เรารู้จักผู้ชายคนนึงผ่านเฟส ไม่เคยเจอตัวจริงแต่เป็นเพื่อนของเพื่อน ก็เลยกล้าคุย เราทักเค้าไปก่อน เค้าก็อายุ40 (เรา35) หน้าตาโอเคและดูไม่แก่ ก็คุยประมาณ2 เดือน  ถึงนัดเจอ ไม่ได้คุยทุกวัน คือเค้าก็โสดนะ ไม่มีแฟนแต่คงมีคนอื่นคุยด้วยตามที่สืบมา เจอกันครั้งแรก เค้านัดที่สตาร์บัคส์ctw ซึ่งเพื่อนเค้าบอกว่าเค้าขี้เหนียวมาก ก็จริงๆนะ เอาบัตรลดในคลีโอมาใช้ด้วย ดูเป็นคนไม่มีรสนิยมเท่าไหร่ ความไม่มีรสนิยมที่เราจะสื่อคือ คือเค้าบอกว่าเค้าตามกดไลท์ดาราที่ชอบทุกวันมันคือกิจวัตรของเค้า คนที่เค้าชอบก็มี ปานระพี  แล้วก็ ซี นักข่าวช่อง 3 ที่บ้านเค้าไม่ติดเคเบ้ิล ไม่ดูช่องอื่น แล้วก็แบบไม่ได้เรียนต่อโท ไม่มีความคิดจะเรียนต่อ เพราะเค้าบอกว่าแค่นี้ก็โอเคแล้วจบวิศวะ มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง (เราจบโทแล้ว ต่อเอกอยู่) ชีวิตเค้าก็ทำงานและเล่นกีฬาคือแบดกับเทนนิส ซึ่งเค้าบอกว่าแค่นี้ก็เยอะแล้ว ไม่ใช่คนมีเวลามาก เค้าเพิ่งได้งานที่ใหม่ ลาออกจากที่เก่าที่ทำมา16ปี เจอกันวันที่นัดก็คุยเก็บดีเทล เค้าดูหลงตัวเองมาก สังเกตว่าส่องกระจกบ่อย ดูเหมือนคิดว่าตัวเองหน้าตาดี เราว่าก็โอเคนะสำหรับคนทั่วไป แต่เราว่าเค้าไม่ดูแลตัวเองเท่าไหร่ คือหัวใกล้ล้านตรงกระหม่อม แล้วฟันก็เหลืองด้วย การแต่งตัวพูดยากแต่ข้าวของที่ใช้ดูธรรมดา ส่วนผิวพรรณก็ไม่ดูแล แต่หน้าตาผิวยังโอเคน่าจะเป็นพื้นฐานที่ได้จากที่บ้านมากกว่า เราก็คุยไป ก็จับความได้ว่าเค้ามีคนมาคุยด้วยเยอะ เหมือนเค้าจะอวดนิด เราก็โอเค คุยได้ แต่คิดว่าคงไม่ใช่คนนี้เท่าไหร่ พอกินกาแฟเสร็จ เราบอกว่าอยากไปred sky ที่ctw อยากขึ้นไปดูวิว ก็สังเกตว่าเค้าสั่งเหล้าไม่เป็น แล้วก็ดูเสร่อๆ คือไม่มีมาด ไม่รู้จะอธิบายยังไง ดูเขินๆคงไม่เคยมาที่แบบนี้ แล้วก็ถามว่าเค้าให้ทิปกันยังไง ตรงนี้เราจ่ายเงินเราoffer เอง แล้วก็ไปกินกัลปพฤกษ์ ซึ่งเค้าเลี้ยง ก็กลับบ้าน เราเอารถมาเอง เค้าเดินมาส่งเหมือนจะดูว่าเราขับรถอะไรมากกว่า

