ความเงียบที่เปลี่ยนแปลงโลกและอำนาจมีอยู่จริงไหม
ถนนราชดำเนิน
บนถนนราชดำเนินที่แสนกว้างใหญ่ บัดนี้คลาคล่ำไปด้วยมวลชนเรือนหมื่นที่ไหลบ่ามาจากทุกทิศทุกทาง เหมือนทุกตรอกทุกซอยจะมีแต่ผู้คนที่ออกมาเดินบนถนน แม้เจ้าหน้าที่จะใช้อุปกรณ์หลากหลายชนิดปิดกั้นรถไม่ให้เข้ามาภายในได้เลยก็ตาม
ฝูงชนเดินเท้าเข้ามาเหมือนน้ำหลาก มีแต่เสียงย่ำเท้าและเสียงจากเครื่องขยายของทางการเพื่อควบคุมความสงบเท่านั้น พวกเขายกมือยกไม้เป็นสัญลักษณ์ชี้ไปข้างหน้าไม่มีเสียงพูดจาอะไรเดินตามกันมาทางเดียว สงบโดยไม่ต้องการควบคุมจากเสียงคำรามลั่นของผู้ควบคุมที่ไม่ควบคุมเสียงและอำนาจ เสมือนพวกเขาไม่ยินดียินร้ายกับหน้าที่ของคนและอุปกรณ์ขยายเสียง
ภาพความทรงจำของการไฮปาร์ก บนเวทีที่เต็มไปด้วยถ้อยคำด่าทอความไร้ยุติธรรมหรือความผิดบาปของฝ่ายตรงกันข้าม การวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีเย้ยหยันอย่างเผ็ดร้อนนั้นไม่ปรากฏ นักเคลื่อนไหวที่คุ้นหน้าที่เคยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาก็ไม่เห็นพวกเขา ทั้งที่เป็นขาประจำในหลายต่อหลายครั้งของการชุมนุมเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจก่อนหน้านั้นมันกลายเป็นอดีตไปหมดสิ้น เวลานี้มองไม่เห็นเวทีที่เป็นเป้าหมายของการรวมกลุ่ม ไม่เห็นรถติดเครื่องขยายเสียง ไม่เห็นชายในชุดทะมัดทะแมงเป็นการ์ดคุ้มกันผู้นำการชุมนุม ในสายตาเจ้าหน้าที่การจำแนกลักษณะของผู้นำชุมนุมเป็นได้ยาก มองเห็นแต่ผู้คนชาวบ้านชาวกรุงธรรมดาที่พากันเดินไปรวมตัวกันบนถนน
ราว 18 นาฬิกา เมืองหลวงที่เคยคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อย่างกรุงเทพกลับเงียบเหงา มีแต่แสงไฟจากตึกรามบ้านช่อง รถยนต์ที่เคยติดเครื่องยนต์พ่นควันพิษจอดติดกันบนท้องถนนหายวับไปเหมือนธรณีสูบ บัดนี้มีแต่รถโดยสาร ขสมก.วิ่งอยู่บนถนนโล่งสุดสายตาไร้คนโดยสาร ถนนโค้งบนเสาคอนกรีตสูงใหญ่เหนือเมืองฟ้าอมรมองเห็นแต่ตัวหนอนไฟฟ้าที่วิ่งวนหาผู้คนที่ปรารถนาจะกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง ทุกคนไม่กลับบ้านลงมาออกันบนถนน
ฝั่งธนบุรี มีพระสงฆ์เดินข้ามสะพานพระปิ่นเกล้ามายังท้องสนามหลวง นิ่งเหมือนดินจงกลมผ่านความขัดแย้งด้วยอาการอหิงสา ไม่มีใครรู้เป้าหมายของผู้คนบนแผ่นดินตรงหน้า รู้แต่ว่าต้องเดินออกมา เดินออกมาเหมือนสายผ้าม่านยักษ์สีเหลืองขมิ้นโรยตัวลงมาจากสะพานข้ามแม้น้ำศักดิสิทธิ
