เล่าสู่กันฟัง : เตรียม"น้ำชา"ไปด้วย ถ้าจำเป็นต้อง "ขนส่งรถจักรยานยนต์" ทางรถไฟ

กระทู้สนทนา
จากกระทู้นี้ ครับ  http://ppantip.com/topic/31064923

(กระทู้นี้เล่าสู่กันฟัง เพื่อแชร์ประสบการณ์ มิได้มีเจตนาร้าย หรือหวังร้ายแก่บุคคลใดทั้งสิ้น)

มีโอกาสได้เดินทางไปมาเลเซีย อีกครั้ง  เพื่อร่วมงานบุญ ทอดกฐินสามัคคี ณ สำนักสงฆ์ไทย   เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา

แต่ครั้งนี้  มีข้อจำกัด เรื่องเวลา  คนซ้อน  "คุณนาย" จึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน และวางแผนการเดินทาง  ดังนี้

ขาไป :  เส้นทาง  ศรีราชา - หัวลำโพง - ชุมทางหาดใหญ่ - ด่านสะเดา - รัฐเคดะห์

ขาไปผมจองตั๋วรถไฟ  ขบวน 169 รถเร็ว รถออก 15.35 น.  พร้อมบรรทุกน้องนินจา ไปด้วย

แต่ด้วยเรื่องเส้นทางที่ไม่ค่อยถนัดนักในการเดินทางไป "หัวลำโพง" จึงสอบถาม ผู้รู้ ทราบว่า  ขี่เส้นบางนา-ตราด ตรงยาว และเลี้ยวขวา

เข้าเส้น 3 สุขุมวิท  ข้างสะพานผ่านพระโขนง  ไฟแดง 3 แยก ที่ 2 (สามแยกกล้วยน้ำไท) และเลี้ยงซ้าย ตรงยาว (ตรงอย่างเดียวครับ)

ก็จะเจอป้าย "สามย่าน" ผ่านวัดหัวลำโพง  ก็คิดว่า เรามาถูกทางแล้ว  หัวลำโพง จะอยู่ทางขวามือ เลี้ยงเข้าไปได้เลยครับ

แต่ก่อนจะเดินทาง 1 วัน  ได้ไปส่งบุพการี ให้เดินทางไปล่วงหน้าก่อน  จึงมีโอกาสได้แวะเข้าไปสอบถามเจ้าหน้าที่ เรื่อง ขั้นตอน รายละเอียด

และระยะเวลาในการทำเรื่องขนส่งฯ  และขอความอนุเคราะห์ให้ล๊อคตู้ขนส่ง  และประวิงเวลา  "กังวลใจเรื่องระยะทาง เวลา" กลัวไปไม่ทัน

ตามกำหนดการที่วางไว้ คือ รับแฟน เลิกงานครึ่งวัน และออกเดินทางจากอมตะชลบุรี ประมาณ 12.00 น.  เจ้าหน้าที่รับเรื่องไว้ พร้อมทั้งรับเอกสาร สำเนาทะเบียนรถ พร้อมให้เบอร์โทร

ปรากฎว่า ในวันเดินทาง ผมใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม.ครึ่ง (เร็วมาก) สะดวก ระยะทางไม่ไกล อย่างที่คิด  จะมีบ้าง ช่วงรถติด แถว ๆ หน้าตึกมาลีนนท์ (ช่อง 3)

ไปถึงก็ได้ไปเรื่องกับเจ้าหน้าที่อีกคน  (คนละคนกับวันก่อน)  สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด 1,390.-   ทั้ง ๆ ที่ตามเอกสาร ที่ได้รับ ผมคิดแล้ว ได้  1,250.-  คิดอย่างไรก็ไม่ได้ตามจำนวนที่เจ้าหน้าที่เรียกเก็บ  (ตามไฟล์ภาพ)  มาคิดได้ตรงนี้ว่า ควรขอใบเสร็จใบเงินกับเจ้าหน้าที่ด้วย

ประเด็นสำคัญอยู่ตรงนี้ครับ  หลังจากทำเรื่องเสร็จแล้ว ก็รอขบวนรถไฟมา เจ้าหน้าที่ "กระซิบ" แบบเบาว่า สำหรับเรื่อง "ยกขึ้น" "ยกลง" ก็แล้วแต่ "น้ำใจ" น่ะครับ   ขอบอกว่า ในส่วนตรงนี้ ถ้าเราดูให้ดี จะมีข้อความระบุไว้อยู่ "ในส่วนการขนส่งของเอกชน (ยกขึ้น 100.- ยกลง 80.-)

ถ้าใครใจไม่แข็งพอ จะรู้สึกผิด รู้สึกแย่เหมือนผม ในความคิดตอนนั้น คิดว่า เล็ก ๆ น้อย ๆ ไม่เป็นไร แต่องค์กรแบบนี้ น่าจะมีมาตรฐานมากกว่านี้ ไม่ใช่ "มาแบมือ ขอเงิน" พร้อมทั้งพูด "ตัดรอน" ว่า รถก็ใหญ่ หนักด้วย "ไม่มีน้ำใจ" และไม่มีค่าน้ำชาเลย

เล่าต่อน่ะครับ  :  ขบวนรถไฟมาถึง  ผมก็รีบเดินทางไปที่ตู้สัมภาระ  เพื่อ "ช่วยเหลือ" เจ้าหน้าที่  ในใจคิดอยู่เหมือนกัน ไม่อยากเสียเงินเพิ่ม

และเพื่อดูแลความเรียบร้อยของรถด้วย  ยกขึ้นเรียบร้อย ก็มีการรัดด้วย เชือก แบบหนาแน่น  จากนั้น เจ้าหน้าที่ทั้ง 3 คน ก็เดินตามมา

เพื่อขอค่า "น้ำชา"  ซึ่งผมไม่ได้เตรียมมาจากบ้าน ทำให้บอกปฏิเสธไป และบอกแค่ว่า "เอางี้ ผมเรียกน้ำ" ดีกว่า 3 ขวด 45.- (เครื่องดื่มบำรุงกำลัง)  แต่ก็มีเสียง นินทา ตามมาเล็กน้อย ๆ ผมก็เฉย ๆ มิได้โต้ตอบ หรือ โต้แย้งใด ๆ แต่ในใจก็คิดถึง ความปลอดภัยของรถเช่นกัน

ก่อนรถไฟจะออก ก็ได้เดินไปดูอีกรอบ  "ว่าน้องนิน" อยู่ดี สบายดีไหม"  อันนี้ขาไปน่ะครับ

ประมาณ  เกือบ 11.00 น. ก็ได้เดินทางมาถึง ชุมทางหาดใหญ่  "รถไฟล่าช้าไปเกือบ 3 ชม." ตามกำหนดการต้องถึงประมาณ 9.00 น.

ถึงชุมทางหาดใหญ่  ก็โดนเรียกเก็บค่า "น้ำชา"  แต่ด้วยเวลา ที่ต้องรีบ "บึ่ง" เข้ามาเลเซีย ทันที จึงจำเป็นต้องควักให้อีก 20.- บาท

ด้วยความไม่เต็มให้ (สำหรับผม) และไม่เต็มใจรับ (สำหรับเจ้าหน้าที่)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่