เพื่อนคนนี้ ไม่ถึงกับสนิทมาก (เรารู้สึกเหมือนกันว่า เค้าคบเราเพราะผลประโยชน์ คบหลายๆคนเพราะผลประโยชน์ อาจจะต่างเรื่องกันไป)
ลูกเขาไม่สบายหลายอย่าง เขาเลยค่อยข้างมาสนิทเลียบๆ เคียงๆถาม
เวลาลูกเขาดีแล้ว เขาก็ห่าง (เป็นกับเพื่อนคนอื่นด้วย)
เมื่อวาน เราเห็นลูกเขาอีกที เหมือนออทิสติกมาก (เมื่อก่อนเราเคยทักบางอย่างแล้ว และทำนัดให้ลูกที่ รพ.ด้วย แนะให้เขาไปจิตเวชโดยตรงดีกว่า ไปพัฒนาการ)
ที่เราโมโหคือ เฟซเฉพาะกลุ่ม เขาไปพูดเหมือนสาวมั่นว่า เขาเป็นหมอให้ลูกได้ ไม่ได้จำเป็นต้องไปหา(จิตเวช) เพื่อกินยาอะไรทั้งสิ้น (แต่มาอ้อนวอนเราให้ช่วยทำนัดให้ที เพราะหมอที่อื่นไม่สนใจเลย เหมือนหักหน้าเรา ) คือบัตร 30 บาท เราว่า มันพูดยากนะค่ะ ที่ไหนก็ไม่อยากรับเคสส่งต่อ
อีกอย่างเด็กเป็นหลายโรค ควรหาหมอเฉพาะทางน่านะดีกว่า ไปฟัง "นักพัฒนาการพูด"
เรามาเล่าอาการให้แฟนฟัง แฟนก็ยังว่าใช่ ห้ามเรา อย่าไปพูดอะไรทั้งสิ้น อย่าทำนัดให้อีก เพราะไม่ว่าใคร ก็ไม่อยากให้มาว่าลูกตัวเองป่วย
ต้องบอกว่า เหมือนมากๆ มือไม้ไม่หยุด เดินตลอด มือไกวตลอด ปาของใส่คนอื่น ตาเหลือกกลิ้งไปมาตลอด พูดออกเสียงใจคอ วี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังมาก ถ้าพูดก็ ภาษาต่างดาว
คนไข้ในรพ.แรกๆ ก็โมโหกัน พอเห็นหน้าเด็ก
...เงียบ..ไม่มอง ไม่โกรธเด็กเลย และแม่เขาก็ไม่อะไรด้วย อุ้มลูกยิ้มเดินไปเดินมา เราเป็นฝ่ายขอโทษแทน
พอถามเรา เราก็อ้อมๆแอ้มๆ ว่า ไปถามหมอสิ ไปถามนักฝึกสิ เพราะบอกว่า นักฝึกเก่ง( เราค่อยข้างข้องใจนะ ว่า ถ้านักฝึกมีประสบการณ์เก่งๆจริงๆ น่าจะมองออกว่า ไม่ใช่พัฒนาการช้าอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นอะไร ต้องหมอเป็นคนบอก)
เขาส่งฝึกพัฒนาการลูกค่ะ ไม่ใช่ทิ้งลูกไม่สนใจ
เพื่อนบอกว่า เด็กวี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะ พูดช้า สื่อสารความต้องการไม่ได้
(ลูกเราพูดช้าค่ะ แต่ไม่วี๊ด ชี้มือ ไม่ก็นิ่งๆ ยิ้ม ฯลฯ )
และบอกว่า "ลูกเราเป็นฝ่ายไปชวนลูกเราเล่น เลยยิ่งเสียงดังเข้าไปอีก"
ยอมรับว่า ลูกเราสมาธิสั้น ก็ไม่ได้ดีไปกว่า ลูกเขา เพราะลูกเราก็พูดช้า
ถ้าลูกเพื่อนเหมือน ออทิสติก คุณจะบอกหรือเปล่า
ลูกเขาไม่สบายหลายอย่าง เขาเลยค่อยข้างมาสนิทเลียบๆ เคียงๆถาม
เวลาลูกเขาดีแล้ว เขาก็ห่าง (เป็นกับเพื่อนคนอื่นด้วย)
เมื่อวาน เราเห็นลูกเขาอีกที เหมือนออทิสติกมาก (เมื่อก่อนเราเคยทักบางอย่างแล้ว และทำนัดให้ลูกที่ รพ.ด้วย แนะให้เขาไปจิตเวชโดยตรงดีกว่า ไปพัฒนาการ)
ที่เราโมโหคือ เฟซเฉพาะกลุ่ม เขาไปพูดเหมือนสาวมั่นว่า เขาเป็นหมอให้ลูกได้ ไม่ได้จำเป็นต้องไปหา(จิตเวช) เพื่อกินยาอะไรทั้งสิ้น (แต่มาอ้อนวอนเราให้ช่วยทำนัดให้ที เพราะหมอที่อื่นไม่สนใจเลย เหมือนหักหน้าเรา ) คือบัตร 30 บาท เราว่า มันพูดยากนะค่ะ ที่ไหนก็ไม่อยากรับเคสส่งต่อ
อีกอย่างเด็กเป็นหลายโรค ควรหาหมอเฉพาะทางน่านะดีกว่า ไปฟัง "นักพัฒนาการพูด"
เรามาเล่าอาการให้แฟนฟัง แฟนก็ยังว่าใช่ ห้ามเรา อย่าไปพูดอะไรทั้งสิ้น อย่าทำนัดให้อีก เพราะไม่ว่าใคร ก็ไม่อยากให้มาว่าลูกตัวเองป่วย
ต้องบอกว่า เหมือนมากๆ มือไม้ไม่หยุด เดินตลอด มือไกวตลอด ปาของใส่คนอื่น ตาเหลือกกลิ้งไปมาตลอด พูดออกเสียงใจคอ วี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ดังมาก ถ้าพูดก็ ภาษาต่างดาว
คนไข้ในรพ.แรกๆ ก็โมโหกัน พอเห็นหน้าเด็ก
...เงียบ..ไม่มอง ไม่โกรธเด็กเลย และแม่เขาก็ไม่อะไรด้วย อุ้มลูกยิ้มเดินไปเดินมา เราเป็นฝ่ายขอโทษแทน
พอถามเรา เราก็อ้อมๆแอ้มๆ ว่า ไปถามหมอสิ ไปถามนักฝึกสิ เพราะบอกว่า นักฝึกเก่ง( เราค่อยข้างข้องใจนะ ว่า ถ้านักฝึกมีประสบการณ์เก่งๆจริงๆ น่าจะมองออกว่า ไม่ใช่พัฒนาการช้าอย่างเดียวแล้ว แต่เป็นอะไร ต้องหมอเป็นคนบอก)
เขาส่งฝึกพัฒนาการลูกค่ะ ไม่ใช่ทิ้งลูกไม่สนใจ
เพื่อนบอกว่า เด็กวี๊ดๆๆๆๆๆๆๆๆๆ เพราะ พูดช้า สื่อสารความต้องการไม่ได้
(ลูกเราพูดช้าค่ะ แต่ไม่วี๊ด ชี้มือ ไม่ก็นิ่งๆ ยิ้ม ฯลฯ )
และบอกว่า "ลูกเราเป็นฝ่ายไปชวนลูกเราเล่น เลยยิ่งเสียงดังเข้าไปอีก"
ยอมรับว่า ลูกเราสมาธิสั้น ก็ไม่ได้ดีไปกว่า ลูกเขา เพราะลูกเราก็พูดช้า