เปิดใจพระ-นางเลือดใหม่สดใสตามสไตล์ 'ไนกี้-ลิลลี่'
เป็นพระ-นางหน้าใหม่ที่ถูกถามไถ่กันมากคู่หนึ่ง
สำหรับ "ไนกี้" นิธิดล ป้อมสุวรรณ และ "ลิลลี่" ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ
ที่กำลังจะมีผลงานเรื่องใหม่ กับละคร "จ้าวพายุ" หนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก"
และรายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" ได้โอกาสอันดี คว้าตัวทั้งคู่มาพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นดีกว่าว่าตัวตนของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง
00บทบาทครั้งใหม่ในละคร "จ้าวพายุ"
@ละคร "จ้าวพายุ" ได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งและเป็นพระ-นางเต็มตัวเรื่องแรก เป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : ตื่นเต้น ดีใจและอยากขอบคุณที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราได้เล่นในเรื่องที่ 2
และดีใจที่ได้มาร่วมงานกับลิลลี่อีกครั้ง ซึ่งได้เล่นด้วยกันแบบเต็มตัวด้วย
เรื่องที่แล้ว เรือนเสน่หา ไม่ได้คู่กัน ในเรื่องจ้าวพายุ
ผมรับบทเป็น ศุวิล เป็นคนที่ตรงไปตรงมา เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
ซึ่งจริงๆ แล้วตัวผมจะเป็นคนสบายๆ ไม่ค่อยเครียด ไม่ระเบิดอารมณ์แบบศุวิล
แต่มันก็มีเหตุผลที่ทำให้ตัวละครต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่าเขาเห็นพ่อไล่แม่ออกจากบ้าน
ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนั้น เป็นเหมือนกับพายุ
ในเรื่องจะแอบชอบลิลลี่ จะคอยแกล้ง ออกแนวกัดๆ กัน
เรื่องนี้จะมีคอมเมดี้เข้ามาด้วยระหว่างพระ-นาง ไม่ได้เครียดอย่างเดียว
ลิลลี่ : รู้สึกตื่นเต้นนะ เพราะละครใกล้ออนเข้ามาทุกที จะออนวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้
เป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกด้วย ยอมรับว่ากดดัน มีเครียดบ้างช่วงแรก
แต่พี่ๆ ทีมงานทุกคนดีมาก ให้กำลังใจ เลยเป็นแรงฮึดสู้ขึ้นมา
ในเรื่องรับบทเป็น ฟ้าใส เป็นสาวโลกสวย (ยิ้ม) เป็นคนดีเหลือเกิน
ในชีวิตจริงคงหาคนแบบนี้ยากมาก เขาจะดีกับทุกคน เห็นใจทุกคน
อย่างในเรื่องเราจะมีอาที่คอยทำร้ายพระเอก ทำร้ายแม่พระเอก
แต่ตัวเราคิดว่าไม่เป็นอะไร เราเข้าใจ และยอมรับ
จะคอยแก้ปัญหาให้กับทุกคน จะเป็นคนคอยหยุดพายุ จากศุวิล จะบอกให้เขาใจเย็นๆ
ในเรื่องจะโดนว่าตลอดจะมีประโยคหนึ่งที่โดนเป็นประจำว่า
มายืนทำอะไรเตี้ยๆ สั้นๆ ตรงนี้
บางครั้งรู้สึกโกรธจริงว่าทำไมเอาชีวิตจริงมาล้อเล่นแบบนี้ (หัวเราะ)
ซึ่งชีวิตจริงของเราไม่ได้โลกสวยขนาดนั้น จะมีอารมณ์โกรธบ้าง
@เข้าฉากด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง มีเขินกันไหม
ลิลลี่ : ยอมรับว่ามีเขิน เพราะพี่เขาหล่อ (หัวเราะ) และเราต้องชมเขาเลย
จากเรื่องที่แล้วพี่เขากระแสดีมากมีแต่คนพูดถึง แต่เรื่องที่แล้วเราเข้าฉากด้วยกันน้อยมาก
มาเรื่องนี้เจอกันเต็มๆ เรารู้เลยว่าพี่เขาเก่ง ถ้าเกิดมีการวัดคะแนนก็ให้เขาเต็มเลย
