บทความนี้เจ้าของกระทู้แปลมาจาก
http://weburbanist.com/2010/10/06/mexicos-creepiest-tourist-destination-island-of-the-dolls/
พอดีได้อ่าน 10 สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก ที่มีเกาะตุ๊กตารวมอยู่ด้วย เลยไปหาอ่านเพิ่ม และคิดว่าน่าสนใจ จึงนำมาแปลลงที่นี่ด้วยค่ะ
เรื่องเล่าของเกาะสุสานตุ๊กตา สถานที่ท่องเที่ยวที่สยองขวัญที่สุดของเม็กซิโก
บนเกาะที่มืดและน่ากลัวในคลองโซชิมิโกใกล้กับเม็กซิโกซิตี้นั้นมีสิ่งที่จัดได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ากลัวและประหลาดที่สุดในโลก กระนั้นเกาะแสนเศร้าแห่งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นสถานที่ในแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่เกาะตุ๊กตานี้ได้อุทิศให้กับดวงวิญญาณหลงทางของเด็กหญิงผู้น่าสงสารที่ได้พบกับชะตากรรมของเธอเร็วเกินไป
เกาะตุ๊กตา (Isla de las Munecas) ตั้งอยู่ในคลองทางใต้ของเม็กซิโกซิตี้ และตอนนี้เป็นบ้านของตุ๊กตาพิการที่น่าสะพรึงกลัว แขนขาที่เสียหาย หัวที่ถูกตัดออก และดวงตาที่ว่างเปล่าของพวกมันประดับอยู่ทั้งบนตั้นไม้ รั้ว และแทบจะทุกพื้นผิวที่ว่าง ตุ๊กตาพวกนี้ดูน่ากลัวแม้ในเวลากลางวันแสกๆ แต่ในตอนกลางคืนนั้นพวกมันจะหลอนเป็นพิเศษ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าที่มาของเกาะแห่งนี้นั้นมาจากโศกนาฏกรรม เรื่องนั้นมีอยู่ว่า ผู้อาศัยเพียงคนเดียวของเกาะแห่งนี้ ดอน จูเลียน ซานตานา พบศพของเด็กจมน้ำในคลองเมื่อราวๆ 50 ที่แล้ว เขาถูกความตายของเธอหลอกหลอนหลังจากนั้นไม่นานเมื่อเห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งลอยตามคลองมา จึงนำมันมาแขวนที่ต้นไม้เพื่อที่จะทำให้เด็กหญิงพอใจ เขาหวังว่าจะทำให้วิญญาณที่ถูกทรมานของเธอนั้นสงบลง และปกป้องเกาะจากความชั่วร้ายในภายภาคหน้า
ทว่าตุ๊กตาตัวเดียวบนต้นไม้ไม่เพียงพอที่จะทำให้จิตใจที่ถูกรบกวนของซานตานาสงบลงได้ เขาจึงตกตุ๊กตาและส่วนต่างๆของตุ๊กตาขึ้นมาจากคลองเมื่อใดก็ตามที่เห็นมัน แล้วนำแต่ละชิ้นมาแขวนอย่างระมัดระวังบนเกาะแห่งนี้ แต่ก็มีตุ๊กตาจากคลองไม่มากพอที่จะทำให้จิตใจที่ถูกทรมานของซานตานาพึงพอใจ เขาจึงเริ่มคุ้ยหาจากกองขยะเพิ่มระหว่างการเดินทางออกจากบ้านที่ไม่บ่อยนักของเขา ต่อมาเขาเริ่มนำผักผลไม้ที่ปลูกเองไปแลกตุ๊กตา
