บนเวทีประชาชนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถนนราชดำเนิน ยังคงตรึงผู้คนจำนวนมากให้มุ่งมั่นที่จะปฏิรูปการเมือง เปลี่ยนแปลงประเทศไปในทิศทางที่ดีกว่า เพราะ 2 ปีเศษที่ผ่านมา ต้องยอมรับว่าประเทศบอบช้ำและเสียหายจากการบริหารประเทศที่มุ่งมั่นแต่ประโยชน์ส่วนตนของ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และเหล่าขี้ข้า
สินค้าแพง คอร์รัปชั่นมากมหาศาล
เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง มุ่งมั่นแต่งานการเมือง
!?!
วันก่อน “สุเทพ เทือกสุบรรณ” บอกว่าจะยกระดับการต่อสู้ใหม่ หลังจากประกาศมาตรการอารยะขัดขืนไปแล้ว “สุเทพ” บอกว่า วันนี้ถนนทุกสายจะมุ่งสู่ “ราชดำเนิน” อีกครั้งเฉกเช่นเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. เขาบอกว่าจะมีการพิพากษาและตัดสินใจร่วมกันว่า จะจัดการกับ “ทรราช” อย่างไร แบบไหน
แม้บนเวทีประชาชนแห่งนี้จะยังอึมครึม ยังบอกไม่ได้ว่า มาตรการที่ “สุเทพ” และพลพรรคเกริ่นไว้นั้นเป็นอย่างไร
ทว่า ... ยิ่งอึมครึมเท่าไหร่ ความต้องการมีส่วนร่วมก็เพิ่มมากขึ้น
แน่นอน ... ศึกนี้อาจจะไม่ใช่อย่างที่ “สุเทพ” ประกาศไว้ว่าจะจบภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน หรือ พฤศจิกาคม ในแบบของ “ยิ่งลักษณ์” เพราะเสื้อแดงเองก็ถูกปลุกเร้าด้วยวิธีการแบบเก่าๆ ให้ออกมาต่อต้าน และต่อสู้แบบรุนแรงอีกครั้ง แม้จะมีกลุ่มตาสว่างเห็นสัจธรรม ความปลิ้นปล้อนของเหล่าแกนนำบ้างแล้วก็ตาม แต่เงินก็ยังสร้างปริมาณของผู้คนได้ไม่น้อยทีเดียว
การต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงก็เหมือนกับการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย ของรัฐบาล และของ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือที่ “แตงโม-ภัทรธิดา” ดาราสาวได้ให้ฉายาไว้ว่า “คุณอาหน้าเรขาคณิต” ความดิ้นรนเหล่านี้เองที่ทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า เราจะถอยไปไม่ได้อีกแล้ว
ทรราช และ ทุนสามานย์ กลายเป็นเรื่องที่ฝังรากลึกในความรู้สึกของคนไทยมากขึ้นทุกขณะ เกมการเมือง โดยเฉพาะการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย คือความผิดพลาด คือตัวอย่างของ ทรราช และทุนสามานย์ ในความรู้สึกของคนไทย
ยิ่งถ้อยแถลงในเรื่องของคำพิพากษาของศาลโลกกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร ของ “ยิ่งลักษณ์” คนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ออกมายืนยันว่า ไทยไม่เสียหายเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด มาโดนตอกย้ำกลางรัฐสภาจากหัวหน้าทีมทนายความฝ่ายไทย “ทูตวีรชัย พลาศรัย” ว่าไทยสูญเสียพื้นที่บางส่วนให้กับ “กัมพูชา” แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ที่เพิ่มขึ้นก็ตามที
แต่ยิ่งกลายเป็นการย้ำสันดานเดิม
อะไรบ้างที่ “ยิ่งลักษณ์” พูดความจริง
วันนี้ดูเหมือนรัฐบาลจะเพลี่ยงพล้ำไปทุกเรื่อง
“ยิ่งลักษณ์” จะหมดความชอบธรรมจนไม่เหลืออะไร