และพี่เขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แต่เรารู้ว่าเรา 2 คน ยังต้องพัฒนาไปอีกไกลมาก
แต่ตอนนี้ คือ พี่เขารับ-ส่งอารมณ์เราจังหวะดีมาก ทำให้การทำงานง่ายขึ้น
ไนกี้ : มีเขินบ้างเหมือนกัน เพราะน้องเขาน่ารัก
และเราไม่เคยมีฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกันมาก่อน
เรื่องนี้เข้าฉากด้วยกันแทบทุกวัน แต่น้องเขาเก่ง
ถ้าคะแนนเต็ม 10 ก็ให้เต็ม 10 ผมรู้สึกว่าฝีมือการแสดงของเขาพัฒนาเร็วมาก
ไม่ว่าจะเป็นสเต็ปการเล่น การส่งอารมณ์
และเรารู้จักกันอยู่แล้วมันก็ช่วยให้การทำงานง่าย ไม่เกร็ง
@หลายคนจับตามอง "ไนกี้" เพราะเดิมทีบทนี้
"โตโน่" ภาคิน คําวิลัยศักดิ์ เป็นคนเล่น กดดันไหม
ไนกี้ : จริงๆ ทราบแค่ 3 วัน ก่อนได้มาเล่นเรื่องนี้
เรายังนึกว่ามาเล่นแค่เป็นตัวเส้นเรื่อง เป็นบทที่เขียนเพิ่มขึ้นมาเฉยๆ
แต่พอเข้ามาที่บริษัท เราถึงจะได้รู้ว่าเราเล่นเป็นตัวละครตัวนี้นะ
ยอมรับว่ามีกดดันเหมือนกันในเรื่องของการเตรียมตัว เพราะเราอยากทำอะไรให้มันออกมาดีที่สุด
แต่เรื่องนี้มีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก
เราอยากให้ผู้ชมที่รอดูเราอยู่ที่เขาคอยเป็นกำลังใจให้เรา
ได้ดูละครที่สนุกและละครที่เราเตรียมตัวมาดี การแสดงจะได้ออกมาดี
แต่ถึงแม้เวลาเตรียมตัวจะมีน้อย แต่รู้สึกอุ่นใจขึ้น เมื่อได้มาเจอผู้กำกับและทีมงาน
ทุกคนช่วยกันมาประกบ คือ 3 คน คอยรุมผมแค่คนเดียว
เลยทำให้เราสามารถเข้าใจตัวละครได้เร็วขึ้น ตอนนี้มั่นใจเกินร้อยแล้ว
สัญญาว่าจะไม่ทำให้คนดูผิดหวัง ส่วนกระแสการเปรียบเทียบกับพี่โตโน่ ไม่กลัวนะ
เพราะว่าผมกับพี่เขามีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว หล่อกันคนละแบบ (หัวเราะ)
00ความแตกต่างระหว่างเรียนการแสดง กับการแสดงจริง
@รู้สึกว่าเรียนการแสดง กับแสดงจริงแตกต่างกันไหม
ไนกี้ : ต่างกันมากนะสำหรับผม การเรียนเป็นเรื่องของทฤษฎี
แต่พอได้ปฏิบัติจริงมันทำให้เราได้รู้ว่า มีอะไรที่ต่างไปจากทฤษฎีที่ได้เรียนมา
แม้แต่เรื่องเวลาก็มีผลต่อการถ่ายทำ สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อการถ่ายทำ
และปัจจัยอื่นๆ ทั้งทีมกล้อง นักแสดง มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
แต่เรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับผมที่สุด คือ หน้ามัน ต้องซับกันตลอด (หัวเราะ)
ลิลลี่ : ทุกอย่างต่างหมด ทั้ง กล้อง ไฟ หน้า ผม
แต่ที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับลิลลี่ คือ เรื่องรองเท้า เพราะเราจะเตี้ยไม่ได้ ไม่ใช่สิ
เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก (หัวเราะ) เราจะตกบันไดบ่อยมาก ตกจนตัวช้ำไปหมด
เรื่องการแสดงกลายเป็นปัญหาเล็กไปเลย รองเท้านี่แหละน่าหนักใจสุด
บางทีเดินๆ อยู่หายไปจากกล้อง เพราะตกส้นบ้าง ตกบันไดบ้าง (หัวเราะ)
00ผลงานอื่นๆ นอกเหนือจาก "จ้าวพายุ"
@ได้เล่นละครด้วยกันอีกเรื่อง คือ "อีสา" เป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : สำหรับ อีสา เริ่มถ่ายทำกันแล้ว แต่ตอนนี้ยังถ่ายเป็นเรื่องราวของอีกรุ่นหนึ่งอยู่
