คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
ประวัติหลวงพ่อเสือ
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/Sua/Sua.htm
มัชฌิมวัย
กลับจากลังกาแล้ว หลวงพ่อได้พักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเชียงดาว ๓ ปีเศษ
ต่อจากนั้นได้มาพักอยู่ที่หมู่บ้านชาวเขา บนดอยปุย สอนธรรมะ และรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวเขา เป็นเวลาถึง ๙ ปี จึงเดินทางกลับมาบ้านเกิด ที่ชลบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะมาช่วยเหลือชาวบ้านทั้งการให้ธรรมะ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ ๔๕ ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแถบจังหวัดชลบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา
ต่อมามีชาวบ้าน ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมใจกันสร้างกุฏิเล็กๆ และนิมนต์ให้ท่านอาศัยอยู่ จนในที่สุดสร้างเป็นวัดขึ้น ให้ชื่อว่า “วัดไผ่สามกอ” ตามสัญญลักษณ์ที่มีต้นไผ่เหลืองที่ขึ้นอยู่ ๓ กอ หน้ากุฏิของท่านที่ชาวบ้านปลูกถวายนั่นเอง
มีเรื่องเล่าว่า…
หลวงพ่อไม่เคยสรงน้ำเลย แต่ทุกวันเวลาท่านอยู่ในห้องผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจะได้ยินเสียน้ำเหมือนไหลจากฝักบัว และร่างกายของหลวงพ่อก็เปียกเอง ทั้งยังมีกลิ่นหอมเหมือนดอกลำเจียก
เมื่อถึงวันเกิดของท่าน ผู้คนจะหลั่งไหลมาสรงน้ำท่าน เวลาท่านเดินลงจากกุฏิ ฝนจะตกลงมาพอดีทุกครั้ง ท่านจึงได้ฉายาว่า “พระวิรุฬหผล”
เมื่อตอนอายุได้ ๕๕ ปี ท่านได้ธุดงค์ไปประเทศลังกาเป็นเวลานาน เพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาในรายละเอียดเพิ่ม
-------------------------------------------------------------------------------------
ปัจฉิมวัย
ก่อนมรณภาพ หลวงพ่อรู้ล่วงหน้า ท่านจึงได้เตรียมตัวพร้อม โดยเรียกลูกศิษย์มาถ่ายรูปของท่านไว้ ให้ทำความสะอาดศาลา และเรียกมาประชุมฟังธรรม
หลังจากนั้นท่านก็เริ่มป่วย มีไข้ทวีขึ้นทั้งวันทั้งคืน
เมื่อถึงวันโกนท่านก็ลุกขึ้นจากที่นอน สั่งให่ช่วยกันปลงผม ซึ่งชาวบ้านก็พูดเตือนว่าคนเป็นไข้เขาห้ามตัดผล แต่ท่านก็พูดให้คติว่า
“คนเราถ้าถึงเวลาตายแล้ว ถึงจะปล่อยให้ผมยาวเพียงไหน ชีวิตก็ยาวต่อไปไม่ได้”
ก่อนมรณภาพ ๔ วัน หลวงพ่อได้สั่งว่า ท่านจะทำสมาธิ เจริญวิปัสสนาอยู่ในห้อง ๔ วัน ห้ามไม่ให้ใครมารบกวน ครั้นครบ ๔ วันตามที่ท่านสั่งแล้ว ลูกศิษย์ (คือ หลวงตาเผย) ได้เคาะประตูห้อง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ ลูกศิษย์จึงเข้าไปดู พบว่า หลวงพ่อครองผ้าไตรจีวรครบถ้วนเหมือนเวลาที่มีพิธีกรรมทางศาสนา มีตาลปัตรตั้งไว้ด้านขวา
มีข้อความเขียนไว้ที่ผ้าสังฆาฏิว่า “เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา”
ท่านนอนตะแคงขวาเหมือนหลับ สีหน้าสงบ ปราศจากความเศร้าหมอง ทุกคนก็ทราบทันทีว่า ท่านได้มรณภาพแล้ว
วันนั้นตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
**************************************************
ตอนนี้วัดของหลวงพ่อ เปลี่ยนเป็น วัดสามกอ แล้วครับ
แผนที่ วัดสามกอ อำเภอ บ้านโพธิ์ จังหวัด ฉะเชิงเทรา
https://maps.google.co.th/maps?hl=th&ie=UTF-8&q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD&fb=1&gl=th&hq=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94&hnear=0x311d3c8a026ec885:0xb137e051b8cad72e,%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD&cid=0,0,5206166967676444303&ei=mgOHUvvhEISFrAeAwoEo&ved=0CJYBEPwSMAs
http://www.abhidhamonline.org/Ajan/Sua/Sua.htm
มัชฌิมวัย
กลับจากลังกาแล้ว หลวงพ่อได้พักปฏิบัติธรรมที่ถ้ำเชียงดาว ๓ ปีเศษ
