หลังจากพรรคเพื่อไทย มีมติเป็นเอกฉันท์ให้ส.ส.ผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยในวาระ2และ3 จนเกิดกระแสคัดค้านในวงกว้างทันที นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรีและประธานที่ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย มองทิศทางการขับเคลื่อนของร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรมในสภาอย่างไร
หลังจาก พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มีมติผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ตามที่กรรมาธิการวิสามัญ เสียงข้างมาก มีมติให้แก้ไขเนื้อหาการนิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมไปถึงผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสิน ใจหรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ การนิรโทษกรรมแบบสุดซอย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยถึงเหตุผลของการผลักดันร่างกฎหมายนี้ ตามมติเสียงข้างมากของกรรมาธิการ โดยเขาระบุว่า เนื่องจากความขัดแย้งในประเทศ เกิดขึ้นมานานกว่า 8 ปีแล้ว จึงจำเป็นต้องนิรโทษกรรม เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและทำให้ประเทศเดินหน้าได้
หาก ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับอานิสงส์ แต่ไม่ใช่การเจาะจง แต่เป็นการนิรโทษกรรมที่ครอบคลุมทุกฝ่าย
และเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ จะนำมวลชนมาคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ทำให้นายสมชาย เห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าจะใช้กฎหมู่ พร้อมคาดการณ์ว่าการพิจารณาในวาระที่ 2 ของสภาผู้แทนราษฎร เสียงข้างมาก ก็ผ่านด่านฝ่ายค้านได้ไม่ง่ายดายนัก
หากการอภิปรายในวาระที่ 2 เกิดกระแสโจมตีการนิรโทษกรรมแบบสุดซอยอย่างหนัก นายสมชาย ยอมรับว่า อาจเป็นไปได้ที่จะยึดความเห็นของสมาชิกคนใด ที่แปรญัตติให้งดเว้นการนิรโทษกรรมแกนนำและผู้ตัดสินใจสั่งการ เพื่อลดเสียงคัดค้านที่เกิดขึ้น
ถึงแม้เส้นทางตลอดตั้งแต่ต้นซอยจนถึงกลางซอยของการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สิ่งที่นายสมชาย เป็นห่วงคือการที่ฝ่ายค้านจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญคว่ำร่างกฎหมายดังกล่าวในปลายซอย
เมื่อประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่จมปลักกับความขัดแย้งในระยะหลัง ประธานที่ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จึงมองว่า หากไม่เดินหน้าผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยนี้ ก็อาจไม่มีช่องทางไหนทำให้เกิดความปรองดองได้ และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งบานปลายไปเรื่อยจนไม่เห็นแสงสว่างในปลายซอย
http://news.voicetv.co.th/thailand/86643.html
"สมชาย วงศ์สวัสดิ์" แย้ม .. หากเหมาเข่งถูกโจมตีหนัก อาจแปรญัตติให้งดเว้นการนิรโทษกรรมแกนนำและผู้ตัดสินใจ
หลังจาก พรรคเพื่อไทยและพรรคร่วมรัฐบาล มีมติผลักดันร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมแก่ ผู้ซึ่งกระทำความผิด เนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน ตามที่กรรมาธิการวิสามัญ เสียงข้างมาก มีมติให้แก้ไขเนื้อหาการนิรโทษกรรม ให้ครอบคลุมไปถึงผู้ซึ่งมีอำนาจในการตัดสิน ใจหรือสั่งการให้มีการเคลื่อนไหวทางการเมือง หรือ การนิรโทษกรรมแบบสุดซอย
นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานที่ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์ พรรคเพื่อไทย ได้เปิดเผยถึงเหตุผลของการผลักดันร่างกฎหมายนี้ ตามมติเสียงข้างมากของกรรมาธิการ โดยเขาระบุว่า เนื่องจากความขัดแย้งในประเทศ เกิดขึ้นมานานกว่า 8 ปีแล้ว จึงจำเป็นต้องนิรโทษกรรม เพื่อคลี่คลายความขัดแย้งและทำให้ประเทศเดินหน้าได้
หาก ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะทำให้ พันตำรวจโททักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีได้รับอานิสงส์ แต่ไม่ใช่การเจาะจง แต่เป็นการนิรโทษกรรมที่ครอบคลุมทุกฝ่าย
และเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ จะนำมวลชนมาคัดค้านร่างกฎหมายนิรโทษกรรม ทำให้นายสมชาย เห็นว่า เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ถ้าจะใช้กฎหมู่ พร้อมคาดการณ์ว่าการพิจารณาในวาระที่ 2 ของสภาผู้แทนราษฎร เสียงข้างมาก ก็ผ่านด่านฝ่ายค้านได้ไม่ง่ายดายนัก
หากการอภิปรายในวาระที่ 2 เกิดกระแสโจมตีการนิรโทษกรรมแบบสุดซอยอย่างหนัก นายสมชาย ยอมรับว่า อาจเป็นไปได้ที่จะยึดความเห็นของสมาชิกคนใด ที่แปรญัตติให้งดเว้นการนิรโทษกรรมแกนนำและผู้ตัดสินใจสั่งการ เพื่อลดเสียงคัดค้านที่เกิดขึ้น
ถึงแม้เส้นทางตลอดตั้งแต่ต้นซอยจนถึงกลางซอยของการผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม จะมีอุปสรรคอยู่บ้าง แต่สิ่งที่นายสมชาย เป็นห่วงคือการที่ฝ่ายค้านจะใช้ช่องทางตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ศาลรัฐธรรมนูญคว่ำร่างกฎหมายดังกล่าวในปลายซอย
เมื่อประเทศกำลังตกอยู่ในสถานการณ์ที่จมปลักกับความขัดแย้งในระยะหลัง ประธานที่ปรึกษากรรมการยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย จึงมองว่า หากไม่เดินหน้าผลักดันร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฉบับสุดซอยนี้ ก็อาจไม่มีช่องทางไหนทำให้เกิดความปรองดองได้ และจะยิ่งทำให้สถานการณ์ความขัดแย้งบานปลายไปเรื่อยจนไม่เห็นแสงสว่างในปลายซอย
http://news.voicetv.co.th/thailand/86643.html