ที่บ้านเป็นทาวเฮ้าส์แล้วเปิดเป็นร้านขายของชำเล็กๆ อยู่ในหมู่บ้านค่ะ ปัจจุบันตัวดิฉันเองอาศัยอยู่กับแม่สองคน
ส่วนบ้านตรงข้ามนั้นเป็นป้าพยาบาลอาศัยอยู่กับสามี และมีลูกชายหนึ่งคนแยกออกไปมีครอบครัวแล้ว
แต่ก่อนก็ยังปกติดีทุกอย่างค่ะ ยังฝากแม่ของดิฉันช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฝากบ้านเวลาไม่อยู่
หรือแม้กระทั่งตัวสามีบ้านฝั่งตรงข้ามไม่สบาย พ่อดิฉันก็ช่วยขับรถไปส่งโรงพยาบาลให้ตอนดึก
จนวันนึงแม่ดิฉันลืมจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้เพียงครั้งเดียว และเรื่องรถเก็บขยะถอยมาชนเก้าอี้หินอ่อนของบ้านตรงข้ามแตก
แล้วแม่ของดิฉันเห็นแต่บอกบ้านป้าพยาบาลฝั่งตรงข้ามว่าไม่เห็นว่าใครทำ เพราะแม่ไม่อยากให้เขามีปากเสียงกัน
หลังจากนั้นบ้านฝั่งตรงข้ามก็เริ่มไม่คบใคร ไม่ค่อยมีใครคบค่ะ คือออกจะมีนิสัยแปลกๆ แบบไม่เอาใครเลย
ตัวอย่างคือ 1. เวลาบ้านอื่นมีปาร์ตี้สังสรรค์กันกินอะไรหน้าบ้าน อย่างบ้านข้างๆ ของตัวป้าพยาบาล
เขาก็เอายากันยุงมาฉีดใกล้ๆ วงปาร์ตี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรบาดหมางกัน
2. ป้าพยาบาลบ้านตรงข้ามเขาเคยโทรมาด่าแม่ของดิฉัน เรื่องนี้พ่อเคยเล่าให้ฟังสมัยยังมีชีวิตอยู่
ซึ่งตอนนั้นพ่อไปทำงาน พอกลับมาแล้วรู้พ่อของดิฉันเลยไปคุยกับสามีของพยาบาลบ้านฝั่งตรงข้าม
ว่าพ่อดิฉันรู้ดีว่าตัวแม่เป็นยังไง แม่ไม่เคยมีนิสัยอย่างที่เขาด่า และขอให้หยุดอย่ามาล้ำเส้นกัน
ตัวสามีของป้าพยาบาลก็ได้ด่าว่าตักเตือนฝ่ายตัวเอง แล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป..
3. ตัวป้าพยาบาลชอบยืนเชิด ทำปากเบี้ยว มองค้อนชาวบ้านเขาไปทั่วตั้งแต่เด็กยันคนโต
เวลาออกมาจากบ้านเพื่อตากผ้าค่ำๆ หรือก่อน-หลังกลับมาจากที่ทำงาน
แม้กระทั่งเด็กๆ ในหมู่บ้านเองตั้งฉายาให้ป้าพยาบาลแกว่า "อีแบะ"
4. อาที่อยู่ระแวกบ้านขับรถผ่านก็เจอป้าแกชูรองเท้าใส่แบบตั้งใจยกใส่ให้เขา หรือแม้กระทั่งนิ้วกลาง
แล้วยิ้มแบบเชิดๆ จนต้องลงจากรถไปถามว่ายกให้ผมทำำไม ผมทำอะไรให้ ป้าแกก็เชิดเดินปากเบี้ยวเข้าบ้าน
** 5. ป้าแกชอบด่าลอยๆ แบบไม่เอ่ยชื่อ อย่างอีกะหรี่ ดอก.. สารพัดคำด่า บลา บลา (ไม่รู้ว่าในพันทิปใช้คำหยาบได้รึเปล่า)
ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครนอกจากตัวคุณเอง คุณคิดว่าป้าแกด่าใคร เรื่องนี้โดนหลายคนมาก
