“ทอม ครูซ” ออกมายอมรับแล้วว่า ลัทธิ “ไซแอนโทโลจี้” ที่เขาศรัทธาอยู่ คือหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ชีวิตคู่ของเขากับ อดีตภรรยา “เคที่ โฮล์มส์” ต้องสุดสิ้นลง เพราะฝ่ายหญิงเริ่มรู้สึกว่า ไม่อยากให้ “ซูริ” ลูกสาวของทั้งคู่ ต้องโดน “ทอม ครูซ” ซึ่งเป็นพ่อชักจูงเข้าไปเกี่ยวข้องกับกิจกรรมของลัทธินี้อีกแล้ว
มีรายงานว่า ระหว่างการขึ้นเบิกความในคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 50 ล้านเหรียญฯ ที่ ทอม ครูซ ยื่นฟ้องนิตยสาร Bauer ที่รายงานข่าวอ้างว่าเขาทอดทิ้งลูกสาว ด้วยเหตุผลทางศาสนา ที่ห้ามไม่ให้สาวกของลัทธิติดต่อมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ที่ละทิ้งศาสนาไปแล้ว โดยนักแสดงวัย 51 ปี ได้กล่าวอย่างเดือดดาล เมื่อเกิดคำถามจากทนายความของคู่กรณีว่า เคที่ โฮล์มส์ ได้ตีจากไปจากเขา เพราะต้องการปกป้องลูกสาวจากลัทธิไซแอนโทโลจี้
โดยในตอนแรก ทอม ครูซ กล่าวว่าเขาไม่พอใจในคำถามที่เข้าข่ายเป็นการโจมตีเขาแบบนี้ และยืนยันว่า “ลูกสาวเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากศาสนาความเชื่อของเขาแต่อย่างใด”
แต่เมื่อทนายความถามย้ำประเด็นเดิมอีกครั้ง ว่าที่แล้วมาอดีตภรรยาของเขา เคยกล่าวอะไรเป็นนัยรึเปล่า ว่าเธอขอเดินไปจากชีวิตเขา เพราะเป็นเรื่องเหตุผลทางศาสนา ซึ่ง ทอม ครูซ ก็ยอมรับว่า “เธอพูดแบบนั้นเหรอ?? ใช่แล้ว ถูกต้อง นั่นเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาของเธอ”
ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวู๊ดชื่อดังยังยอมรับว่า ณ ขณะนี้ลูกสาววัย 7 ขวบของเขาไมได้ปฏิบัติตัวตามคำสอนของไซแอนโทโลจี้อีกแล้ว ซึ่งการพูดยอมรับเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผู้ศรัทธาลัทธิไซแอนโทโลจี้ ที่มีหลักการว่าคนที่ละทิ้งศาสนาไปถือเป็นเรื่องความผิดร้ายแรง ชนิดที่สมาชิกของลัทธิคนอื่นๆ ต้องตัดขาดการติดต่อกับสมาชิกคนดังกล่าวโดยสิ้นเชิง แม้จะมีความสัมพันธ์เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันก็ตาม
ก่อนหน้านี้อดีตสมาชิกของลัทธิไซแอนโทโลจี้คนหนึ่งเคยให้ข่าวว่า ทอม ครูซ และครอบครัวมักจะได้รับสิทธิพิเศษ รวมถึงการผ่อนปรนกฎระเบียบอันเข้มงวดให้กับเขา และครอบครัวอยู่เสมอ จนเมื่อ ทอม ครูซ โดนภรรยาฟ้องหย่าโดยที่เขาไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน เคที่ โฮล์มส์ ได้ตัดสินใจพาลูกสาวออกจากกิจกรรมของไซแอนโทโลจี้ จนอาจทำให้หนูน้อย ซูริ ครูซ เข้าข่ายเป็น “ผู้ละทิ้ง” ศาสนาไปด้วย ซึ่งตามกฎแล้ว ทอม ครูซ ก็จะต้องตัดขาดการติดต่อกับลูกสาวไปโดยปริยาย
อดีตสาวกของลัทธิไซแอนโทโลจี้คนหนึ่งเคยอธิบายถึงเรื่องนี้ในนิตยสาร Vanity Fair ว่าตามกฎหลักการของไซแอนโทโลจี้แล้ว ถือว่า เคที่ โฮล์มส์ ได้ทำการปฏิเสธไม่ยอมให้ ซูริ ได้มี “วิญญาณนิรันดร์” จากลัทธิ จนถือได้ว่า ซูริ หมดโอกาสจากไซแอนโทโลจี้ไปแล้ว ถือว่าเป็นการละทิ้งลัทธิอย่างร้ายแรง
โดยในการว่าความครั้งนี้ตัวแทนทางกฎหมายของนิตยสาร Bauer ได้ถาม ทอม ครูซ ว่าตอนนี้ทั้งทางลัทธิ และตัวของเขาเอง ได้มองว่า เคที่ โฮล์มส์ คือผู้ละทิ้งไซแอนโทโลจี้ไปแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งเขาได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องที่บิดเบือนไป และ มองสิ่งที่เกิดขึ้นแบบรวบยอด ผมไม่อยากจะอ้างถึงหลักการของศาสนาของตัวเองแบบสรุปรวบยอดอะไรในแบบนั้น”