คิวของผมน่าจะประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งน่าจะเริ่มออนแอร์ประมาณเดือนธันวาคมนี้ มีแต่นักแสดงฝีมือทั้งนั้น
มีพี่นุ่น (วรนุช ภิรมย์ภักดี) พี่ป้อง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์)
และอีกหลายคนที่สำคัญมีน้องลิลลี่ด้วย เป็นอีกเรื่องที่ได้เจอกัน
แต่จะกลับไปเป็นแนวพีเรียดอีกครั้ง เป็นเรื่องราวหลังสงครามโลก เป็นบทบาทที่ต่างออกไปอีก
ลิลลี่ : รู้สึกดีใจมากที่ได้เล่นเรื่องอีสา ถือเป็นละครที่หนักมาก เพราะเป็นละครรีเมกด้วย
แต่ละคนเล่นกันมาดีมาก มีแต่นักแสดงมากฝีมือ แต่ดีใจที่ได้มาเจอกับพี่ไนกี้อีก
เลยไม่รู้สึกกังวลอะไรมาก เพราะเราเล่นละครด้วยกันมาจนรู้จังหวะกันแล้ว
ในเรื่องจะแก่นๆ เป็นคนหัวไว จะกัดกับพี่ไนกี้อีก แต่ไม่เยอะเท่ากับเรื่องจ้าวพายุ
00ก้าวแรกในวงการบันเทิง
@ แต่ละคนเข้ามาสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร
ไนกี้ : สมัยก่อนมีเดินแบบ ถ่ายแบบโฆษณา ถ่ายมิวสิกวิดีโอ
สิ่งที่จดจำที่สุดคือตอนที่เล่นมิวสิกวิดีโอของพี่ดา เอ็นโดฟิน เพลง ไม่ขอก็จะให้
ลิลลี่ : เริ่มจากเล่นมิวสิกวิดีโอของพี่แกงส้ม (ธนทัต ชัยอรรถ) เพลง รักแท้ในใจเธอ
ถือว่าเป็นผลงานชิ้นแรกและทำให้เราได้มาเล่นละคร
ซึ่งในมิวสิกวิดีโอนั้น ต้องออกแนวเซ็กซี่ ดูสวยมาก (หัวเราะ) ขัดกับตัวจริงมาก
00ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังเข้าวงการ
@การที่กลายมาเป็นบุคคลสาธารณะมีความกังวลกับการใช้ชีวิตข้างนอกบ้างไหม
ไนกี้ : ผมไม่มีความกังวลนะ เรายังทำตัวเหมือนเดิมอยู่และยังรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นปกติอยู่
แต่แค่เวลาไปไหนมาไหนข้างนอก คนจะรู้จักเรามากขึ้น
มีการเข้ามาทักทายขอถ่ายรูป มีเข้ามาให้กำลังใจกัน ทุกคนที่เข้ามาน่ารักมาก
อย่างเวลาผมนั่งรถไฟฟ้า หรือนั่งมอเตอร์ไซค์
จะมีคนเข้ามาทักว่า พี่ติดตามผลงานน้องอยู่นะ เป็นกำลังใจให้นะ
ตรงนี้มันทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและมีพลังใจในการทำงาน
มันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปทำงาน เพราะเรารู้ว่ามีคนเป็นกำลังใจให้เราในการทำงาน
ลิลลี่ : ชีวิตไม่เปลี่ยนไปเลย ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่คงเหมือนกับพี่ไนกี้
ที่เวลาไปไหนมีคนรู้จักเรา เข้ามาทักเรา มาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น
เปลี่ยนไปแค่ตรงนี้ แต่เรายังคงใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ยังไปเรียน ไปทำงานเหมือนเดิม
00 ชีวิตในวัยเด็ก
@ ชีวิตในวัยเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : ตอนเด็กๆ แม่จะบอกว่าเป็นเหมือนลูกลิง เพราะเป็นเด็กซน
จะมีแผลเต็มตัวเลย มีหัวปูด หัวโน บางทีหัวแตก ดีที่สมองยังไม่เสื่อม (หัวเราะ)
ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้ชาย จึงมีการเล่นต่อสู้กันบ้าง มีปีนต้นไม้