ทั้งแม่ดิฉัน ตัวดิฉันเอง น้าๆ ป้าๆ ข้างบ้าน แม้กระทั่งลูกค้าที่มานั่งม้าหินอ่อนหน้าบ้านดิฉันก็โดนกันหมด
อาการเหล่านี้ตั้งแต่ข้อ 3 - 5 เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังจากที่พ่อของดิฉันเสียไปแล้วค่ะ
คนในซอยในหมู่บ้านรู้กิตติศัพท์ป้าแกดีว่าเป็นไง เขาก็บอกว่าไม่ต้องอะไรมันๆ บ้า ประสาท โรคจิต
คนที่โดนบ้างก็เงียบเฉยๆ ไปถือว่ามันด่าแล้วก็เข้าตัวมันเอง แต่เจอหนักๆ เข้าจนประสาทจะเสีย
จนขึ้นโรงพักป้าแกมีคู่กรณีหลายคนเลยค่ะในซอย ก็ได้แค่ลงบันทึกประจำวันเหมือนแค่ทะเลาะวิวาทเฉยๆ
มีครั้งนึงที่น้าแถวบ้านไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วตำรวจก็มาเรียกตัวป้าแกมาสอบถาม
ตำรวจยังยืนอยู่หน้าบ้านไม่ทันเข้าบ้านป้าแกเลยค่ะ ป้าแกบอกว่าตำรวจไปล็อคประตูบ้านแก
ป้าแกออกไม่ได้ เรื่องนี้จากเซงๆ ก็แอบขำค่ะ แบบป้าแกเป็นเอามาก
อันนี้ตำรวจบอกเองเลยนะคะว่าป้าแกไม่ธรรมดาละ ถ้าเกิดมีเรื่องตบตีก็แค่เบาะๆ พอ
เสียค่าปรับแค่ 500 บาท อย่าให้เลือดออกเดี๋ยวจะเป็นคดีอาญา อันนี้คุณตำรวจแนะนำมาเองเลยค่ะ
อย่างแม่ดิฉันเปิดร้านมาต้องเจอแบบนี้ทุกเช้าก็เริ่มจะไม่ไหว บางทีแม่ใส่บาตร ป้าแกก็แบบพูดลอยๆ
ใส่บาตรคงหวังอยากได้ผัวใหม่จนตัวสั่น แต่แม่ของดิฉันเป็นคนที่ไม่อะไรใครเลยเฉยๆ มีบ้างที่ถามมันว่าด่าใคร
แต่ป้าแกบอกว่าคุยโทรศัพท์ ซึ่งมันไม่ใช่ไม่มีทั้งมือถือ สมอลทอค หรือบลูทูธไรเลย
อย่างเหตุการณ์ที่ดิฉันเจอก็มีตอนเข้ามหาลัยรัฐได้ มันก็ด่าลอยๆ มาว่าอีกะหรี่ (ชื่อมหาัลัย)
ตอนนั้นฉันไม่ได้ยิน แต่ตัวแม่ของดิฉันได้ยินว่ามันด่างี้เข้าบ้านมาแม่ถึงบอก
ถ้าแม่บอกตั้งแต่ตอนนั้น หรือตัวดิฉันได้ยินเองคงฟิวส์ขาดไปแล้ว
เรื่องโดนด่าลอยๆ เจอกันแทบทุกวัน ไม่มีใครสนใจป้าแกหรอกค่ะ
มีแต่ป้าแกที่สนใจจ้องจะหาเรื่อง ด่าคนอื่นเขาลอยๆ ใครที่ไม่เจอไม่มาอยู่ตรงนี้ไม่เข้าใจความรู้สึกหรอกค่ะ
บอกสามีป้าแกก็แ้ล้ว เขาก็แค่บอกว่าถ้าฝั่งเขาด่าก่อนก็ไปแจ้งความเอา บอกเพียงแค่นั้น
จนไม่กี่วันก่อนป้าแกด่าลูกค้าผู้ชายที่มาซื้อของบ้านดิฉันว่าหน้าตัวเมี.. แต่เขาไม่สนใจมองแล้วก็เดินไปที่รถ
แล้วป้าแกยังไม่จบค่ะ โชว์นิ้วกลางให้พี่ผู้ชายอีกคนที่เป็นทำงานกับพี่คนแรกที่โดนด่าว่าหน้าตัวเมี..เขาก็พูด
อ้าว.. ป้ายกนิ้วให้ผมทำไม ทีนี้สารพัดคำด่าออกจากปากป้าแกเลยค่ะ ทั้งหน้าตัวเมี.. หน้า..ี เอาผ้าถุงแม่มานุ่งไป