หลังจากที่นัดกันวันนั้น เราก็คิดว่าคงเป็นแค่เพื่อนดีกว่า คือเราเองก็อยู่ในช่วงหาแฟน เดทครั้งสองครั้งถ้าไม่ชอบก็ห่างเลย คือหายๆไปบ้าง ผู้ชายส่วนใหญ่จะรู้เอง แต่คนๆนี้ มันเหมือนไม่รู้ตัว คือหลังจากวันที่นัด ก็เหมือนว่าเค้าไม่โทรมา เราก็ไม่โทรไป ก็โอนะ แต่เค้าจะเขียนเฟสมาทุกวัน ลืมบอกไปว่า เค้าไม่ได้ใช้สมาร์ทโฟน คือไม่มีทั้งซัมซุง ไอโฟน เป็นมือถือที่มีแต่เฟส เค้าบอกโนเกียรุ่นเก่าอะไรไม่รู้ โหลดไลน์ไม่ได้  เราใช้ไอโฟน แต่ไม่ได้โหลดfb messenger ซึ่งเวลาที่เขียนมาก็จะเป็นช่วงก่อนนอนของเค้า (ไม่ใช่ของเรา) ซึ่งประมาณเที่ยงคืน แบบว่า ฝันดีครับ หรือนอนแล้วนะครับ (มาบอกทำไมวะ) ประมาณนี้ บางทีเราก็คุยตอบบ้าง ก็ผ่านไปเดือนนึง มันก็บอกว่าอยากดูหนังมั้ยจะเลี้ยง เราก็เดทกับคนอื่นอยู่ ดูตารางแล้วก็เออ ลองไปดูหนังก็ได้ ดูว่าเค้าเป็นไง คือคุยกันในเฟส แล้วไม่ได้โทรศัพท์ มันแทบไม่รู้อะไร อีกอย่างเราก็เล่าให้เพื่อนเค้าฟังว่าเค้าไม่ใช่เท่าไหร่ แต่เพื่อนเค้าบอกว่าก็ลองไปดูหนังดู คือเพื่อนเค้าเป็นเพื่อนกับเพื่อนเรา ก็ยังเชียร์ เค้าบอกถ้าเดทครั้งที่สองไม่เวิร์ค ก็ไม่ต้องต่อ เราก็ไป ปรากฏว่า เค้ามาสาย และไม่ได้จ่ายเงินค่าตั๋วหนังคืน แต่ก็พาไปเลี้ยงข้าว ที่เดิมที่ctw แต่เราเลือกร้านก็ไปกินร้านหมูทอด กับสปาเกตตี้ ใกล้ๆคิโนะ ก็กลับบ้านต่างคนเอารถมาเอง เรารีบกินรีบกลับ เริ่มไม่ไหว

กลายเป็นว่าเค้าจะจีบเราแต่เล่นเกมด้วย คือบอกเพื่อนเค้าว่าก็โอนะ แต่เราไม่ได้ชอบเค้าขนาดนั้นอย่างที่บอก เซ้นท์มันบอกว่าไม่ใช่เลย ซึ่งหลังจากวันนั้น เค้าก็จะเฟสมาทุกวัน โดยไม่ออนโมบายจากคอมเท่านั้น และไม่โทรมาเลย ตามนิสัยของคนขี้เหนียว แต่เวลาเฟสเนี่ย บางทีเราว่ามันดีอย่างคือ เราสามารถกลับไปอ่านบทสนทนาได้ แล้วก็สามารถวิเคราะห์ได้ว่าคนๆนี้คิดอะไร ซึ่งเราจับจุดอะไรได้เยอะมากที่สะท้อนให้เห็นว่าเค้าเป็นคนหลงตัวเองอย่างมาก จากการคุยกันแค่ในเฟส ข้อแรกคือคนๆนี้คิดว่าตัวเองเป็นคนหล่อมากถึงขั้นเป็นดาราได้ คือถามเราว่าหน้าตาดีมั้ย