ประท้วงตอนที่ 1 เรื่องการค้าน พรบ.นิรโทษกรรม
สื่อเทศรายงานข่าวการชุมนุมคัดค้านพรบ.นิรโทษกรรม หน้ารัฐสภา
สำนักข่าว AFP รายงานสถานการณ์การชุมนุมคัดค้าน พรบ. นิรโทษกรรม ของประเทศไทยว่า ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านราว 2,000 คน
ได้ไปชุมนุมกันอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภา เพื่อประท้วงต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมให้กับบุคคล ที่ใช้ความรุนแรงต่อสู้ทางการเมืองในประเทศ
ที่แตกแยกออกเป็นสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าว AFP ระบุว่า ตำรวจปราบจลาจลจำนวนหลายร้อยนาย ได้ถือโล่ห์และกระบองขวางเส้นทางไปยังรัฐสภา โดยมีแผงคอนกรีต
และลวดหนามกั้น เพื่อป้องกันผู้ประท้วงไม่ให้เข้าไปถึงตัวอาคารในย่านพื้นที่ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงมาหลายวัน สร้างความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งล่าสุด ในประเทศที่เผชิญความผันผวนทางการเมืองแห่งนี้ ในขณะที่สภาฯ กำลังมีการอภิปรายกันเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้
บรรดา ส.ส.ฝ่านค้าน รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้นำผู้สนับสนุนเดินหน้าสู่แนวกั้นของตำรวจ ที่อยู่ห่างจากรั้วของ
รัฐสภาเพียง 200 เมตร และกลายเป็นการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดขณะที่รอฟังผลว่า ตำรวจจะยอมให้ผู้ชุมนุมผ่านไปได้หรือไม่ ซึ่งสรุปว่า
ตำรวจยอมให้ผ่านได้เฉพาะ ส.ส. เท่านั้น
ผู้สื่อข่าว AFP ระบุว่า เห็นรถบรรทุกน้ำ 3 คัน และรถของตำรวจอีกหลายคันจอดอยู่ด้านหลังแถวของตำรวจ
ผู้ประท้วงที่ร่วมขบวนกับพรรคฝ่ายค้าน เป็นผู้ที่คัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมสากล ซึ่งเสนอให้นิรโทษกรรมต่อคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง
ทางการเมือง นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารโค่นอำนาจอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ผู้สร้างความแตกแยก เมื่อเกือบ 7 ปีก่อน
พรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จะลบล้างความผิดให้กับผู้ประท้วงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงการเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน
ปี 2549 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2555 ยกเว้นแกนนำ แต่ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลเกรงว่า พรบ.ฉบับนี้จะถูกพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาล
อยู่ในขณะนี้ ล้างผิดให้ พตท.ทักษิณ
AFP ระบุว่า ประเทศไทยต้องแยกแตกเพราะความตึงเครียดทางการเมือง นับตั้งแต่ พตท.ทักษิณถูกโค่นอำนาจ ซึ่งแม้เขาจะอยู่ใน
ต่างประเทศแต่ก็ยังคงได้รับความจงรักภักดีจากคนยากจนและชนชั้นแรงงานจำนวนมาก
ด้านสำนักข่าว dpa ของเยอรมนี รายงานสถานการณ์การประท้วงคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมในไทยว่า ตำรวจปราบจลาจล ได้ขัดขวาง
ไม่ให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ฝ่าแนวกั้นเข้าไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อชุมนุมต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมให้กับ
ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ นับจากปี 2549