ต่อจากนั้นได้มาพักอยู่ที่หมู่บ้านชาวเขา บนดอยปุย สอนธรรมะ และรักษาโรคภัยไข้เจ็บให้กับชาวเขา เป็นเวลาถึง ๙ ปี จึงเดินทางกลับมาบ้านเกิด ที่ชลบุรี โดยมีจุดมุ่งหมายที่จะมาช่วยเหลือชาวบ้านทั้งการให้ธรรมะ และช่วยรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ซึ่งขณะนั้นท่านอายุได้ ๔๕ ปี มีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวางในแถบจังหวัดชลบุรี และจังหวัดฉะเชิงเทรา
ต่อมามีชาวบ้าน ต.สิบเอ็ดศอก อ.บ้านโพธิ์ จ.ฉะเชิงเทรา ได้ร่วมใจกันสร้างกุฏิเล็กๆ และนิมนต์ให้ท่านอาศัยอยู่ จนในที่สุดสร้างเป็นวัดขึ้น ให้ชื่อว่า “วัดไผ่สามกอ” ตามสัญญลักษณ์ที่มีต้นไผ่เหลืองที่ขึ้นอยู่ ๓ กอ หน้ากุฏิของท่านที่ชาวบ้านปลูกถวายนั่นเอง
มีเรื่องเล่าว่า…
หลวงพ่อไม่เคยสรงน้ำเลย แต่ทุกวันเวลาท่านอยู่ในห้องผู้ที่อยู่ใกล้เคียงจะได้ยินเสียน้ำเหมือนไหลจากฝักบัว และร่างกายของหลวงพ่อก็เปียกเอง ทั้งยังมีกลิ่นหอมเหมือนดอกลำเจียก
เมื่อถึงวันเกิดของท่าน ผู้คนจะหลั่งไหลมาสรงน้ำท่าน เวลาท่านเดินลงจากกุฏิ ฝนจะตกลงมาพอดีทุกครั้ง ท่านจึงได้ฉายาว่า “พระวิรุฬหผล”
เมื่อตอนอายุได้ ๕๕ ปี ท่านได้ธุดงค์ไปประเทศลังกาเป็นเวลานาน เพื่อศึกษาพระพุทธศาสนาในรายละเอียดเพิ่ม
-------------------------------------------------------------------------------------
ปัจฉิมวัย
ก่อนมรณภาพ หลวงพ่อรู้ล่วงหน้า ท่านจึงได้เตรียมตัวพร้อม โดยเรียกลูกศิษย์มาถ่ายรูปของท่านไว้ ให้ทำความสะอาดศาลา และเรียกมาประชุมฟังธรรม
หลังจากนั้นท่านก็เริ่มป่วย มีไข้ทวีขึ้นทั้งวันทั้งคืน
เมื่อถึงวันโกนท่านก็ลุกขึ้นจากที่นอน สั่งให่ช่วยกันปลงผม ซึ่งชาวบ้านก็พูดเตือนว่าคนเป็นไข้เขาห้ามตัดผล แต่ท่านก็พูดให้คติว่า
“คนเราถ้าถึงเวลาตายแล้ว ถึงจะปล่อยให้ผมยาวเพียงไหน ชีวิตก็ยาวต่อไปไม่ได้”
ก่อนมรณภาพ ๔ วัน หลวงพ่อได้สั่งว่า ท่านจะทำสมาธิ เจริญวิปัสสนาอยู่ในห้อง ๔ วัน ห้ามไม่ให้ใครมารบกวน ครั้นครบ ๔ วันตามที่ท่านสั่งแล้ว ลูกศิษย์ (คือ หลวงตาเผย) ได้เคาะประตูห้อง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบ ลูกศิษย์จึงเข้าไปดู พบว่า หลวงพ่อครองผ้าไตรจีวรครบถ้วนเหมือนเวลาที่มีพิธีกรรมทางศาสนา มีตาลปัตรตั้งไว้ด้านขวา
มีข้อความเขียนไว้ที่ผ้าสังฆาฏิว่า “เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา”
ท่านนอนตะแคงขวาเหมือนหลับ สีหน้าสงบ ปราศจากความเศร้าหมอง ทุกคนก็ทราบทันทีว่า ท่านได้มรณภาพแล้ว
วันนั้นตรงกับวันศุกร์ที่ ๓๐ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๙๘
**************************************************
ตอนนี้วัดของหลวงพ่อ เปลี่ยนเป็น วัดสามกอ แล้วครับ
แผนที่ วัดสามกอ อำเภอ บ้านโพธิ์ จังหวัด ฉะเชิงเทรา
https://maps.google.co.th/maps?hl=th&ie=UTF-8&q=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD&fb=1&gl=th&hq=%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%94&hnear=0x311d3c8a026ec885:0xb137e051b8cad72e,%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%81%E0%B8%AD&cid=0,0,5206166967676444303&ei=mgOHUvvhEISFrAeAwoEo&ved=0CJYBEPwSMAs
แสดงความคิดเห็น
สอบถามเรื่องวัดไผ่สามกอ จังหวัดฉะเชิงเทรา
ระหว่างที่ค้นหา เกิดคำถามว้า วัดไผ่สามกอ เนี่ยมีหรือเปล่า? แต่ดูในเวปไซต์อื่นๆ ก็เห็นเขาเช่าบูชาเหรียญหลวงพ่อเสือวัดไผ่สามกอ
และเท่าที่หาดู เจอแต่วัดสามกอ หรือ วัดไผ่แก้ว
**** อยากขอคำแนะนำว่าใครมีแผนที่ หรือช่วยแนะนำการเดินทางไปวัดไผ่สามกอ ให้ด้วยค่ะ ****
เนื่องจาก แม่และป้าต้องการไปทำบุญที่วัด หลวงพ่อโสธรก่อน จากนั้นจะเดินทางไปบูชาพ่อเสือที่วัดไผ่สามกอ
ปล.เปิด GPS ค้นหาก็ไม่มี
ปลล. ไม่รู้ว่ากระทู้นี้จะไปโผล่ที่ห้องไหน ถ้าไปผิดห้องต้องขอโทษด้วยนะคะ