ที่มาบทความ...
http://www.topofliving.com/990.html
หลายคนที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกอยู่อาจจะยังไม่รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของการ “ผ่อนบ้าน” เพราะคนที่มีบ้านเป็นของตัวเองนั้นน้อยคนที่จะสามารถซื้อบ้านเป็นเงินสดๆ ได้ ต้องอาศัยการผ่อนชำระเป็นงวดๆ ค่างวดแต่ละงวดก็จะกลายไปเป็น “ดอกเบี้ย” เสียส่วนใหญ่ กว่าจะผ่อนกันหมดก็อาจจะแก่ไปก่อน แต่สำหรับผมแล้วหนี้ก้อนนี้ผมจะถือว่าเป็น “หนี้แห่งความสุข” ครับ เพราะการที่เรามีบ้านเป็นของตัวเองนั้นมันเป็นความสุขที่ไม่อาจบรรยายกันได้เลย
สำหรับระยะเวลาผ่อนส่งบ้านที่ ยาวนาน 20-30 ปี ถ้าหากเริ่มต้นผ่อนที่อายุ 30 ปี บางคนจะผ่อนหมดเมื่ออายุ 60 ปี หรือเกษียณพอดี คนบางกลุ่มถามว่าทำไมไม่เริ่มให้เร็วกว่าอายุ 30 ปี เช่น อายุ 25 ปี หรือน้อยกว่านั้น คำตอบในใจของมนุษย์เงินเดือนที่เคยผ่อนบ้านหลังแรกคงจะตอบด้วยเสียงเบาๆ ว่า… เริ่มเร็วนั้นยากเพราะกว่าที่จะสะสมเงินดาวน์บ้านให้ได้สักหลัง คิดอย่างง่ายๆ ที่ 500,000 บาท ทำงานกี่ปีจึงจะมีเงินเก็บเท่านี้ ที่สำคัญคนที่มีวินัยทางการเงินต่ำ ทำงานใหม่ๆ มีเงินก้อนจากโบนัส หรือได้เงินเดือนเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ ก็ผันไปเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น เช่น โทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์กันเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเริ่มต้นที่อายุ 30 ปี
ผ่อนบ้านยังไง ให้หมดไวๆ
แล้วมีวิธีที่จะผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ ได้หรือเปล่าล่ะ
คำตอบคือ “มีครับ” ลองมาหาวิธีง่ายๆ เพื่อลดดอกเบี้ยที่ต้องเสียให้กับธนาคารตามแบบฉบับของ คุณวีระพล บดีรัฐ หัวหน้างาน – ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพหลักทรัพย์ TSI กันดีกว่า
1. เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่คุณจะกู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้นหนึ่งบัญชี โดยกันไว้ให้เป็นบัญชีสำหรับจ่ายหนี้บ้าน โดยเฉพาะ สมมติให้เรียกว่าบัญชีเดือนที่ 13
2. นำเงินครึ่งหนึ่งของยอดที่ต้องผ่อนบ้านทุกเดือนทะยอยใส่ไว้ในบัญชีในข้อ 1 ทุก 2 สัปดาห์ เช่น หากต้องผ่อนบ้านเดือนละ 4,544.05 บาท ยกตัวอย่างสำหรับบ้านราคา 1 ล้านบาท (คิดดอกเบี้ย 5%) ให้ฝากเงินราย 2 สัปดาห์ที่ยอด 2,272 บาท
Note : ใน 1 ปี มี 52 สัปดาห์นั่นแปลว่า คุณจะมียอดเงินในบัญชีนี้ที่ 2,272 x 26 สัปดาห์ = 59,072
มากกว่าที่ต้องจ่ายหนี้จริง 4,544 x 12 เดือน = 54,528 บาท อยู่ 4,544 บาท หรือมากกว่าอยู่ 1 เดือน
3. เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินงวดปกติ ให้นำเงินส่วนเกิน (4,544 บาท ในข้อ 2) มาแบ่งเป็น 12 งวด ได้ 4,544/12 = 378.67 บาท แล้วจ่ายเพิ่มเข้าไปจากยอดเงินงวดที่ต้องจ่ายรายเดือนปกติ นั่นคือแทนที่จะจ่ายเดือนละ 4,544 บาท ให้จ่ายที่ 4,544.05+378.67= 4,922.72
พอลองมาคำนวนด้วยวิธีการโปะบ้านแบบค่อยๆ โปะ (คือโปะเพิ่มเดือนละ 378.67 บาท) จะทำให้จำนวนปีที่ต้องผ่อนลดลงถึง 4 ปี แถมยังเสียดอกเบี้ยน้อยลงอีกด้วยครับ ด้วยกลยุทธ์เก็บเงินเพิ่มด้วยบัญชีเดือนที่ 13 ทำให้คุณสามารถประหยัดเงินได้ แถมเป็นอิสระจากภาระหนี้ได้เร็วขึ้นอีกอย่างน้อย 4 ปี เรียกว่าสำหรับใครก็ตามที่เริ่มผ่อนตอนอายุ 30 แทนทึ่จะต้องผ่อนไปจนเกษียณ แต่สามารถเป็นไทได้เร็วขึ้น และอาจมีทางเลือกในการเกษียณก่อนกำหนดได้อีกด้วย น่าสนใช่มั้ยล่ะครับ
