http://women.mthai.com/amazing-women/156290.html
ใครเล่าจะรู้ว่าดาราสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ที่เคยรับบทมาแล้วหลายบทบาท ทั้งนางเอกขี้เล่นแสนสน
นางเอกเจ้าน้ำตาสุดอาภัพ บทบาทในชีวิตจริงของเธอนั้น ไม่ได้แตกต่างจากละครน้ำเน่าที่เล่นเลยสักนิด
และเมื่อมันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง มันจึงเป็นอุปสรรคที่หนักอึ้งสำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง และนี่คืออีกมุมหนึ่งที่ยังไม่มีใครรู้….
แพท ณปภา นางเอกยอดกตัญญู เธอดูแลปรนิบัติแม่ที่ป่วยโรคอัลไซเมอร์มากว่า 5 ปี ควบคู่ไปกับดูแลพี่สาวผู้พิการ
และที่หนักไปกว่านั้นคือ แพท ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านเพียงคนเดียว เดือนละ 3 แสนกว่าบาท
หนำซ้ำ ตอนนี้พ่อบังเกิดเกล้ายังซ้ำเติมด้วยการฟ้องร้องเอาเงินตัดขาดความเป็นพ่อ-ลูก กันอีก
เจอเรื่องแบบนี้ แพทถึงกับล้มทั้งยืน ร้องไห้และมีความทุกข์ในใจมาโดยตลอด นี่มันหนังชีวิต หรือเคราะห์กรรมเรื่องอะไรกัน ?!
“แพท มีพี่น้อง 5 คนค่ะ แพทเป็นคนที่ 5 คนโตอยู่เมืองนอก คนที่ 2 ก็ไปมีครอบครัว คนที่ 3 ก็ตามสามีไปทำงานเมืองนอก
คนที่ 4 พิการ คนที่ดูแลแม่หลักๆ คือแพท พี่คนอื่นก็ช่วยบ้าง แต่บอกได้คำเดียวเลยว่าแพทเป็นหลักเพราะว่าคนโตเขาก็มีภาระของเขา
ปีละครั้งกลับมา คนที่ 2 ภาระเขาค่อนข้างเยอะ เดินทางบ่อย คนที่ 3 ก็ 6-7 เดือนกลับมาที คนที่ 4 ก็พิการตั้งแต่เกิด
แม่บอกว่าเขาชัก พอชักก็กลายเป็นเด็กเอ๋อไปเลย แพท ต้องดูแลเขามาตลอด ตอนนี้ก็มีแม่เพิ่มมา เหนื่อยมากค่ะแต่ยังไหวอยู่”
“แม่เริ่มป่วยหลังจากเคยถามเรื่องเงินๆทองๆ ว่าได้เก็บเงินที่ได้ไว้หรือยัง ซึ่งแม่ก็นิ่งไปแล้วตอบว่า ‘นั่นสิ’
แพทเลยเริ่มแปลกใจว่าทำไมเรื่องสำคัญอย่างเรื่องเงินถึงตอบแค่ ‘นั่นสิ’ แต่ตอนนั้นก็คิดในแง่ดีว่าแม่อาจจะแค่เหนื่อย
กระทั่งมาถึงจุดพีคที่ทำให้แน่ใจว่าแม่ต้องเป็นโรคอัลไซเมอร์แน่ๆ คือ แม่ลืมเรื่องเงินๆทองๆ ตลอด เริ่มอยากออกจากบ้าน
อยากไปเที่ยวเหมือนเด็ก มีครั้งหนึ่งแม่ออกไปข้างนอก แล้วจำทางกลับบ้านไม่ได้ แพทกับที่บ้านตามหากันให้วุ่น
ตอนนั้นใจหล่นหายไปแล้ว หวาดกลัวไปหมด กลัวแม่เป็นอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นแม่ยังลืมว่าตัวเองมีอะไรบ้างในชีวิต
หรือแม้แต่แพท แม่ก็ยังจำไม่ได้!” สาเหตุที่แม่ป่วย เกิดจากแม่เครียดเรื่องครอบครัว เรื่องพ่อ เขาคิดว่าเขาทำให้พ่อทิ้งไป
แต่ก็พยายามคิดว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมากมาย จนมาถึงวันนี้แม่ชอบทำตัวแข็งแรงตลอดเวลา แต่เพราะมีเรื่องสะสมสุดท้ายทำให้ป่วย
“การที่แม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์เราไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ก็คิดว่าแค่จำอะไรไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แพทกับแม่เราสนิทกันอยู่แล้ว แพทเลี้ยงแม่ได้อยู่แล้ว แต่จะมาหนักสุดก็ตอนแม่ล้ม แล้วเดินไม่ได้ กลายเป็นว่าเราต้องอาบน้ำให้
เช็ดตัวให้ ทุกเช้าก่อนมาทำงาน แพท ก็จะตื่นเช้าหน่อย ดูแลปรนิบัติแม่ให้เรียบร้อยก่อน ถ้าสมมติวันไหน
แพท ต้องออกไปทำงานเร็ว ก็จะเป็นหน้าที่ของน้องสาวและคนใช้แทน อย่างอาบน้ำถ้าวันไหนแกดื้อมากก็จะไม่ต้องค่ะ
อาบอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะแม่ไม่มีเหงื่อ ไม่ได้ออกไปไหน แม่เดินไม่ได้แต่อารมณ์ก็เหมือนเดิมนะ คือเป็นคนอารมณ์ดี
บ้าน แพท จะเป็นแบบว่าอะไรก็ได้ ไม่ต้องบังคับ กินก็กิน ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน อยากกินตอนไหนก็บอก”
”ทุกวันนี้เรากอดกันตลอด รักกันเสมออยู่แล้ว พอแม่ป่วยทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น การดูแลแม่ แพทไม่คิดว่ามันเป็นภาระ
มันเป็นหน้าที่ที่ลูกต้องทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ดูแลแม่แล้วจะให้ไปดูแลใคร ไม่ใช่เพิ่งมาทำตอนแม่ป่วยนะ
แพท เป็นคนรักแม่อยู่แล้วค่ะ รักครอบครัว ไม่ใช่เป็นแบบเที่ยวแล้วอยู่ดีๆ มาแบบพลิกชีวิต
แต่เหตุการณ์นี้มันทำให้ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น แม่เป็นแบบนี้เราก็ทำใจได้แล้ว”
เท่านั้นยังไม่พอ มรสุมลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามาหาเธออีกระลอก เมื่อพ่อบังเกิดเกล้าฟ้องจะเอาเงิน สาเหตุคือ
พ่อเธอไม่ยอมรับว่ามีเมียน้อย มีอีกครอบครัวหนึ่ง
” จริงๆแล้วแพท อยากให้แยกกันอยู่ไปเลย ตัดปัญหา แต่เขาไม่ยอม เขาเลยมาทำเรื่องฟ้องแพทกับแม่ว่า
ควรได้ทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่งจากการที่เคยได้อยู่กินกับแม่ ติดไปด้วย เขาคิดว่าถึงไม่ได้จดทะเบียนกันตามกฏหมาย
แต่เคยอยู่ร่วมกันมา เขาก็มีสิทธิในส่วนนั้นด้วย!!! แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อยากฟ้องก็ฟ้องเลย แพทสู้สุดตัวอยู่แล้ว
เข้าใจแล้วว่าเขาคงไม่มีทางเลือกอื่น เลยใช้วิธีนี้ ตอนนี้แพทก็รอขึ้นศาลในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วค่ะ”