อย่างไรก็ตาม ทอม ครูซ ยังยอมรับว่าในเว็บไซต์ของไซแอนโทโลจี้ได้ให้ความหมายของคำว่า “ผู้ละทิ้งศาสนา” เอาไว้ตามที่ทนายความของคู่กรณีได้นำเสนอต่อศาลจริง
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000141189
“ทอม ครูซ” ยอมรับแล้ว ที่อดีตภรรยา “เคที่ โฮล์มส์” หอบลูกสาว "น้องซูริ" หนี เพราะลัทธิ “ไซแอนโทโลจี้”
มีรายงานว่า ระหว่างการขึ้นเบิกความในคดีฟ้องร้องเรียกค่าเสียหายมูลค่า 50 ล้านเหรียญฯ ที่ ทอม ครูซ ยื่นฟ้องนิตยสาร Bauer ที่รายงานข่าวอ้างว่าเขาทอดทิ้งลูกสาว ด้วยเหตุผลทางศาสนา ที่ห้ามไม่ให้สาวกของลัทธิติดต่อมีปฏิสัมพันธ์ใดๆ กับผู้ที่ละทิ้งศาสนาไปแล้ว โดยนักแสดงวัย 51 ปี ได้กล่าวอย่างเดือดดาล เมื่อเกิดคำถามจากทนายความของคู่กรณีว่า เคที่ โฮล์มส์ ได้ตีจากไปจากเขา เพราะต้องการปกป้องลูกสาวจากลัทธิไซแอนโทโลจี้
โดยในตอนแรก ทอม ครูซ กล่าวว่าเขาไม่พอใจในคำถามที่เข้าข่ายเป็นการโจมตีเขาแบบนี้ และยืนยันว่า “ลูกสาวเขาไม่จำเป็นต้องได้รับการปกป้องจากศาสนาความเชื่อของเขาแต่อย่างใด”
แต่เมื่อทนายความถามย้ำประเด็นเดิมอีกครั้ง ว่าที่แล้วมาอดีตภรรยาของเขา เคยกล่าวอะไรเป็นนัยรึเปล่า ว่าเธอขอเดินไปจากชีวิตเขา เพราะเป็นเรื่องเหตุผลทางศาสนา ซึ่ง ทอม ครูซ ก็ยอมรับว่า “เธอพูดแบบนั้นเหรอ?? ใช่แล้ว ถูกต้อง นั่นเป็นหนึ่งในข้อกล่าวหาของเธอ”
ซุปเปอร์สตาร์ฮอลลีวู๊ดชื่อดังยังยอมรับว่า ณ ขณะนี้ลูกสาววัย 7 ขวบของเขาไมได้ปฏิบัติตัวตามคำสอนของไซแอนโทโลจี้อีกแล้ว ซึ่งการพูดยอมรับเช่นนี้ ถือเป็นเรื่องใหญ่มากสำหรับผู้ศรัทธาลัทธิไซแอนโทโลจี้ ที่มีหลักการว่าคนที่ละทิ้งศาสนาไปถือเป็นเรื่องความผิดร้ายแรง ชนิดที่สมาชิกของลัทธิคนอื่นๆ ต้องตัดขาดการติดต่อกับสมาชิกคนดังกล่าวโดยสิ้นเชิง แม้จะมีความสัมพันธ์เป็นสมาชิกในครอบครัวเดียวกันก็ตาม
ก่อนหน้านี้อดีตสมาชิกของลัทธิไซแอนโทโลจี้คนหนึ่งเคยให้ข่าวว่า ทอม ครูซ และครอบครัวมักจะได้รับสิทธิพิเศษ รวมถึงการผ่อนปรนกฎระเบียบอันเข้มงวดให้กับเขา และครอบครัวอยู่เสมอ จนเมื่อ ทอม ครูซ โดนภรรยาฟ้องหย่าโดยที่เขาไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัวมาก่อน เคที่ โฮล์มส์ ได้ตัดสินใจพาลูกสาวออกจากกิจกรรมของไซแอนโทโลจี้ จนอาจทำให้หนูน้อย ซูริ ครูซ เข้าข่ายเป็น “ผู้ละทิ้ง” ศาสนาไปด้วย ซึ่งตามกฎแล้ว ทอม ครูซ ก็จะต้องตัดขาดการติดต่อกับลูกสาวไปโดยปริยาย
อดีตสาวกของลัทธิไซแอนโทโลจี้คนหนึ่งเคยอธิบายถึงเรื่องนี้ในนิตยสาร Vanity Fair ว่าตามกฎหลักการของไซแอนโทโลจี้แล้ว ถือว่า เคที่ โฮล์มส์ ได้ทำการปฏิเสธไม่ยอมให้ ซูริ ได้มี “วิญญาณนิรันดร์” จากลัทธิ จนถือได้ว่า ซูริ หมดโอกาสจากไซแอนโทโลจี้ไปแล้ว ถือว่าเป็นการละทิ้งลัทธิอย่างร้ายแรง
โดยในการว่าความครั้งนี้ตัวแทนทางกฎหมายของนิตยสาร Bauer ได้ถาม ทอม ครูซ ว่าตอนนี้ทั้งทางลัทธิ และตัวของเขาเอง ได้มองว่า เคที่ โฮล์มส์ คือผู้ละทิ้งไซแอนโทโลจี้ไปแล้วใช่หรือไม่ ซึ่งเขาได้ตอบคำถามดังกล่าวว่า “นั่นเป็นเรื่องที่บิดเบือนไป และ มองสิ่งที่เกิดขึ้นแบบรวบยอด ผมไม่อยากจะอ้างถึงหลักการของศาสนาของตัวเองแบบสรุปรวบยอดอะไรในแบบนั้น”
อย่างไรก็ตาม ทอม ครูซ ยังยอมรับว่าในเว็บไซต์ของไซแอนโทโลจี้ได้ให้ความหมายของคำว่า “ผู้ละทิ้งศาสนา” เอาไว้ตามที่ทนายความของคู่กรณีได้นำเสนอต่อศาลจริง
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000141189