ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (11 พ.ย.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม เข้าพบนางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนที่จะมีการเข้ามอบตัวต่อตำรวจในวันนี้ (11 พ.ย.) ในข้อหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนางสุรางค์กล่าวว่า สาเหตุที่กระทำเช่นนั้นเนื่องจากว่าตนรู้สึกสงสารลูกสาวที่ถูกทำร้ายมาทั้งหมด 6 ปีเต็ม ถึงขั้นที่ว่ามีการเอาปืนมาขู่ และหลานที่อายุได้ 2 ขวบจะถูกตีอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ทำตามที่นายจักรกฤษณ์บอก พอหมอนิ่มเข้าไปห้ามก็จะถูกเอาไฟจี้ ตนในฐานะคนเป็นแม่ยอมไม่ได้ที่เห็นลูกสาวถูกทำร้ายทุกวันบ่อยๆ จึงบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่ทั้งสองคนไม่ยอมเลิกและให้เหตุผลว่ารักลูกและไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก ตนก็ยอมและทนมานานกว่า 6 ปี จนกระทั่งแม่ของเอ็กซ์เข้าแจ้งความและเอ็กซ์ถูกดำเนินคดี ตนคิดว่าเมื่อหลุดคดีแล้วเอ็กซ์จะทำตัวดีขึ้น แต่ยังก็ยังทำตัวเหมือนเดิม และร้ายขึ้นทุกวัน จนกระทั่งก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความได้ทำร้ายร่างหายหมอนิ่มจนแท้งลูก ตนทำใจไม่ได้ที่ถูกกทำร้ายร่างกาย และเมื่อเป็นแบบนี้คงไม่รอให้ลูกสาวตายก่อน ยืนยันว่าหมอนิ่มไม่ทราบเรื่องที่ตนจ้างฆ่านายเอ็กซ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ตนรู้จักกับ น.ส.วรพรรณภูรี หรือแหม่ม เนื่องจากว่ามาทำหน้าที่บ้านของตนและมีการทำการซื้อขายคอนโดฯ
ด้าน พญ.นิธิวดีกล่าวว่า ตนขอขอบคุณนางปวีณาเป็นอย่างมาก และในวันนี้ตนเตรียมตัวที่จะมาตอบคำถามสื่อทุกเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ทั้งสื่อทีวีและออนไลน์ได้ลงไปนั้น เช่น กรณีที่มีข่าวว่าตนหวังในสมบัติของเอ็กซ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้บอกไปแล้วว่าทรัพสินที่ออกมาจากตู้เซฟนั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของตน ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่าตนถูกเอ็กซ์ทำร้ายจริงหรือไม่นั้น มีหลักฐานทุกอย่าง แต่ในวันนี้ตนสะดวกที่จะให้ตรวจสอบ และเรื่องมือที่ 3 จากที่สงสัยว่าตนจะท้องกับผู้อื่นนั้นตนกับเอ็กซ์ได้พูดคุยกันตลอดว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร เพราะฉะนั้นหลักฐานเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่าตนไม่เคยคบชู้
“ดิฉันอยากขอให้ผู้ชายทุกคนหยุดใช้ความรุนแรง ผู้ชายมีกำลังแต่อย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกเลย เรื่องยาเสพติดด้วย หากพี่เอ็กซ์ไม่ติดยาคงจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ ครอบครัวของดิฉันพังแล้ว ขอให้ครอบครัวของดิฉันเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ส่วนลูกดิฉันจะต้องสอนให้เขาทั้งสองคนรู้จักคำว่ารัก ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ดี ดิฉันก็ต้องชี้ให้เขาทราบว่าสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่ในวันนี้ทำฉันเข้าใจแล้วว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ดิฉันทำให้แม่ร้องไห้มาตลอด 6 ปี และยังทำให้แม่ต้องมาทำผิด หากเป็นไปได้จะขอรับผิดและรับโทษแทนแม่ และในวันนี้ดิฉันคงไม่กล้าทำให้แม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว” พญ.นิธิวดีระบุ
เมื่อถามว่าระหว่างที่คุณแม่เรียกคุณแหม่มเข้ามาพูดคุยขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ทำไมไม่ทราบเรื่อง พญ.นิธิวดีกล่าวว่า วันนั้นตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ เนื่องจากว่าตนได้แท้งลูกและหมอได้ให้ยาสลบไป ทราบเพียงว่ามีคนเข้ามาในห้องแต่ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน และเรื่องนี้คุณแม่ไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเลย แต่พอรู้เรื่องรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากว่าแม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กไม่มีพรรคพวกที่จะสามารถทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ พญ.นิธิวดีได้ก้มลงกราบเท้าแม่ 1 ครั้ง พร้อมกับสวมกอดและร้องไห้