มีเรื่องราวหลายเรื่องที่ถูกโยงเข้ากับเกาะนี้ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่แพร่หลายที่สุดคือ ดอน จูเลียนได้เป็นบ้า และเชื่อว่าตุ๊กตานั้นเป็นเด็กจริงๆ ซึ่งเขาได้ดึงขึ้นมาจากคลอง และพยายามที่จะช่วยให้มันฟื้นคืนชีพ แต่ความจริง ที่บอกเล่าโดยสมาชิกในครอบครัวของเขา ซึ่งตอนนี้ได้เปิดเกาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็คือว่า ดอน จูเลียนนั้นเพียงแค่เชื่อว่าเกาะแห่งนี้ถูกหลอกหลอนโดยวิญญาณของเด็กผู้หญิงเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่มีเพียงดอน จูเลียน เท่านั้นที่รู้ เขาเชื่อว่าเขาสามารถทำให้เด็กหญิงที่ตายไปแล้วมีความสุข และป้องกันความชั่วร้ายได้โดยการแขวนตุ๊กตาที่ถูกทิ้งไว้บนต้นไม้ทั้งเกาะ
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องน่าสยองขวัญที่สุดในปี 2001 เมื่อดอน จูเลียน จมคลองเหมือนกับเด็กหญิงคนนั้น หลายคนกล่าวว่าตุ๊กตาเหล่านั้น ซึ่งถูกวิญญาณที่ถูกทรมานสิง ได้รวมหัวกันฆ่าชายแก่ผู้นี้ บางคนเชื่อว่าการตายของซานตานานั้นเป็นอุบัติเหตุ และนับจากที่เขาตายไป ตุ๊กตาพวกนั้นก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเกาะแทนเขา
แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากนัก ช่วงที่ดอน จูเลียน ยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังนับแต่นั้นมา กองถ่ายทำรายการโทรทัศน์นานาชาติได้มาถ่ายทำที่นั่นหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งรายการที่อ้างว่าพบหลักฐานว่าเกาะแห่งนี้มีวิญญาณหลอนอยู่จริง
การเดินทางเข้าไปยังเกาะแห่งนี้นั้นใช้เวลานานและยากลำบาก แต่การเดินท่ามกลางตุ๊กตาสยองขวัญนั้นก็เป็นประสบการณ์ที่หาดูที่อื่นไม่ได้ ตุ๊กตาส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด นั้นถูกเจ้าของคนเก่าทิ้งด้วยหลายสาเหตุ แขนขาที่พิการ และหัวที่ไร้ลำตัว แขวนเรียงอยู่กับตุ๊กตาเต็มตัวที่ถูกแสงอาทิตย์เผาจนซีด บางตัวก็ขึ้นรา ในขณะที่บางตัวนั้นแทบจะไม่มีผมเทียมเหลืออยู่เลย แมงมุมและแมลงต่างๆมาทำรังในส่วนที่เป็นรูโบ๋ของตุ๊กตาแทบทุกตัว
แม้ว่าความรู้สึกของดอน จูเลียนนั้นจะบริสุทธิ์และน่ายกย่อง สุสานตุ๊กตาที่เขาสร้างขึ้นนี้ก็สยองขวัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ ดวงตาที่ไร้วิญญาติดตามผู้มาเยือนขณะที่พวกเขาเดินไปรอบๆเกาะเล็กๆแห่งนี้ (ซึ่งจริงๆคือ ชินามปา หรือสวนเทียมลอยน้ำ) และหลายคนก็สาบานว่าได้ยินเสียงตุ๊กตากระซิบกับพวกเขา งานที่ทำด้วยใจรัก (หรือด้วยความกลัว) ได้บังเอิญส่งผลให้เกิดความสนใจและน่าตื่นเต้น แก่ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องพิสดารและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ
แปลมาจาก
http://weburbanist.com/2010/10/06/mexicos-creepiest-tourist-destination-island-of-the-dolls/
เครดิตรูปภาพ
http://planetoddity.com/the-island-of-the-dolls-a-dark-tourist-attraction-in-mexico/
http://www.flickr.com/photos/skillicorn/2311143524/
http://www.flickr.com/photos/tar_zan/513007049/