ซึ่งความจริงแล้วเธอเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า ว่าจะต้องทำยังไงเมื่อจ่องสู้คดีกับพ่อบังเกิดเกล้า แต่สิ่งที่เธอเชื่อเสมอว่า
คนคิดดีทำดี มันต้องได้ดีสักวัน และสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้มันดีที่สุดแล้วในฐานะที่ลูก
”เวลามีคนมาชม แพท ก็รู้สึกแฮปปี้นะ แต่แพทก็คิดว่าไม่เป็นไร แพท ทำตามหน้าที่ แพท ไม่ได้เก่งเลย
ดีที่พระเจ้าให้อาชีพดารา ไม่อย่างนั้นแพทคงตายแน่ เพราะไม่รู้ว่าจะหนักไปกว่านี้อีกไหม
แพทต้องขอบคุณที่อแม่สอนมาดี สอนให้ทำตัวดี ตั้งใจเรียน อย่าหยิ่ง เพราะฉะนั้นที่แพทเป็นแบบนี้
เพราะสิ่งที่เจอทำให้เข้าใจหลายๆสิ่งมากขึ้น เพราะถ้าไม่เจอก็คงไม่รู้”
ทุกวันนี้ลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวอย่าง แพท ณปภา ต้องกลายมาเป็นสาวแกร่ง รับหน้าที่หัวหน้าครอบครัว
คอยดูแลคุณแม่และทุกคน แบกรับภาระต่างๆมากมาย ซึ่งเธอยืนยันว่าจะดูแล อย่างดีที่สุด…มันไม่ใช่เพียงหน้าที่
แต่มันคือสิ่งที่เธอควรจะต้องทำเพื่อตอบแทนคนที่ให้กำเนิดเธอมา และคนที่เธอรักสุดหัวใจ แม้คุณแม่จะจำชื่อเธอไม่ได้
แต่เธอก็มั่นใจว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกจะไม่มีวันลบเลือนไปได้แน่นอน เราขอนับถือในจิตใจที่แข็งแกร่งของเธอจริงๆค่ะ
สู้ต่อไปนะค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังให้คุณแพทค่ะ
แพท ณปภา ชีวิตจริงยิ่งกว่าละคร (น้ำเน่า) พ่อบังเกิดเกล้ายังซ้ำเติมด้วยการฟ้องร้องเอาเงินตัดขาดความเป็นพ่อ-ลูก
http://women.mthai.com/amazing-women/156290.html
ใครเล่าจะรู้ว่าดาราสาว แพท ณปภา ตันตระกูล ที่เคยรับบทมาแล้วหลายบทบาท ทั้งนางเอกขี้เล่นแสนสน
นางเอกเจ้าน้ำตาสุดอาภัพ บทบาทในชีวิตจริงของเธอนั้น ไม่ได้แตกต่างจากละครน้ำเน่าที่เล่นเลยสักนิด
และเมื่อมันเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตจริง มันจึงเป็นอุปสรรคที่หนักอึ้งสำหรับลูกผู้หญิงคนหนึ่ง และนี่คืออีกมุมหนึ่งที่ยังไม่มีใครรู้….
แพท ณปภา นางเอกยอดกตัญญู เธอดูแลปรนิบัติแม่ที่ป่วยโรคอัลไซเมอร์มากว่า 5 ปี ควบคู่ไปกับดูแลพี่สาวผู้พิการ
และที่หนักไปกว่านั้นคือ แพท ต้องแบกรับภาระค่าใช้จ่ายในบ้านเพียงคนเดียว เดือนละ 3 แสนกว่าบาท
หนำซ้ำ ตอนนี้พ่อบังเกิดเกล้ายังซ้ำเติมด้วยการฟ้องร้องเอาเงินตัดขาดความเป็นพ่อ-ลูก กันอีก
เจอเรื่องแบบนี้ แพทถึงกับล้มทั้งยืน ร้องไห้และมีความทุกข์ในใจมาโดยตลอด นี่มันหนังชีวิต หรือเคราะห์กรรมเรื่องอะไรกัน ?!