สารพัดคำด่า แล้วป้าแกก็เบ่งว่าแกเป็นพยาบาล C7 พวกพี่ๆ เขาก็แค่ลูกจ้างกระจอกขี้ตีน พวกสถุ.. ป้าแกบอกว่าไม่รู้จักกัน
พี่เขาก็บอกไม่รู้จักแล้วมาด่ามาทำงี้กับเขาได้ไง ป้าแกเดินเข้ามาเหมือนจะหาเรื่องพี่ผู้ชาย เขาเลยผลักไหล่ป้าแกไปทีนึง
ป้าแกวิ่งไปที่รถที่จอดหน้าบ้าน แล้วหยิบมีดยาวประมาณศอกออกมาแล้วเดินไปหาพวกพี่ผู้ชายค่ะ
แต่เดินไม่ทันถึงตัว สามีป้าแกก็มาห้ามแล้วก็เหมือนเดิมค่ะ พี่ผู้ชายก็บอกว่าป้าแกด่ามาก่อน
สามีป้าแกก็แค่บอกว่าถ้าฝั่งแกด่าก่อนก็ไปแจ้งความเอา ไปฟังใครเล่าไรให้ฟังแล้วมาหาเรื่องเมียเขา
ซึ่งพี่แกก็บอกไปว่าไม่มีใครเล่าไรให้ผมฟัง ผมเจอกับตัวผมเอง น้าผู้หญิงแถวบ้านที่เป็นหัวหน้าพี่ทั้งสองที่โดนด่าเขาก็ออกมาจะช่วย
แต่ก็โดนด่ากลับว่าเผือก แต่น้าก็บอกว่านี่ลูกน้องเขามาด่าแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าลูกน้องเขาเป็นยังไง รู้ดีว่าใครไรยังไง
น้าก็สวนกลับถ้าลืมกินยาก็กินยาซะ หรือถ้าเครียดจากที่ทำงานก็หายากิน อย่ามาบ้าระรานชาวบ้านเขา
ฝ่ายสามีก็พยายามผลักป้าแกเข้ารถ ป้าแกก็ตะโกนออกมาว่าเดี๋ยวกูกลับมาเจอกัน แล้วก็ออกไป
คือป้าคนนี้ทำงานเป็นพยาบาลโรงพยาบาลที่บำบัดยาเสพติดแถวรังสิตค่ะ ไม่รู้ว่าป้าแกเครียดจากที่ทำงาน
หรือแกมีปัญหาอะไรตัวแกเองหรือเปล่า แกถึงได้เป็นอย่างนี้ บอกเพียงแต่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ทั้งๆ ที่จริงฝ่ายตัวป้าแกต่างหากที่จ้องจะกระทำคนอื่น
ที่เล่าเหตุการณ์มาทั้งหมดดิฉันเพียงอยากขอความเห็น ความรู้ทางกฎหมายว่าเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ
หรือถ้าเกิดป้าแกมีอาการทางประสาท หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับประสาทจริง ซึ่งทุกวันนี้ป้าแกก็ไม่ได้ปกติอย่างที่ควรจะเป็น
ดิฉันกลัวว่าวันใดวันนึงป้าแกก็หาเรื่องด่าลอยๆ ไม่เอ่ืยชื่อละมีปากเสียงกับใครเข้าแกจะคว้ามีดออกมาทำอันตรายใครแบบนี้อีก
อยากหาวิธีที่จะป้องกัน ไม่อยากให้ต้องมีคนได้รับบาดเจ็บก่อน เพราะถ้าแจ้งตำรวจก็แค่เพียงบันทึกประจำวันว่าทะเลาะวิวาทแต่เพียงเท่านั้น
