สวัสดียามเช้าวันพฤหัสบดี ครับ พี่ๆ น้องๆ ขาS และ ขาL
เมื่อวานนี้ SET index โดน กระหน่ำเทขายอย่างบ้าคลั่ง หลังจาก นักลงทุนส่วนใหญ่ Focus มาที่ ปัญหาการเมืองในประเทศ
ที่จะมีการประกาศชุมนุม รวมตัวกัน ต่อต้าน พรบ.นิรโทษ ในวันนี้ นักลงทุน หวั่นวิตก ว่าจะเกิด เหตุการณ์รุนแรง ต่างๆนาๆ
จึง เทขายหุ้นออกมา เพื่อปรับพอร์ต ลดความเสี่ยง ทำให้ SET index ไหลรูดร่วง ลงมาปิดที่ระดับ 1431 จุด -24 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อว่า SET index จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ หรือไม่
Fundamental : "เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,474.01 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ -0.20%
เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระแสตอบรับเกี่ยวกับการใช้มาตรการ
ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เบาบางลง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์
ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุดก็ตาม
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,618.76 จุด ลดลง 61.59 จุด หรือ -0.39%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,763.31 จุด ลดลง 8.64 จุด หรือ -0.49%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,930.62 จุด ลดลง 21.72 จุด หรือ -0.55%
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ชัตดาวน์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ แม้ผลการประชุมล่าสุดของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้า
โครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน
โดยเฟดต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ
เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตร
เฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ตราบใดที่อัตราว่างงานยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 6.5%
และอัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ต่ำกว่าระดับ 2.5% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน
ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า
ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค.
ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 339,000 ราย
จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 350,000 ราย
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากบริษัทบางแห่ง
รวมถึง Eni และโฟล์คสวาเก้น เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่บริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม
ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวกน้อยกว่า 0.1% แตะที่ 320.8 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,274.11 จุด ลดลง 3.98 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,010.27 จุด ลดลง 11.77 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย
ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง
-หุ้น Eni ซึ่งเป็นบริษัทบริษัทพลังงานรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 3
อยู่ที่ 1.17 พันล้านยูโร หรือ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 998 ล้านยูโร
-หุ้นโฟล์คสวาเก้น พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ก่อนหักภาษีพุ่งขึ้น 20% แตะที่ 2.78 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 2.72 พันล้านยูโร
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเตวสท์
Technical Analysis : S50Z13 TF Day เมื่อวานนี้ เจอแรงเทขายออกมาอย่างหนัก
ทำให้ปิดแท่งแดง ยาวๆ และ มีบางช่วงหลุด EMA75,200 วัน ลงไป แต่สามารถฟื้นกลับขึ้นมา ปิดเหนือ EMA75,200 วัน ได้สำเร็จ
ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง และ มีโอกาสที่จะเกิด Technical Rebound อยู่บ้าง / แต่ ที่น่ากังวลก็คือ ตอนนี้ index
หลุด 978 Fibonacci 50.0% มีโอกาสที่จะ ไหลร่วงลงไปที่ระดับ 950 Fibonacci 38.2%