แม่จะเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะเราซน และเป็นเด็กที่ขี้อายมาก
เป็นคนที่ขอทำงานดีกว่าออกไปพรีเซ็นต์หน้าห้อง
เพราะมือสั่นมากเวลาออกไปหน้าห้อง พูดก็ผิดๆ ถูกๆ
ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้เข้ามาทำงานเบื้องหน้าแบบนี้
ลิลลี่ : ตอนเด็กซนมาก ซุ่มซ่าม วิ่งเล่นตลอดเวลา
เป็นเด็กห้าวๆ ใครชวนไปไหนไป เล่นทุกอย่าง
มีเล่นเป่ากบ ดีดยาง หมากเก็บ เล่นได้ดีด้วยนะ เล่นเก่ง ชนะตลอด (หัวเราะ)
จนคุณพ่อกับคุณแม่กังวลเหมือนกันว่าต่อไปโตขึ้นจะมีสามีมั้ย
แต่ขี้อายเหมือนกัน แม้จะเป็นคนห้าวๆ
00 แง้มสี่ห้องหัวใจ
@ สถานะหัวใจของแต่ละคนตอนนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง
ไนกี้ : หัวใจยังเป็นสีแดงเหมือนเดิม (หัวเราะ)
จริงๆ ที่คุยกันอยู่ตอนนี้ก็มีแต่เพื่อนกันทั้งนั้น
ด้วยการที่เราอยู่ตรงนี้เราไม่กล้าที่จะไปคบกับใคร
ด้วยเรื่องของเวลาด้วย เราทำงานแทบจะทุกวัน มีเวลาน้อยมาก
หาคนที่จะเข้าใจเรายากมาก ขนาดครอบครัวเราเองยังไม่ค่อยได้เจอเลย
ถ้าวันหนึ่งเจอ เดี๋ยวมันก็คงเจอเอง แต่ถ้ามีใครจริงๆ อยากมีคนที่เข้าใจเรา
ถ้าเข้าใจกันและคุยกันถูกคอมันก็สามารถที่จะไปกันได้
ลิลลี่ : เป็นเรื่องธรรมดาที่มีคนเข้ามาจีบบ้าง (ยิ้ม)
คงเหมือนกับพี่ไนกี้เหมือนกัน ที่มีคนคุยๆ บ้าง แต่ว่าทุกคนยังเป็นเพื่อนกันหมด
เพราะเรายังต้องเรียน ต้องทำงานให้ดีที่สุด ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น
ของแบบนี้ถ้าจะมี เดี๋ยวมันมีเอง ปล่อยไปตามธรรมชาติและกาลเวลา
แต่ถ้าถามว่าชอบผู้ชายแบบไหน เราจะชอบคนที่โตกว่า เป็นผู้นำให้เราได้และเข้าใจเรา
อีกแง่มุมที่น่ารักของ ไนกี้และลิลลี่ ยังไงก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้พวกเขากันนะจ๊ะ!!
........................................
เขาชื่อ : นิธิดล ป้อมสุวรรณ
ชื่อเล่น : ไนกี้
เกิดเมื่อ : 6 กันยายน พ.ศ. 2531
การศึกษา : ปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผลงานที่ผ่านมา : มิวสิกวิดีโอ เพลงไม่ขอก็จะให้ ของ ดา เอ็นโดฟิน,
ละคร เรือนเสน่หา ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ละคร จ้าวพายุ, ละคร อีสา
เธอชื่อ : ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ
ชื่อเล่น : ลิลลี่
เกิดเมื่อ : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537
การศึกษา : กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานที่ผ่านมา : มิวสิกวิดีโอ เพลง รักแท้ในใจเธอ ของ "แกงส้ม" ธนทัต ชัยอรรถ,
ละคร เรือนเสน่หา
ผลงานปัจจุบัน : ละคร จ้าวพายุ, ละคร อีสา
.......................................
http://www.komchadluek.net/detail/20131026/171276.html
(จาก เปิดใจพระ-นางเลือดใหม่สดใสตามสไตล์ 'ไนกี้-ลิลลี่' :
บันเทิงวันเสาร์ นสพ.คมชัดลึก ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
เรื่อง ดวงใจ สอาดจิตต์ / การะเกด อัศวเสนา
ภาพ ณัฏฐิรา หลอดแก้ว)
........................................
