ภายในเวลาไล่เลี่ยกันหลังจากที่นางสุรางค์ ดวงจินดา และพ.ญ.นิธิวดี ภู่เจริญยศ เดินทางกลับแล้วนั้น นายมานพ และนางบุญคิด พณิชย์ผาติกรรม บิดามารดาของนายจักรกฤษณ์ พณิชย์ผาติกรรม หรือ “เอ็กซ์” ได้เดินทางมาพบกับนางปวีณา หงสกุล รมว.พม. ภายในห้องประชุมชั้น 9 ด้วยสีหน้าเศร้าสลด โดยนางปวีณา กล่าวว่า ทั้งคู่ต้องการจะมาที่นี่เพื่อมาขอบคุณที่ดูแลครอบครัวมาตลอด และรู้สึกดีใจที่ทางการจับคนร้ายได้แล้ว
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามนางสุรางค์ถึงความรู้สึกหลังจากที่รู้ตัวคนร้ายแล้วนั้น นางสุรางค์ กล่าวว่า นึกไม่ถึงว่าเป็นคนใกล้ตัวเราจริงๆ ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสเจอหมอนิ่ม วันนี้ที่มาพบนางปวีณา ก็เพื่อมากราบขอบคุณที่ดูแลครอบครัวเราเป็นอย่างดี ท่านเอาใจใส่ครอบครัวเรามาก ขณะที่นางบุญคิด กล่าวเสริมว่า ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก ไม่รู้ใครจะดูแลหลาน ยังไม่เคยได้เจอหลานเลย วันที่เจอหมอนิ่ม และหลานวันสุดท้าย คือวันที่เอากระดูกลูกไปลอยอังคาร และก็แวะมาหาเขาที่บ้านหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ปกติเราก็ไม่ได้มานั่งคุยกันอยู่แล้ว แต่ก็บอกลูกสะใภ้ว่าเป็นห่วงนะ ต่อไปนี้ต้องหาเงินคนเดียวแล้วนะ เราไม่ได้คุยกับคุณแม่หรือหมอนิ่มเลย
“ตอนนี้สงสารหลาน พี่เลี้ยงของหลานเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่ของเขาขับรถผ่านสถานที่ที่เอ็กซ์โดยยิง ที่ซอย 116 หลานที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเรียกหาพ่อ ว่า ปะป๊า ปะป๊า แล้วตอนที่เราไปเยี่ยมเขาที่บ้าน เขาก็ร้องเรียกหาพ่อ เขาคงคิดถึงพ่อ และเราเองก็เสียใจ”
“แม่ขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ที่ติดตามทำข่าวลูกชายมาตลอด ช่วยเหลือตลอด แม่ในฐานะแม่ เห็นใจทั้งสองฝ่าย ถามว่าแม่โกรธเขาไหม แม่ไม่โกรธ เราหัวอกเป็นแม่เรารู้ว่าหากลูกเราถูกทำร้ายเราก็เจ็บปวด ไม่โกรธทั้งสองคน ไม่อาฆาตเลย คือในครอบครัวก็มีปากเสียงกัน อย่างเวลาลูกชายจะถามอะไรเขา เขาจะไม่ตอบทันที แล้วลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อน คือถามให้ตอบ แต่เขาจะไม่ตอบ ต้องพูดหลายๆครั้ง ก็เลยมีปากเสียงกัน”
ทั้งนี้ นางบุญคิด ยอมรับว่านางสุรางค์เคยโทรมาปรึกษาเรื่องปัญหาชีวิตคู่ของทั้งสองคนเช่นกัน "แม่ของหมอนิ่มเองก็เคยพูดว่า ทำไมต้องรีบร้อนให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เคยมาพูดให้ห่างกัน แยกกันอยู่ปีนึงไหม เราก็ตอบเขาไปว่า แล้วแต่พวกเขา เราจะไปบังคับเขาไม่ได้ ปกติลูกชายอยากทำอะไรห้ามไม่ได้ อย่างเวลาจะสั่งสอนเอ็กซ์ ต้องไม่มีช่องให้เขาได้โต้แย้งอะไรเลยก็ได้แต่บอกให้เขาดูแลลูกที่ดี ให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง อันนี้เราสอนเขาเขาก็จะไม่โต้แย้ง หากไปพูดเรื่องอื่นที่โต้แย้งได้ เขาก็จะไม่ฟังเรา" นางบุญคิด กล่าว
