จวกหาเสียง-ไม่จริงใจ ASTVเลิกถ่ายสดเวที"สามเสน" ย้ายเกาะติด"อุรุพงษ์" ปชป.โต้มีจุดยืนเพื่อปชช.
จากกรณีการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน ในชื่อเวที "หยุดกฎหมายล้างคนโกง" ซึ่งเป็นการนัดรวมพลังมวลชน ในการต่อต้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทากรรม ที่ผ่านการลงมติเสียงข้างมากจากสภาผู้แทนราษฎร มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ได้ทำการถ่ายทอดสดการปราศรัยบนเวทีด้วยนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่เฟซบุ๊กของ
นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เขียนข้อความบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก " ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ในชื่อเรื่อง
"ASTV ขอยุติการถ่ายทอดสดที่เวทีสถานีรถไฟสามเสน" โดยระบุข้อความว่า
"เดิม ASTV ไปถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ภายใต้การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์เพราะ
คิดว่าประชาธิปัตย์จะสู้จริง และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับการชุมนุมตามสัญญาและตามสถานการณ์วิกฤติของบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้น
แต่เมื่อเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจในการนำมวลชนเพื่อหยุดยั้งการเมืองที่ล้มเหลว กลับคงระดับการชุมนุมไว้เพียงการคัดค้านปัญหารายประเด็นโดยไม่ยกระดับการชุมนุม และฝากความหวังและโยนความรับผิดชอบไว้กับคนกลุ่มอื่น เช่น ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญ โดย
ไม่เคยแสดงทิศทางหรือความรับผิดชอบในการชุมนุมของตัวเองให้เป็นไปตามความคาดหวังของมวลชนผู้มาชุมนุมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกล่าวถึงการปฏิรูปบ้านเมืองในเรื่องสำคัญๆ เช่น คดีทุจริตไม่มีอายุความ, การปฏิรูปพลังงานเพื่อคนไทย 65 ล้านคน, และการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติถ่วงดุลฝ่ายบริหารได้จริง ฯลฯ ก็ย่อม
สะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของประชาธิปัตย์ยังต่ำกว่าความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนมาก และสะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมที่จะเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ให้กับประชาชน 65 ล้านคน ในวันข้างหน้าหากมีอำนาจ
บัดที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังของผู้ชุมนุมไปแล้ว เพราะมีแต่การปราศรัยหาเสียงและคะแนนนิยมให้พรรคประชาธิปัตย์เพื่อการเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่เนื้อหาการปราศรัยซ้ำซากเหล่านั้นประชาชนที่มาชุมนุมและรับชมทาง ASTV ต่างรับทราบและรับรู้ทั้งหมดอยู่แล้ว
การถ่ายทอดสดจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆอีกต่อไปทั้งต่อมวลชนและผู้ชม และ
การสนับสนุนตลอดจนการให้โอกาสกับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ความจริงได้เสร็จสิ้น จนสิ้นสงสัยแล้ว
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จึงได้ตัดสินใจให้ ASTV หยุดการถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและให้เคลื่อนรถถ่ายทอดสดไปยังเวทีที่อุรุพงษ์ที่ชูธงการปฏิรูปประเทศ และดำเนินการรายงานข่าว ถ่ายทอดสด เก็บหลักฐานเฝ้าระวังตามสถานการณ์ที่เหมาะสมต่อไป"
ขณะที่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 13.40 น. วันเดียวกัน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยืนยันว่า เวทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สถานนีรถไฟสามเสนไม่ใช่เวทีหาเสียง แต่เป็นเวทีเพื่อต้องการแสดงจุดยืนในการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งไม่ใช่เวทีเฉพาะของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีของภาคประชาชนที่ต้องการต่อต้านกฎหมายดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละสถานีโทรทัศน์ว่าจะถ่ายทอดหรือไม่
มติชนออนไลน์ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383380672&grpid=00&catid=&subcatid=
??????????????????????????????????????
"...คิดว่าประชาธิปัตย์จะสู้จริง และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับการชุมนุมตามสัญญา..... แต่เมื่อ
เป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจในการนำมวลชน..... โดยไม่เคยแสดงทิศทางหรือความรับผิดชอบในการชุมนุมของตัวเองให้เป็นไปตามความคาดหวังของมวลชนผู้มาชุมนุมแต่อย่างใด....."
