30 ตุลาคม 2556 ซิคเว่ เบรคเก้ แห่งTelenor (พ่อDTAC) คุย DTAC ต้องไม่ตกขบวนบริการ 3G (ระบุรายได้จากเอเชียนั้นมากกว่า 50% เป็นรายได้จากDTAC)ปัจจุบันรายได้ของกลุ่มมาจากเอเชีย 44% นอร์เวย์ 25% ยุโรป 23% และอื่นๆ8%
ประเด็นหลัก

ปัจจุบัน เทเลนอร์ กรุ๊ปมีลูกค้าทั่วโลกเกือบ 150 ล้านราย โดยในจำนวนนี้เป็นฐานลูกค้าจากเอเชียมากกว่า 133 ล้านราย และฐานลูกค้าในยุโรปจำนวน 14.5 ล้านราย ขณะที่ในไทย การให้บริการโดย บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงสุด และเป็นฐานรายได้สำคัญให้เทเลนอร์ กรุ๊ป

ปัจจุบันรายได้ของกลุ่มมาจากเอเชีย 44% นอร์เวย์ 25% ยุโรป 23% และอื่นๆ อีกประมาณ 8% โดยรายได้จากเอเชียนั้นมากกว่า 50% เป็นรายได้จากดีแทค ซึ่งปี 2555 ที่ผ่านมา ทำได้ 90,261 ล้านบาท และปัจจุบันมีลูกค้ารวม 27.2 ล้านราย และมีลูกค้าที่ใช้อินเทอร์เน็ต 3จี ราว 6 ล้านรายแล้ว

ดีแทคจะต้องไม่ตกขบวนในการให้บริการดาต้ากับลูกค้า และผมเชื่อว่าราคาค่าบริการจะสูงเพราะมีความต้องการของลูกค้าเป็นกลไกในการแข่งขันของโอเปอเรเตอร์ ที่ผ่านมาไทยให้บริการ 3จี ล่าช้ากว่าประเทศอื่นนับ 10 ปี แต่เมื่อเอกชนเปิดให้บริการแล้วจำนวนผู้ใช้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ 4จี เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินไปสำหรับคนไทย









______________________________________



'ซิคเว่ เบรกเก้ 'กลยุทธ์ต้องเป็นเรื่องง่าย'

โดย : ปานฉัตร สินสุข


"คำตอบของซีอีโอต้องออกจากสมองทันที ไม่ใช่หยิบพรีเซ็นเทชั่น รื้อแผนงานประจำปีมาตอบ" : ซิคเว่ เบรกเก้



"ซิคเว่ เบรกเก้" ก้าวขึ้นไปดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เทเลนอร์ เอเชีย สำนักงานใหญ่ ประเทศไทย ในปี 2551 มีภารกิจหลักคือการดูแลการลงทุนของเทเลนอร์ กรุ๊ป นอร์เวย์ ในเอเชีย 6 ประเทศ ได้แก่ ไทย บังกลาเทศ ปากีสถาน มาเลเซีย อินเดีย และพม่า ล่าสุดเบรกเก้ ให้สัมภาษณ์พิเศษ "กรุงเทพธุรกิจ" ถึงแนวทางการบริหารงาน และความท้าทายในการบริหารงานในกลุ่มประเทศเหล่านี้

ภาพรวมการบริหารเอเชียเป็นอย่างไรบ้าง

ปัจจุบัน เทเลนอร์ กรุ๊ปมีลูกค้าทั่วโลกเกือบ 150 ล้านราย โดยในจำนวนนี้เป็นฐานลูกค้าจากเอเชียมากกว่า 133 ล้านราย และฐานลูกค้าในยุโรปจำนวน 14.5 ล้านราย ขณะที่ในไทย การให้บริการโดย บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) ถือว่ามีอัตราการเติบโตสูงสุด และเป็นฐานรายได้สำคัญให้เทเลนอร์ กรุ๊ป

ปัจจุบันรายได้ของกลุ่มมาจากเอเชีย 44% นอร์เวย์ 25% ยุโรป 23% และอื่นๆ อีกประมาณ 8% โดยรายได้จากเอเชียนั้นมากกว่า 50% เป็นรายได้จากดีแทค ซึ่งปี 2555 ที่ผ่านมา ทำได้ 90,261 ล้านบาท และปัจจุบันมีลูกค้ารวม 27.2 ล้านราย และมีลูกค้าที่ใช้อินเทอร์เน็ต 3จี ราว 6 ล้านรายแล้ว

ผมเคยเป็นซีอีโอดีแทคเมื่อปี 2545 ดีแทคเป็นต้นแบบสำคัญในการทำงานหลายๆ อย่าง และเป็นแพลตฟอร์มที่ดี สามารถใช้เป็นแผนกับประเทศอื่นๆ ได้ เป็นการนำเอาแนวความคิดไปประยุกต์ให้เกิดมูลค่าเพิ่มให้สูงที่สุด ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดในการพัฒนาโปรดักท์ หรือการบริหารคน

ช่วง 5 ปีหลังดีแทคเปลี่ยนผู้บริหารบ่อย มีผลต่อการบริหารงานหรือไม่

การเปลี่ยนตัวผู้บริหารสูงสุดของดีแทคในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมา ยอมรับว่ามีผลต่อการสานต่องานที่วางไว้ แต่การเป็นซีอีโอที่ดีนั้นต้องสร้างมูลค่าเพิ่มให้บริษัท หากถามว่ากลยุทธ์สำคัญขององค์กรคืออะไร คำตอบต้องออกมาจากสมองในทันที ไม่ใช่หยิบพรีเซ็นเทชั่น หรือแผนงานประจำปีมาตอบว่า กลยุทธ์ของบริษัทคืออะไร