ซึ่งตอนนี้บ้านดิฉันก็ได้รับผลกระทบเต็มๆ ไม่มีใครอยากมานั่ง มาซื้อของเวลาที่ป้าแกอยู่บ้านหรือกลับมา หรือมีกฏหมายใดบ้างคะที่จะสามารถให้แกไปตรวจเช็คอาการทางประสาท เพราะสำหรับดิฉันตอนนี้มองว่าป้าแกอาจจะเป็นบุคคลอันตรายในอนาคต ดิฉันบอกกับแม่ว่าให้ติดกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานทั้งภาพและเสียงว่าป้าแกเป็นอย่างไร เหตุการณ์มันเริ่มจากใคร สามีของป้าแกจะได้รับรู้ซะทีว่าอะไรเป็นยังไง หรือพอจะเป็นหลักฐานให้กับทางตำรวจได้บ้างมั้น แต่ดิฉันก็ไม่รู้ว่าในทางกฏหมายจะสามารถช่วยยังไงได้บ้างกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ แต่แม่ดิฉันบอกว่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งดิฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของแม่ดิฉัน เพราะเรามีกันแค่เพียงสองคนค่ะ ดิฉันเพียงไม่อยากต้องมาให้ทุกคนเจอคำด่าลอยๆ ไม่เอ่ยชื่อของป้าแกอีกต่อไปแล้วค่ะ
คนที่ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกนะคะ ทนเจอหนักเข้าๆ แบบนี้มา 5 ปีแล้วค่ะ เรื่องอาจจะยาวไป แต่ขอความกรุณาด้วยค่ะ
เจอเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามเป็นแบบนี้ควรทำอย่างไรดีคะ?
ส่วนบ้านตรงข้ามนั้นเป็นป้าพยาบาลอาศัยอยู่กับสามี และมีลูกชายหนึ่งคนแยกออกไปมีครอบครัวแล้ว
แต่ก่อนก็ยังปกติดีทุกอย่างค่ะ ยังฝากแม่ของดิฉันช่วยจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ฝากบ้านเวลาไม่อยู่
หรือแม้กระทั่งตัวสามีบ้านฝั่งตรงข้ามไม่สบาย พ่อดิฉันก็ช่วยขับรถไปส่งโรงพยาบาลให้ตอนดึก
จนวันนึงแม่ดิฉันลืมจ่ายค่าน้ำค่าไฟให้เพียงครั้งเดียว และเรื่องรถเก็บขยะถอยมาชนเก้าอี้หินอ่อนของบ้านตรงข้ามแตก
แล้วแม่ของดิฉันเห็นแต่บอกบ้านป้าพยาบาลฝั่งตรงข้ามว่าไม่เห็นว่าใครทำ เพราะแม่ไม่อยากให้เขามีปากเสียงกัน
หลังจากนั้นบ้านฝั่งตรงข้ามก็เริ่มไม่คบใคร ไม่ค่อยมีใครคบค่ะ คือออกจะมีนิสัยแปลกๆ แบบไม่เอาใครเลย
ตัวอย่างคือ 1. เวลาบ้านอื่นมีปาร์ตี้สังสรรค์กันกินอะไรหน้าบ้าน อย่างบ้านข้างๆ ของตัวป้าพยาบาล
เขาก็เอายากันยุงมาฉีดใกล้ๆ วงปาร์ตี้ ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีเรื่องอะไรบาดหมางกัน
2. ป้าพยาบาลบ้านตรงข้ามเขาเคยโทรมาด่าแม่ของดิฉัน เรื่องนี้พ่อเคยเล่าให้ฟังสมัยยังมีชีวิตอยู่
ซึ่งตอนนั้นพ่อไปทำงาน พอกลับมาแล้วรู้พ่อของดิฉันเลยไปคุยกับสามีของพยาบาลบ้านฝั่งตรงข้าม
ว่าพ่อดิฉันรู้ดีว่าตัวแม่เป็นยังไง แม่ไม่เคยมีนิสัยอย่างที่เขาด่า และขอให้หยุดอย่ามาล้ำเส้นกัน
ตัวสามีของป้าพยาบาลก็ได้ด่าว่าตักเตือนฝ่ายตัวเอง แล้วเรื่องราวก็เงียบหายไป..