dpa ระบุว่า คาดว่าจำนวนของตำรวจปราบจลาจลที่ถูกส่งมารับมือผู้ประท้วงมีจำนวน 4,800 นาย ส่วนผู้ประท้วงมีราว 1,000 คน
โดยตำรวจได้ตั้งแผงคอนกรีตกั้นตลอดแนวถนนสายหลัก ที่มุ่งไปสู่เขตที่รัฐบาลประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2552 - 2554 ได้พยายามเจรจากับตำรวจ เพื่อขอให้ผู้สนับสนุนได้
ตามไปส่ง ส.ส.เข้าสภา แต่ไม่สำเร็จ ขณะที่ ตำรวจได้เตือนว่า ให้เฉพาะ ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น ที่เข้าไปในอาณาบริเวณของสภาฯ ได้
และผู้ที่บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องเผชิญโทษจำคุก 1 ปี และปรับอีก 2 หมื่นบาท
หลังจากล้มเหลวในการเจรจาให้ผู้ประท้วงฝ่าแนวกั้นของตำรวจ นายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนอื่น ๆ ได้เข้าไปในสภาฯ
และบอกผู้ประท้วงให้สลายตัว
dpa ระบุว่า สภาฯไทยมีกำหนดจะพิจารณาร่าง พรบ.นิรโทษกรรม เพื่อประโยชน์ของประชาชนหลายร้อยคน ที่มีส่วนร่วมในการประท้วง
ต่อต้านรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ซึ่งร่าง พรบ.ฉบับนี้ ได้กันแกนนำและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่รับผิดชอบต่อการประท้วง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 94 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคน ขณะที่พื้นที่บางส่วนของกรุงเทพฯ ถูกเผา แต่ฝ่ายที่
ต่อต้านรัฐบาลปัจจุบัน วิตกว่า ร่าง พรบ.ฉบับนี้จะถูกแก้ไขให้ล้างผิดอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร รวมถึงคนที่ร่วมก่อเหตุรุนแรงใน
ระหว่างการประท้วงเมื่อปี 2553 ด้วย
การประท้วงต่อต้าน พตท.ทักษิณ เมื่อปี 2549 และ 2551 นำไปสู่การรัฐประหารและการยุบสภา ขณะที่ผู้สังเกตการณ์มองว่า การประท้วง
ในปัจจุบัน ไม่สามารถปลุกคนให้เข้าร่วมได้เท่ากับในสองครั้งนั้น
cr:
http://www.oknation.net/blog/inter/2013/08/07/entry-2
บ้านเมืองกำลังจะปรองดอง พวกม็อบก็ออกมาให้กำัลังใจกันอย่างล้นหลาม สนองรัดทะบานยามนี้ 5555
สื่อเทศรายงานข่าวการชุมนุมคัดค้านพรบ.นิรโทษกรรม หน้ารัฐสภา
สำนักข่าว AFP รายงานสถานการณ์การชุมนุมคัดค้าน พรบ. นิรโทษกรรม ของประเทศไทยว่า ผู้สนับสนุนฝ่ายค้านราว 2,000 คน
ได้ไปชุมนุมกันอยู่ใกล้กับอาคารรัฐสภา เพื่อประท้วงต่อต้าน พรบ.นิรโทษกรรมให้กับบุคคล ที่ใช้ความรุนแรงต่อสู้ทางการเมืองในประเทศ
ที่แตกแยกออกเป็นสองฝ่าย
ผู้สื่อข่าว AFP ระบุว่า ตำรวจปราบจลาจลจำนวนหลายร้อยนาย ได้ถือโล่ห์และกระบองขวางเส้นทางไปยังรัฐสภา โดยมีแผงคอนกรีต
และลวดหนามกั้น เพื่อป้องกันผู้ประท้วงไม่ให้เข้าไปถึงตัวอาคารในย่านพื้นที่ประวัติศาสตร์ของกรุงเทพฯ
รัฐบาลของนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ต้องเผชิญกับการชุมนุมประท้วงมาหลายวัน สร้างความวิตกเกี่ยวกับความเป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบครั้งล่าสุด ในประเทศที่เผชิญความผันผวนทางการเมืองแห่งนี้ ในขณะที่สภาฯ กำลังมีการอภิปรายกันเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม
เมื่อช่วงบ่ายของวันนี้
บรรดา ส.ส.ฝ่านค้าน รวมทั้งอดีตนายกรัฐมนตรีอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ได้นำผู้สนับสนุนเดินหน้าสู่แนวกั้นของตำรวจ ที่อยู่ห่างจากรั้วของ
รัฐสภาเพียง 200 เมตร และกลายเป็นการเผชิญหน้าที่ตึงเครียดขณะที่รอฟังผลว่า ตำรวจจะยอมให้ผู้ชุมนุมผ่านไปได้หรือไม่ ซึ่งสรุปว่า