ในมุมกลับกัน วันนี้ไม่มีใครรู้ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” คิดอ่านอย่างไร เพราะการใช้ซากศพทบกันเป็นบันไดสู่การฟอกขาวมันผิดพลาดไปแล้ว ย่อมต้องมีวิธีการเดินเกมตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน จิตใจที่ชั่วช้าเหี้ยมโหดแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะประชาชนและประเทศไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอยู่แล้ว
ประชาชนเป็นแค่เบี้ยบนกระดานหมากรุก
ประเทศเป็นแค่แหล่งทำธุรกิจ
เช่นนี้ พลังคนไทย จึงต้องเหนียวแน่นสามัคคี สร้างสำนึก ปลุกเร้า เข้าร่วมกับการโค่นล้มระบอบทักษิณ และปฏิรูปสังคมไทยขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้พรรคการเมืองยิ่งใหญ่มีอำนาจในการปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จอีกต่อไป ประชาชนจำเป็นต้องให้บทเรียนแก่นักการเมืองสามานย์ สมุนทรราช เหล่านั้น
“จอย ศิริลักษณ์” บอกว่า เมื่อรู้ชัดแจ้งแล้ว สว่างแล้ว เราต้องกล้าที่จะใช้แสงสว่างนั้นนำทางและแก้ไขความดำมืดที่ผ่านมาด้วยกัน พี่น้องกันยังไงก็เป็นพี่น้องกัน เพราะเรายังอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ความสุขสงบจะเกิดขึ้นได้ เราต้องร่วมกันสร้าง หากเราลดความเกลียดชังที่เกิดจากการถูกหลอกลวง ทำให้เข้าใจผิดกันลงได้ กำราบภัย(ตัวเสี้ยม) ของบ้านเราได้ มาเริ่มปัดกวาด เช็ดถูจัดระเบียบบ้านกันใหม่ ก็มีโอกาสอยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบและยั่งยืน
“ประชาชน” คือผู้กำหนดทิศทางของประเทศชาติ
ความสามัคคีของประชาชน สะท้อนความมั่นคงของประเทศ
หากประชาชนมีความสามัคคี มีความเป็นเอกภาพ ประเทศชาติก็จะมั่นคงได้”
มันถึงเวลาที่คนไทยจะปฏิรูปการเมืองไทยด้วยฝีมือประชาชนแล้วกระมัง มันอาจไม่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่เท่าประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 16 แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่ทุกคนต้องกระวีกระวาดกันแล้ว
!?!
ผมเชื่อว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และเหล่าขี้ข้าทั้งหลายคงไม่แปลกใจว่า ทำไมคลื่นประชาชนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ยังคงเนืองแน่นอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งที่หลายคนมองว่า เลยจุดฮึกเหิมไปแล้วด้วยซ้ำ การประกาศอารยะขัดขืนที่หลายคนไม่เข้าใจ หลายคนไม่รู้จัก น่าจะทำให้ม็อบนี้กลุ่มผู้ชุมนุมนี้เลิกรากลับบ้านไปแล้ว
อาจจะเป็นสันดานโกหกจนเคยชิน จนเพลินหลอกตัวเอง
ม็อบนี้แค่ม็อบเงินทอน รับอามิสสินจ้าง แค่...ม็อบจัดตั้ง
เสียงนกหวีดจึงยังคงกระหึ่มอยู่เช่นนี้
อาจเพราะพฤติกรรม ...โจร กับ เจตนา ... หญิงชั่ว
เตรียมหาที่อยู่ใหม่เถอะ “ปู ยิ่งลักษณ์”
ทีมา:
http://www.naewna.com/columnonline/9624
ปล.หมดเวลาแล้วครับ...นางปู...เอิ๊ก ๆ ๆ
ถึงเวลาล้ม ‘ทรราช-ทุนสามานย์-ยิ่งลักษณ์’
สินค้าแพง คอร์รัปชั่นมากมหาศาล
เศรษฐกิจไม่กระเตื้อง มุ่งมั่นแต่งานการเมือง
!?!
