คือเมื่อวันที่ 25 - 27 ต.ค. 56 ที่ผ่านมา ผมได้ไปจัดสัมมนาที่รีสอร์ทแห่งหนึ่ง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา โดยไปกับที่ทำงาน
ห้องพักรีสอร์ทเป็นลักษณะแยกจากอาคารล๊อบบี้ (ห้องทานอาหาร) สามารถเดินไปได้ โดยที่ทางรีสอร์ทมีบริการรถกอล์ฟไปส่งที่ห้องพัก (ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องแถวยาวติดกันไป คณะของผมมีประมาณ 25 คน ก็ 10 กว่าห้องติดกันไปเลย )ประตูห้องพักไม่ใช่เป็นแบบล็อคอัตโนมัติ ต้องใช้กุญแจหมุนล๊อคเอง พอเปิดเข้าไป ห้องเป็นลักษณะ 2 ห้องซ้อนกัน คือเมื่อเข้าไปจะเป็นโซนห้องอาบน้ำต้องเดินเข้าไปอีกจะมีประตูห้องนอนอีกชั้นนึง ซึ่งผมไม่ค่อยซีเรียสอะไร เพราะที่พักแต่ละที่ก็มีการออกแบบไม่เหมือนกัน โดยที่คณะของผมก็แบ่งกันนอนห้องละ 2 คน แบ่ง ช - ญ ห้องพักของผมเป็นห้องคอนเนกกับห้องน้องที่ทำงานอีก 2 คน ซึ่งน้อง ๆ อีกห้องบอกให้เปิดประตูที่คอนเนกกันไว้ (เป็นโซนห้องน้ำ) ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งหมด
คืนแรกผ่านไป ไม่มีเหตุการณ์อะไร พอคืนวันที่ 26 ต.ค. 56 หลังจากเสร็จสิ้นการสัมมนาแล้ว คณะของผมก็นัดกันทานอาหารเย็น เวลา 19.00 น. ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท เมื่อถึงเวลา ผมกับน้องอีกห้อง (4 คน) ออกจากห้องพักเพื่อไปทานอาหารเย็นกัน ซึ่งผมได้ทิ้งกระเป๋าเงิน มือถือ ของผม และ Notebook ของที่ทำงาน ไว้ในห้องพัก เพราะไม่อยากพกติดตัวไปด้วย คิดว่าอีกสักพักก็จะกลับมาพักผ่อนแล้ว โดยที่ผมบอกน้องที่พักด้วยกันว่า เอากุญแจไว้ที่พี่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ก็กลับห้อง (ผมเป็นคนล็อคห้องด้วยตัวเอง และมั่นใจว่าได้ล็อคอย่างแน่นอน เพราะเช็คประตูเรียบร้อย) ซึ่งที่ห้องอาหารพวกผมเป็นชุดแรกที่ไปถึง (สาว ๆ ก็แต่งตัวกันไป ช้าเป็นปกติ) จะมากันครบ ๆ ก็ประมาณ 19.30 น. ก็ทานอาหารกันไป
พอเวลา 20.30 น. ผมได้กลับมาที่ห้องพักเพียงคนเดียว (คนอื่นยังทานอาหารกัน) เมื่อถึงห้องพัก ผมก็เปิดประตุตามปกติ แต่ที่ประตูห้องนอนได้เปิดแง้มไว้ (ตอนแรกก็คิดว่า เอ๊ะ เราก็ปิดไว้แล้วนี่นา หรือน้องอีกคนที่พักด้วยกันมาเปิดอีก) เมื่อเข้าไปในห้องพัก ก็เห็นว่ากระเป๋าเสื้อผ้า และกระเป๋าเงินของผม ถูกรื้อค้น ผมรู้โดยทันทีว่าได้ถูกขโมยเข้าห้องแน่ ๆ ตามองไปที่กระเป๋าใส่ Notebook ซึ่งผมได้เก็บไว้ตรงที่ชั้นวางทีวี ก็ไม่เจอแล้ว จึงได้รีบโทรศัพท์ไปที่ Lobby ของรีสอร์ท แจ้งเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท ว่ามีขโมยเข้ามาขโมยของในห้อง เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ รปภ. มาที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแจ้งตำรวจให้
