มหัศจรรย์การปักชำ (2)

สวัสดีค่ะ  

          
          มหัศจรรย์การปักชำ  ภาคแรกอยู่ที่นี่นะคะ  http://ppantip.com/topic/31250935


          วันนี้ 20/11/56  ป้าแก่จะมาต่อด้วยวิธีการปักชำค่ะ  ป้าแก่เคยปักชำมา 2 แบบคือทางน้ำกับทางบก

          การปักชำทางน้ำก็คือการตัดกิ่งที่ต้องการมาปักชำในแก้วใส่น้ำ  พืชที่ออกรากดีเช่น ชมจันทร์และต้นดอกรักซ้อน
ชมจันทร์ ต้นเป็นเถา  ก็ตัดเถาให้มีข้อใบสองข้อ  ข้อใบที่อยู่ส่วนบนปล่อยใบไว้  ส่วนข้อใบที่อยู่ทางโคนก็ริดใบทิ้งไป
นำกิ่งไปแช่ในแก้วที่มีน้ำ  รอรากงอกมากพอ  ก็น้ำไปปลูกค่ะ  ไม่มีภาพประกอบเพราะทำไว้หลายปีแล้ว

ส่วนรักซ้อน  ก็ตัดกิ่งนำมาแช่น้ำในแก้วเหมือนกัน  ตั้งทิ้งไว้ในร่ม  คอยสามวันก็เริ่มออกราก เมื่อมีรากเยอะก็นำไปปลูกค่ะ





          ส่วนการปักชำทางบกก็ใช้ดินผสมขุยมะพร้าวอย่างละครึ่ง  แล้วผสมปุ๋ยคอกอีกประมาณ 2/5 ของดินทั้งกอง
แล้วนำดินใส่กระถาง  รดน้ำให้ชุมเตรียมรอไว้ค่ะ



          อุปกรณ์อื่น ๆ ก็มี  มีดบางคม  หนังยาง  ไม้สำหรับค้ำ  และถุงพลาสติกใสค่ะ



          ป้าแก่มีแต่ภาพของการปักชำแตงกวาเทอร์โบที่ค่อนข้างมีขั้นตอนละเอียดหน่อย  ขอนำมาประกอบแล้วกันนะคะ

          การเลือกกิ่งที่จะนำมาปักชำ  ต้องเป็นกิ่งที่มี 1 ยอดกับอีก 3 ข้อใบค่ะ




          วิธีการเดียวกันนี้  ใช้ได้ดีกับการปักชำพืชอื่น ๆ ค่ะ  



          ตัดกิ่ง  เด็ดใบล่างออก  นำปักชำโดยใช้ไม้ขนาดใกล้เคียงกับกิ่งกดลงไปในดินให้เป็นรูลึกประมาณ 2-3 นิ้วแล้ว ปักกิ่งลงไป  กดดินผสมเบา ๆ ให้ดินยึดติดแนบกับกิ่ง  รดน้ำให้ชุ่มค่ะ



          นำถุงมาสวมกระถางและปักไม้ค้ำ  ดึงถุงขึ้นและมัดด้วยหนังยางค่ะ



          การอบด้วยถุงพลาสติกนี้  ช่วยให้กิ่งชำมีความสดชื่นมีอายุอยู่ได้นานพอ และมีความแข็งแรงพอจะสร้างรากใหม่ได้
เพราะน้ำที่ระเหยออกจากกิ่ง  ยังคงวนเวียนให้ความชุ่มชื้นอยู่ภายในถุง ระเหยหนีไปไหนไม่ได้ค่ะ

ถ้าไม่อบพืชในถุงแบบนี้  กิ่งชำจะเหี่ยวเร็วมาก  เพราะน้ำระเหยออกไปได้ และเนื่องจากกิ่งชำถูกตัดขาดออกมาจากต้นแล้ว  
ไม่มีรากดูดน้ำส่งมาช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นทดแทนเหมือนตอนที่ยังติดอยู่กับต้น  ทำให้กิ่งชำนั้นเหี่ยวแห้งและตายง่ายค่ะ


          ตั้งทิ้งไว้ในที่ร่ม 15 วัน  ก็เปิดถุง  แต่ให้ตั้งกระถางไว้ในถุงอยู่อย่างนั้น  
เพื่อให้กิ่งชำค่อย ๆ ปรับตัวให้ค่อย ๆ คุ้นชินกับอากาศภายนอก หาไม้ค้ำมาปักเพิ่มกันปลายถุงทับกิ่งปักชำหักด้วย

ภาพนี้แสดงการเปิดถุง  โดยมีไม้ค้ำ...ยังไม่ต้องนำถุงออก  เป็นการปักชำกิ่งเข็มโคมค่ะ  ขอยืมมาเป็นแบบก่อนค่ะ




ประมาณ 5 วันค่อยเอาถุงออกค่ะ  






          นำถุงไปล้าง  ตากแดดแล้วนำกลับมาใช้ในการชำครั้งต่อ ๆ ไปได้ค่ะ  ถ้าถุงขาดหรือมีรูรั่ว  อากาศเข้านิดหน่อย  ก็ยังใช้ได้ค่ะ