“แพท มีพี่น้อง 5 คนค่ะ แพทเป็นคนที่ 5 คนโตอยู่เมืองนอก คนที่ 2 ก็ไปมีครอบครัว คนที่ 3 ก็ตามสามีไปทำงานเมืองนอก
คนที่ 4 พิการ คนที่ดูแลแม่หลักๆ คือแพท พี่คนอื่นก็ช่วยบ้าง แต่บอกได้คำเดียวเลยว่าแพทเป็นหลักเพราะว่าคนโตเขาก็มีภาระของเขา
ปีละครั้งกลับมา คนที่ 2 ภาระเขาค่อนข้างเยอะ เดินทางบ่อย คนที่ 3 ก็ 6-7 เดือนกลับมาที คนที่ 4 ก็พิการตั้งแต่เกิด
แม่บอกว่าเขาชัก พอชักก็กลายเป็นเด็กเอ๋อไปเลย แพท ต้องดูแลเขามาตลอด ตอนนี้ก็มีแม่เพิ่มมา เหนื่อยมากค่ะแต่ยังไหวอยู่”
“แม่เริ่มป่วยหลังจากเคยถามเรื่องเงินๆทองๆ ว่าได้เก็บเงินที่ได้ไว้หรือยัง ซึ่งแม่ก็นิ่งไปแล้วตอบว่า ‘นั่นสิ’
แพทเลยเริ่มแปลกใจว่าทำไมเรื่องสำคัญอย่างเรื่องเงินถึงตอบแค่ ‘นั่นสิ’ แต่ตอนนั้นก็คิดในแง่ดีว่าแม่อาจจะแค่เหนื่อย
กระทั่งมาถึงจุดพีคที่ทำให้แน่ใจว่าแม่ต้องเป็นโรคอัลไซเมอร์แน่ๆ คือ แม่ลืมเรื่องเงินๆทองๆ ตลอด เริ่มอยากออกจากบ้าน
อยากไปเที่ยวเหมือนเด็ก มีครั้งหนึ่งแม่ออกไปข้างนอก แล้วจำทางกลับบ้านไม่ได้ แพทกับที่บ้านตามหากันให้วุ่น
ตอนนั้นใจหล่นหายไปแล้ว หวาดกลัวไปหมด กลัวแม่เป็นอันตราย ยิ่งไปกว่านั้นแม่ยังลืมว่าตัวเองมีอะไรบ้างในชีวิต
หรือแม้แต่แพท แม่ก็ยังจำไม่ได้!” สาเหตุที่แม่ป่วย เกิดจากแม่เครียดเรื่องครอบครัว เรื่องพ่อ เขาคิดว่าเขาทำให้พ่อทิ้งไป
แต่ก็พยายามคิดว่ามันไม่ได้เป็นอะไรมากมาย จนมาถึงวันนี้แม่ชอบทำตัวแข็งแรงตลอดเวลา แต่เพราะมีเรื่องสะสมสุดท้ายทำให้ป่วย
“การที่แม่ป่วยเป็นอัลไซเมอร์เราไม่ได้คิดว่ามันเป็นเรื่องใหญ่ ก็คิดว่าแค่จำอะไรไม่ได้ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่
แพทกับแม่เราสนิทกันอยู่แล้ว แพทเลี้ยงแม่ได้อยู่แล้ว แต่จะมาหนักสุดก็ตอนแม่ล้ม แล้วเดินไม่ได้ กลายเป็นว่าเราต้องอาบน้ำให้
เช็ดตัวให้ ทุกเช้าก่อนมาทำงาน แพท ก็จะตื่นเช้าหน่อย ดูแลปรนิบัติแม่ให้เรียบร้อยก่อน ถ้าสมมติวันไหน
แพท ต้องออกไปทำงานเร็ว ก็จะเป็นหน้าที่ของน้องสาวและคนใช้แทน อย่างอาบน้ำถ้าวันไหนแกดื้อมากก็จะไม่ต้องค่ะ
อาบอาทิตย์ละ 2 ครั้ง เพราะแม่ไม่มีเหงื่อ ไม่ได้ออกไปไหน แม่เดินไม่ได้แต่อารมณ์ก็เหมือนเดิมนะ คือเป็นคนอารมณ์ดี
บ้าน แพท จะเป็นแบบว่าอะไรก็ได้ ไม่ต้องบังคับ กินก็กิน ไม่อยากกินก็ไม่ต้องกิน อยากกินตอนไหนก็บอก”
”ทุกวันนี้เรากอดกันตลอด รักกันเสมออยู่แล้ว พอแม่ป่วยทำให้เราใกล้ชิดกันมากขึ้น การดูแลแม่ แพทไม่คิดว่ามันเป็นภาระ
