีนบุรี เมื่อเวลา 15.40 น.นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดานายจักรกฤษณ์เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับปมประเด็นความขัดแย้งในครอบครัว
ต่อมาเวลา 17.45 น. นายมานพ กล่าวภายหลังการเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.พงษ์กิตติ์ พินิจสิขิตศักดิ์ รองผกก.สส.สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยใช้เวลา กว่า 2 ชม. โดยนายมานพและนางบุญคิด มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยหยอกล้อกับสื่อมวลชน
นายมานพ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนซึ่งตำรวจยังคงสอบถามในเรื่องเดิมๆ เกี่ยวกับปมขัดแย้งในครอบครัว อย่างไรก็ตามตนเองยังติดใจในประเด็นเกี่ยวกับพระเครื่อง เพราะพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีในครอบครองมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามในทางคดีตนรู้สึกพอใจและมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เพราะจากที่พูดคุย ตำรวจที่ทำคดีมีความละเอียดรอบคอบมาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับพ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ นายมานพ ปฏิเสธคำถามนี้ เมื่อถามว่านอกจากประเด็นเกี่ยวกับพระเครื่องยังติดใจประเด็นอื่นหรือไม่ นายมานพ กล่าวในเชิงหยอกล้อกับสื่อมวลชนว่า ไม่รู้แต่ถึงรู้ก็ไม่บอก
อีกด้าน นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในวันนี้ว่า ในที่ประชุมได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีคดี ของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่ถูกลอบสังหาร และมีกระแสข่าวการออกมาระบุว่า กล้องซีซีทีวีของ กทม.กว่าครึ่งเป็นกล้องดัมมี่ และไม่ได้เสียบปลั๊ก ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น กทม.ได้ชี้แจงว่า
1.กทม.ได้ส่งภาพหลักฐานในวันเกิดเหตุซึ่งมีความชัดเจนตั้งแต่จุดที่จับภาพคนร้ายก่อนเกิดเหตุ จนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกล้องของ กทม.ทั้งหมด ในการใช้เป็นหลักฐานคลี่คลายคดี และได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทั้งหมดแล้ว
2.ส่วนกล้องที่ถูกกล่าวหา ตามที่มีการนำเสนอของสื่อ ว่าเป็นกล้องที่ กทม.ติดตั้งเพิ่มเติมตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันดำเนินการติดตั้งไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากรอการไฟฟ้านครหลวง มาบรรจบกระแสไฟฟ้า
นางสาวตรีดาว กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่า กทม.ไม่มีกล้องดัมมี่ มีเพียงกล้องเฟส2 ที่รอการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้น ซึ่งตนจะชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งในกรณีดังกล่าว ในวันอังคารที่ 29 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวันนี้ ( 29 ต.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อสรุปและรายงานแนวทางการสืบสวนด้วย โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯออกด้วยอีก 1 ประเด็น โดยมุ่งเน้นไปในการสืบสวนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวเป็นหลักเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น พร้อมกับเตรียมออกหมายจับมือปืนที่ก่อนเหตุด้วย
คลิปข่าว วันที่ 25 ต.ค. 2556
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134840
คดี"เอ็กซ์ จักรกฤษณ์" ตำรวจตัดประเด็นสมาคมยิงปืนฯ ออก มุ่งสอบปมครอบครัวเป็นหลัก
ASTVผู้จัดการออนไลน์ - "แจ๊ด" จ่อตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯทิ้ง มุ่งสอบปมความขัดแย้งในครอบครัวเพียงประเด็นเดียวเป็นหลัก พร้อมส่งตำรวจเดินทางเข้ากองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง สอบปากคำ 4 สห.ทอ.ทีม รปภ."หมอนิ่ม" หลังสืบพบปมเบิกอาวุธในราชการทหารมาใช้ในระหว่างเกิดเหตุและรู้เห็น "หมอนิ่ม ทะเลาะ เอ็กซ์"วันที่ 9 และ 18 ต.ค.ก่อนเกิดเหตุ โฆษก ทอ.ไฟเขียวเต็มที่ ยืนยันไม่มีการช่วยเหลือหากลูกทัพฟ้ากระทำผิด ด้านพ่อแม่เอ็กซ์เข้าให้การตำรวจเพิ่มเติมในประเด็นความขัดแย้งในครอบครัวพร้อมปิดปากเงียบ ด้านโฆษก กทม. ยืนยันไม่มีกล้องดัมมี่ มีเพียงกล้องเฟส2ที่รอเชื่อมไฟฟ้าเท่านั้น เผยคดีเอ็กซ์ส่งหลักฐานให้ตำรวจหมดแล้ว ส่วน ผบช.น.เรียกประชุมชุดสืบสวนคลี่คลายคดี วันนี้ (29 ต.ค.) 10 โมงเช้า ที่ บช.น. โดยมีรายงานว่าตำรวจจะตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯออกอีก 1 ประเด็น มุ่งสอบปมปัญหาในครอบครัวเป็นชนวนสาเหตุหลัก จ่อออกหมายจับ 4 มือปืนสังหารทันที!