          เมื่อกิ่งชำแข็งแรงดีแล้ว  ก็จับแยกมาปลูกค่ะ





          ขอย้ำอีกครั้งว่า  กิ่งที่จะนำมาปักชำ  จะต้องมียอดอ่อน  และมีสามข้อใบเป็นสำคัญ




ไม้ยืนต้นบางพันธุ์ก็นำทั้งยอดอ่อนและส่วนของกิ่งมาปักชำได้ เช่น  หม่อน , มะนาวต่าง ๆ ค่ะ





กิ่งมะนาว ตัดท่อนสั้น ๆ ให้มีสองสามข้อใบก็พอ  ตัดยาวไป  ทำให้สิ้นเปลืองเพราะรากก็สามารถออกตั้งแต่กลางท่อนได้เลย
เพราะฉะนั้น  ตัดสั้นดีกว่าค่ะ


  
ยอดอ่อนของพวกไม้เลื้อยต่าง ๆ ที่สามารถนำมาปักชำได้ เช่น ยอดขจร ยอดเบิกบานตา  ยอดฟักทอง  ยอดฟักแม้ว
ถั่วพูต่าง ๆ ถั่วแปบม่วง ฯลฯ

และส่วนลำต้นของเถาไม้เลื้อยเหล่านี้ ก็ยังสามารถนำมาปักชำได้ด้วย  โดยตัดเป็นท่อน ๆ ให้มีท่อนละสองข้อใบ  
ข้อบนเหลือใบไว้  ส่วนข้อที่อยู่ล่างเด็ดใบทิ้งจะได้เสียบลงในดินเอาไว้เป็นที่ออกรากค่ะ

มีภาพถั่วพูม่วงค่ะ






ฟักแม้ว  เลี้ยงต้นที่เกิดจากผลแก่ให้ยาวกว่านี้สักหน่อย  พอได้สูตรยอดอ่อน+กิ่งสามข้อแล้ว  ก็ตัดไปชำ
ส่วนของต้นที่เหลือจะสร้างยอดอ่อน ใหม่ ๆ ให้เราได้อีกเรื่อย ๆ จากต้นเดียวก็จะขยายพันธุ์ได้อีกจำนวนมากตามต้องการค่ะ





และพวงแก้วกุดั่นค่ะ




ใบก็สามารถนำมาปักชำได้  เช่น  ใบของผักหวานบ้าน  ใบของแพรชมพู  และใบของมะเขือเทศค่ะ


แพรชมพูเค้าแปลก ๆ ไม่เหมือนใคร  พอชำจนออกรากแล้ว  เค้าอาจจะทิ้งใบหมด  ใครไม่ทราบก็คงนึกว่า
เค้าคงตายไปแล้ว จึงทิ้งไปไม่รดน้ำ  แล้วเค้าก็เลยตายไปจริง ๆ ค่ะ
แต่ถ้าเรารดน้ำดินในกระถางนั้นต่อไปให้ชุ่มไว้  เค้าจะค่อย ๆ งอกลำต้นใหม่จากใต้ดินขึ้นมาได้ค่ะ





  
ใบมะเขือเทศก็สามารถนำมาชำให้ออกรากได้  แต่สงสัยป้าแก่คงนำใบที่แก่ไปหน่อย
มาปักชำ  ยังไม่แตกต้นอ่อนขึ้นมาใบก็เหี่ยวไปซะก่อน  คงต้องทดลองต่อไปค่ะ








จากข้อสังเกตที่ว่า  พืชที่ออกรากได้จากการตอน  ก็น่าจะออกรากได้จากการปักชำเหมือนกัน
แล้วในกรณีผักหวานป่า  ซึ่งสามารถขยายพันธุ์ด้วยการตอนได้  ก็น่าจะนำมาปักชำได้ด้วย  
ป้าแก่ก็เลยนำผักหวานป่ามาปักชำดูค่ะ














ยังไม่ออกรากค่ะ  แต่สองเดือนแล้ว  ยังอยู่ได้แถมแตกยอดอ่อนมาให้ดีใจเล่นด้วยค่ะ




การปักชำส่วนที่สอง ป้าแก่ได้ให้รายละเอียดถึงวิธีการปักชำ  ซึ่งสามารถนำไปปรับใช้
กับการปักชำพืชได้หลายชนิด  รวมทั้งรักเร่ด้วย  ส่วนบางท่านสงสัยว่า  ต้องใช้น้ำยาเร่งราก
หรือกะปิทาที่โคนกิ่งก่อนปักชำหรือไม่  และต้องกรีดกิ่งก่อนด้วยหรือไม่  สำหรับป้าแก่
ไม่เคยใช้น้ำยาเร่งรากหรือกะปิ หรือต้องกรีดช่วยในการปักชำ  พืชก็สามารถออกราก
ได้ดีและอัตราการรอดก็สูงมากเกือบเต็มร้อย  ส่วนมะนาวก็ใช้ปูนแดงละลายน้ำข้นทาบริเวณรอยตัด
ผึ่งให้ปูนแห้งสักหน่อยแล้วค่อยนำกิ่งไปปักชำค่ะ

พักไว้เท่านี้ก่อนนะคะ  
( แต่อาจต้องแวะเข้ามาแก้ไขเพิ่มเติมอีกเล็กน้อยในส่วนที่อาจจะขาดตกบกพร่องอีกนิหน่อยค่ะ )

................................................................................................................................
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่