นางบุญคิด กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้แต่คิดว่าลูกชายของเราไปสบายแล้ว ไม่ต้องเหนื่อย หมดทุกข์แล้ว บางทีก็เหมือนหลอกตัวเองเพราะเวลาเห็นรูปของเขาที่บ้าน ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า นี่ลูกเราตายแล้วจริงหรือเปล่า ในใจเราว่างเปล่ามาก ปลดปล่อย ไม่โกรธแค้นอะไร ไม่คิดเลย เพราะโกรธ แค้นไปก็เท่านั้น ลูกของเราไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว หากให้แม่เดานะ ที่แม่ของหมอนิ่มตัดสินใจจางวานฆ่า ก็คงเป็นเพราะไม่อยากให้ลูกสาวของเขากลับไปอยู่ในสภาพเดิมๆอีกแล้ว เราเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี ครั้งนี้ก็ได้พูดว่าคนที่ทำร้ายลูกเป็นคนใกล้ตัวลูกจริงๆ แม่ก็ต้องพยายามดูแลหลาน ลูกตายไปแล้ว ตอนนี้เรายังไม่เจอหลานเลย คิดถึงมาก"
คำสัมภาษณ์ จากแม่เอ็กซ์-จักรกฤษณ์ นับถือในน้ำใจจริงๆ---------
และเมื่อผู้สื่อข่าวถามนางสุรางค์ถึงความรู้สึกหลังจากที่รู้ตัวคนร้ายแล้วนั้น นางสุรางค์ กล่าวว่า นึกไม่ถึงว่าเป็นคนใกล้ตัวเราจริงๆ ที่ผ่านมายังไม่มีโอกาสเจอหมอนิ่ม วันนี้ที่มาพบนางปวีณา ก็เพื่อมากราบขอบคุณที่ดูแลครอบครัวเราเป็นอย่างดี ท่านเอาใจใส่ครอบครัวเรามาก ขณะที่นางบุญคิด กล่าวเสริมว่า ตอนนี้เป็นห่วงหลานมาก ไม่รู้ใครจะดูแลหลาน ยังไม่เคยได้เจอหลานเลย วันที่เจอหมอนิ่ม และหลานวันสุดท้าย คือวันที่เอากระดูกลูกไปลอยอังคาร และก็แวะมาหาเขาที่บ้านหลังจากนั้นก็ไม่ได้เจอกันอีกเลย ปกติเราก็ไม่ได้มานั่งคุยกันอยู่แล้ว แต่ก็บอกลูกสะใภ้ว่าเป็นห่วงนะ ต่อไปนี้ต้องหาเงินคนเดียวแล้วนะ เราไม่ได้คุยกับคุณแม่หรือหมอนิ่มเลย
“ตอนนี้สงสารหลาน พี่เลี้ยงของหลานเล่าให้ฟังว่า ตอนที่แม่ของเขาขับรถผ่านสถานที่ที่เอ็กซ์โดยยิง ที่ซอย 116 หลานที่หลับอยู่ก็ตื่นขึ้นมาเรียกหาพ่อ ว่า ปะป๊า ปะป๊า แล้วตอนที่เราไปเยี่ยมเขาที่บ้าน เขาก็ร้องเรียกหาพ่อ เขาคงคิดถึงพ่อ และเราเองก็เสียใจ”
“แม่ขอบพระคุณผู้สื่อข่าวทุกสำนัก ที่ติดตามทำข่าวลูกชายมาตลอด ช่วยเหลือตลอด แม่ในฐานะแม่ เห็นใจทั้งสองฝ่าย ถามว่าแม่โกรธเขาไหม แม่ไม่โกรธ เราหัวอกเป็นแม่เรารู้ว่าหากลูกเราถูกทำร้ายเราก็เจ็บปวด ไม่โกรธทั้งสองคน ไม่อาฆาตเลย คือในครอบครัวก็มีปากเสียงกัน อย่างเวลาลูกชายจะถามอะไรเขา เขาจะไม่ตอบทันที แล้วลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อน คือถามให้ตอบ แต่เขาจะไม่ตอบ ต้องพูดหลายๆครั้ง ก็เลยมีปากเสียงกัน”
ทั้งนี้ นางบุญคิด ยอมรับว่านางสุรางค์เคยโทรมาปรึกษาเรื่องปัญหาชีวิตคู่ของทั้งสองคนเช่นกัน "แม่ของหมอนิ่มเองก็เคยพูดว่า ทำไมต้องรีบร้อนให้กลับมาอยู่ด้วยกัน เคยมาพูดให้ห่างกัน แยกกันอยู่ปีนึงไหม เราก็ตอบเขาไปว่า แล้วแต่พวกเขา เราจะไปบังคับเขาไม่ได้ ปกติลูกชายอยากทำอะไรห้ามไม่ได้ อย่างเวลาจะสั่งสอนเอ็กซ์ ต้องไม่มีช่องให้เขาได้โต้แย้งอะไรเลยก็ได้แต่บอกให้เขาดูแลลูกที่ดี ให้เป็นสิริมงคลแก่ตัวเอง อันนี้เราสอนเขาเขาก็จะไม่โต้แย้ง หากไปพูดเรื่องอื่นที่โต้แย้งได้ เขาก็จะไม่ฟังเรา" นางบุญคิด กล่าว
นางบุญคิด กล่าวอีกว่า ตอนนี้ได้แต่คิดว่าลูกชายของเราไปสบายแล้ว ไม่ต้องเหนื่อย หมดทุกข์แล้ว บางทีก็เหมือนหลอกตัวเองเพราะเวลาเห็นรูปของเขาที่บ้าน ก็ได้แต่ถามตัวเองว่า นี่ลูกเราตายแล้วจริงหรือเปล่า ในใจเราว่างเปล่ามาก ปลดปล่อย ไม่โกรธแค้นอะไร ไม่คิดเลย เพราะโกรธ แค้นไปก็เท่านั้น ลูกของเราไม่ได้ฟื้นขึ้นมาอีกแล้ว หากให้แม่เดานะ ที่แม่ของหมอนิ่มตัดสินใจจางวานฆ่า ก็คงเป็นเพราะไม่อยากให้ลูกสาวของเขากลับไปอยู่ในสภาพเดิมๆอีกแล้ว เราเข้าใจหัวอกคนเป็นแม่ดี ครั้งนี้ก็ได้พูดว่าคนที่ทำร้ายลูกเป็นคนใกล้ตัวลูกจริงๆ แม่ก็ต้องพยายามดูแลหลาน ลูกตายไปแล้ว ตอนนี้เรายังไม่เจอหลานเลย คิดถึงมาก"