วานนี้(28 ต.ค.)พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น. เปิดเผยว่าจากแนวทางการสืบสวนของชุดทำงานที่มอบหมายงานให้ไปนั้น พบว่าปมความขัดแย้งในสมาคมยิงปืน ไม่น่าจะประเด็นที่นำไปสู่การสังหารนายจักรกฤษณ์ ขณะนี้ได้ให้น้ำหนักไปที่ความขัดแย้งในครอบครัว แต่ยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานให้ชัดเจน ขอเวลาอีกสักระยะน่าจะชัดเจนมากกว่านี้
พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวอีกว่า สำหรับเรื่องการสอบปากคำ สห.ทอ. 4 คน เป็นหน้าที่ของพนักงานสอบสวน แต่ตนอยากจะเตือนว่า การสอบปากคำไม่จำเป็นต้องพาสื่อมวลชนเข้าไป มันไม่ถูกต้อง จะทำให้หน่วยงานเขาเสียหาย ซึ่ง สห.ทอ.ทั้ง 4 คน ไม่ได้ตกเป็นผู้ต้องหา แต่ไปขอความร่วมมือในการให้ปากคำ เบื้องต้นไม่น่าจะมีปัญหา เป็นการสอบปากคำธรรมดา เพราะเป็นการทำงานนอกเวลา หลังจากเลิกงาน สห.ทอ.ทั้ง 4 คน ก็มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้ พญ.นิธิวดี ไม่ใช่ว่าทั้ง 4 คน จะต้องเป็นคนลงมือก่อเหตุ
ส่วนคนในครอบครัวของ พญ.นิธิวดี พนักงานสอบสวนก็เชิญมาสอบปากคำบ้างแล้ว ให้ความร่วมมือดี แต่ยังไม่มีการระบุว่าคนสั่งการน่าจะเป็นคนไหน แค่ตั้งข้อสันนิษฐานว่าน่าจะเหลือปมความขัดแย้งในครอบครัวเพียงเรื่องเดียวแล้ว ต้องหาพยานหลักฐานมาสนับสนุนให้ชัดเจน ส่วนอาวุธปืนคงเป็นตามที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐานระบุมา อย่างที่ผมเคยบอก คดีจ้างวานฆ่าอาจจะสืบสวนง่าย แต่การจับกุมค่อนข้างยาก พญ.นิธิวดี น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการสังหารนายจักรกฤษณ์ด้วยหรือไม่ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ทราบ แต่จากการสอบปากคำ พญ.นิธิวดี ก็ให้ความร่วมมือดี ผบช.น.กล่าว
เมื่อเวลา 10.00 น.วันเดียวกัน ที่กองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง พ.ต.ท.บุญเยี่ยม กันเกตุ หัวหน้าพนักงานสอบสวน สน.มีนบุรี และหนึ่งในชุดคลี่คลายคดีการลอบยิงนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติ ปากซอยรามคำแหง 166 เมื่อวันที่ 19 ต.ค. ที่ผ่านมา เดินทางมาที่กองพันสารวัตรทหารอากาศ ดอนเมือง เพื่อสอบปากคำ จ.อ.นคร ลังบุปผา พ.อ.ท.รัชมังคัล นาวิกวานิช พ.อ.ท.กร ศรีกลิ่นสุวรรณ และพ.อ.ท.ภาณุวัฒน์ ศุภกิจ ซึ่งเป็นทีมรักษาความปลอดภัยให้กับ พ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ ภรรยา
