ในช่วงที่ไทยประสบปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองเป็นเวลากว่าทศวรรษมานี้ จขกท.มักได้ยินว่า "ทำไมคนไทยไม่รักกัน" "อยากให้คนไทยรักกันเหมือนเดิม" ฯลฯ ก็เข้าใจครับว่าอยากให้เป็นอย่างนั้น
แต่ก็อยากตั้งคำถามว่า คนไทยนั้นรักกันมาแต่เดิม ก่อนที่การเมืองจะทำให้ไม่ชอบกัน จริงหรือ
โดยส่วนตัวมองว่า ที่เรารู้สึกว่าสมัยก่อนคนไทยรักกัน อาจเป็นเพราะ ในยุคนั้น การสื่อสาร การติดต่อหรือการแสดงออกใดๆยังทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากเทคโนโลยีไม่ก้าวหน้า และเป็นสมัยเผด็จการ ที่ดำเนินการโฆษณาชวนเชื่ออย่างได้ผล ทำให้ดูเผินๆจะเหมือนว่า สังคมไทยรักใคร่กลมเกลียว ไม่มีความเห็นต่างมาก่อน คนเห็นต่างเป็นผู้หลงผิด ที่ต้องพยายามดึงเขากลับมาเป็นไทยกระแสหลัก ที่รักใคร่กันให้ได้
แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีอะไรต่อมิอะไรเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆเป็นไปได้มากขึ้น อีกทั้งมีช่องทางในการแสดงออกหรือระบายความคับข้องใจมากขึ้นด้วย ทำให้คนที่คิดต่างจากกระแสหลักที่ดูเหมือนว่าจะถูกกลืนหมดแล้วมีที่แสดงตัวได้อีก อีกทั้งเมื่อสังคมไทยที่ไม่เคยเจอความคิดต่างแบบสุดขั้วมาก่อน เกิดความไม่พอใจกัน เป็นความขัดแย้งอย่างที่ปรากฎในปัจจุบัน
สิ่งที่เราควรทำคือ ทำอย่างไรที่คนเราจะมาเห็นถึงความสำคัญในการที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศร่วมกัน ความรักอาจเป็นพื้นฐานหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
และสุดท้ายคือ จะทำอย่างไรให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้แม้ความเห็นต่างอย่างสุดขั้ว ให้ซ้ายจัด ขวาจัด คนกลางอยู่ร่วมกันและแสดงทรรศนะแลกเปลี่ยนกันได้ โดยไม่เกิดความรุนแรง เพราะสังคมนั้นจะทำให้คนคิดเหมือนกันไม่ได้
คนไทย แต่ก่อนเคย "รักกัน"จริงหรือ
แต่ก็อยากตั้งคำถามว่า คนไทยนั้นรักกันมาแต่เดิม ก่อนที่การเมืองจะทำให้ไม่ชอบกัน จริงหรือ
โดยส่วนตัวมองว่า ที่เรารู้สึกว่าสมัยก่อนคนไทยรักกัน อาจเป็นเพราะ ในยุคนั้น การสื่อสาร การติดต่อหรือการแสดงออกใดๆยังทำได้ไม่ดีนัก เนื่องจากเทคโนโลยีไม่ก้าวหน้า และเป็นสมัยเผด็จการ ที่ดำเนินการโฆษณาชวนเชื่ออย่างได้ผล ทำให้ดูเผินๆจะเหมือนว่า สังคมไทยรักใคร่กลมเกลียว ไม่มีความเห็นต่างมาก่อน คนเห็นต่างเป็นผู้หลงผิด ที่ต้องพยายามดึงเขากลับมาเป็นไทยกระแสหลัก ที่รักใคร่กันให้ได้
แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีอะไรต่อมิอะไรเจริญก้าวหน้ามากขึ้น ทำให้การเข้าถึงข้อมูลต่างๆเป็นไปได้มากขึ้น อีกทั้งมีช่องทางในการแสดงออกหรือระบายความคับข้องใจมากขึ้นด้วย ทำให้คนที่คิดต่างจากกระแสหลักที่ดูเหมือนว่าจะถูกกลืนหมดแล้วมีที่แสดงตัวได้อีก อีกทั้งเมื่อสังคมไทยที่ไม่เคยเจอความคิดต่างแบบสุดขั้วมาก่อน เกิดความไม่พอใจกัน เป็นความขัดแย้งอย่างที่ปรากฎในปัจจุบัน
สิ่งที่เราควรทำคือ ทำอย่างไรที่คนเราจะมาเห็นถึงความสำคัญในการที่จะมาร่วมกันขับเคลื่อนและพัฒนาประเทศร่วมกัน ความรักอาจเป็นพื้นฐานหนึ่ง แต่ไม่ใช่ทั้งหมด
และสุดท้ายคือ จะทำอย่างไรให้เราสามารถอยู่ร่วมกันได้แม้ความเห็นต่างอย่างสุดขั้ว ให้ซ้ายจัด ขวาจัด คนกลางอยู่ร่วมกันและแสดงทรรศนะแลกเปลี่ยนกันได้ โดยไม่เกิดความรุนแรง เพราะสังคมนั้นจะทำให้คนคิดเหมือนกันไม่ได้