ขณะนี้มีคำสั่งด่วนจากทางการห้ามมิให้ สถานีวิทยุทุกช่องของประเทศรายงานเหตุการณ์ขณะนี้ แต่ผู้สื่อข่าวก็กระจายกันเก็บภาพอยู่อย่างไม่ลดละ เสียงเดินเท้าของประชาชนเริ่มดังขึ้น แท่นพิมพ์ของสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่จัดหน้าเตรียมพร้อมรายงานสถานการณ์อย่างเต็มที่ ใจจดใจจ่อรอบรรณาธิการบริหารสั่งเดินเครื่องพิมพ์เท่านั้น พนักงานสายส่งเริ่มกระสับกระส่าย เหมือนได้ยินเสียงคนเดินเท้าดังมาถึงชานเมืองหลวง บางคนวิงวอนอย่ามีคำสั่งฟ้าผ่า ระงับการรายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาเลย เพราะหากมีสายด่วนโทรมาจริง แท่นพิมพ์ดิจิตัลค่าตัวหลายร้อยล้านบาทนี้จะเปลี่ยนหน้าพิมพ์เป็นข่าวอาชญากรรมปล้นร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นที่สุพรรณบุรี และข่าวจับกระเทยตัวอ้วนตบทรัพย์ฝรั่งที่ภูเก็ตแทนข่าวการเดินขบวน พวกเขาไม่อยากรอ อยากไปส่งสายส่งให้เสร็จโดยเร็วแล้วกลับมาให้ทันชุมนุมคืนนี้
มีข่าวว่าตำรวจเชิญตัวผู้ร่วมชุมนุมไปสอบปากคำ ราว 15 คน มีผู้หญิง ผู้ชายและเด็กนักศึกษาสาว แต่ยังไม่ได้มีการตั้งข้อหา ทว่าการสอบสวนล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะผู้ถูกควบคุมตัวมาให้ความร่วมมือเพียงแค่การไปกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่ได้พูดจาหรือส่งเสียงอันใดเลยกับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาเก้าสิบนาทีที่ถูกควบคุมตัวอยู่ นายตำรวจในชุดสืบสวนหาข่าว เข็นรถขายผลไม้ขนานไปกับขบวนประชาชน ไม่มีอะไรรายงานกลับไปที่หน่วยเหนือ นอกจากเสียงเท้าที่ย่ำไปบนถนนของประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศจากสิงคโปร์ ทวีตภาพที่ถ่ายจากตัวตึกสูงมาที่ถนนเป็นภาพนักศึกษาราว 1 พันคน แปรอักษรบนท้องถนนเป็นถ้อยคำนี้
“ถ้าท่านไม่หยุดก็เหมือนปิดปากประชาชน”
ถ้าบอกว่านี่เป็นการตราหน้าของเผด็จการที่แจ่มชัด เพื่อก้าวย่างของประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินขอเป็นครั้งสุดท้ายการใช้ความรุนแรงจงอย่าเกิดขึ้นอีกเลย ไม่ว่าที่ใดบนโลกใบนี้
หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีพ่อค้าแม่ค้าสลากผู้พิการลงไปยืนกันเต็มถนน พ่อค้าสลากร่างกายปกติเดินไปซื้อน้ำดื่มมาแจกจ่าย ทหารและตำรวจสนธิกำลังตั้งเป็นด่านสกัดย่อย ๆ แต่ก็ถูกคลื่นประชาชนเดินผลักดันให้ด่านร่นขึ้นไปเป็นแนวเขตบนทางเท้าแทน
รถหนังสือพิมพ์มุ่งหน้าออกไปทางวงแหวนตะวันตก สวนทางเข้ามาของประชาชนจากหลายภูมิภาค กรุงเทพเหมือนเป็นอัมพาตหนักขึ้นเรื่อย ๆ จากการมาเป็นส่วนหนึ่งบนท้องถนน ไม่มีเสียงออกมาจากใครสักคน มีแต่เสียงของคนกลุ่มเดียวที่ออกคำสั่งเพื่ออะไรสักอย่าง
22.00 น. มีคำสั่งให้ล้อมปราบปรามผู้ชุมนุมที่เงียบงันนับแสนคนบนถนน มีเสียงปืน เสียงระเบิด และร่างประชาชนร่วงล้มลงบนถนนด้วยน้ำมือของคนเห็นต่าง แต่เมื่อเห็นท่าทีของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่วางอาวุธลงไปเดินบนถนนน คนเห็นต่างก็เหมือนน้ำเน่าที่ผลุบลงไปในท่อระบายน้ำ สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์รายงานภาพข่าวและสถานการณ์ที่เงียบสงบแต่มีพลังนั้นโดยพร้อมเพรียงกัน
ประชาชนล้วนลมลงบนถนนราชดำเนิน ในขณะที่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางออกนนอกประเทศไปตั้งแต่ตอนบ่าย คำตอบจริงแท้ที่คนไม่มีเสียงในสังคมบนถนนแห่งประวิติศาสตร์การเมืองเส้นนี้รอคอยก็ยังคงไม่ได้ยิน
หากถนนยังมีคนพร้อมจะเดิน พร้อมจะล้มลงไปอยู่เสมอเพื่ออะไรสักอย่าง คนที่มีสิทธิมีคำตอบที่รับรู้อยู่เต็มหัวใจอยู่ทุกดวง เสียงมันก้องดังและก็ล่องลอยอยู่ในสายลม
ฝันของถนนเส้นหนึ่ง
ถนนราชดำเนิน
บนถนนราชดำเนินที่แสนกว้างใหญ่ บัดนี้คลาคล่ำไปด้วยมวลชนเรือนหมื่นที่ไหลบ่ามาจากทุกทิศทุกทาง เหมือนทุกตรอกทุกซอยจะมีแต่ผู้คนที่ออกมาเดินบนถนน แม้เจ้าหน้าที่จะใช้อุปกรณ์หลากหลายชนิดปิดกั้นรถไม่ให้เข้ามาภายในได้เลยก็ตาม
ฝูงชนเดินเท้าเข้ามาเหมือนน้ำหลาก มีแต่เสียงย่ำเท้าและเสียงจากเครื่องขยายของทางการเพื่อควบคุมความสงบเท่านั้น พวกเขายกมือยกไม้เป็นสัญลักษณ์ชี้ไปข้างหน้าไม่มีเสียงพูดจาอะไรเดินตามกันมาทางเดียว สงบโดยไม่ต้องการควบคุมจากเสียงคำรามลั่นของผู้ควบคุมที่ไม่ควบคุมเสียงและอำนาจ เสมือนพวกเขาไม่ยินดียินร้ายกับหน้าที่ของคนและอุปกรณ์ขยายเสียง
