นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าพเจ้าตัดสินใจเขียนกระทู้ลง Pantip เนื่องจากทนพฤติกรรมของเพื่อนบ้านจากนรกไม่ไหว จึงกราบขออภัยหากข้าพเจ้าตั้งกระทู้ผิดหมวดหมู่

ข้าพเจ้ากับสามีและลูกชาย 1 คน ลูกสาว 2 คน อาศัยอยู่ที่อาคารพาณิชย์เป็นตึกแถว 15 ห้องใน จ. เพชรบุรี โดยเปิดเป็นร้านฮาร์ดแวร์ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2543

ซึ่งต่อมาปี พ.ศ. 2546 นาย ป. และ นาง บ. เป็นอดีตครูปัจจุบันเป็นตัวแทนขายประกันที่มีโลโก้สีแดงเป็นสัญลักษณ์ มีลูกเป็นกัปตันเครื่องบินและเภสัชกรโรงพยาบาลเอกชน ได้ย้ายเข้ามาอยู่อาศัยและเปิดเป็นสำนักงานตัวแทนประกันชีวิตที่ห้องติดกับห้องของข้าพเจ้า ได้มาขอร้องให้ช่วยซื้อกรมทัณฑ์ประกัน โดยใช้ชื่อตัวแทนที่เป็นลูกชายของนาย ป. และ นาง บ.  ที่ชื่อ นาย ณ. เพื่อจะทำยอดปิดเป้า ข้าพเจ้าก็ได้ช่วยซื้อกรมทัณฑ์ให้

และเคยมาขอเซ็นของในร้านข้าพเจ้าที่เป็นร้านฮาร์ดแวร์ขายอุปกรณ์ก่อสร้าง ข้าพเจ้าก็ยอมให้เซ็นแต่ภายหลังกลับมาบอกว่าสินค้าร้านข้าพเจ้าเป็นของไม่ดี และคิดจะไม่จ่ายค่าสินค้า และยังปล่อยปะละเลยให้สินค้าที่ซื้อไปจากร้านข้าพเจ้าถูกขโมยไปและมากล่าวโทษว่าข้าพเจ้ามีส่วนรู้เห็นกับการหายไปของสินค้า และกล่าวหาอีกว่าข้าพเจ้าอยากขายสินค้ากับเขามากจึงยอมให้เซ็นสินค้าทั้งๆ ที่ความเป็นจริงแล้วข้าพเจ้าก็ไม่อยากให้ไปเพราะรู้ว่าอาจจะมีการสูญหายเกิดขึ้น เพราะร้านของข้าพเจ้าก็เพิ่งจะโดนขโมยไปเมื่อวันที่ 15 ธันวาคม พ.ศ.2545 และยังโดนขโมยพยายามงัดเข้ามาอีกหลายครั้งแต่ไม่สำเร็จ บวกกับถ้ามีการก่อสร้างเกิดขึ้นในบริเวณแถวบ้านก็มักจะมีสิ่งของหายอยู่เสมอ

ในเวลาต่อมาข้าพเจ้าได้ยกเลิกกรมทัณฑ์ที่ทำไว้กับนาย ป.และ นาง บ. เนื่องจากในสัญญาระบุไว้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่มาดูแลเงินของท่านหากมีการเสียชีวิต และคืนเงินมาเพียงแค่ 15,xxx บาท จากที่ข้าพเจ้าจ่ายไปทั้งสิ้น 78,xxx บาท หลังจากยกเลิกกรมทัณฑ์ นาย ป. และ นาง บ.  ก็เริ่มแสดงพฤติกรรมที่ไม่เป็นมิตรใส่ข้าพเจ้าและครอบครัว เช่น ตัดท่อน้ำทิ้งดาดฟ้าของตึกทำให้น้ำมาลงหลังคาบ้านข้าพเจ้า ซึ่งรูท่อระบายน้ำชั้นดาดฟ้าของตึกที่มีมาแต่เดิมจะอยู่ตรงกลางของตึกและน้ำที่ระบายจะไม่ลงนอกบริเวณพื้นที่ของตัวเอง แต่รูระบายน้ำที่พวกเขาเจาะใหม่นั้นอยู่ในบริเวณริมตึกใกล้เข้ามาทางฝั่งของตึกข้าพเจ้า

ซึ่งในตอนแรกรูระบายน้ำที่เขาทำใหม่จะต่อท่อระบายน้ำทิ้งลงด้านล่างของบ้านเขา แต่ต่อมาพวกเขาได้ตัดท่อระบายน้ำทิ้งทำให้น้ำระบายเปลี่ยนเส้นทาง น้ำที่ระบายจึงไหลเข้ามาลงหลังคาบ้านข้าพเจ้าที่อยู่ชั้นล่างในปริมาณมาก ซึ่งน้ำที่เขาล้างดาดฟ้าก็เต็มไปด้วยเศษสิ่งสกปรก ขี้ฝุ่นและขี้นก จนทำให้หลังคาบ้านข้าเจ้าน้ำรั่วซึมลงเข้ามาในบ้าน ทำให้ข้าวของในบ้านเสียหาย และบริเวณที่อยู่ใต้หลังคานั้นก็ใช้เป็นห้องครัวที่ข้าพเจ้ารับประทานอาหาร ข้าพเจ้าได้เคยบอกเขาและแจ้งให้เทศบาลทราบมาก่อนหน้านั้นแล้ว