๑. เพื่อนๆ คอยติดตามละคร จ้าวพายุ กับ อีสา กันขนาดไหนครับ
๒. เรื่องอีสา ไนกี้เล่นเป็นใครครับ ใช่
รวีช่วงโชติ หรือเปล่า
คุยกับไนกี้ - ลิลลี่ นักแสดง "จ้าวพายุ" กับ "อีสา"
เป็นพระ-นางหน้าใหม่ที่ถูกถามไถ่กันมากคู่หนึ่ง
สำหรับ "ไนกี้" นิธิดล ป้อมสุวรรณ และ "ลิลลี่" ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ
ที่กำลังจะมีผลงานเรื่องใหม่ กับละคร "จ้าวพายุ" หนังสือพิมพ์ "คม ชัด ลึก"
และรายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" ได้โอกาสอันดี คว้าตัวทั้งคู่มาพูดคุยแบบเอ็กซ์คลูซีฟ
เพื่อทำความรู้จักกับพวกเขาให้มากขึ้นดีกว่าว่าตัวตนของพวกเขาเป็นอย่างไรกันบ้าง
00บทบาทครั้งใหม่ในละคร "จ้าวพายุ"
@ละคร "จ้าวพายุ" ได้กลับมาร่วมงานอีกครั้งและเป็นพระ-นางเต็มตัวเรื่องแรก เป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : ตื่นเต้น ดีใจและอยากขอบคุณที่ผู้ใหญ่ให้โอกาสเราได้เล่นในเรื่องที่ 2
และดีใจที่ได้มาร่วมงานกับลิลลี่อีกครั้ง ซึ่งได้เล่นด้วยกันแบบเต็มตัวด้วย
เรื่องที่แล้ว เรือนเสน่หา ไม่ได้คู่กัน ในเรื่องจ้าวพายุ
ผมรับบทเป็น ศุวิล เป็นคนที่ตรงไปตรงมา เป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง
ซึ่งจริงๆ แล้วตัวผมจะเป็นคนสบายๆ ไม่ค่อยเครียด ไม่ระเบิดอารมณ์แบบศุวิล
แต่มันก็มีเหตุผลที่ทำให้ตัวละครต้องเป็นอย่างนั้น เพราะว่าเขาเห็นพ่อไล่แม่ออกจากบ้าน
ทำให้เขากลายเป็นคนแบบนั้น เป็นเหมือนกับพายุ
ในเรื่องจะแอบชอบลิลลี่ จะคอยแกล้ง ออกแนวกัดๆ กัน
เรื่องนี้จะมีคอมเมดี้เข้ามาด้วยระหว่างพระ-นาง ไม่ได้เครียดอย่างเดียว
ลิลลี่ : รู้สึกตื่นเต้นนะ เพราะละครใกล้ออนเข้ามาทุกที จะออนวันที่ 12 พฤศจิกายนนี้
เป็นนางเอกเต็มตัวครั้งแรกด้วย ยอมรับว่ากดดัน มีเครียดบ้างช่วงแรก
แต่พี่ๆ ทีมงานทุกคนดีมาก ให้กำลังใจ เลยเป็นแรงฮึดสู้ขึ้นมา
ในเรื่องรับบทเป็น ฟ้าใส เป็นสาวโลกสวย (ยิ้ม) เป็นคนดีเหลือเกิน
ในชีวิตจริงคงหาคนแบบนี้ยากมาก เขาจะดีกับทุกคน เห็นใจทุกคน
อย่างในเรื่องเราจะมีอาที่คอยทำร้ายพระเอก ทำร้ายแม่พระเอก
แต่ตัวเราคิดว่าไม่เป็นอะไร เราเข้าใจ และยอมรับ
จะคอยแก้ปัญหาให้กับทุกคน จะเป็นคนคอยหยุดพายุ จากศุวิล จะบอกให้เขาใจเย็นๆ
ในเรื่องจะโดนว่าตลอดจะมีประโยคหนึ่งที่โดนเป็นประจำว่า
มายืนทำอะไรเตี้ยๆ สั้นๆ ตรงนี้
บางครั้งรู้สึกโกรธจริงว่าทำไมเอาชีวิตจริงมาล้อเล่นแบบนี้ (หัวเราะ)
ซึ่งชีวิตจริงของเราไม่ได้โลกสวยขนาดนั้น จะมีอารมณ์โกรธบ้าง
@เข้าฉากด้วยกันเป็นอย่างไรบ้าง มีเขินกันไหม
ลิลลี่ : ยอมรับว่ามีเขิน เพราะพี่เขาหล่อ (หัวเราะ) และเราต้องชมเขาเลย
จากเรื่องที่แล้วพี่เขากระแสดีมากมีแต่คนพูดถึง แต่เรื่องที่แล้วเราเข้าฉากด้วยกันน้อยมาก
มาเรื่องนี้เจอกันเต็มๆ เรารู้เลยว่าพี่เขาเก่ง ถ้าเกิดมีการวัดคะแนนก็ให้เขาเต็มเลย