ภาพความทรงจำของการไฮปาร์ก บนเวทีที่เต็มไปด้วยถ้อยคำด่าทอความไร้ยุติธรรมหรือความผิดบาปของฝ่ายตรงกันข้าม การวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีเย้ยหยันอย่างเผ็ดร้อนนั้นไม่ปรากฏ นักเคลื่อนไหวที่คุ้นหน้าที่เคยผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนกันมาก็ไม่เห็นพวกเขา ทั้งที่เป็นขาประจำในหลายต่อหลายครั้งของการชุมนุมเรียกร้องต่อผู้มีอำนาจก่อนหน้านั้นมันกลายเป็นอดีตไปหมดสิ้น เวลานี้มองไม่เห็นเวทีที่เป็นเป้าหมายของการรวมกลุ่ม ไม่เห็นรถติดเครื่องขยายเสียง ไม่เห็นชายในชุดทะมัดทะแมงเป็นการ์ดคุ้มกันผู้นำการชุมนุม ในสายตาเจ้าหน้าที่การจำแนกลักษณะของผู้นำชุมนุมเป็นได้ยาก มองเห็นแต่ผู้คนชาวบ้านชาวกรุงธรรมดาที่พากันเดินไปรวมตัวกันบนถนน
ราว 18 นาฬิกา เมืองหลวงที่เคยคึกคักที่สุดแห่งหนึ่งในโลก อย่างกรุงเทพกลับเงียบเหงา มีแต่แสงไฟจากตึกรามบ้านช่อง รถยนต์ที่เคยติดเครื่องยนต์พ่นควันพิษจอดติดกันบนท้องถนนหายวับไปเหมือนธรณีสูบ บัดนี้มีแต่รถโดยสาร ขสมก.วิ่งอยู่บนถนนโล่งสุดสายตาไร้คนโดยสาร ถนนโค้งบนเสาคอนกรีตสูงใหญ่เหนือเมืองฟ้าอมรมองเห็นแต่ตัวหนอนไฟฟ้าที่วิ่งวนหาผู้คนที่ปรารถนาจะกลับบ้านอย่างสิ้นหวัง ทุกคนไม่กลับบ้านลงมาออกันบนถนน
ฝั่งธนบุรี มีพระสงฆ์เดินข้ามสะพานพระปิ่นเกล้ามายังท้องสนามหลวง นิ่งเหมือนดินจงกลมผ่านความขัดแย้งด้วยอาการอหิงสา ไม่มีใครรู้เป้าหมายของผู้คนบนแผ่นดินตรงหน้า รู้แต่ว่าต้องเดินออกมา เดินออกมาเหมือนสายผ้าม่านยักษ์สีเหลืองขมิ้นโรยตัวลงมาจากสะพานข้ามแม้น้ำศักดิสิทธิ
ขณะนี้มีคำสั่งด่วนจากทางการห้ามมิให้ สถานีวิทยุทุกช่องของประเทศรายงานเหตุการณ์ขณะนี้ แต่ผู้สื่อข่าวก็กระจายกันเก็บภาพอยู่อย่างไม่ลดละ เสียงเดินเท้าของประชาชนเริ่มดังขึ้น แท่นพิมพ์ของสำนักพิมพ์ยักษ์ใหญ่จัดหน้าเตรียมพร้อมรายงานสถานการณ์อย่างเต็มที่ ใจจดใจจ่อรอบรรณาธิการบริหารสั่งเดินเครื่องพิมพ์เท่านั้น พนักงานสายส่งเริ่มกระสับกระส่าย เหมือนได้ยินเสียงคนเดินเท้าดังมาถึงชานเมืองหลวง บางคนวิงวอนอย่ามีคำสั่งฟ้าผ่า ระงับการรายงานข่าวอย่างตรงไปตรงมาเลย เพราะหากมีสายด่วนโทรมาจริง แท่นพิมพ์ดิจิตัลค่าตัวหลายร้อยล้านบาทนี้จะเปลี่ยนหน้าพิมพ์เป็นข่าวอาชญากรรมปล้นร้านเซเว่น-อีเลฟเว่นที่สุพรรณบุรี และข่าวจับกระเทยตัวอ้วนตบทรัพย์ฝรั่งที่ภูเก็ตแทนข่าวการเดินขบวน พวกเขาไม่อยากรอ อยากไปส่งสายส่งให้เสร็จโดยเร็วแล้วกลับมาให้ทันชุมนุมคืนนี้