ด้านนางปวีณากล่าวว่า ในวันนี้ทั้งสองคนได้เข้ามามอบตัวกับตำรวจโดยมีการประสานงานเข้ามาที่ตนคิดว่าต้องมีการต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตัวคุณแม่เองก็ยอมรับผิดแล้ว ผิดก็คือผิด ตนในฐานะที่ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอดไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ เรื่องดังกล่าวจะต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผิดก็ว่ากันไปตามผิดจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหากทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ซึ่งวันนี้เป็นหน้าที่ขบวนการยุติธรรม หน้าที่ของตำรวจและหน้าที่ของศาล สำหรับลูกทั้ง 2 คนของนายจักรกฤษณ์ ทาง พม.จะให้จิตแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลความรู้สึก และสร้างความเข้มแข็งให้กับเขาทั้ง ด.ญ.ชมชนก วัย 4 ขวบ และ ด.ช.ปรกรักษา วัย 1 ขวบ
“ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ที่สำคัญอยากให้สามีภรรยาเข้าใจกัน ทำเพื่อลูก เพราะเด็กมีความหมายอย่างยิ่ง และในอนาคตเขาจะต้องเป็นความหวังของชาติ เขาต้องมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ ตนอยากให้ทุกคนปรับเข้าหากันและดีต่อกันหากไปกันไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะแต่งงานและมีลูกกัน เพราะฉะนั้นสามีภรรยาจะต้องมีความเข้าอกเข้าใจกัน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะหนีไม่พ้นลูก” รมว.พม.ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.30 น.ในวันเดียวกัน หลังจากที่ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มเดินทางกลับ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดาของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ได้เดินทางเข้าพบนางปวีณาเช่นกัน โดยนางบุญคิดกล่าวว่าตนไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่ฆ่าเอ็กซ์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้สึกติดใจอะไรพร้อมทั้งให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน จึงอยากฝากให้หมอนิ่มดูแลตัวเองและลูกๆ ให้ดี
ด้านนายมานพกล่าวว่า ตนไม่ขอถือโทษโกรธใคร เพราะหากทำไปลูกชายก็ไม่ฟื้นขึ้นมา แต่อยากฝากถึงลูกสะใภ้ว่าขอให้มีชีวิตอยู่ไปนานๆ จะได้ทราบว่านรกมีจริง และฝากไปถึงเอ็กซ์ว่าขอให้หลับให้สบายในวันนี้ตำรวจได้ตัวคนร้ายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าพบนางปวีณาครั้งนี้มี พล.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผกก.น.3 จาก สน.มีนบุรี ได้เดินทางมาเพื่อรับตัวที่ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มเดินทางไปที่ สน.มีนบุรีต่อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับเรื่องการประกันตัวนั้นต้องดูตามหลักเกณฑ์หากไม่มีการหลบหนีก็สามารถประกันตัวได้ในชั้นสอบสวนโดยทั้งหมดให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้ให้ประกันตัว พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา ในชั้นสอบสวนเนื่องจากได้เดินทางเข้ามอบตัวตามกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา อีกทั้งยังมีรายงานด้วยว่านางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ช่วยรับรองทั้งคู่ด้วยตำรวจจึงพิจารณาให้ประกันตตัวในชั้นสอบสวนตามกระบวนการตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัว นายสันติ หรืออีส ทองเสม อายุ 28 ปี ทนายความ ผู้รับงาน และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 32 ปี คนขี่จักรยานยนต์ไว้ได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนจากนั้น ตำรวจจะนำตัวมาให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.แถลงข่าวต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000140278
ปล
อยากเห็นหลักฐาน ที่บอกว่าทำร้ายร่างกาย 6 ปี เต็ม ทำร้ายร่างกายทุกวัน ทำร้ายหลาน ใช้ไฟช๊อตตามร่างกาย และโดนเอ็กซ์ทำร้าย จนแท้งลูก ครับ งัดหลักฐานทางการแพทย์ และแจ้งความทำร้ายร่างกาย รวมถึงรูปถ่าย และรอยแผลตามร่างกาย (มันไม่มีทางไม่มีร่องรอย!! ถ้าโดนขนาดนั้น)
เชื่อกันไหม...หมอนิ่ม ยันทรัพย์สินในเซฟ x ของตนหมด และถูกทำร้ายจนแท้งลูก ปัดมีคนอื่น ฮุบสมบัติ ?