และพี่เขามีพรสวรรค์ทางด้านนี้ แต่เรารู้ว่าเรา 2 คน ยังต้องพัฒนาไปอีกไกลมาก
แต่ตอนนี้ คือ พี่เขารับ-ส่งอารมณ์เราจังหวะดีมาก ทำให้การทำงานง่ายขึ้น
ไนกี้ : มีเขินบ้างเหมือนกัน เพราะน้องเขาน่ารัก
และเราไม่เคยมีฉากกุ๊กกิ๊กด้วยกันมาก่อน
เรื่องนี้เข้าฉากด้วยกันแทบทุกวัน แต่น้องเขาเก่ง
ถ้าคะแนนเต็ม 10 ก็ให้เต็ม 10 ผมรู้สึกว่าฝีมือการแสดงของเขาพัฒนาเร็วมาก
ไม่ว่าจะเป็นสเต็ปการเล่น การส่งอารมณ์
และเรารู้จักกันอยู่แล้วมันก็ช่วยให้การทำงานง่าย ไม่เกร็ง
@หลายคนจับตามอง "ไนกี้" เพราะเดิมทีบทนี้
"โตโน่" ภาคิน คําวิลัยศักดิ์ เป็นคนเล่น กดดันไหม
ไนกี้ : จริงๆ ทราบแค่ 3 วัน ก่อนได้มาเล่นเรื่องนี้
เรายังนึกว่ามาเล่นแค่เป็นตัวเส้นเรื่อง เป็นบทที่เขียนเพิ่มขึ้นมาเฉยๆ
แต่พอเข้ามาที่บริษัท เราถึงจะได้รู้ว่าเราเล่นเป็นตัวละครตัวนี้นะ
ยอมรับว่ามีกดดันเหมือนกันในเรื่องของการเตรียมตัว เพราะเราอยากทำอะไรให้มันออกมาดีที่สุด
แต่เรื่องนี้มีเวลาเตรียมตัวน้อยมาก
เราอยากให้ผู้ชมที่รอดูเราอยู่ที่เขาคอยเป็นกำลังใจให้เรา
ได้ดูละครที่สนุกและละครที่เราเตรียมตัวมาดี การแสดงจะได้ออกมาดี
แต่ถึงแม้เวลาเตรียมตัวจะมีน้อย แต่รู้สึกอุ่นใจขึ้น เมื่อได้มาเจอผู้กำกับและทีมงาน
ทุกคนช่วยกันมาประกบ คือ 3 คน คอยรุมผมแค่คนเดียว
เลยทำให้เราสามารถเข้าใจตัวละครได้เร็วขึ้น ตอนนี้มั่นใจเกินร้อยแล้ว
สัญญาว่าจะไม่ทำให้คนดูผิดหวัง ส่วนกระแสการเปรียบเทียบกับพี่โตโน่ ไม่กลัวนะ
เพราะว่าผมกับพี่เขามีคาแรกเตอร์ที่ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว หล่อกันคนละแบบ (หัวเราะ)
00ความแตกต่างระหว่างเรียนการแสดง กับการแสดงจริง
@รู้สึกว่าเรียนการแสดง กับแสดงจริงแตกต่างกันไหม
ไนกี้ : ต่างกันมากนะสำหรับผม การเรียนเป็นเรื่องของทฤษฎี
แต่พอได้ปฏิบัติจริงมันทำให้เราได้รู้ว่า มีอะไรที่ต่างไปจากทฤษฎีที่ได้เรียนมา
แม้แต่เรื่องเวลาก็มีผลต่อการถ่ายทำ สภาพแวดล้อมก็มีผลต่อการถ่ายทำ
และปัจจัยอื่นๆ ทั้งทีมกล้อง นักแสดง มันไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
แต่เรื่องที่เป็นปัญหาสำหรับผมที่สุด คือ หน้ามัน ต้องซับกันตลอด (หัวเราะ)
ลิลลี่ : ทุกอย่างต่างหมด ทั้ง กล้อง ไฟ หน้า ผม
แต่ที่เป็นปัญหาที่สุดสำหรับลิลลี่ คือ เรื่องรองเท้า เพราะเราจะเตี้ยไม่ได้ ไม่ใช่สิ
เพราะเราเป็นคนตัวเล็ก (หัวเราะ) เราจะตกบันไดบ่อยมาก ตกจนตัวช้ำไปหมด
เรื่องการแสดงกลายเป็นปัญหาเล็กไปเลย รองเท้านี่แหละน่าหนักใจสุด
บางทีเดินๆ อยู่หายไปจากกล้อง เพราะตกส้นบ้าง ตกบันไดบ้าง (หัวเราะ)
00ผลงานอื่นๆ นอกเหนือจาก "จ้าวพายุ"
@ได้เล่นละครด้วยกันอีกเรื่อง คือ "อีสา" เป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : สำหรับ อีสา เริ่มถ่ายทำกันแล้ว แต่ตอนนี้ยังถ่ายเป็นเรื่องราวของอีกรุ่นหนึ่งอยู่
