จากแต้มล่อที่วางหมากให้ ส.ส.พรรคเพื่อไทยนำ ร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของสภา แล้วเกิดกระแสต่อต้านจากกลุ่มชนชั้นกลางในเมือง ผู้ที่มีอันจะกิน สถาบันการศึกษา หมอ พยาบาล ดารานักแสดงรวมไปถึงผู้ที่ควรดำรงตนอยู่ในสถานะความเป็นกลางอย่างผู้พิพากษาบางส่วน ซึ่งจะแสดงด้วยความบริสุทธิ์ใจหรือถูกยุยงปลุกปั่นมาจากไหนก็ไม่ทราบ แต่ก็ถือว่า เดินมาติดกับของหมากชั้นเซียนกระดานนี้แล้ว
เพราะเหตุการณ์ล่าสุด คือฝ่ายรัฐบาล โดยนายกยิ่งลักษณ์ได้ประกาศแล้วว่า ปล่อยให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้อยู่ในการพิจารณาของ สว. จะคว่ำหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ สว. พอนายกปูประกาศแบบนี้ ก็ทำให้เกิดสภาพ “เก้อ” ของแกนนำการต่อต้าน พ.ร.บ. ที่ต้องการจะยกระดับของการชุมนุมเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาล จะถอยก็ไม่ได้ เพราะประกาศออกไปแล้ว เกิดอาการอีหลักอีเหลื่อ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
พวกที่เปิดตัวมาในนามสถาบันการศึกษาก็เหมือนกบที่พาตัวเองให้มาอยู่ในที่โล่ง แถมยังมีนกกระเรียนยืนจ้องระยะประชิดตัว ตัวกบเองต่อไปก็ต้องวิตกจริตว่าจะโดนนกกระเรียนจับกินเมื่อไร ครั้นจะดื้อด้านดันทุรังยกระดับจากต่อต้าน พ.ร.บ.เป็นชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล ตามมโนภาพของแกนนำที่ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น ก็ยากที่จะสำเร็จ เพราะมูลเหตุในการล้มรัฐบาลมันมีไม่เพียงพอ จะไปทำอะไรได้ ต่อต้าน พ.ร.บ.เขาก็ถอยให้แล้ว แล้วจะเอาเหตุอะไรไปอ้างอีก
ฝ่าย ปชป.ที่มโนภาพเอาเองว่าหากปลุกกระแสสำเร็จ ตัวเองจะได้เปลี่ยนขั่วอำนาจ ก็ฝันค้าง จากคำประกาศของนายกยิ่งลักษณ์ สิ่งที่ตัวเองคาดหวังกำลังจะมลายหายไป จากการประกาศถอยของรัฐบาล แต่คงไม่รู้สึกเสียหน้ากันสักเท่าไรเพราะ สมาชิกของพรรคนี้ มีโมเลกุลผิวหน้าที่หนาแน่นมาก
สิ่งที่ ฝ่ายอยากล้มล้างรัฐบาล มุ่งหวังให้เกิดขึ้น คือการปะทะกันของมวลชนทั้งสองฝั่ง แต่การแตะเบรคแกนนำเสื้อแดงอย่างนายจตุพร ก็ทำให้ความคาดหวังของคนกลุ่มนี้สลายไป ภาพที่แสดงออกมาอาจเหมือนว่าเกิดรอยร้าวของรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดง แต่ที่จริงแล้ว น่าจะเป็นละครตบตาเสียมากกว่า เพราะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าคนที่เสื้อแดงสนับสนุนที่สุดคือใคร เขาคนนั้นชื่อทักษิณ ไม่ใช่แกนนำอย่างนายจตุพรที่รับบทอุยกาย(จากเรื่องสามก๊ก)
เมื่อเสื้อแดงไม่ออกมาปะทะด้วยม็อบปัญญาชน(ตามที่เขาอ้าง) ที่กลัวแดดกลัวฝน จะทนอยู่บนท้องถนนได้นานเท่าใด จากสภาพความเป็นอยู่ที่มีจะกินกันอยู่ คงทนได้ไม่เท่าชนชั้นล่างอย่างม็อบฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และก็คงล้มเลิกไปเองในที่สุด เพราะจะให้คนเหล่านี้เสี่ยงตายใช้ระเบิดปิงปองปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างพันธมิตรก็คงไม่มีใครเอาด้วย
ผลสุดท้ายก็คือฝ่ายต่อต้านพลาดท่า ไม่ได้อะไรเลยในการออกมาต่อต้านครั้งนี้ แถมวันหลังถ้ารัฐบาลหยิบบางมาตราใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง มาปัดฝุ่นอีกครั้งภายหลัง โดยเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองเพียงฝ่ายเดียว และใช้เป็นหอกกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซากด้วยวิธีทางกฎหมาย ฝ่ายต่อต้านก็จะปลุกกระแสได้ยากกว่าครั้งนี้หลายเท่านัก เพราะฝ่ายรัฐบาลจะกรุยทางโดยไล่เซ็คบิลคนที่แสดงตัวและอยู่ในระดับสูงขององค์กรหรือสถาบันต่างๆออกไปก่อน สุดท้ายกบก็กลายเป็นเหยื่อของนกกระเรียนไป