มีข่าวว่าตำรวจเชิญตัวผู้ร่วมชุมนุมไปสอบปากคำ ราว 15 คน มีผู้หญิง ผู้ชายและเด็กนักศึกษาสาว แต่ยังไม่ได้มีการตั้งข้อหา ทว่าการสอบสวนล้มเหลวไม่เป็นท่าเพราะผู้ถูกควบคุมตัวมาให้ความร่วมมือเพียงแค่การไปกับเจ้าหน้าที่เท่านั้น ไม่ได้พูดจาหรือส่งเสียงอันใดเลยกับเจ้าหน้าที่ตลอดเวลาเก้าสิบนาทีที่ถูกควบคุมตัวอยู่ นายตำรวจในชุดสืบสวนหาข่าว เข็นรถขายผลไม้ขนานไปกับขบวนประชาชน ไม่มีอะไรรายงานกลับไปที่หน่วยเหนือ นอกจากเสียงเท้าที่ย่ำไปบนถนนของประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศจากสิงคโปร์ ทวีตภาพที่ถ่ายจากตัวตึกสูงมาที่ถนนเป็นภาพนักศึกษาราว 1 พันคน แปรอักษรบนท้องถนนเป็นถ้อยคำนี้
“ถ้าท่านไม่หยุดก็เหมือนปิดปากประชาชน”
ถ้าบอกว่านี่เป็นการตราหน้าของเผด็จการที่แจ่มชัด เพื่อก้าวย่างของประชาธิปไตย ถนนราชดำเนินขอเป็นครั้งสุดท้ายการใช้ความรุนแรงจงอย่าเกิดขึ้นอีกเลย ไม่ว่าที่ใดบนโลกใบนี้
หน้าสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลมีพ่อค้าแม่ค้าสลากผู้พิการลงไปยืนกันเต็มถนน พ่อค้าสลากร่างกายปกติเดินไปซื้อน้ำดื่มมาแจกจ่าย ทหารและตำรวจสนธิกำลังตั้งเป็นด่านสกัดย่อย ๆ แต่ก็ถูกคลื่นประชาชนเดินผลักดันให้ด่านร่นขึ้นไปเป็นแนวเขตบนทางเท้าแทน
รถหนังสือพิมพ์มุ่งหน้าออกไปทางวงแหวนตะวันตก สวนทางเข้ามาของประชาชนจากหลายภูมิภาค กรุงเทพเหมือนเป็นอัมพาตหนักขึ้นเรื่อย ๆ จากการมาเป็นส่วนหนึ่งบนท้องถนน ไม่มีเสียงออกมาจากใครสักคน มีแต่เสียงของคนกลุ่มเดียวที่ออกคำสั่งเพื่ออะไรสักอย่าง
22.00 น. มีคำสั่งให้ล้อมปราบปรามผู้ชุมนุมที่เงียบงันนับแสนคนบนถนน มีเสียงปืน เสียงระเบิด และร่างประชาชนร่วงล้มลงบนถนนด้วยน้ำมือของคนเห็นต่าง แต่เมื่อเห็นท่าทีของเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจที่วางอาวุธลงไปเดินบนถนนน คนเห็นต่างก็เหมือนน้ำเน่าที่ผลุบลงไปในท่อระบายน้ำ สถานีวิทยุ สถานีโทรทัศน์รายงานภาพข่าวและสถานการณ์ที่เงียบสงบแต่มีพลังนั้นโดยพร้อมเพรียงกัน
ประชาชนล้วนลมลงบนถนนราชดำเนิน ในขณะที่มีคนกลุ่มหนึ่งเดินทางออกนนอกประเทศไปตั้งแต่ตอนบ่าย คำตอบจริงแท้ที่คนไม่มีเสียงในสังคมบนถนนแห่งประวิติศาสตร์การเมืองเส้นนี้รอคอยก็ยังคงไม่ได้ยิน
หากถนนยังมีคนพร้อมจะเดิน พร้อมจะล้มลงไปอยู่เสมอเพื่ออะไรสักอย่าง คนที่มีสิทธิมีคำตอบที่รับรู้อยู่เต็มหัวใจอยู่ทุกดวง เสียงมันก้องดังและก็ล่องลอยอยู่ในสายลม