3. ตัวป้าพยาบาลชอบยืนเชิด ทำปากเบี้ยว มองค้อนชาวบ้านเขาไปทั่วตั้งแต่เด็กยันคนโต
เวลาออกมาจากบ้านเพื่อตากผ้าค่ำๆ หรือก่อน-หลังกลับมาจากที่ทำงาน
แม้กระทั่งเด็กๆ ในหมู่บ้านเองตั้งฉายาให้ป้าพยาบาลแกว่า "อีแบะ"
4. อาที่อยู่ระแวกบ้านขับรถผ่านก็เจอป้าแกชูรองเท้าใส่แบบตั้งใจยกใส่ให้เขา หรือแม้กระทั่งนิ้วกลาง
แล้วยิ้มแบบเชิดๆ จนต้องลงจากรถไปถามว่ายกให้ผมทำำไม ผมทำอะไรให้ ป้าแกก็เชิดเดินปากเบี้ยวเข้าบ้าน
** 5. ป้าแกชอบด่าลอยๆ แบบไม่เอ่ยชื่อ อย่างอีกะหรี่ ดอก.. สารพัดคำด่า บลา บลา (ไม่รู้ว่าในพันทิปใช้คำหยาบได้รึเปล่า)
ซึ่งตรงนั้นไม่มีใครนอกจากตัวคุณเอง คุณคิดว่าป้าแกด่าใคร เรื่องนี้โดนหลายคนมาก
ทั้งแม่ดิฉัน ตัวดิฉันเอง น้าๆ ป้าๆ ข้างบ้าน แม้กระทั่งลูกค้าที่มานั่งม้าหินอ่อนหน้าบ้านดิฉันก็โดนกันหมด
อาการเหล่านี้ตั้งแต่ข้อ 3 - 5 เริ่มหนักขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่หลังจากที่พ่อของดิฉันเสียไปแล้วค่ะ
คนในซอยในหมู่บ้านรู้กิตติศัพท์ป้าแกดีว่าเป็นไง เขาก็บอกว่าไม่ต้องอะไรมันๆ บ้า ประสาท โรคจิต
คนที่โดนบ้างก็เงียบเฉยๆ ไปถือว่ามันด่าแล้วก็เข้าตัวมันเอง แต่เจอหนักๆ เข้าจนประสาทจะเสีย
จนขึ้นโรงพักป้าแกมีคู่กรณีหลายคนเลยค่ะในซอย ก็ได้แค่ลงบันทึกประจำวันเหมือนแค่ทะเลาะวิวาทเฉยๆ
มีครั้งนึงที่น้าแถวบ้านไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ แล้วตำรวจก็มาเรียกตัวป้าแกมาสอบถาม
ตำรวจยังยืนอยู่หน้าบ้านไม่ทันเข้าบ้านป้าแกเลยค่ะ ป้าแกบอกว่าตำรวจไปล็อคประตูบ้านแก
ป้าแกออกไม่ได้ เรื่องนี้จากเซงๆ ก็แอบขำค่ะ แบบป้าแกเป็นเอามาก
อันนี้ตำรวจบอกเองเลยนะคะว่าป้าแกไม่ธรรมดาละ ถ้าเกิดมีเรื่องตบตีก็แค่เบาะๆ พอ
เสียค่าปรับแค่ 500 บาท อย่าให้เลือดออกเดี๋ยวจะเป็นคดีอาญา อันนี้คุณตำรวจแนะนำมาเองเลยค่ะ
อย่างแม่ดิฉันเปิดร้านมาต้องเจอแบบนี้ทุกเช้าก็เริ่มจะไม่ไหว บางทีแม่ใส่บาตร ป้าแกก็แบบพูดลอยๆ
ใส่บาตรคงหวังอยากได้ผัวใหม่จนตัวสั่น แต่แม่ของดิฉันเป็นคนที่ไม่อะไรใครเลยเฉยๆ มีบ้างที่ถามมันว่าด่าใคร
