เรื่องมีอยู่ว่า เจ้าของทีดิ่น ( คุณยาย ) อายุมากแล้ว  เกือบร้อยปี   ต้องการขายที่ดินเพื่อนำเงินที่ได้มาใช้จ่ายในการดูแลตนเอง โดยที่ดินปัจจุบันที่ต้องการขายได้ให้เหลนคนหนึ่งอยู่อาศัยมาตั้งแต่สมัยลูกชาย (ซึ่งเป็นตาของเหลนคนนี่ – ปัจจุบันเสียชีวิตแล้ว ) ได้อยู่อาศัยและประกอบอาชีพค้าขาย  บนที่ดินผืนนี้
    เดิมทีคุณยายก็อาศัยอยู่กับเหลนคนนี้  แต่มีปัญหากัน  เนื่องจากเหลนไม่ได้ดูแลให้มีความสุข และถูกเหลนเขยพูดจาข่มขู่ตลอดเวลา  จึงได้ย้ายออกไปอยู่  สถานพักฟื้นคนชราเอกชน ต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง  ซึ่งมีค่าใช้จ่ายเดือนละประมาณ 15,000 บาท   คุณยายคงเล็งเห็นว่าไม่มีเงินค่าใช้จ่ายในบั้นปลายชีวิต  จึงให้หลาน ๆ  ลูกของลูกอีกคนหนึ่ง   ช่วยประกาศขายที่ดินให้  และมีผู้สนใจจะซื้อที่ดินนี้ แต่ผู้อาศัยไม่ยอมย้ายออกไป  อ้างว่า  ลูกยังเล็ก, ไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน , สุดท้ายขอให้คุณยายยกที่ดินให้เพราะมีสิทธิ์คือเป็นลูกหลาน , จะซื้อที่ไว้เอง แต่ขอผ่อนส่ง  ( เรื่องนี้คุณยายไม่ยอม  เพราะต้องการขายที่เป็นเงินสดเท่านั้น   เพราะที่ผ่านมาเหลนคนนี้ทำไม่ดีกับคุณยายไว้มาก  คุณยายถูกประทุษร้ายด้านจิตใจจนไม่พูดคุยกับเหลนคนนีแล้ว )
    ปัญหามีอยู่ว่าคุณยายและคนอื่น ๆ  ทั้งบุคคลภายนอก (เพื่อนบ้านบริเวณนั้น) และญาติ ๆ (คนละฝ่ายกับเหลนคนนี้)ได้เจรจาขอให้เหลนคนนี้ย้ายออกไป  แต่เหลนคนนี้ไม่ยอมย้ายออกไปค่ะ ทำเฉย ๆ  ขอคำแนะนำจากผู้รู้กฎหมายหรือคนที่มีประสบการณ์ทำนองนี้  ด้วยค่ะ ว่าจะทำอย่างไรคะให้เค้าย้ายออกไป

1. การที่คุณยายได้ให้ตาของเหลน  และเหลนคนนี้ใช้ที่ดินนี้อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ด้วยการทำมาค้าขาย  เป็นเวลานานเกิน 10 แล้ว  ตรงนี้ เหลนจะสามารถเรียกร้องกรรมสิทธิ์ในที่ดินได้มั๊ยคะ ?? (เหลนอยู่ไม่ถึง 10 ปีค่ะ  แต่หากรวมเวลาตาของเค้า (ซึ่งเป็นลูกชายคนหนึ่งของคุณยาย  ก็เกินกว่านั้นค่ะ)

2. ทางผู้ซื้อบอกว่าต้องให้ผู้อาศัยย้ายออกไปก่อนเท่านั้น  จึงจะซื้อและจ่ายเงินให้ (เข้าใจว่าผู้ที่จะซื้อคงไม่อยากมายุ่งยากหรือปวดหัวกับคนอาศัย  จึงให้ทางผู้ขายเคลียร์เรื่องนี้ให้เสร็จก่อน) หากทางผู้ขายจะทำสัญญาจะซื้อจะขายไว้ก่อนจะได้มั๊ยคะ  แล้วนำสัญญานี้ไปแจ้ง/บอกกับผู้อาศัยว่าขายแล้ว  เพื่อให้ผู้อาศัยเชื่อถือว่ามีคนซื้อจริงและยินยอมย้ายออกไป

3.หากการเจรจาไม่ได้ผล  ใช้กฎหมายบังคับได้มั๊ยคะ  ขั้นตอนทางกฎหมายใช้เวลานานมั๊ย ??  มีค่าใช้จ่ายมากหรือเปล่า