เราว่าธรรมดานะ ไม่ได้น่าเกลียด แต่จะเป็นดารา เราว่าเว่อร์ไป ก็ชอบเล่าว่าที่ทำงานกรี๊ดกร๊าดเค้า และอีกหลายๆเรื่อง ในเฟสเค้าเนี่ยจะมีผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย เพื่อนผู้ชายเค้าไม่ค่อยเยอะ ซึ่งเราว่ามันแปลก ส่วนใหญ่คนที่กดไลท์ให้เค้าคือผู้หญิง ซึ่งเค้าเองก็ตามไปกดไลท์คนเหล่านี้ด้วยบางทีมันขึ้นมาข้างๆจอ ส่วนที่หลงตัวเองอีกเร่ืองคือเค้ามักคิดว่าความคิดตัวเองถูกต้องที่สุด เค้ามองคนไปวัดเป็นพวกมีปัญหา เค้าจะไปเฉพาะวันเกิด แม่บังคับไป แล้วก็มีคำพูดติดปากเค้าคือ เค้ามีเหตุผล เค้าถูกตลอด คนอื่นไม่มีเหตุผล งี่เง่า แล้วก็ชอบว่าเพื่อนให้ฟัง นินทาแฟนเพื่อน แทบจะไม่มีเรื่องดีๆเลย เราก็รู้สึกไม่ดีนะ ส่วนเรื่องแฟนเก่า เค้าเล่าให้ฟังว่าผู้หญิงไปทำงานที่สิงค์โปร์โดยไม่บอกมันน่าจะโดนทิ้งแต่มันบอกว่าต่างคนห่างไปเอง แต่คนนี้เค้าเข้าไปจีบผู้หญิงก่อน พูดสไตล์ให้รู้ว่าผู้หญิงมาจีบเค้าก่อนเป็นส่วนใหญ่ เราเองก็เป็นฝ่ายไปทักเค้าก่อน เซ็งนะ ประมาณนี้ ผู้หญิงที่เป็นแฟนเก่าเค้าเล่าว่าทำงานบริษัทใกล้ๆกัน แนวพวกวิศวกร ก็ตามขับรถรับส่งแต่ไม่เคยเจอพ่อแม่ผู้หญิงส่วนผู้หญิงก็ไม่เคยไปเจอพ่อแม่เค้า คบกันสองปี พอเลิกเค้าก็ตั้งใจว่าจะไม่ขับรถเป็นสารถีให้ใครอีกเพราะว่ารู้สึกเสียเปรียบ "ผมไม่เข้าใจบางทีทำไมต้องไปส่งที่สนามบินด้วย ผมไม่ได้ไปด้วยซะหน่อย เค้าไปกับเพื่อน ไกลก็ไกล นั่งรถไฟฟ้าเองไม่ได้เหรอ แต่ก็โดนเค้าบังคับ ผมก็ต้องขับรถให้" นี่เป็นส่วนหนึ่งที่มันเล่าให้ฟัง เราก็แบบเอือมค่ะจากที่มันเล่า อีกเรื่องคือบอกก่อนว่าเราเป็นคนกิจกรรมเยอะ คือปีนี้เราไปเกาหลี แล้วก็ไปเที่ยวอเมริกามา แล้วก็ไปปฏิบัติธรรมมาอาทิตย์หนึ่ง ซึ่งเราชอบไปเที่ยว แต่เท่าที่ดูเค้าแล้ว ชีวิตเค้าแทบไม่มีกิจกรรมอะไรเลย ตรงกันข้ามมาก มีไปเมืองจีนคือที่ทำงานส่งไปสองปีก่อน แต่ไม่เคยไปเที่ยวไกลๆที่ไหนเลยในรอบสิบปี เค้าบอกว่าเค้าชอบอยู่บ้าน ในเฟสก็จะมีรูปที่ไปเที่ยวตปท.แค่ตอนเด็กกับพ่อแม่เท่านั้น แล้วก็มีไปญี่ปุ่นที่ไปทำงานซึ่งผ่านมาได้สิบปีกว่าๆแล้ว ซึ่งไม่ใช่ว่าไม่มีเงินหรอกนะแต่เราว่านะ เค้าคงขี้เหนียวมากกว่า ไม่รู้จักหากำไรให้ชีวิต