ความคืบหน้าในคดีนี้ เมื่อเวลา 11.00 น.วันนี้ (11 พ.ย.) ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่ม เข้าพบนางปวีณา หงสกุล รมว.กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ก่อนที่จะมีการเข้ามอบตัวต่อตำรวจในวันนี้ (11 พ.ย.) ในข้อหาร่วมกันใช้ให้ผู้อื่นกระทำผิดฐานฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน โดยนางสุรางค์กล่าวว่า สาเหตุที่กระทำเช่นนั้นเนื่องจากว่าตนรู้สึกสงสารลูกสาวที่ถูกทำร้ายมาทั้งหมด 6 ปีเต็ม ถึงขั้นที่ว่ามีการเอาปืนมาขู่ และหลานที่อายุได้ 2 ขวบจะถูกตีอยู่บ่อยครั้ง หากไม่ทำตามที่นายจักรกฤษณ์บอก พอหมอนิ่มเข้าไปห้ามก็จะถูกเอาไฟจี้ ตนในฐานะคนเป็นแม่ยอมไม่ได้ที่เห็นลูกสาวถูกทำร้ายทุกวันบ่อยๆ จึงบอกให้ทั้งคู่เลิกกัน แต่ทั้งสองคนไม่ยอมเลิกและให้เหตุผลว่ารักลูกและไม่อยากให้ครอบครัวแตกแยก ตนก็ยอมและทนมานานกว่า 6 ปี จนกระทั่งแม่ของเอ็กซ์เข้าแจ้งความและเอ็กซ์ถูกดำเนินคดี ตนคิดว่าเมื่อหลุดคดีแล้วเอ็กซ์จะทำตัวดีขึ้น แต่ยังก็ยังทำตัวเหมือนเดิม และร้ายขึ้นทุกวัน จนกระทั่งก่อนที่จะเข้ามาแจ้งความได้ทำร้ายร่างหายหมอนิ่มจนแท้งลูก ตนทำใจไม่ได้ที่ถูกกทำร้ายร่างกาย และเมื่อเป็นแบบนี้คงไม่รอให้ลูกสาวตายก่อน ยืนยันว่าหมอนิ่มไม่ทราบเรื่องที่ตนจ้างฆ่านายเอ็กซ์แต่อย่างใด ทั้งนี้ตนรู้จักกับ น.ส.วรพรรณภูรี หรือแหม่ม เนื่องจากว่ามาทำหน้าที่บ้านของตนและมีการทำการซื้อขายคอนโดฯ
ด้าน พญ.นิธิวดีกล่าวว่า ตนขอขอบคุณนางปวีณาเป็นอย่างมาก และในวันนี้ตนเตรียมตัวที่จะมาตอบคำถามสื่อทุกเรื่องเกี่ยวกับประเด็นต่างๆ ทั้งสื่อทีวีและออนไลน์ได้ลงไปนั้น เช่น กรณีที่มีข่าวว่าตนหวังในสมบัติของเอ็กซ์ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ตนได้บอกไปแล้วว่าทรัพสินที่ออกมาจากตู้เซฟนั้นเป็นสมบัติส่วนตัวของตน ส่วนกรณีที่หลายคนสงสัยว่าตนถูกเอ็กซ์ทำร้ายจริงหรือไม่นั้น มีหลักฐานทุกอย่าง แต่ในวันนี้ตนสะดวกที่จะให้ตรวจสอบ และเรื่องมือที่ 3 จากที่สงสัยว่าตนจะท้องกับผู้อื่นนั้นตนกับเอ็กซ์ได้พูดคุยกันตลอดว่าจะตั้งชื่อลูกว่าอะไร เพราะฉะนั้นหลักฐานเรื่องนี้ก็มีอยู่ว่าตนไม่เคยคบชู้