แล้วจะทำให้ภาพของ Head & Shoulder และ Buy Signal ก็จะค่อยๆจางหายไป
TF60 เมื่อวานนี้ หลังจากช่วงเช้าเปิดตลาดสามารถขึ้นไปเหนือ EMA25วัน และ Resistance line แต่ ไม่สามารถยืนอยู่ได้
เจิมแท่งแดงแรกของวัน ด้วย Evening Star แท่งสีแดง จากนั้นก็โดน Panic Sell หลุดทุกเส้นไม่ว่าจะเป็น Support line
EMA75,200 วัน จึงทำให้ภาพรวมค่อนข้างแย่ แถม ยังก่อ Pattern
คล้ายๆ "Falling Three Methods"
แนวโน้มวันนี้ อาจจะย่อตัวลงต่อ / แต่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound เพราะ เมื่อวาน ลงมาแรง เร็ว วันนี้อาจจะมีแรงซื้อกลับก็เป็นได้
Resistance 980 985 990
Support 970 965 960
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
พี่ๆ น้องๆ ท่านใด มี iDea เจ๋งๆ เชิญ ขน มาแชร์ได้เลย / เล่นสั้น เล่นยาว สายจินตนาการ
กู๊ดมอนิ่ง ชาว ขาS และ ขาL (31 Oct 13)
สวัสดียามเช้าวันพฤหัสบดี ครับ พี่ๆ น้องๆ ขาS และ ขาL
เมื่อวานนี้ SET index โดน กระหน่ำเทขายอย่างบ้าคลั่ง หลังจาก นักลงทุนส่วนใหญ่ Focus มาที่ ปัญหาการเมืองในประเทศ
ที่จะมีการประกาศชุมนุม รวมตัวกัน ต่อต้าน พรบ.นิรโทษ ในวันนี้ นักลงทุน หวั่นวิตก ว่าจะเกิด เหตุการณ์รุนแรง ต่างๆนาๆ
จึง เทขายหุ้นออกมา เพื่อปรับพอร์ต ลดความเสี่ยง ทำให้ SET index ไหลรูดร่วง ลงมาปิดที่ระดับ 1431 จุด -24 จุด
วันนี้มาติดตามกันต่อว่า SET index จะสามารถฟื้นตัวขึ้นมาได้ หรือไม่
Fundamental : "เอเชียเช้านี้" ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวเปิดวันนี้ที่ 14,474.01 จุด ลดลง 28.34 จุด หรือ -0.20%
เพราะได้รับแรงกดดันจากการร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ หลังจากกระแสตอบรับเกี่ยวกับการใช้มาตรการ
ผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เบาบางลง
"ฝั่งสหรัฐ" ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (30 ต.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์
ทะยานขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงแม้ว่าธนาคารกลางสหรัฐ
(เฟด) ตัดสินใจเดินหน้าใช้มาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ในการประชุมครั้งล่าสุดก็ตาม
ดัชนีดาวโจนส์ปิดที่ 15,618.76 จุด ลดลง 61.59 จุด หรือ -0.39%
ดัชนี S&P500 ปิดที่ 1,763.31 จุด ลดลง 8.64 จุด หรือ -0.49%
ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 3,930.62 จุด ลดลง 21.72 จุด หรือ -0.55%
นักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากดัชนีดาวโจนส์ และ S&P 500 พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา
อันเนื่องมาจากการคาดการณ์ที่ว่าเฟดจะเดินหน้าใช้มาตรการ QE หลังจากสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอ
รวมถึงดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคที่ร่วงลงอย่างหนักในเดือนต.ค. ซึ่งเป็นผลมาจากเหตุการณ์ชัตดาวน์
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับฐานลงในการซื้อขายเมื่อคืนนี้ แม้ผลการประชุมล่าสุดของเฟดระบุว่า เฟดจะยังคงเดินหน้า
โครงการซื้อสินทรัพย์ในวงเงินปัจจุบันที่ 8.5 หมื่นล้านดอลลาร์/เดือน เพื่อกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจและการจ้างงาน
โดยเฟดต้องการรอดูหลักฐานที่ชัดเจนมากขึ้นว่าเศรษฐกิจจะมีความคืบหน้าอย่างยั่งยืน ก่อนที่จะตัดสินใจใดๆ
เกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนขนาดวงเงินซื้อพันธบัตร
เฟดยืนยันว่าจะยังไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น ตราบใดที่อัตราว่างงานยังคงเคลื่อนไหวเหนือระดับ 6.5%
และอัตราเงินเฟ้อรายปีอยู่ต่ำกว่าระดับ 2.5% นอกจากนี้ ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้รับแรงกดดันจากตัวเลขจ้างงานภาคเอกชน
ที่เพิ่มขึ้นน้อยเกินคาด โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า
ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค. ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง
นักลงทุนจับตาดูกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 26 ต.ค.