มันเป็นหน้าที่ที่ลูกต้องทำอยู่แล้ว ถ้าไม่ดูแลแม่แล้วจะให้ไปดูแลใคร ไม่ใช่เพิ่งมาทำตอนแม่ป่วยนะ
แพท เป็นคนรักแม่อยู่แล้วค่ะ รักครอบครัว ไม่ใช่เป็นแบบเที่ยวแล้วอยู่ดีๆ มาแบบพลิกชีวิต
แต่เหตุการณ์นี้มันทำให้ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น แม่เป็นแบบนี้เราก็ทำใจได้แล้ว”
เท่านั้นยังไม่พอ มรสุมลูกใหม่ก็ถาโถมเข้ามาหาเธออีกระลอก เมื่อพ่อบังเกิดเกล้าฟ้องจะเอาเงิน สาเหตุคือ
พ่อเธอไม่ยอมรับว่ามีเมียน้อย มีอีกครอบครัวหนึ่ง
” จริงๆแล้วแพท อยากให้แยกกันอยู่ไปเลย ตัดปัญหา แต่เขาไม่ยอม เขาเลยมาทำเรื่องฟ้องแพทกับแม่ว่า
ควรได้ทรัพย์สมบัติส่วนหนึ่งจากการที่เคยได้อยู่กินกับแม่ ติดไปด้วย เขาคิดว่าถึงไม่ได้จดทะเบียนกันตามกฏหมาย
แต่เคยอยู่ร่วมกันมา เขาก็มีสิทธิในส่วนนั้นด้วย!!! แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ อยากฟ้องก็ฟ้องเลย แพทสู้สุดตัวอยู่แล้ว
เข้าใจแล้วว่าเขาคงไม่มีทางเลือกอื่น เลยใช้วิธีนี้ ตอนนี้แพทก็รอขึ้นศาลในอีกไม่กี่เดือนนี้แล้วค่ะ”
ซึ่งความจริงแล้วเธอเองก็ยังไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่า ว่าจะต้องทำยังไงเมื่อจ่องสู้คดีกับพ่อบังเกิดเกล้า แต่สิ่งที่เธอเชื่อเสมอว่า
คนคิดดีทำดี มันต้องได้ดีสักวัน และสิ่งที่เธอทำอยู่ตอนนี้มันดีที่สุดแล้วในฐานะที่ลูก
”เวลามีคนมาชม แพท ก็รู้สึกแฮปปี้นะ แต่แพทก็คิดว่าไม่เป็นไร แพท ทำตามหน้าที่ แพท ไม่ได้เก่งเลย
ดีที่พระเจ้าให้อาชีพดารา ไม่อย่างนั้นแพทคงตายแน่ เพราะไม่รู้ว่าจะหนักไปกว่านี้อีกไหม
แพทต้องขอบคุณที่อแม่สอนมาดี สอนให้ทำตัวดี ตั้งใจเรียน อย่าหยิ่ง เพราะฉะนั้นที่แพทเป็นแบบนี้
เพราะสิ่งที่เจอทำให้เข้าใจหลายๆสิ่งมากขึ้น เพราะถ้าไม่เจอก็คงไม่รู้”
ทุกวันนี้ลูกสาวคนสุดท้องของครอบครัวอย่าง แพท ณปภา ต้องกลายมาเป็นสาวแกร่ง รับหน้าที่หัวหน้าครอบครัว
คอยดูแลคุณแม่และทุกคน แบกรับภาระต่างๆมากมาย ซึ่งเธอยืนยันว่าจะดูแล อย่างดีที่สุด…มันไม่ใช่เพียงหน้าที่
แต่มันคือสิ่งที่เธอควรจะต้องทำเพื่อตอบแทนคนที่ให้กำเนิดเธอมา และคนที่เธอรักสุดหัวใจ แม้คุณแม่จะจำชื่อเธอไม่ได้
แต่เธอก็มั่นใจว่าสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูกจะไม่มีวันลบเลือนไปได้แน่นอน เราขอนับถือในจิตใจที่แข็งแกร่งของเธอจริงๆค่ะ
สู้ต่อไปนะค่ะ ขอเป็นอีกหนึ่งกำลังให้คุณแพทค่ะ