โดยมีการตั้งประเด็นในการสอบสวน กรณีที่สารวัตรทหารทั้ง 4 นาย รับจ้างเป็นชุดคุ้มกันให้กับ พ.ญ.นิธิวดี หลังจากที่นายจักรกฤษณ์ ได้รับการประกันตัวจากศาลทหารระหว่างต่อสู้คดี ซึ่งมีการวางประเด็นเรื่องการเบิกใช้อาวุธในราชการทหารในช่วงที่เกิดเหตุ ส่วนรู้เห็นกับเหตุทะเลาะเบาะแว้ง ระหว่างพ.ญ.นิธิวดี และนายจักรกฤษณ์ ในวันที่ 9 และ 18 ต.ค. ก่อนเกิดเหตุ รวมถึงการเปลี่ยนมาใช้รถตู้เป็นยานพาหนะของแพทย์หญิงนิธิวดี ก่อนเกิดเหตุ
อย่างไรก็ตามเมื่อเดินทางมาถึงปรากฏว่าทางพนักงานสอบสวนเตรียมเอกสารมาไม่พร้อม จึงได้กลับไปเตรียมเอกสารมาใหม่ โดยมีรายงานว่าในช่วงบ่ายที่ผ่านมาได้มีการเข้าสอบปากคำทหารอากาศทั้ง 4 นายอีกครั้ง
พล.อ.ท.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำเรื่องขอสอบปากคำสารวัตรทหารอากาศ (สห.ทอ.) จำนวน 4 นาย ที่ถูกว่าจ้างให้มาทำหน้าที่ดูแลความปลอดภัยให้กับ พญ.นิธิวดี ว่า ขณะนี้ทราบว่าทางพนักงานสืบสวนสอบสวนได้ติดต่อประสานงานกับทางสำนักงานผู้บังคับทหารอากาศดอนเมืองแล้ว ซึ่งทางกองทัพอากาศยินดีให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจดำเนินการสืบสวนในคดีดังกล่าว
ส่วนในเรื่องของคดี ต้องเป็นไปตามหลักฐานของทางพนักงานสอบสวนว่าเป็นอย่างไร ทั้งนี้ พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง ผู้บัญชาการทหารอากาศ (ผบ.ทอ.) ก็ได้รับทราบเรื่องแล้ว และพร้อมให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่างเต็มที่ ยืนยันว่า จะไม่มีการช่วยเหลือใดๆ หาก สห.ทอ.ทั้ง 4 นายเข้าไปเกี่ยวข้อง อย่างไรก็ตาม อยากให้เป็นเรื่องของพนักงานสืบสวนสอบสวน ทางกองทัพอากาศคงบอกรายละเอียดไม่ได้ เพราะเกรงว่าไปกระทบกับรูปคดีของพนักงานสอบสวน
ขณะที่บรรยากาศที่ สน.มีนบุรี เมื่อเวลา 15.40 น.นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดานายจักรกฤษณ์เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนเพื่อให้ปากคำเพิ่มเติมเกี่ยวกับปมประเด็นความขัดแย้งในครอบครัว
ต่อมาเวลา 17.45 น. นายมานพ กล่าวภายหลังการเข้าให้ปากคำเพิ่มเติมกับ พ.ต.ท.พงษ์กิตติ์ พินิจสิขิตศักดิ์ รองผกก.สส.สน.มีนบุรี และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน โดยใช้เวลา กว่า 2 ชม. โดยนายมานพและนางบุญคิด มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พูดคุยหยอกล้อกับสื่อมวลชน
นายมานพ กล่าวว่า วันนี้มาให้ปากคำเพิ่มเติมกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนซึ่งตำรวจยังคงสอบถามในเรื่องเดิมๆ เกี่ยวกับปมขัดแย้งในครอบครัว อย่างไรก็ตามตนเองยังติดใจในประเด็นเกี่ยวกับพระเครื่อง เพราะพระเครื่องที่นายจักรกฤษณ์มีในครอบครองมีมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท แต่อย่างไรก็ตามในทางคดีตนรู้สึกพอใจและมั่นใจในการทำงานของตำรวจ เพราะจากที่พูดคุย ตำรวจที่ทำคดีมีความละเอียดรอบคอบมาก