"....สะท้อนให้เห็นว่า
เป้าหมายของประชาธิปัตย์ยังต่ำกว่าความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนมาก และสะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมที่จะเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ให้กับประชาชน 65 ล้านคน ในวันข้างหน้าหากมีอำนาจ...."
แดงแย้งกัน
ที่แย้งก็เพราะฝ่ายหนึ่งจะเชือดคอหอยมาร์คในบัดเดี๋ยวนี้
แต่อีกฝ่ายจะหาช่องทางอื่นเล่นให้เนียนกว่า
ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายก็ยังเป็นการกระทืบมาร์คอยู่ดี.....
แต่การแตกของ ปชป. กับ ASTV นั้นคือการไม่เผาผีกันอย่างแน่ชัด
จะเห็นว่ามีนัยยะต่างกันราวฟ้ากับเหว
หมดแล้ว...สิ้นแล้ว...ม็อบฝ่อแล้ว....สมน้ำหน้ามันแร้วววว....555
จวกหาเสียง-ไม่จริงใจ ASTVเลิกถ่ายสดเวที"สามเสน"...อ้าว แตกกันเสียแร้วพี่น้องเอ๊ย นี่สิแตกของจริงอะไรจริง คิคิคิ...
จวกหาเสียง-ไม่จริงใจ ASTVเลิกถ่ายสดเวที"สามเสน" ย้ายเกาะติด"อุรุพงษ์" ปชป.โต้มีจุดยืนเพื่อปชช.
จากกรณีการชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์ ที่บริเวณสถานีรถไฟสามเสน ในชื่อเวที "หยุดกฎหมายล้างคนโกง" ซึ่งเป็นการนัดรวมพลังมวลชน ในการต่อต้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทากรรม ที่ผ่านการลงมติเสียงข้างมากจากสภาผู้แทนราษฎร มาตั้งแต่ช่วงวันที่ 1 พฤศจิกายน ซึ่งทางสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวี ได้ทำการถ่ายทอดสดการปราศรัยบนเวทีด้วยนั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 2 พฤศจิกายน ที่เฟซบุ๊กของ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เขียนข้อความบนเว็บไซต์เฟซบุ๊ก " ปานเทพ พัวพงษ์พันธ์" ในชื่อเรื่อง "ASTV ขอยุติการถ่ายทอดสดที่เวทีสถานีรถไฟสามเสน" โดยระบุข้อความว่า
"เดิม ASTV ไปถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ภายใต้การชุมนุมของพรรคประชาธิปัตย์เพราะคิดว่าประชาธิปัตย์จะสู้จริง และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับการชุมนุมตามสัญญาและตามสถานการณ์วิกฤติของบ้านเมืองที่กำลังเกิดขึ้น แต่เมื่อเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจในการนำมวลชนเพื่อหยุดยั้งการเมืองที่ล้มเหลว กลับคงระดับการชุมนุมไว้เพียงการคัดค้านปัญหารายประเด็นโดยไม่ยกระดับการชุมนุม และฝากความหวังและโยนความรับผิดชอบไว้กับคนกลุ่มอื่น เช่น ส.ว. และศาลรัฐธรรมนูญ โดยไม่เคยแสดงทิศทางหรือความรับผิดชอบในการชุมนุมของตัวเองให้เป็นไปตามความคาดหวังของมวลชนผู้มาชุมนุมแต่อย่างใด
นอกจากนี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมาพรรคประชาธิปัตย์ไม่เคยกล่าวถึงการปฏิรูปบ้านเมืองในเรื่องสำคัญๆ เช่น คดีทุจริตไม่มีอายุความ, การปฏิรูปพลังงานเพื่อคนไทย 65 ล้านคน, และการปฏิรูปโครงสร้างอำนาจให้ฝ่ายนิติบัญญัติถ่วงดุลฝ่ายบริหารได้จริง ฯลฯ ก็ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของประชาธิปัตย์ยังต่ำกว่าความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนมาก และสะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมที่จะเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ให้กับประชาชน 65 ล้านคน ในวันข้างหน้าหากมีอำนาจ
