3 ม็อบ ผนึกกำลัง แถลงยกระดับ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้าน "คปท." ยังเดินสาย ล่ารายชื่อ ต้านก.ม.นิรโทษฯ จี้รัฐอย่า 2 มาตรฐาน จ้องสกัด แต่ฝ่ายต้าน...
วันที่ 9 พ.ย. ที่เวทีปราศรัยของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่บริเวณแยกผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนินนอก เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม และ นพ.วีระ มาศฉมาดล ผู้ประสานงาน กปท. ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ร่วมระหว่างเครือข่ายประชาชนปฏิรูปประเทศไทย 77 จังหวัด กองทัพธรรม และ กปท. ฉบับที่ 1 ว่า ขณะนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงให้เห็นว่าแล้วรัฐบาล "เป็นของทักษิณ เพื่อทักษิณ โดยทักษิณ "ที่ก่อให้เกิดวิกฤติในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นคอร์รัปชันโกงกินทุกรูปแบบ ร่วมทั้งยับยั้ง และท้าทายอำนาจ
อีกทั้งยังประกาศอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะยอมรับมติของศาลโลก ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร ซึ่งจะส่งให้ประเทศต้องเสียดินแดนบางส่วน ดังนั้น ทั้ง 3 องค์กร จึงมีมติร่วมกันประกาศยกระดับการชุมนุมโค่นระบอบทักษิณขึ้นระดับสูงสุดในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป
โดยจะขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะต้องให้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่งโดยทันที เนื่องจากแสดงตัวรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน รวมทั้งจะรักษาอธิปไตยของชาติปกป้องไม่ให้เสียดินแดน โดยให้รัฐบาลถอนตัวออกจากศาลโลกก่อนวันที่ 11 พ.ย.
ดังนั้นขอให้ประชาชนทั้ง 77 จังหวัดเดินทางมาร่วมชุมนุมกันที่บริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนจะเคลื่อนไหวอย่างนั้นต้องรอฟังมติของมวลชนและคณะแกนนำภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัดอีกครั้ง
ด้านบรรยากาศการชุมนุม ของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด (คปว.) ที่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก เป็นการชุมนุมประท้วง ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 31 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน (วันที่ 9 พ.ย.) บรรดาแกนนำนักศึกษา คปท.และแกนนำ แนวร่วม ยังคงปราศรัยมุ่งเน้น แฉความผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาล ตามนโยบายต่างๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
โดยเฉพาะประเด็นการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 โดยไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ท่ามกลางอากาศร้อนจัด ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหลายคน อยู่ในสภาพร่างกายอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้า แต่ส่วนใหญ่ ก็ยังมีกำลังใจดีที่จะร่วมชุมนุมต่อไป
ขณะที่ นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. และทีมงานจำนวนหนึ่ง เดินทางไปร่วมกับองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง จัดกิจกรรมรณรงค์ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่บริเวณหน้าตึกวีเคบี ม.รามคำแหง โดยนายอุทัย กล่าว ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดชุมนุมที่เมืองทองธานี และบริเวณแยกราชประสงค์ ว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตามระบอบประชาธิปไตย ตนไม่กังวลใจว่า จะเกิดการเผชิญหน้ากันของมวลชน เพราะเชื่อว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดูแลประชาชนไม่ให้เกิดการขัดแย้งกันเอง
แต่ส่วนกรณี ที่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดประชาชน ที่จะเดินทางจากต่างจังหวัด เพื่อมาร่วมชุมนุมกับ คปท. ที่ ถ.ราชดำเนินนอก นั้น ตนเห็นว่า หากจะมีการสกัดกั้นมวลชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมก็จะต้องทำการสกัดกั้นทั้งมวลชน ที่สนับสนุนรัฐบาลด้วย ไม่ใช่จะสกัดกั้นผู้ที่เห็นต่างกับรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว เพื่อความเท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย และขอให้รัฐบาลอย่าปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานอย่างที่ทำอยู่ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) คปท. จะมีการแถลงความชัดเจน ในเรื่องของมาตรการ การยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง
http://www.thairath.co.th/content/pol/381742
3 ม็อบ ผนึกกำลัง แถลงการณ์ ยกระดับ ไล่รัฐบาล'ยิ่งลักษณ์'
3 ม็อบ ผนึกกำลัง แถลงยกระดับ ขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ ด้าน "คปท." ยังเดินสาย ล่ารายชื่อ ต้านก.ม.นิรโทษฯ จี้รัฐอย่า 2 มาตรฐาน จ้องสกัด แต่ฝ่ายต้าน...