วันก่อน “สุเทพ เทือกสุบรรณ” บอกว่าจะยกระดับการต่อสู้ใหม่ หลังจากประกาศมาตรการอารยะขัดขืนไปแล้ว “สุเทพ” บอกว่า วันนี้ถนนทุกสายจะมุ่งสู่ “ราชดำเนิน” อีกครั้งเฉกเช่นเมื่อวันจันทร์ที่ 11 พ.ย. เขาบอกว่าจะมีการพิพากษาและตัดสินใจร่วมกันว่า จะจัดการกับ “ทรราช” อย่างไร แบบไหน
แม้บนเวทีประชาชนแห่งนี้จะยังอึมครึม ยังบอกไม่ได้ว่า มาตรการที่ “สุเทพ” และพลพรรคเกริ่นไว้นั้นเป็นอย่างไร
ทว่า ... ยิ่งอึมครึมเท่าไหร่ ความต้องการมีส่วนร่วมก็เพิ่มมากขึ้น
แน่นอน ... ศึกนี้อาจจะไม่ใช่อย่างที่ “สุเทพ” ประกาศไว้ว่าจะจบภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน หรือ พฤศจิกาคม ในแบบของ “ยิ่งลักษณ์” เพราะเสื้อแดงเองก็ถูกปลุกเร้าด้วยวิธีการแบบเก่าๆ ให้ออกมาต่อต้าน และต่อสู้แบบรุนแรงอีกครั้ง แม้จะมีกลุ่มตาสว่างเห็นสัจธรรม ความปลิ้นปล้อนของเหล่าแกนนำบ้างแล้วก็ตาม แต่เงินก็ยังสร้างปริมาณของผู้คนได้ไม่น้อยทีเดียว
การต่อสู้ของกลุ่มคนเสื้อแดงก็เหมือนกับการต่อสู้ของพรรคเพื่อไทย ของรัฐบาล และของ “ทักษิณ ชินวัตร” หรือที่ “แตงโม-ภัทรธิดา” ดาราสาวได้ให้ฉายาไว้ว่า “คุณอาหน้าเรขาคณิต” ความดิ้นรนเหล่านี้เองที่ทำให้ประชาชนเข้าใจได้ว่า เราจะถอยไปไม่ได้อีกแล้ว
ทรราช และ ทุนสามานย์ กลายเป็นเรื่องที่ฝังรากลึกในความรู้สึกของคนไทยมากขึ้นทุกขณะ เกมการเมือง โดยเฉพาะการออกพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอย คือความผิดพลาด คือตัวอย่างของ ทรราช และทุนสามานย์ ในความรู้สึกของคนไทย
ยิ่งถ้อยแถลงในเรื่องของคำพิพากษาของศาลโลกกรณีพิพาทปราสาทพระวิหาร ของ “ยิ่งลักษณ์” คนเป็นนายกรัฐมนตรีที่ออกมายืนยันว่า ไทยไม่เสียหายเสียผลประโยชน์แต่อย่างใด มาโดนตอกย้ำกลางรัฐสภาจากหัวหน้าทีมทนายความฝ่ายไทย “ทูตวีรชัย พลาศรัย” ว่าไทยสูญเสียพื้นที่บางส่วนให้กับ “กัมพูชา” แม้จะเป็นส่วนเล็กๆ ที่เพิ่มขึ้นก็ตามที
แต่ยิ่งกลายเป็นการย้ำสันดานเดิม
อะไรบ้างที่ “ยิ่งลักษณ์” พูดความจริง
วันนี้ดูเหมือนรัฐบาลจะเพลี่ยงพล้ำไปทุกเรื่อง
“ยิ่งลักษณ์” จะหมดความชอบธรรมจนไม่เหลืออะไร
ในมุมกลับกัน วันนี้ไม่มีใครรู้ว่า “ทักษิณ ชินวัตร” คิดอ่านอย่างไร เพราะการใช้ซากศพทบกันเป็นบันไดสู่การฟอกขาวมันผิดพลาดไปแล้ว ย่อมต้องมีวิธีการเดินเกมตอบโต้ฝ่ายตรงข้ามอย่างแน่นอน จิตใจที่ชั่วช้าเหี้ยมโหดแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะประชาชนและประเทศไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดในชีวิตอยู่แล้ว