บัดที่พรรคประชาธิปัตย์ได้ทอดทิ้งและทำลายความคาดหวังของผู้ชุมนุมไปแล้ว เพราะมีแต่การปราศรัยหาเสียงและคะแนนนิยมให้พรรคประชาธิปัตย์เพื่อการเลือกตั้งเท่านั้น ทั้งที่เนื้อหาการปราศรัยซ้ำซากเหล่านั้นประชาชนที่มาชุมนุมและรับชมทาง ASTV ต่างรับทราบและรับรู้ทั้งหมดอยู่แล้ว การถ่ายทอดสดจึงไม่เกิดประโยชน์ใดๆอีกต่อไปทั้งต่อมวลชนและผู้ชม และการสนับสนุนตลอดจนการให้โอกาสกับเวทีของพรรคประชาธิปัตย์ได้พิสูจน์ความจริงได้เสร็จสิ้น จนสิ้นสงสัยแล้ว
คุณสนธิ ลิ้มทองกุล จึงได้ตัดสินใจให้ ASTV หยุดการถ่ายทอดสดที่สถานีรถไฟสามเสน ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปและให้เคลื่อนรถถ่ายทอดสดไปยังเวทีที่อุรุพงษ์ที่ชูธงการปฏิรูปประเทศ และดำเนินการรายงานข่าว ถ่ายทอดสด เก็บหลักฐานเฝ้าระวังตามสถานการณ์ที่เหมาะสมต่อไป"
ขณะที่ ที่พรรคประชาธิปัตย์ เมื่อเวลา 13.40 น. วันเดียวกัน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และโฆษกพรรค กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ตนยืนยันว่า เวทีของพรรคประชาธิปัตย์ ที่สถานนีรถไฟสามเสนไม่ใช่เวทีหาเสียง แต่เป็นเวทีเพื่อต้องการแสดงจุดยืนในการต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม ซึ่งไม่ใช่เวทีเฉพาะของพรรคประชาธิปัตย์เท่านั้น แต่ยังเป็นเวทีของภาคประชาชนที่ต้องการต่อต้านกฎหมายดังกล่าวด้วยเช่นกัน แต่สุดท้ายก็ต้องขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของแต่ละสถานีโทรทัศน์ว่าจะถ่ายทอดหรือไม่
มติชนออนไลน์ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383380672&grpid=00&catid=&subcatid=
??????????????????????????????????????
"...คิดว่าประชาธิปัตย์จะสู้จริง และเข้าใจว่าพรรคประชาธิปัตย์จะยกระดับการชุมนุมตามสัญญา..... แต่เมื่อเป็นที่ประจักษ์ชัดว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความจริงใจในการนำมวลชน..... โดยไม่เคยแสดงทิศทางหรือความรับผิดชอบในการชุมนุมของตัวเองให้เป็นไปตามความคาดหวังของมวลชนผู้มาชุมนุมแต่อย่างใด....."
"....สะท้อนให้เห็นว่าเป้าหมายของประชาธิปัตย์ยังต่ำกว่าความคาดหวังของประชาชนอีกจำนวนมาก และสะท้อนว่าพรรคประชาธิปัตย์ยังไม่พร้อมที่จะเสียสละอำนาจและผลประโยชน์ให้กับประชาชน 65 ล้านคน ในวันข้างหน้าหากมีอำนาจ...."
แดงแย้งกัน
ที่แย้งก็เพราะฝ่ายหนึ่งจะเชือดคอหอยมาร์คในบัดเดี๋ยวนี้
แต่อีกฝ่ายจะหาช่องทางอื่นเล่นให้เนียนกว่า
ซึ่งเป้าหมายสุดท้ายก็ยังเป็นการกระทืบมาร์คอยู่ดี.....
แต่การแตกของ ปชป. กับ ASTV นั้นคือการไม่เผาผีกันอย่างแน่ชัด
จะเห็นว่ามีนัยยะต่างกันราวฟ้ากับเหว
หมดแล้ว...สิ้นแล้ว...ม็อบฝ่อแล้ว....สมน้ำหน้ามันแร้วววว....555