“ผ่อนบ้านอย่างไรให้หมดเร็วกว่าใจคิด”
หลายคนที่กำลังมองหาบ้านหลังแรกอยู่อาจจะยังไม่รู้ซึ้งถึงความรู้สึกของการ “ผ่อนบ้าน” เพราะคนที่มีบ้านเป็นของตัวเองนั้นน้อยคนที่จะสามารถซื้อบ้านเป็นเงินสดๆ ได้ ต้องอาศัยการผ่อนชำระเป็นงวดๆ ค่างวดแต่ละงวดก็จะกลายไปเป็น “ดอกเบี้ย” เสียส่วนใหญ่ กว่าจะผ่อนกันหมดก็อาจจะแก่ไปก่อน แต่สำหรับผมแล้วหนี้ก้อนนี้ผมจะถือว่าเป็น “หนี้แห่งความสุข” ครับ เพราะการที่เรามีบ้านเป็นของตัวเองนั้นมันเป็นความสุขที่ไม่อาจบรรยายกันได้เลย
สำหรับระยะเวลาผ่อนส่งบ้านที่ ยาวนาน 20-30 ปี ถ้าหากเริ่มต้นผ่อนที่อายุ 30 ปี บางคนจะผ่อนหมดเมื่ออายุ 60 ปี หรือเกษียณพอดี คนบางกลุ่มถามว่าทำไมไม่เริ่มให้เร็วกว่าอายุ 30 ปี เช่น อายุ 25 ปี หรือน้อยกว่านั้น คำตอบในใจของมนุษย์เงินเดือนที่เคยผ่อนบ้านหลังแรกคงจะตอบด้วยเสียงเบาๆ ว่า… เริ่มเร็วนั้นยากเพราะกว่าที่จะสะสมเงินดาวน์บ้านให้ได้สักหลัง คิดอย่างง่ายๆ ที่ 500,000 บาท ทำงานกี่ปีจึงจะมีเงินเก็บเท่านี้ ที่สำคัญคนที่มีวินัยทางการเงินต่ำ ทำงานใหม่ๆ มีเงินก้อนจากโบนัส หรือได้เงินเดือนเพิ่มนิดๆ หน่อยๆ ก็ผันไปเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกอื่น เช่น โทรศัพท์มือถือหรือรถยนต์กันเสียเป็นส่วนใหญ่ จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะเริ่มต้นที่อายุ 30 ปี
ผ่อนบ้านยังไง ให้หมดไวๆ
แล้วมีวิธีที่จะผ่อนบ้านให้หมดเร็วๆ ได้หรือเปล่าล่ะ
คำตอบคือ “มีครับ” ลองมาหาวิธีง่ายๆ เพื่อลดดอกเบี้ยที่ต้องเสียให้กับธนาคารตามแบบฉบับของ คุณวีระพล บดีรัฐ หัวหน้างาน – ฝ่ายพัฒนาความรู้ผู้ประกอบวิชาชีพหลักทรัพย์ TSI กันดีกว่า
1. เปิดบัญชีเงินฝากกับธนาคารที่คุณจะกู้ซื้อบ้านเพิ่มขึ้นหนึ่งบัญชี โดยกันไว้ให้เป็นบัญชีสำหรับจ่ายหนี้บ้าน โดยเฉพาะ สมมติให้เรียกว่าบัญชีเดือนที่ 13
2. นำเงินครึ่งหนึ่งของยอดที่ต้องผ่อนบ้านทุกเดือนทะยอยใส่ไว้ในบัญชีในข้อ 1 ทุก 2 สัปดาห์ เช่น หากต้องผ่อนบ้านเดือนละ 4,544.05 บาท ยกตัวอย่างสำหรับบ้านราคา 1 ล้านบาท (คิดดอกเบี้ย 5%) ให้ฝากเงินราย 2 สัปดาห์ที่ยอด 2,272 บาท
Note : ใน 1 ปี มี 52 สัปดาห์นั่นแปลว่า คุณจะมียอดเงินในบัญชีนี้ที่ 2,272 x 26 สัปดาห์ = 59,072
มากกว่าที่ต้องจ่ายหนี้จริง 4,544 x 12 เดือน = 54,528 บาท อยู่ 4,544 บาท หรือมากกว่าอยู่ 1 เดือน
3. เมื่อถึงกำหนดจ่ายเงินงวดปกติ ให้นำเงินส่วนเกิน (4,544 บาท ในข้อ 2) มาแบ่งเป็น 12 งวด ได้ 4,544/12 = 378.67 บาท แล้วจ่ายเพิ่มเข้าไปจากยอดเงินงวดที่ต้องจ่ายรายเดือนปกติ นั่นคือแทนที่จะจ่ายเดือนละ 4,544 บาท ให้จ่ายที่ 4,544.05+378.67= 4,922.72
พอลองมาคำนวนด้วยวิธีการโปะบ้านแบบค่อยๆ โปะ (คือโปะเพิ่มเดือนละ 378.67 บาท) จะทำให้จำนวนปีที่ต้องผ่อนลดลงถึง 4 ปี แถมยังเสียดอกเบี้ยน้อยลงอีกด้วยครับ ด้วยกลยุทธ์เก็บเงินเพิ่มด้วยบัญชีเดือนที่ 13 ทำให้คุณสามารถประหยัดเงินได้ แถมเป็นอิสระจากภาระหนี้ได้เร็วขึ้นอีกอย่างน้อย 4 ปี เรียกว่าสำหรับใครก็ตามที่เริ่มผ่อนตอนอายุ 30 แทนทึ่จะต้องผ่อนไปจนเกษียณ แต่สามารถเป็นไทได้เร็วขึ้น และอาจมีทางเลือกในการเกษียณก่อนกำหนดได้อีกด้วย น่าสนใช่มั้ยล่ะครับ