คิวของผมน่าจะประมาณช่วงเดือนพฤศจิกายน
ซึ่งน่าจะเริ่มออนแอร์ประมาณเดือนธันวาคมนี้ มีแต่นักแสดงฝีมือทั้งนั้น
มีพี่นุ่น (วรนุช ภิรมย์ภักดี) พี่ป้อง (ณวัฒน์ กุลรัตนรักษ์)
และอีกหลายคนที่สำคัญมีน้องลิลลี่ด้วย เป็นอีกเรื่องที่ได้เจอกัน
แต่จะกลับไปเป็นแนวพีเรียดอีกครั้ง เป็นเรื่องราวหลังสงครามโลก เป็นบทบาทที่ต่างออกไปอีก
ลิลลี่ : รู้สึกดีใจมากที่ได้เล่นเรื่องอีสา ถือเป็นละครที่หนักมาก เพราะเป็นละครรีเมกด้วย
แต่ละคนเล่นกันมาดีมาก มีแต่นักแสดงมากฝีมือ แต่ดีใจที่ได้มาเจอกับพี่ไนกี้อีก
เลยไม่รู้สึกกังวลอะไรมาก เพราะเราเล่นละครด้วยกันมาจนรู้จังหวะกันแล้ว
ในเรื่องจะแก่นๆ เป็นคนหัวไว จะกัดกับพี่ไนกี้อีก แต่ไม่เยอะเท่ากับเรื่องจ้าวพายุ
00ก้าวแรกในวงการบันเทิง
@ แต่ละคนเข้ามาสู่วงการบันเทิงได้อย่างไร
ไนกี้ : สมัยก่อนมีเดินแบบ ถ่ายแบบโฆษณา ถ่ายมิวสิกวิดีโอ
สิ่งที่จดจำที่สุดคือตอนที่เล่นมิวสิกวิดีโอของพี่ดา เอ็นโดฟิน เพลง ไม่ขอก็จะให้
ลิลลี่ : เริ่มจากเล่นมิวสิกวิดีโอของพี่แกงส้ม (ธนทัต ชัยอรรถ) เพลง รักแท้ในใจเธอ
ถือว่าเป็นผลงานชิ้นแรกและทำให้เราได้มาเล่นละคร
ซึ่งในมิวสิกวิดีโอนั้น ต้องออกแนวเซ็กซี่ ดูสวยมาก (หัวเราะ) ขัดกับตัวจริงมาก
00ชีวิตที่เปลี่ยนไปหลังเข้าวงการ
@การที่กลายมาเป็นบุคคลสาธารณะมีความกังวลกับการใช้ชีวิตข้างนอกบ้างไหม
ไนกี้ : ผมไม่มีความกังวลนะ เรายังทำตัวเหมือนเดิมอยู่และยังรู้สึกว่าทุกอย่างเป็นปกติอยู่
แต่แค่เวลาไปไหนมาไหนข้างนอก คนจะรู้จักเรามากขึ้น
มีการเข้ามาทักทายขอถ่ายรูป มีเข้ามาให้กำลังใจกัน ทุกคนที่เข้ามาน่ารักมาก
อย่างเวลาผมนั่งรถไฟฟ้า หรือนั่งมอเตอร์ไซค์
จะมีคนเข้ามาทักว่า พี่ติดตามผลงานน้องอยู่นะ เป็นกำลังใจให้นะ
ตรงนี้มันทำให้เรารู้สึกอุ่นใจและมีพลังใจในการทำงาน
มันมีความสุขทุกครั้งที่ได้ไปทำงาน เพราะเรารู้ว่ามีคนเป็นกำลังใจให้เราในการทำงาน
ลิลลี่ : ชีวิตไม่เปลี่ยนไปเลย ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง แต่คงเหมือนกับพี่ไนกี้
ที่เวลาไปไหนมีคนรู้จักเรา เข้ามาทักเรา มาขอถ่ายรูป ขอลายเซ็น
เปลี่ยนไปแค่ตรงนี้ แต่เรายังคงใช้ชีวิตปกติเหมือนเดิม ยังไปเรียน ไปทำงานเหมือนเดิม
00 ชีวิตในวัยเด็ก
@ ชีวิตในวัยเด็กแต่ละคนเป็นอย่างไรบ้าง
ไนกี้ : ตอนเด็กๆ แม่จะบอกว่าเป็นเหมือนลูกลิง เพราะเป็นเด็กซน
จะมีแผลเต็มตัวเลย มีหัวปูด หัวโน บางทีหัวแตก ดีที่สมองยังไม่เสื่อม (หัวเราะ)
ด้วยความที่เราเป็นเด็กผู้ชาย จึงมีการเล่นต่อสู้กันบ้าง มีปีนต้นไม้
แม่จะเป็นห่วงเหมือนกัน เพราะเราซน และเป็นเด็กที่ขี้อายมาก
เป็นคนที่ขอทำงานดีกว่าออกไปพรีเซ็นต์หน้าห้อง
เพราะมือสั่นมากเวลาออกไปหน้าห้อง พูดก็ผิดๆ ถูกๆ