ตอนที่คุยกับเค้าเนี่ย เราเองก็คุยกับคนอื่นอยู่ ซึ่งเราก็มองแล้วว่า เราไม่อยากคบกับเค้าแบบแฟน แต่ก็เป็นเพื่อนกันได้ ทีนี้มันเริ่มไม่รู้ตัว ก็ผ่านไปอีกเดือนโดยที่ไม่โทรมาเลยเช่นกัน มีแต่เฟส เราก็เริ่มห่างแล้วตอบบ้างไม่คุยบ้าง แต่ก็จะเฟสมาว่าฝันดีครับ นอนแล้วนะครับ เพิ่งกินข้าวเสร็จครับ คือประมาณว่าทักแบบเสร่ออ่ะ หรือไม่ก็แบบเห็นรูป(อาหาร)ที่โพสแล้ว น่ากินนะ ทักมาทุกวัน เราก็ตอบบ้างไม่ตอบบ้างออกรำคาญตอบแบบสั้นๆว่าค่ะ ยังเกรงใจเพื่อนที่แนะนำ ทีนี้มันก็นัดเจออีก บอกว่าจะฝากเงินทำบุญ คือเราไปปฏิบัติธรรม มันก็รู้จากเฟสเนี่ยแหละ เราก็เลยไปเจอเพราะว่าเป็นทางผ่านหลังเลิกงาน ปรากฏว่ามันก็บอกว่าขอเป็นวันเสาร์ได้มั้ย เราก็บอกว่าจะอยู่บ้าน มันบอกว่างั้นเดี๋ยวนัดแถวบ้าน  ซึ่งเราก็โอเค  ก็ไปแถวบ้านไม่ได้เลี้ยงเราด้วย แชร์จ้า แล้วที่ฝากเงินทำบุญน่ะ ไม่ใช่ มันบอกว่ามันไม่อยากฝากทำบุญแล้ว เพราะมันเห็นเราโพสว่าจะไปอเมริกา ก็คือหลังจากปฏิบัติธรรมเราก็จะไปเที่ยวอเมริกา มันก็บอกว่าฝากเงินให้ไปเที่ยว 100 เหรียญซึ่งเป็นเงินที่มันได้ตอนไปเมืองจีนเมื่อสองปีก่อนมันไม่ได้ใช้ ซึ่งแบบเราก็บอกว่าฝากเงินไปเที่ยวคืออะไร มันบอกว่าก็ฝากเงินไปก่อนแล้วจะบอกว่าฝากซื้ออะไร เราก็ไม่อยากรับเงินเลยแต่ก็เออๆ ปรากฏว่ามันแอบเอาใส่ถุงพลาสติกหมูทอดที่เราซื้อกลับบ้าน เสร่อจริงๆ เรากะว่าแล้วค่อยโอนคืน คราวนี้มันมารับที่บ้านนะคะ แต่ก็ไม่ได้มารับที่บ้าน เราให้มารับที่ปากซอย แต่มันทำเป็นหลงทาง เรายืนคอยอยู่นานมาก มันบอกว่ามันหลงทางให้เราเรียกแท็กซี่มาที่ร้าน คือนะ ถ้าอย่างนั้นก็เจอกันที่ร้านเลย ขี้เกียจมารับที่หน้าปากซอยเนี่ย ห่างกันไม่กี่ป้ายรถเมล์หรอก เลวจริงๆ ส่วนขากลับมันบอกว่า เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน เราให้มันส่งหน้าปากซอยพอ แล้วมันก็บอกเราว่า เธอนี่ไม่ยุ่งยากดีนะ บางคนต้องเข้าไปไหว้พ่อแม่ ยุ่งยากมากผู้ชายไม่ชอบหรอกแบบนั้น เราฟังแล้วแบบ โอ๊ยเลวจริงๆว่ะขอลาขาด