แต่ป้าแกบอกว่าคุยโทรศัพท์ ซึ่งมันไม่ใช่ไม่มีทั้งมือถือ สมอลทอค หรือบลูทูธไรเลย
อย่างเหตุการณ์ที่ดิฉันเจอก็มีตอนเข้ามหาลัยรัฐได้ มันก็ด่าลอยๆ มาว่าอีกะหรี่ (ชื่อมหาัลัย)
ตอนนั้นฉันไม่ได้ยิน แต่ตัวแม่ของดิฉันได้ยินว่ามันด่างี้เข้าบ้านมาแม่ถึงบอก
ถ้าแม่บอกตั้งแต่ตอนนั้น หรือตัวดิฉันได้ยินเองคงฟิวส์ขาดไปแล้ว
เรื่องโดนด่าลอยๆ เจอกันแทบทุกวัน ไม่มีใครสนใจป้าแกหรอกค่ะ
มีแต่ป้าแกที่สนใจจ้องจะหาเรื่อง ด่าคนอื่นเขาลอยๆ ใครที่ไม่เจอไม่มาอยู่ตรงนี้ไม่เข้าใจความรู้สึกหรอกค่ะ
บอกสามีป้าแกก็แ้ล้ว เขาก็แค่บอกว่าถ้าฝั่งเขาด่าก่อนก็ไปแจ้งความเอา บอกเพียงแค่นั้น
จนไม่กี่วันก่อนป้าแกด่าลูกค้าผู้ชายที่มาซื้อของบ้านดิฉันว่าหน้าตัวเมี.. แต่เขาไม่สนใจมองแล้วก็เดินไปที่รถ
แล้วป้าแกยังไม่จบค่ะ โชว์นิ้วกลางให้พี่ผู้ชายอีกคนที่เป็นทำงานกับพี่คนแรกที่โดนด่าว่าหน้าตัวเมี..เขาก็พูด
อ้าว.. ป้ายกนิ้วให้ผมทำไม ทีนี้สารพัดคำด่าออกจากปากป้าแกเลยค่ะ ทั้งหน้าตัวเมี.. หน้า..ี เอาผ้าถุงแม่มานุ่งไป
สารพัดคำด่า แล้วป้าแกก็เบ่งว่าแกเป็นพยาบาล C7 พวกพี่ๆ เขาก็แค่ลูกจ้างกระจอกขี้ตีน พวกสถุ.. ป้าแกบอกว่าไม่รู้จักกัน
พี่เขาก็บอกไม่รู้จักแล้วมาด่ามาทำงี้กับเขาได้ไง ป้าแกเดินเข้ามาเหมือนจะหาเรื่องพี่ผู้ชาย เขาเลยผลักไหล่ป้าแกไปทีนึง
ป้าแกวิ่งไปที่รถที่จอดหน้าบ้าน แล้วหยิบมีดยาวประมาณศอกออกมาแล้วเดินไปหาพวกพี่ผู้ชายค่ะ
แต่เดินไม่ทันถึงตัว สามีป้าแกก็มาห้ามแล้วก็เหมือนเดิมค่ะ พี่ผู้ชายก็บอกว่าป้าแกด่ามาก่อน
สามีป้าแกก็แค่บอกว่าถ้าฝั่งแกด่าก่อนก็ไปแจ้งความเอา ไปฟังใครเล่าไรให้ฟังแล้วมาหาเรื่องเมียเขา
ซึ่งพี่แกก็บอกไปว่าไม่มีใครเล่าไรให้ผมฟัง ผมเจอกับตัวผมเอง น้าผู้หญิงแถวบ้านที่เป็นหัวหน้าพี่ทั้งสองที่โดนด่าเขาก็ออกมาจะช่วย
แต่ก็โดนด่ากลับว่าเผือก แต่น้าก็บอกว่านี่ลูกน้องเขามาด่าแบบนี้ได้ยังไง รู้ว่าลูกน้องเขาเป็นยังไง รู้ดีว่าใครไรยังไง
น้าก็สวนกลับถ้าลืมกินยาก็กินยาซะ หรือถ้าเครียดจากที่ทำงานก็หายากิน อย่ามาบ้าระรานชาวบ้านเขา