วันที่ 9 พ.ย. ที่เวทีปราศรัยของกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ที่บริเวณแยกผ่านฟ้า ถ.ราชดำเนินนอก เรือตรี แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม และ นพ.วีระ มาศฉมาดล ผู้ประสานงาน กปท. ร่วมกันอ่านแถลงการณ์ร่วมระหว่างเครือข่ายประชาชนปฏิรูปประเทศไทย 77 จังหวัด กองทัพธรรม และ กปท. ฉบับที่ 1 ว่า ขณะนี้รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร แสดงให้เห็นว่าแล้วรัฐบาล "เป็นของทักษิณ เพื่อทักษิณ โดยทักษิณ "ที่ก่อให้เกิดวิกฤติในประเทศ โดยเฉพาะประเด็นคอร์รัปชันโกงกินทุกรูปแบบ ร่วมทั้งยับยั้ง และท้าทายอำนาจ
อีกทั้งยังประกาศอย่างชัดเจนว่า รัฐบาลจะยอมรับมติของศาลโลก ไม่ว่าผลการตัดสินจะออกมาอย่างไร ซึ่งจะส่งให้ประเทศต้องเสียดินแดนบางส่วน ดังนั้น ทั้ง 3 องค์กร จึงมีมติร่วมกันประกาศยกระดับการชุมนุมโค่นระบอบทักษิณขึ้นระดับสูงสุดในวันที่ 9 พ.ย. เวลา 11.00 น.เป็นต้นไป
โดยจะขับไล่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ โดยเฉพาะต้องให้ นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ออกจากตำแหน่งโดยทันที เนื่องจากแสดงตัวรับใช้ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อย่างชัดเจน รวมทั้งจะรักษาอธิปไตยของชาติปกป้องไม่ให้เสียดินแดน โดยให้รัฐบาลถอนตัวออกจากศาลโลกก่อนวันที่ 11 พ.ย.
ดังนั้นขอให้ประชาชนทั้ง 77 จังหวัดเดินทางมาร่วมชุมนุมกันที่บริเวณแยกผ่านฟ้าลีลาศตั้งแต่วันที่ 9 พ.ย.นี้เป็นต้นไป ส่วนจะเคลื่อนไหวอย่างนั้นต้องรอฟังมติของมวลชนและคณะแกนนำภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัดอีกครั้ง
ด้านบรรยากาศการชุมนุม ของกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) และภาคีเครือข่ายประชาชน 77 จังหวัด (คปว.) ที่บริเวณแยกมัฆวานรังสรรค์ ถ.ราชดำเนินนอก เป็นการชุมนุมประท้วง ขับไล่รัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ต่อเนื่องเป็นวันที่ 31 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลอดทั้งวัน (วันที่ 9 พ.ย.) บรรดาแกนนำนักศึกษา คปท.และแกนนำ แนวร่วม ยังคงปราศรัยมุ่งเน้น แฉความผิดพลาดการบริหารงานของรัฐบาล ตามนโยบายต่างๆ ที่เป็นข้อเท็จจริงให้ประชาชนได้รับทราบ
โดยเฉพาะประเด็นการออก พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 โดยไม่สนใจปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน ในเรื่องราคาผลผลิตการเกษตรตกต่ำ ปัญหาข้าวยากหมากแพง ท่ามกลางอากาศร้อนจัด ทำให้กลุ่มผู้ชุมนุมหลายคน อยู่ในสภาพร่างกายอ่อนเพลีย และเหนื่อยล้า แต่ส่วนใหญ่ ก็ยังมีกำลังใจดีที่จะร่วมชุมนุมต่อไป
ขณะที่ นายอุทัย ยอดมณี ผู้ประสานงาน คปท. และทีมงานจำนวนหนึ่ง เดินทางไปร่วมกับองค์การนักศึกษา ม.รามคำแหง จัดกิจกรรมรณรงค์ตั้งโต๊ะล่ารายชื่อคัดค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่บริเวณหน้าตึกวีเคบี ม.รามคำแหง โดยนายอุทัย กล่าว ถึงกรณีที่กลุ่มคนเสื้อแดงจะจัดชุมนุมที่เมืองทองธานี และบริเวณแยกราชประสงค์ ว่า เป็นสิทธิที่สามารถทำได้ ตามระบอบประชาธิปไตย ตนไม่กังวลใจว่า จะเกิดการเผชิญหน้ากันของมวลชน เพราะเชื่อว่า รัฐบาลและเจ้าหน้าที่ตำรวจ จะดูแลประชาชนไม่ให้เกิดการขัดแย้งกันเอง
แต่ส่วนกรณี ที่มีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดประชาชน ที่จะเดินทางจากต่างจังหวัด เพื่อมาร่วมชุมนุมกับ คปท. ที่ ถ.ราชดำเนินนอก นั้น ตนเห็นว่า หากจะมีการสกัดกั้นมวลชนไม่ให้มาร่วมชุมนุมก็จะต้องทำการสกัดกั้นทั้งมวลชน ที่สนับสนุนรัฐบาลด้วย ไม่ใช่จะสกัดกั้นผู้ที่เห็นต่างกับรัฐบาลเพียงฝ่ายเดียว เพื่อความเท่าเทียมกันทั้ง 2 ฝ่าย และขอให้รัฐบาลอย่าปฏิบัติแบบ 2 มาตรฐานอย่างที่ทำอยู่ อย่างไรก็ตาม ในวันพรุ่งนี้ (10 พ.ย.) คปท. จะมีการแถลงความชัดเจน ในเรื่องของมาตรการ การยกระดับการชุมนุมอีกครั้ง
http://www.thairath.co.th/content/pol/381742