ขอเล่าความหลังก่อนนะคะ
เรื่องของเรื่องคือเราเป็นพวกเรียนช้า จะว่าช้าก็ไม่ใช่หรอกค่ะ ขี้เกียจมากกว่า เราเรียนปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ค่ะ ตามเกณฑ์เลย แต่...แต่
เราเรียนไม่จบในสี่ปี เหลือวิชาจบวิชาสุดท้าย เราเรียกมันว่า "โปรเจค" ค่ะ ที่นี้หลังจากเรียนและฝึกงานครบตามกำหนด ไม่มีเรียนแล้ว เราก็ทำงาน ทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ไปตามทำโปรเจคของตัวเองให้จบ จนอายุ 23 เราก็แต่งงานกับแฟนเรา อายุ 25 เราก็คลอดลูกชายมาหนึ่งคน ช่วงหลังจากที่มีลูกเนี้ยแหละค่ะ ทำให้เราสำนึกได้ว่าต้องจัดการเรื่องเรียนของตัวเองให้เรียบร้อยเพื่อที่เราจะได้มั่นคงเพื่อลูกเรา ช่วงปีก่อนเราก็รีบๆไปทำค่ะ สุดท้ายเราก็จบออกมาได้เรียบร้อย ปี 2557 นี้เราจะได้เข้ารับปริญญาอย่างที่ฝันไว้ และทำให้พ่อแม่เราโล่งใจ (555 พ่อแม่นึกว่าเราคงไม่เอาแล้วไงค่ะ มันนาน แต่ท่านก็รออยากเห็นเรารับปริญญา)
ทุกอย่างมันดูน่าจะโอเคค่ะ ถ้าเราไม่...ท้อง....-*- ถามว่าเราเสียใจไหมที่มีน้องอีกคน ตอบได้เลยว่า ไม่สักนิดเดียวค่ะ แต่ด้วยเราเป็นคนที่อ้วนอยู่แล้วตั้งแต่ตอนแต่งงาน (ตอนแต่งหนักประมาณ 75 ค่ะ) แต่พอมีลูกคนแรกเราก็คุมน้ำหนักระหว่างท้องได้ดี โดยน้ำหนักเราขึ้นแค่ 10 โล และลูกเราคลอดน้ำหนักถึงเกือบสี่โล หลังจากคลอดลูกเราก็ให้ลูกกินนมเราเองจนขวบกว่า เขาก็เลิกกินไปเอง เราไม่เคยลดน้ำหนักเลยเนื่องจากลูกกินนม และเราไม่ซีเรียสกับความอ้วนของเราเท่าไร เราเริ่มมาคิดเรื่องลดน้ำหนักตอนที่เราเรียนจบแล้ว (เราจบตอนเมษาปีนี้ค่ะ) เราก็คิดว่าเราจะไปออกกำลังกาย และคุมอาหาร เพราะอยากไปรับปริญญาแบบสวยๆ ก็เริ่มพยายามจะลด แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลนะค่ะ เราไม่ได้ทุ่มเทเท่าไร ทำเท่าที่ทำได้เพราะคิดว่ายังมีเวลา (มหาลัยเราเป็นราชภัฏค่ะ เขาจะรับปริญญาประมาณต้นเดือนกรกฎา) จนมาปรากฎว่า ส.ค. เราตรวจเจอว่าท้อง (เราไม่ได้คุมนะค่ะ สามีคุมคนเดียว) เรารู้แล้วล่ะว่าเราจะคลอดตอนเมษาปีหน้า แล้วเราจะได้พักฟื้นประมาณ 2 เดือน ก่อนจะถึงงานรับปริญญา แต่เราก็รู้สึกแย่ที่เราจะไม่ได้ผอม ใส่ชุดรับปริญญาถ่ายรูปแล้วสวย เราพยายามไม่คิดแล้วนะค่ะ แต่ทุกครั้งที่ไปตรวจท้อง เราจะนึกถึงเรื่องนี้ทุกครั้ง
เราควรทำยังไงดีค่ะหลังคลอด (เออ...เราผ่าคลอดนะค่ะ เพราะท้องแรกเราต้องผ่า ท้องนี้ก็เลยต้องผ่าด้วย) เราจะสามารถทำอะไรได้บ้างไหม เพื่อความสวยในวันสำคัญ แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เราก็รับได้ค่ะ ลูกต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว
....ขอบคุณค่ะ....