ฝ่ายสามีก็พยายามผลักป้าแกเข้ารถ ป้าแกก็ตะโกนออกมาว่าเดี๋ยวกูกลับมาเจอกัน แล้วก็ออกไป
คือป้าคนนี้ทำงานเป็นพยาบาลโรงพยาบาลที่บำบัดยาเสพติดแถวรังสิตค่ะ ไม่รู้ว่าป้าแกเครียดจากที่ทำงาน
หรือแกมีปัญหาอะไรตัวแกเองหรือเปล่า แกถึงได้เป็นอย่างนี้ บอกเพียงแต่ว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกกระทำ
ทั้งๆ ที่จริงฝ่ายตัวป้าแกต่างหากที่จ้องจะกระทำคนอื่น
ที่เล่าเหตุการณ์มาทั้งหมดดิฉันเพียงอยากขอความเห็น ความรู้ทางกฎหมายว่าเจอเพื่อนบ้านแบบนี้ดิฉันควรจะทำอย่างไรดีคะ
หรือถ้าเกิดป้าแกมีอาการทางประสาท หรือเป็นโรคที่เกี่ยวกับประสาทจริง ซึ่งทุกวันนี้ป้าแกก็ไม่ได้ปกติอย่างที่ควรจะเป็น
ดิฉันกลัวว่าวันใดวันนึงป้าแกก็หาเรื่องด่าลอยๆ ไม่เอ่ืยชื่อละมีปากเสียงกับใครเข้าแกจะคว้ามีดออกมาทำอันตรายใครแบบนี้อีก
อยากหาวิธีที่จะป้องกัน ไม่อยากให้ต้องมีคนได้รับบาดเจ็บก่อน เพราะถ้าแจ้งตำรวจก็แค่เพียงบันทึกประจำวันว่าทะเลาะวิวาทแต่เพียงเท่านั้น
ซึ่งตอนนี้บ้านดิฉันก็ได้รับผลกระทบเต็มๆ ไม่มีใครอยากมานั่ง มาซื้อของเวลาที่ป้าแกอยู่บ้านหรือกลับมา หรือมีกฏหมายใดบ้างคะที่จะสามารถให้แกไปตรวจเช็คอาการทางประสาท เพราะสำหรับดิฉันตอนนี้มองว่าป้าแกอาจจะเป็นบุคคลอันตรายในอนาคต ดิฉันบอกกับแม่ว่าให้ติดกล้องวงจรปิด เพื่อบันทึกเป็นหลักฐานทั้งภาพและเสียงว่าป้าแกเป็นอย่างไร เหตุการณ์มันเริ่มจากใคร สามีของป้าแกจะได้รับรู้ซะทีว่าอะไรเป็นยังไง หรือพอจะเป็นหลักฐานให้กับทางตำรวจได้บ้างมั้น แต่ดิฉันก็ไม่รู้ว่าในทางกฏหมายจะสามารถช่วยยังไงได้บ้างกับเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขึ้นนี้ แต่แม่ดิฉันบอกว่ามันเป็นเรื่องไม่เป็นเรื่อง ซึ่งดิฉันเป็นห่วงความปลอดภัยของแม่ดิฉัน เพราะเรามีกันแค่เพียงสองคนค่ะ ดิฉันเพียงไม่อยากต้องมาให้ทุกคนเจอคำด่าลอยๆ ไม่เอ่ยชื่อของป้าแกอีกต่อไปแล้วค่ะ
คนที่ไม่ได้มาอยู่ตรงนี้อาจจะไม่เข้าใจความรู้สึกนะคะ ทนเจอหนักเข้าๆ แบบนี้มา 5 ปีแล้วค่ะ เรื่องอาจจะยาวไป แต่ขอความกรุณาด้วยค่ะ