ประชาชนเป็นแค่เบี้ยบนกระดานหมากรุก
ประเทศเป็นแค่แหล่งทำธุรกิจ
เช่นนี้ พลังคนไทย จึงต้องเหนียวแน่นสามัคคี สร้างสำนึก ปลุกเร้า เข้าร่วมกับการโค่นล้มระบอบทักษิณ และปฏิรูปสังคมไทยขึ้นมาใหม่ ไม่ใช่เพื่อให้พรรคการเมืองยิ่งใหญ่มีอำนาจในการปกครองประเทศแบบเบ็ดเสร็จอีกต่อไป ประชาชนจำเป็นต้องให้บทเรียนแก่นักการเมืองสามานย์ สมุนทรราช เหล่านั้น
“จอย ศิริลักษณ์” บอกว่า เมื่อรู้ชัดแจ้งแล้ว สว่างแล้ว เราต้องกล้าที่จะใช้แสงสว่างนั้นนำทางและแก้ไขความดำมืดที่ผ่านมาด้วยกัน พี่น้องกันยังไงก็เป็นพี่น้องกัน เพราะเรายังอยู่ในบ้านหลังเดียวกัน ความสุขสงบจะเกิดขึ้นได้ เราต้องร่วมกันสร้าง หากเราลดความเกลียดชังที่เกิดจากการถูกหลอกลวง ทำให้เข้าใจผิดกันลงได้ กำราบภัย(ตัวเสี้ยม) ของบ้านเราได้ มาเริ่มปัดกวาด เช็ดถูจัดระเบียบบ้านกันใหม่ ก็มีโอกาสอยู่ร่วมกันอย่างสุขสงบและยั่งยืน
“ประชาชน” คือผู้กำหนดทิศทางของประเทศชาติ
ความสามัคคีของประชาชน สะท้อนความมั่นคงของประเทศ
หากประชาชนมีความสามัคคี มีความเป็นเอกภาพ ประเทศชาติก็จะมั่นคงได้”
มันถึงเวลาที่คนไทยจะปฏิรูปการเมืองไทยด้วยฝีมือประชาชนแล้วกระมัง มันอาจไม่สามารถสร้างความยิ่งใหญ่เท่าประวัติศาสตร์ 14 ตุลา 16 แต่มันคือจุดเริ่มต้นที่ทุกคนต้องกระวีกระวาดกันแล้ว
!?!
ผมเชื่อว่า “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” และเหล่าขี้ข้าทั้งหลายคงไม่แปลกใจว่า ทำไมคลื่นประชาชนที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ถ.ราชดำเนิน ยังคงเนืองแน่นอยู่ทุกค่ำคืน ทั้งที่หลายคนมองว่า เลยจุดฮึกเหิมไปแล้วด้วยซ้ำ การประกาศอารยะขัดขืนที่หลายคนไม่เข้าใจ หลายคนไม่รู้จัก น่าจะทำให้ม็อบนี้กลุ่มผู้ชุมนุมนี้เลิกรากลับบ้านไปแล้ว
อาจจะเป็นสันดานโกหกจนเคยชิน จนเพลินหลอกตัวเอง
ม็อบนี้แค่ม็อบเงินทอน รับอามิสสินจ้าง แค่...ม็อบจัดตั้ง
เสียงนกหวีดจึงยังคงกระหึ่มอยู่เช่นนี้
อาจเพราะพฤติกรรม ...โจร กับ เจตนา ... หญิงชั่ว
เตรียมหาที่อยู่ใหม่เถอะ “ปู ยิ่งลักษณ์”
ทีมา: http://www.naewna.com/columnonline/9624
ปล.หมดเวลาแล้วครับ...นางปู...เอิ๊ก ๆ ๆ