เครียดค่ะ อยากได้กำลังใจจากเพื่อนในพันธ์ทิพย์
เรื่องของเรื่องคือเราเป็นพวกเรียนช้า จะว่าช้าก็ไม่ใช่หรอกค่ะ ขี้เกียจมากกว่า เราเรียนปริญญาตรีด้านคอมพิวเตอร์ค่ะ ตามเกณฑ์เลย แต่...แต่
เราเรียนไม่จบในสี่ปี เหลือวิชาจบวิชาสุดท้าย เราเรียกมันว่า "โปรเจค" ค่ะ ที่นี้หลังจากเรียนและฝึกงานครบตามกำหนด ไม่มีเรียนแล้ว เราก็ทำงาน ทำธุรกิจส่วนตัว ไม่ไปตามทำโปรเจคของตัวเองให้จบ จนอายุ 23 เราก็แต่งงานกับแฟนเรา อายุ 25 เราก็คลอดลูกชายมาหนึ่งคน ช่วงหลังจากที่มีลูกเนี้ยแหละค่ะ ทำให้เราสำนึกได้ว่าต้องจัดการเรื่องเรียนของตัวเองให้เรียบร้อยเพื่อที่เราจะได้มั่นคงเพื่อลูกเรา ช่วงปีก่อนเราก็รีบๆไปทำค่ะ สุดท้ายเราก็จบออกมาได้เรียบร้อย ปี 2557 นี้เราจะได้เข้ารับปริญญาอย่างที่ฝันไว้ และทำให้พ่อแม่เราโล่งใจ (555 พ่อแม่นึกว่าเราคงไม่เอาแล้วไงค่ะ มันนาน แต่ท่านก็รออยากเห็นเรารับปริญญา)
ทุกอย่างมันดูน่าจะโอเคค่ะ ถ้าเราไม่...ท้อง....-*- ถามว่าเราเสียใจไหมที่มีน้องอีกคน ตอบได้เลยว่า ไม่สักนิดเดียวค่ะ แต่ด้วยเราเป็นคนที่อ้วนอยู่แล้วตั้งแต่ตอนแต่งงาน (ตอนแต่งหนักประมาณ 75 ค่ะ) แต่พอมีลูกคนแรกเราก็คุมน้ำหนักระหว่างท้องได้ดี โดยน้ำหนักเราขึ้นแค่ 10 โล และลูกเราคลอดน้ำหนักถึงเกือบสี่โล หลังจากคลอดลูกเราก็ให้ลูกกินนมเราเองจนขวบกว่า เขาก็เลิกกินไปเอง เราไม่เคยลดน้ำหนักเลยเนื่องจากลูกกินนม และเราไม่ซีเรียสกับความอ้วนของเราเท่าไร เราเริ่มมาคิดเรื่องลดน้ำหนักตอนที่เราเรียนจบแล้ว (เราจบตอนเมษาปีนี้ค่ะ) เราก็คิดว่าเราจะไปออกกำลังกาย และคุมอาหาร เพราะอยากไปรับปริญญาแบบสวยๆ ก็เริ่มพยายามจะลด แต่ก็ยังไม่ค่อยเห็นผลนะค่ะ เราไม่ได้ทุ่มเทเท่าไร ทำเท่าที่ทำได้เพราะคิดว่ายังมีเวลา (มหาลัยเราเป็นราชภัฏค่ะ เขาจะรับปริญญาประมาณต้นเดือนกรกฎา) จนมาปรากฎว่า ส.ค. เราตรวจเจอว่าท้อง (เราไม่ได้คุมนะค่ะ สามีคุมคนเดียว) เรารู้แล้วล่ะว่าเราจะคลอดตอนเมษาปีหน้า แล้วเราจะได้พักฟื้นประมาณ 2 เดือน ก่อนจะถึงงานรับปริญญา แต่เราก็รู้สึกแย่ที่เราจะไม่ได้ผอม ใส่ชุดรับปริญญาถ่ายรูปแล้วสวย เราพยายามไม่คิดแล้วนะค่ะ แต่ทุกครั้งที่ไปตรวจท้อง เราจะนึกถึงเรื่องนี้ทุกครั้ง
เราควรทำยังไงดีค่ะหลังคลอด (เออ...เราผ่าคลอดนะค่ะ เพราะท้องแรกเราต้องผ่า ท้องนี้ก็เลยต้องผ่าด้วย) เราจะสามารถทำอะไรได้บ้างไหม เพื่อความสวยในวันสำคัญ แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ เราก็รับได้ค่ะ ลูกต้องสำคัญกว่าอยู่แล้ว
....ขอบคุณค่ะ....