มีกฎในการบริหารจัดการคนอย่างไรบ้าง

กฎ 7 ข้อของการพัฒนาทรัพยากรบุคคลในสถานะที่เป็นซีอีโอมาร่วม 10 ปีนั้น มีพื้นฐานมาจากการความคิดที่ว่าการสร้างองค์กร หรือพื้นฐานที่แข็งแรงของบริษัทไม่ได้มาจากรายได้หรือผลกำไรเท่านั้น แต่วัตถุดิบสำคัญคือ "พนักงาน" ปัจจุบันในเทเลนอร์ เอเชีย มีพนักงานที่ทำงานใน 6 ประเทศราว 20,000 คน

กฎข้อ 1 คือแฮปปี้ กลยุทธ์หลักต้อง "ง่าย" อะไรที่ยากไม่นับเป็นกลยุทธ์ สิ่งที่จะสร้างเป้าหมายของบริษัทได้ต้องมาจากการโฟกัสที่จุดเดียว และโฟกัสไปที่แผนนั้นไม่ใช่การร่ายแผนงาน แต่ไม่สามารถจับต้องวัดผลได้

กลยุทธ์เป็นเรื่องยากไม่ได้ ดังนั้นกลยุทธ์ต้องเข้าใจ เข้าถึง และง่ายที่สุดสำหรับลูกค้า ก่อนที่จะมาเป็นแบรนด์ "แฮปปี้" ของดีแทค สิ่งสำคัญอย่างเดียวคือ ความข้าใจง่าย ตรง ชัดเจน จริงใจกับลูกค้า

ข้อ 2 ซีอีโอ ต้องเป็นนักเล่าเรื่องที่ดี เพราะตำแหน่งผู้บริหารสูงสุดไม่ได้มีแค่การประชุม ตอบอีเมล์ ฟังรายงานจากลูกน้องเท่านั้น 3. วางเป้าหมายที่ชัดเจน มีผลวัดที่จับต้องได้ 4. บอกความจริงกับพนักงานด้วยความซื่อสัตย์ ซึ่งข่าวร้ายของบริษัทสำคัญมากกว่าข่าวดี ดังนั้น หน้าที่ของซีอีโอคือบอกเรื่องราวของบริษัทแม้จะเป็นข่าวร้ายด้วยความตรงไปตรงมา

ส่วนอีก 3 ข้อที่เหลือนั้น เกิดขึ้นจากประสบการณ์ที่ได้จากการเป็นซีอีโอดีแทคซึ่งประกอบด้วย 5. การออกไปพูดกับลูกค้ามากกว่านั่งอยู่ในออฟฟิศ แล้ววิเคราะห์ตลาดลูกค้าจากรายงานสถิติการใช้งาน หรือจากเอ้าท์ซอร์ส ซึ่งสิ่งนี้จะต้องไม่เกิดขึ้นในเทเลนอร์ กรุ๊ป ข้อ 6 การสร้างความสุขและฉลองให้กับความสำเร็จหรือโอกาสสำคัญที่เกิดขึ้น และกฎข้อสุดท้ายคือ สร้างอารมณ์ร่วมให้แก่พนักงาน

มีความคาดหวังกับดีแทคในปี 2557 อย่างไร

อยากเห็นดีแทคยังคงสถานะและวัฒนธรรมพัฒนาองค์กรในแบบเดิม นอกจากนี้ การเติบโตของดาต้า การใช้โมบายบรอดแบนด์ในประเทศไทย จะเป็นตัวขับเคลื่อนรายได้ของบริษัท ซึ่งเทเลนอร์ กรุ๊ป ให้การสนับสนุนดีแทคในทุกเรื่องเพื่อเข้าประมูลใบอนุญาต (ไลเซ่น) 4จี บนย่านความถี่ 1800 เมกะเฮิรตซ์ จากคณะกรรมการกิจการวิทยุกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) โดยเร็วที่สุด

ดีแทคจะต้องไม่ตกขบวนในการให้บริการดาต้ากับลูกค้า และผมเชื่อว่าราคาค่าบริการจะสูงเพราะมีความต้องการของลูกค้าเป็นกลไกในการแข่งขันของโอเปอเรเตอร์ ที่ผ่านมาไทยให้บริการ 3จี ล่าช้ากว่าประเทศอื่นนับ 10 ปี แต่เมื่อเอกชนเปิดให้บริการแล้วจำนวนผู้ใช้เติบโตอย่างก้าวกระโดด ทำให้ 4จี เป็นเรื่องที่ไม่ไกลเกินไปสำหรับคนไทย




http://www.bangkokbiznews.com/home/detail/it/it/20131030/539614/%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%84%E0%
B9%80%E0%B8%A7%E0%B9%88-
%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%81%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%89-
%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%A2%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B9%8C%E0%B8%95%E0%B
9%89%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B9%87%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%A3%
E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B8%87%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A2.html


ผมขอเปลื่ยนชื่อจาก So Magawn เป็น Magawn19 (มันมีความหมายว่าเริ่มเล่นพันทิปอายุ19ครับ) มีผลทุกช่องทางนะครับ รวมถึงคลังความรู้โทรคมนาคมและการสือสาร http://magawn19.blogspot.com/