http://www.flickr.com/photos/tar_zan/511489901/
http://www.flickr.com/photos/troels/2247104134/
http://www.flickr.com/photos/esparta/2994076542/
http://www.flickr.com/photos/becstarr/2694033007/
เรื่องเล่าของเกาะสุสานตุ๊กตา สถานที่ท่องเที่ยวที่สยองขวัญที่สุดของเม็กซิโก
พอดีได้อ่าน 10 สถานที่น่ากลัวที่สุดในโลก ที่มีเกาะตุ๊กตารวมอยู่ด้วย เลยไปหาอ่านเพิ่ม และคิดว่าน่าสนใจ จึงนำมาแปลลงที่นี่ด้วยค่ะ
เรื่องเล่าของเกาะสุสานตุ๊กตา สถานที่ท่องเที่ยวที่สยองขวัญที่สุดของเม็กซิโก
บนเกาะที่มืดและน่ากลัวในคลองโซชิมิโกใกล้กับเม็กซิโกซิตี้นั้นมีสิ่งที่จัดได้ว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่น่ากลัวและประหลาดที่สุดในโลก กระนั้นเกาะแสนเศร้าแห่งนี้ไม่ได้ตั้งใจจะเป็นสถานที่ในแผนการเดินทางของนักท่องเที่ยว แต่เกาะตุ๊กตานี้ได้อุทิศให้กับดวงวิญญาณหลงทางของเด็กหญิงผู้น่าสงสารที่ได้พบกับชะตากรรมของเธอเร็วเกินไป
เกาะตุ๊กตา (Isla de las Munecas) ตั้งอยู่ในคลองทางใต้ของเม็กซิโกซิตี้ และตอนนี้เป็นบ้านของตุ๊กตาพิการที่น่าสะพรึงกลัว แขนขาที่เสียหาย หัวที่ถูกตัดออก และดวงตาที่ว่างเปล่าของพวกมันประดับอยู่ทั้งบนตั้นไม้ รั้ว และแทบจะทุกพื้นผิวที่ว่าง ตุ๊กตาพวกนี้ดูน่ากลัวแม้ในเวลากลางวันแสกๆ แต่ในตอนกลางคืนนั้นพวกมันจะหลอนเป็นพิเศษ
ไม่น่าแปลกใจเลยว่าที่มาของเกาะแห่งนี้นั้นมาจากโศกนาฏกรรม เรื่องนั้นมีอยู่ว่า ผู้อาศัยเพียงคนเดียวของเกาะแห่งนี้ ดอน จูเลียน ซานตานา พบศพของเด็กจมน้ำในคลองเมื่อราวๆ 50 ที่แล้ว เขาถูกความตายของเธอหลอกหลอนหลังจากนั้นไม่นานเมื่อเห็นตุ๊กตาตัวหนึ่งลอยตามคลองมา จึงนำมันมาแขวนที่ต้นไม้เพื่อที่จะทำให้เด็กหญิงพอใจ เขาหวังว่าจะทำให้วิญญาณที่ถูกทรมานของเธอนั้นสงบลง และปกป้องเกาะจากความชั่วร้ายในภายภาคหน้า
ทว่าตุ๊กตาตัวเดียวบนต้นไม้ไม่เพียงพอที่จะทำให้จิตใจที่ถูกรบกวนของซานตานาสงบลงได้ เขาจึงตกตุ๊กตาและส่วนต่างๆของตุ๊กตาขึ้นมาจากคลองเมื่อใดก็ตามที่เห็นมัน แล้วนำแต่ละชิ้นมาแขวนอย่างระมัดระวังบนเกาะแห่งนี้ แต่ก็มีตุ๊กตาจากคลองไม่มากพอที่จะทำให้จิตใจที่ถูกทรมานของซานตานาพึงพอใจ เขาจึงเริ่มคุ้ยหาจากกองขยะเพิ่มระหว่างการเดินทางออกจากบ้านที่ไม่บ่อยนักของเขา ต่อมาเขาเริ่มนำผักผลไม้ที่ปลูกเองไปแลกตุ๊กตา
มีเรื่องราวหลายเรื่องที่ถูกโยงเข้ากับเกาะนี้ในเวลาหลายปีที่ผ่านมา เรื่องที่แพร่หลายที่สุดคือ ดอน จูเลียนได้เป็นบ้า และเชื่อว่าตุ๊กตานั้นเป็นเด็กจริงๆ ซึ่งเขาได้ดึงขึ้นมาจากคลอง และพยายามที่จะช่วยให้มันฟื้นคืนชีพ แต่ความจริง ที่บอกเล่าโดยสมาชิกในครอบครัวของเขา ซึ่งตอนนี้ได้เปิดเกาะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ก็คือว่า ดอน จูเลียนนั้นเพียงแค่เชื่อว่าเกาะแห่งนี้ถูกหลอกหลอนโดยวิญญาณของเด็กผู้หญิงเท่านั้น ด้วยเหตุผลที่มีเพียงดอน จูเลียน เท่านั้นที่รู้ เขาเชื่อว่าเขาสามารถทำให้เด็กหญิงที่ตายไปแล้วมีความสุข และป้องกันความชั่วร้ายได้โดยการแขวนตุ๊กตาที่ถูกทิ้งไว้บนต้นไม้ทั้งเกาะ
