เมื่อรักล่ม ลองเปิดใจและหันกลับไปมองเรื่องที่ผ่านมาด้วยเหตุและผล ความจริงจะปรากฎ!

*****ก่อนอื่นเลย ต้องขอออกตัวก่อนนะว่านี่เป็นเรื่องเฉพาะบุคคล และใช่ว่าผู้ชายทุกคนจะเป็นแบบนี้ค่ะ

ขอเริ่มด้วยนามสมมุติก่อนเลย
เรา = เปรี้ยว (ผิวสีน้ำผึ้ง ตาคม อวบๆ และอึ๋ม)
เขา = อาทิต (ผิวแทน มีหนวด ใส่แว่น หน้าดุๆ)

        เข้าเรื่องกันเลยค่ะ...เมื่อปลายปี2553 เปรี้ยวเลิกกับแฟนที่คบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปี4 (จบมา2ปีได้) ตอนนั้นทำงานอีเว้นท์ของค่ายรถยักษ์ใหญ่ค่ายหนึ่ง การทำงานต้องออกต่างจังหวัดตลอด เป็นสต๊าฟนี่แหละ แล้วในทีมก็มีพี่ๆที่รู้จักกันมาตั้งแต่เรียนปี4เทอม2 ในทีมจะมีประมาณ13-15ชีวิต มี2ชีวิตที่เป็นผู้หญิง คือเปรี้ยวและหวาน (นามสมมุติ) โดนบอกเลิกตอนไปทำงานก็ได้พี่ๆและเพื่อนๆในทีมนี่แหละช่วยดูแลปลอบใจ ตอนนั้นทีมงานเราแยกเป็น2ทีม   เพราะงานชนกัน พี่ๆที่เราคุ้นเคยเลยอยู่ปลอบใจไม่ครบทุกคน    จนงานต่อมารวมทีมกันครบ ตัวหลักๆอยู่หมด ทุกคนก็เข้ามาปลอบใจ ตอนนั้นจำได้เลยอาการช้ำรักกำเริบ ทุกคนแสดงความห่วงใยอย่างขยันขันแข็ง(ลักษณะมันเป็นอย่างนั้นจริงๆ)     แต่จะมีพี่อาทิตที่จะคอยดู่อยู่ห่างๆและเดินมาตบหลังบ้าง ลูบหัวบ้าง เวลาเห็นเปรี้ยวซึมๆนะ ซึ่งนั่นก็ยังไม่ได้รู้สึกอะไร

        เป็นอยู่แบบนี้ประมาณ2เดือน แล้วก็เริ่มมีการติดต่อกันเพราะโทรมาถามว่ากินข้าวรึยัง ทำอะไรอยู่ ตอนแรกเปรี้ยวคุยกับพี่อาทิตทางMSNนะ จนเริ่มมีพี่ๆทีมงานแซว ว่าคู่นี้มันยังไงเนี่ย ดูแลกันดีไปมั้ยอ่ะ เออ!ตอนนั้นเริ่มคิดและแต่ด้วยความเป็นผู้หญิง เป็นน้องด้วยเปรี้ยวเลยนิ่งๆไว้

  จนมาจ.กาฬสินนี่แหละเป็นจุดเริ่มต้นจริงจัง พี่ๆชวนไปเที่ยวผับเพราะเห็นเปรี้ยวเครียดๆเรื่องแฟนเก่ามาขอคืนดี เพลงในผับก็บิ้วไปเลยน้ำตาแตกตั้งแต่อยู่ข้างในร้านจนนั่งรถกลับโรงแรม ตอนอยู่ในรถก็นึกว่าหวานนั่งข้างๆ แต่มีมือมาลูบหัวแล้วบอกว่า "ร้องไห้อีกแล้ว เสียใจมานานแค่ไหนแล้ว พอได้รึยัง" ชัดเลย! พี่อาทิต (ตอนนั้นเลิกกับแฟนเก่าได้เกือบ3เดือนและ) เลยหันหน้าไปหาเค้าแล้วร้องหนักกว่าเดิมอีก เค้าบอกอ่ะๆร้องให้พอ เสียใจให้พอ แล้วก็ลืมๆเค้าไปซะ ****นี่คือจุดเริ่มต้นแห่งความประทับใจ****

       จากวันนั้นเปรี้ยวเริ่มคุยจริงจังกับพี่อาทิตมาเรื่อยๆ แม้ว่าจะอยู่ในทีมงานที่มีแต่ผู้ชายเจ้าชู้ เป็นปลาไหลเลยก็ว่าได้ แต่ตลอดเกือบ3ปีที่รู้จักพี่อาทิตมายังไม่เคนเห็นเค้าควงสาวไหนมางาน หรือหอบหิ้วสาวไหนๆขึ้นห้อง ด้วยความไม่มีเรื่องเสียหายตรงนี้เลยลองเปิดใจให้เค้าดู และแล้วกลางเดือนก็เป็นจุดผกผัน เมื่อพี่อาทิตย์ชวนไปกินข้าวกับพี่ๆเพื่อนๆเค้าซึ่งบางคนเปรี้ยวรู้จัก เนื่องจากเป็นครั้งแรกเปรี้ยวเลยชวนเพื่อนสนิทไปหนึ่งคน คือ "หมวย" ซึ่งพี่อาทิตรู้จักเพราะเปรี้ยวเคยพาไปทำงานด้วยครั้งนึง พี่อาทิตแนะนำพี่สาวเค้าให้รู้จัก