ผู้สื่อข่าวถามถึงความสัมพันธ์กับพ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ นายมานพ ปฏิเสธคำถามนี้ เมื่อถามว่านอกจากประเด็นเกี่ยวกับพระเครื่องยังติดใจประเด็นอื่นหรือไม่ นายมานพ กล่าวในเชิงหยอกล้อกับสื่อมวลชนว่า ไม่รู้แต่ถึงรู้ก็ไม่บอก
อีกด้าน นางสาวตรีดาว อภัยวงศ์ โฆษกของกรุงเทพมหานคร (กทม.) เปิดเผยถึงการประชุมคณะผู้บริหารกรุงเทพมหานคร ที่มี ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานในวันนี้ว่า ในที่ประชุมได้ชี้แจงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีคดี ของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือเอ็กซ์ อดีตนักกีฬายิงปืนทีมชาติไทย ที่ถูกลอบสังหาร และมีกระแสข่าวการออกมาระบุว่า กล้องซีซีทีวีของ กทม.กว่าครึ่งเป็นกล้องดัมมี่ และไม่ได้เสียบปลั๊ก ซึ่งข้อเท็จจริงนั้น กทม.ได้ชี้แจงว่า
1.กทม.ได้ส่งภาพหลักฐานในวันเกิดเหตุซึ่งมีความชัดเจนตั้งแต่จุดที่จับภาพคนร้ายก่อนเกิดเหตุ จนถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นกล้องของ กทม.ทั้งหมด ในการใช้เป็นหลักฐานคลี่คลายคดี และได้มอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทั้งหมดแล้ว
2.ส่วนกล้องที่ถูกกล่าวหา ตามที่มีการนำเสนอของสื่อ ว่าเป็นกล้องที่ กทม.ติดตั้งเพิ่มเติมตามนโยบายของผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ซึ่งปัจจุบันดำเนินการติดตั้งไม่แล้วเสร็จ เนื่องจากรอการไฟฟ้านครหลวง มาบรรจบกระแสไฟฟ้า
นางสาวตรีดาว กล่าวต่อว่า ตนขอยืนยันว่า กทม.ไม่มีกล้องดัมมี่ มีเพียงกล้องเฟส2 ที่รอการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าจากการไฟฟ้านครหลวงเท่านั้น ซึ่งตนจะชี้แจงข้อเท็จจริงอีกครั้งในกรณีดังกล่าว ในวันอังคารที่ 29 ต.ค.นี้
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าในวันนี้ ( 29 ต.ค.) เวลา 10.00 น. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.ได้เรียกประชุมตำรวจชุดสืบสวนคลี่คลายคดี เพื่อสรุปและรายงานแนวทางการสืบสวนด้วย โดยมีรายงานว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจะตัดประเด็นความขัดแย้งในสมาคมยิงปืนฯออกด้วยอีก 1 ประเด็น โดยมุ่งเน้นไปในการสืบสวนเรื่องความขัดแย้งในครอบครัวเป็นหลักเพียงประเด็นเดียวเท่านั้น พร้อมกับเตรียมออกหมายจับมือปืนที่ก่อนเหตุด้วย
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000134840