ตำรวจยอมให้ผ่านได้เฉพาะ ส.ส. เท่านั้น
ผู้สื่อข่าว AFP ระบุว่า เห็นรถบรรทุกน้ำ 3 คัน และรถของตำรวจอีกหลายคันจอดอยู่ด้านหลังแถวของตำรวจ
ผู้ประท้วงที่ร่วมขบวนกับพรรคฝ่ายค้าน เป็นผู้ที่คัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมสากล ซึ่งเสนอให้นิรโทษกรรมต่อคนที่เกี่ยวข้องกับเหตุรุนแรง
ทางการเมือง นับตั้งแต่เกิดการรัฐประหารโค่นอำนาจอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร ผู้สร้างความแตกแยก เมื่อเกือบ 7 ปีก่อน
พรบ.นิรโทษกรรมฉบับนี้ จะลบล้างความผิดให้กับผู้ประท้วงที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ต่าง ๆ ในช่วงการเกิดรัฐประหารเมื่อเดือนกันยายน
ปี 2549 ถึงเดือนพฤษภาคม ปี 2555 ยกเว้นแกนนำ แต่ฝ่ายที่ต่อต้านรัฐบาลเกรงว่า พรบ.ฉบับนี้จะถูกพรรคเพื่อไทยที่เป็นรัฐบาล
อยู่ในขณะนี้ ล้างผิดให้ พตท.ทักษิณ
AFP ระบุว่า ประเทศไทยต้องแยกแตกเพราะความตึงเครียดทางการเมือง นับตั้งแต่ พตท.ทักษิณถูกโค่นอำนาจ ซึ่งแม้เขาจะอยู่ใน
ต่างประเทศแต่ก็ยังคงได้รับความจงรักภักดีจากคนยากจนและชนชั้นแรงงานจำนวนมาก
ด้านสำนักข่าว dpa ของเยอรมนี รายงานสถานการณ์การประท้วงคัดค้าน พรบ.นิรโทษกรรมในไทยว่า ตำรวจปราบจลาจล ได้ขัดขวาง
ไม่ให้ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปัตย์ ซึ่งเป็นฝ่ายค้าน ฝ่าแนวกั้นเข้าไปที่อาคารรัฐสภา เพื่อชุมนุมต่อต้านพรบ.นิรโทษกรรมให้กับ
ประชาชนที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ความไม่สงบ นับจากปี 2549
dpa ระบุว่า คาดว่าจำนวนของตำรวจปราบจลาจลที่ถูกส่งมารับมือผู้ประท้วงมีจำนวน 4,800 นาย ส่วนผู้ประท้วงมีราว 1,000 คน
โดยตำรวจได้ตั้งแผงคอนกรีตกั้นตลอดแนวถนนสายหลัก ที่มุ่งไปสู่เขตที่รัฐบาลประกาศใช้ พรบ.ความมั่นคง ตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ระหว่างปี 2552 - 2554 ได้พยายามเจรจากับตำรวจ เพื่อขอให้ผู้สนับสนุนได้
ตามไปส่ง ส.ส.เข้าสภา แต่ไม่สำเร็จ ขณะที่ ตำรวจได้เตือนว่า ให้เฉพาะ ส.ส.และ ส.ว.เท่านั้น ที่เข้าไปในอาณาบริเวณของสภาฯ ได้
และผู้ที่บุกรุกโดยไม่ได้รับอนุญาต จะต้องเผชิญโทษจำคุก 1 ปี และปรับอีก 2 หมื่นบาท
หลังจากล้มเหลวในการเจรจาให้ผู้ประท้วงฝ่าแนวกั้นของตำรวจ นายอภิสิทธิ์และสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์คนอื่น ๆ ได้เข้าไปในสภาฯ
และบอกผู้ประท้วงให้สลายตัว
dpa ระบุว่า สภาฯไทยมีกำหนดจะพิจารณาร่าง พรบ.นิรโทษกรรม เพื่อประโยชน์ของประชาชนหลายร้อยคน ที่มีส่วนร่วมในการประท้วง
ต่อต้านรัฐบาล ที่ส่งผลกระทบต่อเมืองหลวง นับตั้งแต่ปี 2549 เป็นต้นมา ซึ่งร่าง พรบ.ฉบับนี้ ได้กันแกนนำและเจ้าหน้าที่ของรัฐ
ที่รับผิดชอบต่อการประท้วง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 94 คน และบาดเจ็บหลายร้อยคน ขณะที่พื้นที่บางส่วนของกรุงเทพฯ ถูกเผา แต่ฝ่ายที่
ต่อต้านรัฐบาลปัจจุบัน วิตกว่า ร่าง พรบ.ฉบับนี้จะถูกแก้ไขให้ล้างผิดอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร รวมถึงคนที่ร่วมก่อเหตุรุนแรงใน
ระหว่างการประท้วงเมื่อปี 2553 ด้วย
การประท้วงต่อต้าน พตท.ทักษิณ เมื่อปี 2549 และ 2551 นำไปสู่การรัฐประหารและการยุบสภา ขณะที่ผู้สังเกตการณ์มองว่า การประท้วง
ในปัจจุบัน ไม่สามารถปลุกคนให้เข้าร่วมได้เท่ากับในสองครั้งนั้น
cr:http://www.oknation.net/blog/inter/2013/08/07/entry-2