“ดิฉันอยากขอให้ผู้ชายทุกคนหยุดใช้ความรุนแรง ผู้ชายมีกำลังแต่อย่าทำแบบนี้กับผู้หญิงอีกเลย เรื่องยาเสพติดด้วย หากพี่เอ็กซ์ไม่ติดยาคงจะไม่ทำเรื่องแบบนี้ ครอบครัวของดิฉันพังแล้ว ขอให้ครอบครัวของดิฉันเป็นอุทาหรณ์ให้กับทุกคน ส่วนลูกดิฉันจะต้องสอนให้เขาทั้งสองคนรู้จักคำว่ารัก ถึงแม้ว่าพ่อของเขาจะไม่ดี ดิฉันก็ต้องชี้ให้เขาทราบว่าสิ่งที่ไม่ดีเป็นอย่างไร และสิ่งที่สำคัญที่ในวันนี้ทำฉันเข้าใจแล้วว่าความรักของแม่ยิ่งใหญ่แค่ไหน ดิฉันทำให้แม่ร้องไห้มาตลอด 6 ปี และยังทำให้แม่ต้องมาทำผิด หากเป็นไปได้จะขอรับผิดและรับโทษแทนแม่ และในวันนี้ดิฉันคงไม่กล้าทำให้แม่ร้องไห้อีกต่อไปแล้ว” พญ.นิธิวดีระบุ
เมื่อถามว่าระหว่างที่คุณแม่เรียกคุณแหม่มเข้ามาพูดคุยขณะที่อยู่โรงพยาบาลนั้น ทำไมไม่ทราบเรื่อง พญ.นิธิวดีกล่าวว่า วันนั้นตนไม่ทราบเรื่องนี้จริงๆ เนื่องจากว่าตนได้แท้งลูกและหมอได้ให้ยาสลบไป ทราบเพียงว่ามีคนเข้ามาในห้องแต่ไม่ทราบว่าคุยเรื่องอะไรกัน และเรื่องนี้คุณแม่ไม่เคยเล่าอะไรให้ตนฟังเลย แต่พอรู้เรื่องรู้สึกตกใจมาก เนื่องจากว่าแม่เป็นผู้หญิงตัวเล็กไม่มีพรรคพวกที่จะสามารถทำเรื่องอะไรแบบนี้ได้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่แถลงข่าวเสร็จ พญ.นิธิวดีได้ก้มลงกราบเท้าแม่ 1 ครั้ง พร้อมกับสวมกอดและร้องไห้
ด้านนางปวีณากล่าวว่า ในวันนี้ทั้งสองคนได้เข้ามามอบตัวกับตำรวจโดยมีการประสานงานเข้ามาที่ตนคิดว่าต้องมีการต่อสู้ไปตามกระบวนการยุติธรรม ซึ่งตัวคุณแม่เองก็ยอมรับผิดแล้ว ผิดก็คือผิด ตนในฐานะที่ดูแลครอบครัวนี้มาโดยตลอดไม่อยากให้เรื่องแบบนี้ เรื่องดังกล่าวจะต้องว่าไปตามกระบวนการยุติธรรม ผิดก็ว่ากันไปตามผิดจะไม่มีการให้ความช่วยเหลือใดๆ ทั้งสิ้น เพราะหากทำผิดก็ต้องยอมรับผิด ซึ่งวันนี้เป็นหน้าที่ขบวนการยุติธรรม หน้าที่ของตำรวจและหน้าที่ของศาล สำหรับลูกทั้ง 2 คนของนายจักรกฤษณ์ ทาง พม.จะให้จิตแพทย์และนักสังคมสงเคราะห์เข้าไปดูแลความรู้สึก และสร้างความเข้มแข็งให้กับเขาทั้ง ด.ญ.ชมชนก วัย 4 ขวบ และ ด.ช.ปรกรักษา วัย 1 ขวบ
“ไม่อยากให้เรื่องดังกล่าวเกิดขึ้น ที่สำคัญอยากให้สามีภรรยาเข้าใจกัน ทำเพื่อลูก เพราะเด็กมีความหมายอย่างยิ่ง และในอนาคตเขาจะต้องเป็นความหวังของชาติ เขาต้องมีชีวิตอยู่บนโลกใบนี้ได้ ตนอยากให้ทุกคนปรับเข้าหากันและดีต่อกันหากไปกันไม่ได้ก็ไม่ควรที่จะแต่งงานและมีลูกกัน เพราะฉะนั้นสามีภรรยาจะต้องมีความเข้าอกเข้าใจกัน เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นจะหนีไม่พ้นลูก” รมว.พม.ระบุ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เวลา 11.30 น.ในวันเดียวกัน หลังจากที่ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มเดินทางกลับ นายมานพ พณิชย์ผาติกรรม และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดาและมารดาของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม ได้เดินทางเข้าพบนางปวีณาเช่นกัน โดยนางบุญคิดกล่าวว่าตนไม่คาดคิดมาก่อนว่าจะเป็นคนใกล้ตัวที่ฆ่าเอ็กซ์ อย่างไรก็ตาม ตนไม่รู้สึกติดใจอะไรพร้อมทั้งให้อภัยกับเรื่องที่เกิดขึ้น ยอมรับว่าขณะนี้มีความเป็นห่วงหลานทั้ง 2 คน จึงอยากฝากให้หมอนิ่มดูแลตัวเองและลูกๆ ให้ดี