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องน่าสยองขวัญที่สุดในปี 2001 เมื่อดอน จูเลียน จมคลองเหมือนกับเด็กหญิงคนนั้น หลายคนกล่าวว่าตุ๊กตาเหล่านั้น ซึ่งถูกวิญญาณที่ถูกทรมานสิง ได้รวมหัวกันฆ่าชายแก่ผู้นี้ บางคนเชื่อว่าการตายของซานตานานั้นเป็นอุบัติเหตุ และนับจากที่เขาตายไป ตุ๊กตาพวกนั้นก็ได้รับหน้าที่เป็นผู้ดูแลเกาะแทนเขา
แม้ว่าเกาะแห่งนี้จะไม่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมากนัก ช่วงที่ดอน จูเลียน ยังมีชีวิตอยู่ แต่มันก็กลับกลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวโด่งดังนับแต่นั้นมา กองถ่ายทำรายการโทรทัศน์นานาชาติได้มาถ่ายทำที่นั่นหลายต่อหลายครั้ง รวมทั้งรายการที่อ้างว่าพบหลักฐานว่าเกาะแห่งนี้มีวิญญาณหลอนอยู่จริง
การเดินทางเข้าไปยังเกาะแห่งนี้นั้นใช้เวลานานและยากลำบาก แต่การเดินท่ามกลางตุ๊กตาสยองขวัญนั้นก็เป็นประสบการณ์ที่หาดูที่อื่นไม่ได้ ตุ๊กตาส่วนใหญ่ ถ้าไม่ใช่ทั้งหมด นั้นถูกเจ้าของคนเก่าทิ้งด้วยหลายสาเหตุ แขนขาที่พิการ และหัวที่ไร้ลำตัว แขวนเรียงอยู่กับตุ๊กตาเต็มตัวที่ถูกแสงอาทิตย์เผาจนซีด บางตัวก็ขึ้นรา ในขณะที่บางตัวนั้นแทบจะไม่มีผมเทียมเหลืออยู่เลย แมงมุมและแมลงต่างๆมาทำรังในส่วนที่เป็นรูโบ๋ของตุ๊กตาแทบทุกตัว
แม้ว่าความรู้สึกของดอน จูเลียนนั้นจะบริสุทธิ์และน่ายกย่อง สุสานตุ๊กตาที่เขาสร้างขึ้นนี้ก็สยองขวัญอย่างปฏิเสธไม่ได้ ดวงตาที่ไร้วิญญาติดตามผู้มาเยือนขณะที่พวกเขาเดินไปรอบๆเกาะเล็กๆแห่งนี้ (ซึ่งจริงๆคือ ชินามปา หรือสวนเทียมลอยน้ำ) และหลายคนก็สาบานว่าได้ยินเสียงตุ๊กตากระซิบกับพวกเขา งานที่ทำด้วยใจรัก (หรือด้วยความกลัว) ได้บังเอิญส่งผลให้เกิดความสนใจและน่าตื่นเต้น แก่ผู้ที่ชื่นชอบเรื่องพิสดารและสถานที่ท่องเที่ยวแปลกๆ
แปลมาจาก http://weburbanist.com/2010/10/06/mexicos-creepiest-tourist-destination-island-of-the-dolls/
เครดิตรูปภาพ
http://planetoddity.com/the-island-of-the-dolls-a-dark-tourist-attraction-in-mexico/
http://www.flickr.com/photos/skillicorn/2311143524/
http://www.flickr.com/photos/tar_zan/513007049/
http://www.flickr.com/photos/tar_zan/511489901/
http://www.flickr.com/photos/troels/2247104134/
http://www.flickr.com/photos/esparta/2994076542/
http://www.flickr.com/photos/becstarr/2694033007/