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้ซักถามถึงทรัพย์สินที่หายไป ซึ่งก็มีแต่ของผม ได้แก่ เงินสด 3 พันบาท (ขโมยทิ้งกระเป๋าเงินไว้ที่พื้นห้องนอน) โทรศัพท์มือถือของผม และ Notebook ของที่ทำงาน (ของ Toshiba รุ่น Altraslim เป็นแบบครบชุดเลย) ราคาประมาณ 4 หมื่นบาท ทรัพย็สินของน้อง ๆ โดนรื้อค้น แต่ไม่ได้เอาอะไรไป
ร้อยเวรได้บันทึกปากคำของผม ผู้ที่เกี่ยวข้อง (น้อง ๆ ที่พักด้วยกัน และห้องติดกัน ผู้จัดการรีสอร์ท) ไว้ และบอกว่าจะให้ฝ่ายสืบสวนมาเก็บลายนิ้วมือ และให้พวกผมไปแจ้งความที่โรงพักในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผมและน้องที่เป็นผู้บริหารโครงการ พร้อมกับผู้จัดการรีสอร์ท ก็ได้ไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
ทางคณะของผมได้ขอดูกล้องวงจรปิดของทางรีสอร์ท ซึ่งปรากฏว่า ตรงส่วนของห้องพักนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิด ???? กล้องที่บันทึกภาพอยู่ส่วนใหญ่ เป็นการดูการทำงานของพนักงานมากกว่า มีที่พอจะดูได้คือ ตรงหน้าประตูเข้า Lobby กับทางเดินข้าง ๆ จะออกประตูรีสอร์ท (อันนี้อธิบายยากครับ แต่คณะของผม ดูกล้องแล้วแทบไม่มีประโยชน์ต่อผู้เข้าพักของรีสอร์ทเลย)
ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ทางรีสอร์ทยังไม่เคยติดต่อมาเพื่อชดใช้ค่าเสียหายเลย ผมเคยโทรไปสอบถามกับผู้จัดการ ได้คำตอบว่า ได้รายงานเรื่องนี้กับผู้บริหารรีสอร์ทแล้ว ผู้บริหารบอกว่า เรื่องค่าเสียหายชดเชยนั้น ต้องรอให้ตำรวจสรุปสำนวนให้เรียบร้อยก่อน จึงจะชดเชยให้ (ซึ่งผมก็ได้โทรไปสอบถามกับร้อยเวรแล้ว ร้อยเวรบอกว่าไม่เกี่ยวกันเลย มันเป็นเรื่องคนละส่วนกัน ทางรีสอร์ทสามารถชดเชยให้ได้ทันที ไม่ต้องรอสรุปสำนวน เป็นการยื้อเวลามากกว่า) ตำรวจแนะนำให้ผมแจ้งความดำเนินคดีกับทางรีสอร์ท เป็นการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย
อยากสอบถามผู้ที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยว่าควรทำยังไง บอกตรง ๆ นะครับ ผมไม่เสียดายของที่หายไปหรอก เว้นแต่ Notebook ของที่ทำงาน ซึ่งผมก็ทำใจไว้แล้วว่า ผมเองต้องเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ได้ต้องการให้ทางรีสอร์ทชดใช้แต่ประการใด (ผู้จัดการพูดแต่ว่า รับผิดชอบแค่ 5 พันบาท ตามระเบียบสมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย) แต่ที่ผมเสียความรู้สึกคือ รีสอร์ทไม่คิดจะชดใช้ หรือ Takecare ลูกค้าเลย ไม่มีการลดค่าห้องพัก หรือชดใช้อะไร หนังสือขอโทษก็ไม่มี เหมือนปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ จะมีคำแนะนำอะไรให้บ้าง จะขอบพระคุณมากครับ