ทีนี้พอหลังจากวันนั้น เรื่องเดียวที่เราเซ็งคือไม่รู้จะทำไงกับเงินที่มันฝากมา เราก็ไม่ตอบเมสเสจมันในเฟสเลย เราไปปฏิบัติธรรม ซึ่งเชื่อมั้ย ขนาดเราไปปฏิบัติธรรม มันยังไม่มีมารยาท ส่งเฟสมาทุกคืนมา ฝันดีครับ นอนแล้วนะครับ เพิ่งกินข้าวเสร็จครับ คือประมาณว่าทักแบบเสร่ออ่ะ ได้ทุกวันเหมือนเดิม ทั้งที่รู้ว่าเราก็ไม่ได้เอาโทรศัพท์ไป เปิดเฟสมาก็แบบ ตอนนั้นนะ อยากunfriend มาก แต่ว่าก็ปล่อยมันไป แล้วมันก็ทักมา ตามมากดไลท์ แต่ไม่มีคอมเม้นท์นะ คนๆนี้ไม่เคยมาคอมเม้นท์ในหน้าเฟสเรา(ดีแล้ว) เราไม่ตอบเลย คือเราหายไปเลย ผ่านไปสองสัปดาห์ ก่อนไปอเมริกาได้สามสี่วัน มันก็โทรมา ซึ่งมันไม่เคยโทรมาเลย เราก็บอกว่าช่วยส่งเลขบัญชีมาได้มั้ย เราคงไม่มีเวลาซื้อของฝากให้ เค้าก็บอกว่าทำไมเค้าทำอะไรผิด เราก็แบบโอ๊ยทนไม่ไหวแล้ว ด่าเลย เรื่องแรกก็คือเรื่องกรูเรียกแท็กซี่ไปร้านเอง โกรธมาก รอนานด้วยวันนั้น แล้วก็แบบว่านึกว่าตัวเองหล่อเหรอ พูดอยู่ได้ว่าผู้หญิงมาจีบ จะอ้วก เยอะแยะมาก เรื่องด่าเพื่อนด่าแฟนเพื่อน มันก็แบบ โอเค ถ้าอารมณ์ไม่ดี ก็ยังไม่ต้องคุย เรางงมาก มันบ้าป่าววะ เพื่อนเค้าก็ขอโทษแล้วบอกว่าให้ชิ่งเลย unfriendก็ได้ มันคงหายไปเอง

เราก็ไปอเมริกา มันหายไปเลย ไม่กล้าส่งข้อความมา แต่ตามมากดไลท์ ทุกรูปทุกเม้นท์ เราก็ไม่ได้สนใจ กะว่าถ้ากล้าเมสเสจในเฟสหรือคอมเม้นท์เมื่อไหร่จะด่าให้หน้าชา แล้วค่อยunfriend พอกลับมาอเมริกาได้เดือนกว่า มันยังตามกดไลท์อยู่นะ เราก็ได้รับมิสคอลจากมัน เราอยู่ในห้องน้ำตอนมันโทรมา เราก็เลยโทรกลับ มันก็ประมาณว่าจะชวนเราไปกินข้าวที่ ctw จะเลี้ยงวันเกิด แล้วเราจะได้คืนเงินมันด้วย ซึ่งเราก็บอกไปว่าเราไม่ได้ซื้ออะไรมาฝากหรอกนะ เรื่องคืนเงินก็โอนเงินได้สะดวกเราด้วย มันก็แบบว่าโอ๊ยเรื่องเงินไม่ใช่เรื่องใหญ่ เป็นอีกคำที่มันชอบพูด เราก็แบบ เบื่อว่ะ ก็บอกมันว่าเออๆจริงๆเรากะไม่ไป แล้วก่อนวันนัด เราก็โทรไปยกเลิกแล้วขอเลขบัญชีเลย คำแรกที่มันพูดตอนรับโทรศัพท์คือคิดถึงผมเหรอ เราแบบ เ  ย ไรนี่ เราโกรธมากแบบไม่ไหวแล้ว ก็บอกว่ายกเลิกนัดเสียงเรียบๆ มันก็บอกว่าเลื่อนไปวันไหน เราคิดในใจแล้วทำไมต้องบอกด้วย ก็บอกว่าอาทิตย์หน้ามั้ง มันก็โอเคๆ ผมอยู่งานคอมมาร์ท กำลังยุ่ง แค่นี้นะ เอ่อ ก็ก็ไม่ได้กะคุยนะ เกิดมาก็เพิ่งเคยเจอคนหน้าด้านหลงตัวเองขนาดนี้ มันเป็นอะไรของมันเนี่ย

วันต่อมาเราคุยกับเพื่อนเค้า ซึ่งตรงนี้เพื่อนเค้าบอกว่า ขอไม่ยุ่งแล้วและขอโทษเราที่แนะนำต่อๆมา เราจะด่าอะไรก็ได้ ตามสบายเลย เพื่อนเค้าเป้นเพื่อนของเพื่อนเรา เราก็เลยเขียนเมสเสจด่ามันในเฟส ทุกเรื่องที่เราอยากด่า อย่างสะใจ แล้วก็บอกว่า ขอให้ส่งเมสเสจเลขบัญชีมาแทน เพราะเราจะบล๊อคทางเฟส แล้วก็อย่าโทรมาไม่งั้นเราจะให้คุยกับพี่ชายเรา แล้วก็บอกว่าถ้ายังทำตัวมีปัญหาอีก เราจะให้พี่เราโทรไปบอกที่บริษัทที่มันทำงานอยู่ว่า มันมาก่อกวน ก็ได้ผล แต่เรื่องของเรื่องคือ มันส่งเมสเสจมาบอกว่า ผมก็กวนๆแบบนี้แหละ แต่ไม่ขอโทษนะ ส่วนเงิน ผมให้ ถือว่าทำทาน เราปรี๊สมาก แต่แบบไม่อยากโทรด่ามันอีก แล้วก็ไม่อยากต่อความยาวอะไรอีก ก็เลยบล๊อคเบอร์ ส่วนเงินเราก็ไม่คืนแล้ว ตอนนี้มันหายไปแล้วเกือบเดือน เพื่อนเค้าเราก็ไม่ได้ติดต่อ เพื่อนเค้าอยู่ในเฟสเรา ส่วนใหญ่จะส่งข้อความทางเฟส เราก็เฉยๆแล้ว แต่จริงๆถ้ามันส่งเลขบัญชีมา เราก็ไม่อยากคืนเงินเท่าไหร่แล้ว ถือว่ามันโง่เอง ถ้าเป็นคุณจะทำไงคะ ตอนนี้เราเดทกับผู้ชายอีกคน ซึ่งตรงข้ามกับมันมาก มาส่งเราก็มาสวัสดีพ่อแม่ แล้วก็ไม่ได้แกล้งหลงทางให้เรานั่งแท็กซี่ไป แล้วก็จ่ายค่าตั๋วหนังคืน ไม่ด่าเพื่อนด่าแฟนเพื่อนให้เราฟัง ไม่ได้ทะเลาะกับพนักงานเรื่องบัตรลดราคาที่หมดอายุแล้ว แล้วก็ไม่ได้โรคจิตตามมากดไลท์ทุกรูปทุกคอมเม้นท์ เค้าไม่หล่อค่ะคนนี้เลยไม่หลงตัวเองส่องกระจกตลอด 555ยาวเลย อยากทราบว่าด่ามันไปอย่างนี้ มันจะรู้สึกมั้ยคะ ขอบคุณที่อ่านนะคะ ยาวเลย^^