ด้านนายมานพกล่าวว่า ตนไม่ขอถือโทษโกรธใคร เพราะหากทำไปลูกชายก็ไม่ฟื้นขึ้นมา แต่อยากฝากถึงลูกสะใภ้ว่าขอให้มีชีวิตอยู่ไปนานๆ จะได้ทราบว่านรกมีจริง และฝากไปถึงเอ็กซ์ว่าขอให้หลับให้สบายในวันนี้ตำรวจได้ตัวคนร้ายแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในการเข้าพบนางปวีณาครั้งนี้มี พล.ต.อ.สราวุธ จินดาคำ ผกก.สน.มีนบุรี พ.ต.อ.เอก เอกศาสตร์ รอง ผกก.น.3 จาก สน.มีนบุรี ได้เดินทางมาเพื่อรับตัวที่ พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา มารดาของหมอนิ่มเดินทางไปที่ สน.มีนบุรีต่อเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย สำหรับเรื่องการประกันตัวนั้นต้องดูตามหลักเกณฑ์หากไม่มีการหลบหนีก็สามารถประกันตัวได้ในชั้นสอบสวนโดยทั้งหมดให้ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของเจ้าหน้าที่
รายงานข่าวแจ้งว่า ตำรวจได้ให้ประกันตัว พญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ หรือหมอนิ่ม และนางสุรางค์ ดวงจินดา ในชั้นสอบสวนเนื่องจากได้เดินทางเข้ามอบตัวตามกฎหมายยังถือว่าเป็นผู้ถูกกล่าวหา อีกทั้งยังมีรายงานด้วยว่านางปวีณา หงสกุล รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้ช่วยรับรองทั้งคู่ด้วยตำรวจจึงพิจารณาให้ประกันตตัวในชั้นสอบสวนตามกระบวนการตามกฎหมาย
รายงานข่าวแจ้งว่า ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสามารถติดตามจับกุมตัว นายสันติ หรืออีส ทองเสม อายุ 28 ปี ทนายความ ผู้รับงาน และนายธวัชชัย หรืออ้น เพชรโชติ อายุ 32 ปี คนขี่จักรยานยนต์ไว้ได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนจากนั้น ตำรวจจะนำตัวมาให้ พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.แถลงข่าวต่อไป
http://www.manager.co.th/Crime/ViewNews.aspx?NewsID=9560000140278
ปล อยากเห็นหลักฐาน ที่บอกว่าทำร้ายร่างกาย 6 ปี เต็ม ทำร้ายร่างกายทุกวัน ทำร้ายหลาน ใช้ไฟช๊อตตามร่างกาย และโดนเอ็กซ์ทำร้าย จนแท้งลูก ครับ งัดหลักฐานทางการแพทย์ และแจ้งความทำร้ายร่างกาย รวมถึงรูปถ่าย และรอยแผลตามร่างกาย (มันไม่มีทางไม่มีร่องรอย!! ถ้าโดนขนาดนั้น)