ในวันนี้เวลา 19.30 น.ตามเวลาไทย โดยนักวิเคราะห์คาดว่าจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานจะลดลงมาอยู่ที่ 339,000 ราย
จากสัปดาห์ก่อนหน้าที่ระดับ 350,000 ราย
"ฝั่งยุโรป" ตลาดหุ้นยุโรปปิดทรงตัวเมื่อคืนนี้ (30 ส.ค.) ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน หลังจากบริษัทบางแห่ง
รวมถึง Eni และโฟล์คสวาเก้น เปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด ขณะที่บริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรมสื่อสารโทรคมนาคม
ได้เปิดเผยผลประกอบการที่ซบเซา
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดบวกน้อยกว่า 0.1% แตะที่ 320.8 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,274.11 จุด ลดลง 3.98 จุด หรือ -0.09%
ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,010.27 จุด ลดลง 11.77 จุด หรือ -0.13%
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,777.70 จุด เพิ่มขึ้น 2.97 จุด หรือ +0.04%
ตลาดหุ้นยุโรปได้รับปัจจัยลบจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะซบเซาในตลาดแรงงานของสหรัฐ โดยเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทย
ADP ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยตลาดแรงงานในสหรัฐ เปิดเผยว่า ภาคเอกชนทั่วสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 130,000 ตำแหน่งในเดือนต.ค.
ซึ่งต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 150,000 ตำแหน่ง
-หุ้น Eni ซึ่งเป็นบริษัทบริษัทพลังงานรายใหญ่สุดของอิตาลี พุ่งขึ้น 1.3% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้สุทธิในไตรมาส 3
อยู่ที่ 1.17 พันล้านยูโร หรือ 1.6 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 998 ล้านยูโร
-หุ้นโฟล์คสวาเก้น พุ่งขึ้น 5% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ก่อนหักภาษีพุ่งขึ้น 20% แตะที่ 2.78 พันล้านยูโร ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ประมาณการไว้ที่ 2.72 พันล้านยูโร
Credit : สำนักข่าวอินโฟวเตวสท์
Technical Analysis : S50Z13 TF Day เมื่อวานนี้ เจอแรงเทขายออกมาอย่างหนัก
ทำให้ปิดแท่งแดง ยาวๆ และ มีบางช่วงหลุด EMA75,200 วัน ลงไป แต่สามารถฟื้นกลับขึ้นมา ปิดเหนือ EMA75,200 วัน ได้สำเร็จ
ถือว่าทำได้ดีระดับหนึ่ง และ มีโอกาสที่จะเกิด Technical Rebound อยู่บ้าง / แต่ ที่น่ากังวลก็คือ ตอนนี้ index
หลุด 978 Fibonacci 50.0% มีโอกาสที่จะ ไหลร่วงลงไปที่ระดับ 950 Fibonacci 38.2%
แล้วจะทำให้ภาพของ Head & Shoulder และ Buy Signal ก็จะค่อยๆจางหายไป
TF60 เมื่อวานนี้ หลังจากช่วงเช้าเปิดตลาดสามารถขึ้นไปเหนือ EMA25วัน และ Resistance line แต่ ไม่สามารถยืนอยู่ได้
เจิมแท่งแดงแรกของวัน ด้วย Evening Star แท่งสีแดง จากนั้นก็โดน Panic Sell หลุดทุกเส้นไม่ว่าจะเป็น Support line
EMA75,200 วัน จึงทำให้ภาพรวมค่อนข้างแย่ แถม ยังก่อ Pattern คล้ายๆ "Falling Three Methods"
แนวโน้มวันนี้ อาจจะย่อตัวลงต่อ / แต่ก็มีโอกาสเกิด Technical Rebound เพราะ เมื่อวาน ลงมาแรง เร็ว วันนี้อาจจะมีแรงซื้อกลับก็เป็นได้
Resistance 980 985 990
Support 970 965 960
ผิดพลาดประการใดโปรดชี้แนะ
พี่ๆ น้องๆ ท่านใด มี iDea เจ๋งๆ เชิญ ขน มาแชร์ได้เลย / เล่นสั้น เล่นยาว สายจินตนาการ