ไม่คิดเหมือนกันว่าจะได้เข้ามาทำงานเบื้องหน้าแบบนี้
ลิลลี่ : ตอนเด็กซนมาก ซุ่มซ่าม วิ่งเล่นตลอดเวลา
เป็นเด็กห้าวๆ ใครชวนไปไหนไป เล่นทุกอย่าง
มีเล่นเป่ากบ ดีดยาง หมากเก็บ เล่นได้ดีด้วยนะ เล่นเก่ง ชนะตลอด (หัวเราะ)
จนคุณพ่อกับคุณแม่กังวลเหมือนกันว่าต่อไปโตขึ้นจะมีสามีมั้ย
แต่ขี้อายเหมือนกัน แม้จะเป็นคนห้าวๆ
00 แง้มสี่ห้องหัวใจ
@ สถานะหัวใจของแต่ละคนตอนนี้ เป็นอย่างไรกันบ้าง
ไนกี้ : หัวใจยังเป็นสีแดงเหมือนเดิม (หัวเราะ)
จริงๆ ที่คุยกันอยู่ตอนนี้ก็มีแต่เพื่อนกันทั้งนั้น
ด้วยการที่เราอยู่ตรงนี้เราไม่กล้าที่จะไปคบกับใคร
ด้วยเรื่องของเวลาด้วย เราทำงานแทบจะทุกวัน มีเวลาน้อยมาก
หาคนที่จะเข้าใจเรายากมาก ขนาดครอบครัวเราเองยังไม่ค่อยได้เจอเลย
ถ้าวันหนึ่งเจอ เดี๋ยวมันก็คงเจอเอง แต่ถ้ามีใครจริงๆ อยากมีคนที่เข้าใจเรา
ถ้าเข้าใจกันและคุยกันถูกคอมันก็สามารถที่จะไปกันได้
ลิลลี่ : เป็นเรื่องธรรมดาที่มีคนเข้ามาจีบบ้าง (ยิ้ม)
คงเหมือนกับพี่ไนกี้เหมือนกัน ที่มีคนคุยๆ บ้าง แต่ว่าทุกคนยังเป็นเพื่อนกันหมด
เพราะเรายังต้องเรียน ต้องทำงานให้ดีที่สุด ยังไม่มีเวลาคิดเรื่องอื่น
ของแบบนี้ถ้าจะมี เดี๋ยวมันมีเอง ปล่อยไปตามธรรมชาติและกาลเวลา
แต่ถ้าถามว่าชอบผู้ชายแบบไหน เราจะชอบคนที่โตกว่า เป็นผู้นำให้เราได้และเข้าใจเรา
อีกแง่มุมที่น่ารักของ ไนกี้และลิลลี่ ยังไงก็อย่าลืมเป็นกำลังใจให้พวกเขากันนะจ๊ะ!!
........................................
เขาชื่อ : นิธิดล ป้อมสุวรรณ
ชื่อเล่น : ไนกี้
เกิดเมื่อ : 6 กันยายน พ.ศ. 2531
การศึกษา : ปริญญาตรี จากคณะวิทยาศาสตร์ สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย
ผลงานที่ผ่านมา : มิวสิกวิดีโอ เพลงไม่ขอก็จะให้ ของ ดา เอ็นโดฟิน,
ละคร เรือนเสน่หา ฯลฯ
ผลงานปัจจุบัน : ละคร จ้าวพายุ, ละคร อีสา
เธอชื่อ : ภัณฑิลา วิน ปานสิริธนาโชติ
ชื่อเล่น : ลิลลี่
เกิดเมื่อ : 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537
การศึกษา : กำลังศึกษาชั้นปีที่ 1 คณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
ผลงานที่ผ่านมา : มิวสิกวิดีโอ เพลง รักแท้ในใจเธอ ของ "แกงส้ม" ธนทัต ชัยอรรถ,
ละคร เรือนเสน่หา
ผลงานปัจจุบัน : ละคร จ้าวพายุ, ละคร อีสา
.......................................
http://www.komchadluek.net/detail/20131026/171276.html
(จาก เปิดใจพระ-นางเลือดใหม่สดใสตามสไตล์ 'ไนกี้-ลิลลี่' :
บันเทิงวันเสาร์ นสพ.คมชัดลึก ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๖
เรื่อง ดวงใจ สอาดจิตต์ / การะเกด อัศวเสนา
ภาพ ณัฏฐิรา หลอดแก้ว)
........................................
๑. เพื่อนๆ คอยติดตามละคร จ้าวพายุ กับ อีสา กันขนาดไหนครับ
๒. เรื่องอีสา ไนกี้เล่นเป็นใครครับ ใช่ รวีช่วงโชติ หรือเปล่า