หมายเหตุ ขออนุญาตไม่บอกชื่อรีสอร์ทตอนนี้นะครับ เพราะไม่รู้ว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ แต่อยากได้คำแนะนำจากผู้ที่พอจะรู้กฎหมายอย่างนี้บ้างครับ ขอบคุณครับ
ความรับผิดชอบของรีสอร์ท กรณีถูกขโมยของในห้องพัก
ห้องพักรีสอร์ทเป็นลักษณะแยกจากอาคารล๊อบบี้ (ห้องทานอาหาร) สามารถเดินไปได้ โดยที่ทางรีสอร์ทมีบริการรถกอล์ฟไปส่งที่ห้องพัก (ซึ่งมีลักษณะเป็นห้องแถวยาวติดกันไป คณะของผมมีประมาณ 25 คน ก็ 10 กว่าห้องติดกันไปเลย )ประตูห้องพักไม่ใช่เป็นแบบล็อคอัตโนมัติ ต้องใช้กุญแจหมุนล๊อคเอง พอเปิดเข้าไป ห้องเป็นลักษณะ 2 ห้องซ้อนกัน คือเมื่อเข้าไปจะเป็นโซนห้องอาบน้ำต้องเดินเข้าไปอีกจะมีประตูห้องนอนอีกชั้นนึง ซึ่งผมไม่ค่อยซีเรียสอะไร เพราะที่พักแต่ละที่ก็มีการออกแบบไม่เหมือนกัน โดยที่คณะของผมก็แบ่งกันนอนห้องละ 2 คน แบ่ง ช - ญ ห้องพักของผมเป็นห้องคอนเนกกับห้องน้องที่ทำงานอีก 2 คน ซึ่งน้อง ๆ อีกห้องบอกให้เปิดประตูที่คอนเนกกันไว้ (เป็นโซนห้องน้ำ) ผมก็ไม่มีปัญหาอะไร เพราะเป็นผู้ชายด้วยกันทั้งหมด
คืนแรกผ่านไป ไม่มีเหตุการณ์อะไร พอคืนวันที่ 26 ต.ค. 56 หลังจากเสร็จสิ้นการสัมมนาแล้ว คณะของผมก็นัดกันทานอาหารเย็น เวลา 19.00 น. ที่ห้องอาหารของรีสอร์ท เมื่อถึงเวลา ผมกับน้องอีกห้อง (4 คน) ออกจากห้องพักเพื่อไปทานอาหารเย็นกัน ซึ่งผมได้ทิ้งกระเป๋าเงิน มือถือ ของผม และ Notebook ของที่ทำงาน ไว้ในห้องพัก เพราะไม่อยากพกติดตัวไปด้วย คิดว่าอีกสักพักก็จะกลับมาพักผ่อนแล้ว โดยที่ผมบอกน้องที่พักด้วยกันว่า เอากุญแจไว้ที่พี่นี่แหละ เดี๋ยวพี่ก็กลับห้อง (ผมเป็นคนล็อคห้องด้วยตัวเอง และมั่นใจว่าได้ล็อคอย่างแน่นอน เพราะเช็คประตูเรียบร้อย) ซึ่งที่ห้องอาหารพวกผมเป็นชุดแรกที่ไปถึง (สาว ๆ ก็แต่งตัวกันไป ช้าเป็นปกติ) จะมากันครบ ๆ ก็ประมาณ 19.30 น. ก็ทานอาหารกันไป
พอเวลา 20.30 น. ผมได้กลับมาที่ห้องพักเพียงคนเดียว (คนอื่นยังทานอาหารกัน) เมื่อถึงห้องพัก ผมก็เปิดประตุตามปกติ แต่ที่ประตูห้องนอนได้เปิดแง้มไว้ (ตอนแรกก็คิดว่า เอ๊ะ เราก็ปิดไว้แล้วนี่นา หรือน้องอีกคนที่พักด้วยกันมาเปิดอีก) เมื่อเข้าไปในห้องพัก ก็เห็นว่ากระเป๋าเสื้อผ้า และกระเป๋าเงินของผม ถูกรื้อค้น ผมรู้โดยทันทีว่าได้ถูกขโมยเข้าห้องแน่ ๆ ตามองไปที่กระเป๋าใส่ Notebook ซึ่งผมได้เก็บไว้ตรงที่ชั้นวางทีวี ก็ไม่เจอแล้ว จึงได้รีบโทรศัพท์ไปที่ Lobby ของรีสอร์ท แจ้งเจ้าหน้าที่ของรีสอร์ท ว่ามีขโมยเข้ามาขโมยของในห้อง เจ้าหน้าที่ก็ได้ให้ รปภ. มาที่เกิดเหตุ พร้อมทั้งแจ้งตำรวจให้
เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึง ก็ได้ซักถามถึงทรัพย์สินที่หายไป ซึ่งก็มีแต่ของผม ได้แก่ เงินสด 3 พันบาท (ขโมยทิ้งกระเป๋าเงินไว้ที่พื้นห้องนอน) โทรศัพท์มือถือของผม และ Notebook ของที่ทำงาน (ของ Toshiba รุ่น Altraslim เป็นแบบครบชุดเลย) ราคาประมาณ 4 หมื่นบาท ทรัพย็สินของน้อง ๆ โดนรื้อค้น แต่ไม่ได้เอาอะไรไป
ร้อยเวรได้บันทึกปากคำของผม ผู้ที่เกี่ยวข้อง (น้อง ๆ ที่พักด้วยกัน และห้องติดกัน ผู้จัดการรีสอร์ท) ไว้ และบอกว่าจะให้ฝ่ายสืบสวนมาเก็บลายนิ้วมือ และให้พวกผมไปแจ้งความที่โรงพักในวันรุ่งขึ้น ซึ่งผมและน้องที่เป็นผู้บริหารโครงการ พร้อมกับผู้จัดการรีสอร์ท ก็ได้ไปแจ้งความในวันรุ่งขึ้น
ทางคณะของผมได้ขอดูกล้องวงจรปิดของทางรีสอร์ท ซึ่งปรากฏว่า ตรงส่วนของห้องพักนั้น ไม่มีกล้องวงจรปิด ???? กล้องที่บันทึกภาพอยู่ส่วนใหญ่ เป็นการดูการทำงานของพนักงานมากกว่า มีที่พอจะดูได้คือ ตรงหน้าประตูเข้า Lobby กับทางเดินข้าง ๆ จะออกประตูรีสอร์ท (อันนี้อธิบายยากครับ แต่คณะของผม ดูกล้องแล้วแทบไม่มีประโยชน์ต่อผู้เข้าพักของรีสอร์ทเลย)
ตั้งแต่วันที่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ทางรีสอร์ทยังไม่เคยติดต่อมาเพื่อชดใช้ค่าเสียหายเลย ผมเคยโทรไปสอบถามกับผู้จัดการ ได้คำตอบว่า ได้รายงานเรื่องนี้กับผู้บริหารรีสอร์ทแล้ว ผู้บริหารบอกว่า เรื่องค่าเสียหายชดเชยนั้น ต้องรอให้ตำรวจสรุปสำนวนให้เรียบร้อยก่อน จึงจะชดเชยให้ (ซึ่งผมก็ได้โทรไปสอบถามกับร้อยเวรแล้ว ร้อยเวรบอกว่าไม่เกี่ยวกันเลย มันเป็นเรื่องคนละส่วนกัน ทางรีสอร์ทสามารถชดเชยให้ได้ทันที ไม่ต้องรอสรุปสำนวน เป็นการยื้อเวลามากกว่า) ตำรวจแนะนำให้ผมแจ้งความดำเนินคดีกับทางรีสอร์ท เป็นการฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย
อยากสอบถามผู้ที่เคยมีประสบการณ์แบบนี้ ช่วยบอกผมหน่อยว่าควรทำยังไง บอกตรง ๆ นะครับ ผมไม่เสียดายของที่หายไปหรอก เว้นแต่ Notebook ของที่ทำงาน ซึ่งผมก็ทำใจไว้แล้วว่า ผมเองต้องเป็นคนรับผิดชอบ ไม่ได้ต้องการให้ทางรีสอร์ทชดใช้แต่ประการใด (ผู้จัดการพูดแต่ว่า รับผิดชอบแค่ 5 พันบาท ตามระเบียบสมาคมโรงแรมแห่งประเทศไทย) แต่ที่ผมเสียความรู้สึกคือ รีสอร์ทไม่คิดจะชดใช้ หรือ Takecare ลูกค้าเลย ไม่มีการลดค่าห้องพัก หรือชดใช้อะไร หนังสือขอโทษก็ไม่มี เหมือนปล่อยเวลาให้ผ่านไปเรื่อย ๆ ไม่รู้ว่าเพื่อน ๆ จะมีคำแนะนำอะไรให้บ้าง จะขอบพระคุณมากครับ
หมายเหตุ ขออนุญาตไม่บอกชื่อรีสอร์ทตอนนี้นะครับ เพราะไม่รู้ว่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายหรือไม่ แต่อยากได้คำแนะนำจากผู้ที่พอจะรู้กฎหมายอย่างนี้บ้างครับ ขอบคุณครับ