หมากตานี้ เหนือชั้นจริงๆ
พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หมากชั้นเซียน กระเรียนล่อกบ
เพราะเหตุการณ์ล่าสุด คือฝ่ายรัฐบาล โดยนายกยิ่งลักษณ์ได้ประกาศแล้วว่า ปล่อยให้ พ.ร.บ.ฉบับนี้อยู่ในการพิจารณาของ สว. จะคว่ำหรือไม่ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของ สว. พอนายกปูประกาศแบบนี้ ก็ทำให้เกิดสภาพ “เก้อ” ของแกนนำการต่อต้าน พ.ร.บ. ที่ต้องการจะยกระดับของการชุมนุมเพื่อต่อต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขึ้นเป็นการชุมนุมขับไล่รัฐบาล จะถอยก็ไม่ได้ เพราะประกาศออกไปแล้ว เกิดอาการอีหลักอีเหลื่อ ไม่รู้จะทำยังไงต่อไปดี
พวกที่เปิดตัวมาในนามสถาบันการศึกษาก็เหมือนกบที่พาตัวเองให้มาอยู่ในที่โล่ง แถมยังมีนกกระเรียนยืนจ้องระยะประชิดตัว ตัวกบเองต่อไปก็ต้องวิตกจริตว่าจะโดนนกกระเรียนจับกินเมื่อไร ครั้นจะดื้อด้านดันทุรังยกระดับจากต่อต้าน พ.ร.บ.เป็นชุมนุมเพื่อล้มรัฐบาล ตามมโนภาพของแกนนำที่ประสงค์ให้เป็นเช่นนั้น ก็ยากที่จะสำเร็จ เพราะมูลเหตุในการล้มรัฐบาลมันมีไม่เพียงพอ จะไปทำอะไรได้ ต่อต้าน พ.ร.บ.เขาก็ถอยให้แล้ว แล้วจะเอาเหตุอะไรไปอ้างอีก
ฝ่าย ปชป.ที่มโนภาพเอาเองว่าหากปลุกกระแสสำเร็จ ตัวเองจะได้เปลี่ยนขั่วอำนาจ ก็ฝันค้าง จากคำประกาศของนายกยิ่งลักษณ์ สิ่งที่ตัวเองคาดหวังกำลังจะมลายหายไป จากการประกาศถอยของรัฐบาล แต่คงไม่รู้สึกเสียหน้ากันสักเท่าไรเพราะ สมาชิกของพรรคนี้ มีโมเลกุลผิวหน้าที่หนาแน่นมาก
สิ่งที่ ฝ่ายอยากล้มล้างรัฐบาล มุ่งหวังให้เกิดขึ้น คือการปะทะกันของมวลชนทั้งสองฝั่ง แต่การแตะเบรคแกนนำเสื้อแดงอย่างนายจตุพร ก็ทำให้ความคาดหวังของคนกลุ่มนี้สลายไป ภาพที่แสดงออกมาอาจเหมือนว่าเกิดรอยร้าวของรัฐบาลกับกลุ่มเสื้อแดง แต่ที่จริงแล้ว น่าจะเป็นละครตบตาเสียมากกว่า เพราะรู้กันดีอยู่แล้ว ว่าคนที่เสื้อแดงสนับสนุนที่สุดคือใคร เขาคนนั้นชื่อทักษิณ ไม่ใช่แกนนำอย่างนายจตุพรที่รับบทอุยกาย(จากเรื่องสามก๊ก)
เมื่อเสื้อแดงไม่ออกมาปะทะด้วยม็อบปัญญาชน(ตามที่เขาอ้าง) ที่กลัวแดดกลัวฝน จะทนอยู่บนท้องถนนได้นานเท่าใด จากสภาพความเป็นอยู่ที่มีจะกินกันอยู่ คงทนได้ไม่เท่าชนชั้นล่างอย่างม็อบฝ่ายสนับสนุนรัฐบาล และก็คงล้มเลิกไปเองในที่สุด เพราะจะให้คนเหล่านี้เสี่ยงตายใช้ระเบิดปิงปองปะทะกับเจ้าหน้าที่อย่างพันธมิตรก็คงไม่มีใครเอาด้วย
ผลสุดท้ายก็คือฝ่ายต่อต้านพลาดท่า ไม่ได้อะไรเลยในการออกมาต่อต้านครั้งนี้ แถมวันหลังถ้ารัฐบาลหยิบบางมาตราใน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับเหมาเข่ง มาปัดฝุ่นอีกครั้งภายหลัง โดยเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเองเพียงฝ่ายเดียว และใช้เป็นหอกกำจัดฝ่ายตรงข้ามให้สิ้นซากด้วยวิธีทางกฎหมาย ฝ่ายต่อต้านก็จะปลุกกระแสได้ยากกว่าครั้งนี้หลายเท่านัก เพราะฝ่ายรัฐบาลจะกรุยทางโดยไล่เซ็คบิลคนที่แสดงตัวและอยู่ในระดับสูงขององค์กรหรือสถาบันต่างๆออกไปก่อน สุดท้ายกบก็กลายเป็นเหยื่อของนกกระเรียนไป
หมากตานี้ เหนือชั้นจริงๆ