แต่พวกเขายังคงเพิกเฉยและยังคงปล่อยน้ำลงหลังคาบ้านข้าพเจ้าอีกเรื่อยมา และพวกเขาก็ล้างดาดฟ้าและปล่อยน้ำลงมาไม่เป็นเวล่ำเวลา บางครั้งก็ตอนเช้า ตอนบ่าย บางคืนลูกชายของข้าพเจ้าเล่นคอมพิวเตอร์ ก็ได้สังเกตเห็นน้ำเทลงหลังคาบ้านตอนตี 2 ทั้งๆ ที่ไม่มีฝนตก และ นาง บ.  ยังเคยเอาหินเขวี้ยงใส่หลังคาบ้านข้าพเจ้าจนเป็นรู ซึ่งทำให้น้ำที่เขาปล่อยลงหลังคาบ้านข้าพเจ้าไหลเข้ามาในบริเวณห้องครัวที่อยู่ใต้หลังคาเต็มๆ ซึ่งพวกเขาทำเช่นนี้มาเป็นเวลาเกือบ 10 ปี ยังคงปล่อยน้ำเทลงหลังคาบ้านข้าพเจ้าอีก

ภาพถ่ายบริเวณหลังบ้านห้องของข้าพเจ้าอยู่ทางด้านซ้าย ส่วนสำนักงานประกันอยู่ทางด้านขวา
https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash4/1455198_1380684432177685_361425853_n.jpg

ภาพถ่ายหลังจากที่เขาเทน้ำลงหลังคา
https://fbcdn-sphotos-e-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1410665_1380678982178230_759463331_o.jpg
https://fbcdn-sphotos-a-a.akamaihd.net/hphotos-ak-ash3/1397336_1380678995511562_1168597489_o.jpg

ภาพถ่ายหลังคาที่ถูกหินเขวี้ยงจนเป็นรู
https://fbcdn-sphotos-h-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1398165_1380679425511519_2097425930_o.jpg
https://fbcdn-sphotos-b-a.akamaihd.net/hphotos-ak-prn2/1397793_1380679395511522_1542489310_o.jpg

เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ.2556 ที่ผ่านมาเวลา 8 นาฬิกา เศษๆ ได้ยินเสียงทุบตึกดังสนั่นอีกครั้งบริเวณบนดาดฟ้าซึ่งอยู่ใกล้กับห้องที่ลูกสาวคนกลางนอนอยู่ชั้น 3 ข้าพเจ้าจึงรีบวิ่งขึ้นไปดูเพราะเกรงว่าลูกสาวจะหูอักเสบ เมื่อขึ้นไปดูก็ได้พบกับ นาย ป. และ นาง บ.  อยู่บนดาดฟ้ากำลังกวาดน้ำบนดาดฟ้าลงรูระบายน้ำที่เขาทุบไว้หลังจากที่ข้าพเจ้าไปอุดเพื่อให้น้ำกลับมาลงหลังคาบ้านข้าพเจ้าอีกครั้ง

นาย ป.ที่ถืออีเตอร์อยู่ในมือแกว่งไปมาตะโกนใส่ว่า
"อุดทำไม! อุดทำไม! รูนี้อุดทำไม เดี๋ยวฟาดแมร่งเลย" พร้อมทำท่าเงื้ออีเตอร์จะฟาด

ฉัน: "ก็น้ำมันร่วงลงหลังคาที่บ้าน"

นาย ป.: "ช่างแมร่งประไร กูจะทุบทำไมตึกของกู เกี่ยวอะไรด้วย"

นาง บ.: "E Dok Tong อีช้าง หากินไม่ได้แล้ว"

ฉัน: "แล้วเอาหินเขวี้ยงใส่หลังคาบ้านทำไม"

นาง บ.: "กรูไม่ได้เอาหินมาเขวี้ยงของแต่จะเอามาเขวี้ยงใส่หน้าคน"

นาย ป.: "อีเหี้ยม เดี๋ยวกรูฟาดแมร่งเลย" แล้วแกว่งอีเตอร์ไปมา

ฉัน: "มาซิ มาซิ" และหยิบก้อนหินจะเขวี้ยงใส่

พอดีที่ลูกชายกับสามีขึ้นมา ข้าพเจ้าจึงถามลูกว่าได้ยินที่มันด่ามั้ย ลูกชายตอบว่าได้ยิน และพฤติกรรมของ นาย ป. และ นาง บ. ก็เปลี่ยนกลับมาเป็นพูดจาดี โดยนาย ป.เอาอีเตอร์ไปวางไว้ด้านหลัง

ฉัน: "ฉีดยาฆ่าแมลงเข้ามาในบ้านทำไม"

นาง บ.: "ฉันฉีดไล่มด"

ฉัน: "ฉีดไล่มดแล้วทำไมยาถึงเข้ามาในบ้าน"

นาย ป.ก็เข้าไปทำทีพูดจาดีกับสามีและชมเชยว่าสามีของข้าพเจ้าเป็นคนดี ข้าพเจ้าจึงสวนกลับไปว่า

ฉัน: "สามีกรูน่ะเป็นคนดี แต่น่ะ เหี้ยม"

จังหวะนั้นลูกชายก็หยิบกล้องขึ้นมาถ่ายตอนที่ นาย ป.และ นาง บ.กำลังเดินลงจากตึก ข้าพเจ้าจึงด่าสวนกลับไปชุดใหญ่เพราะบันดาลโทสะที่ถูกรุมด่าในตอนแรก


นี่เหรอ คือการตอบแทนคนที่เคยให้ความช่วยเหลือซื้อประกันให้ตอนที่บอกว่าจะทำยอดปิดเป้า
นี่เหรอ คือพฤติกรรมของคนที่ทำอาชีพที่มีหน้าที่ดูแลชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่น
นี่เหรอ คือพฤติกรรมของคนที่เคยเป็นอดีตครูบาอาจารย์