            เมื่อเริ่มกินข้าวเหล้าเข้าปาก พร้อมเสียงเพลงในร้าน(ร้านอยู่ตรงข้ามเมเจอร์รัชโย) มีเสียงหัวเราะครื้นเครงอยู่ตลอด และแล้วพี่อาทิตก็พูดกับหมวยว่า "หมวยน่ารักนะ แต่พี่รักหมวยไม่ได้ เพราะพี่รักเพื่อนหมวยไปแล้ว"  .....................ทุกคนฮิ้ว! แต่เราอยู่ในอาการสงบ หน้าแดงเป็นตูดลิง หูงี้แดงแป๊ดเลย แอร๊ยยยยย! (ขนาดเล่าเองตอนนี้ยังเขินเลย) "แต่พี่ยังไม่จีบเพื่อนเรานะ รออีก6เดือน ให้เพื่อนเราลืมแฟนเก่าได้ก่อน เพราะพี่ไม่รู้ว่าตอนนี้ที่คุยกับพี่แค่เหงาหรือรู้สึกดีจริงๆ" พี่อาทิตระบายความในใจ ซึ่งเปรี้ยวเองก็นั่งอยู่ตรงนั้นนะ เลยหันไปถามพี่สาวเค้าว่า "6เดือนนี่เค้ารอได้ใช่มั้ยคะ แต่นู๋ไม่รอหรอกนะ" ตรงประเด็นเลยคร้าแม่นางเปรี้ยว พี่ๆขำกันใหญ่ แล้วก็ได้เวลากลับบ้านค่ะ

       คืนนั้นพี่อาทิตกลับถึงบ้านก็โทรมาหาทันที แล้วก็ยิงคำถามเลย "รอไม่ได้เหรอ6เดือนน่ะ นี่ก็4เดือนและ อีกแค่2เดือนเอง เดี๋ยวพี่ไปจีบนะ" ตอนคุยเสียงเค้าเหมือนเมานะ เปรี้ยวเลยถามกลับไป "นี่พี่เมาป่ะคะ งั้นพี่ก็นอนเถอะ มีสติเราค่อยคุนกันเน๊อะ" น้ำเสียงเปรี้ยวแอบติดตลกนิดหน่อย แล้วก็มีเสียงเรียบๆตอบกลับมา "พี่ไม่ได้เมา มีสติดี เรื่องแบบนี้ไม่เอามาพูดเล่นหรอก" เอาแล้วเข้าโหมดเครียดค่ะ ทางเปรี้ยวก็เงียบพูดอะไรไม่ออก เค้าเลยเริ่มพูดก่อน "จะเอายังไงก็บอกพี่มาเลย รับได้หมดแหละ" ห๊ะ!อะไรว่ะ งงล่ะเน้อ "ก็คบมันตอนนี้แหละไม่ต้องรออีก2เดือนหรอก หรือถ้าพี่อยากรอก็ตามใจ แต่นู๋ไม่รอและ" ถึงตอนนี้เริ่มฉุนแล้วฮะ รักเราแล้วทำไมต้องลีลาด้วย มีเสียงหัวเราะตอบมาแทน "เราพูดแล้วนะว่าไม่ต้องรอ ตอนนี้ได้เลย พี่ถือว่าเราตกลงนะ" ว้ายๆๆๆอกอีเปรี้ยวจะแตก เพิ่งรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป "ค่ะ" คำสั้นๆแต่รู้ได้เลยว่าคนฟังต้องรับรู้ได้ถึงความรู้สึกเขินอายแน่นอน
  
        นับจากวันนั้นความสัมพันธ์พัฒนาและเดินทางเรียบมาเรื่อยๆ มีบางช่วงเจอลูกระนาดบ้าง หินบ้าง หลุมบ่อบ้างปนกันไป แต่เรา2คนก็ผ่านมันมาได้ มีหลายต่อหลายครั้งที่ทะเลาะกัน เพื่อนและพี่ๆในทีมบอกว่า "ไม่ไหวก็พอนะ เหนื่อยแล้วก็ไม่ต้องฝืน เราทำเต็มที่แล้ว" บางครั้งที่ไปทำงานด้วยกันแล้วผิดใจกัน ประโยคแบบนี้จะมาเข้าหูอยู่บ่อยๆ จนพี่สาวและเพื่อนๆเค้าเริ่มเตือนว่า "ดูแลแฟนหน่อย อย่าให้เค้าน้อยใจบ่อยนัก สงสาร" แทนที่พี่อาทิตจะเก็บมาคิดว่าจริงมั้ย ควรปรับตัวมั้ย ตรงกันข้ามเลย กลับมาว่าเปรี้ยวเป็นคนทำให้คนอื่นมองเค้าไม่ดี ในใจตอนนั้นเรารักเน๊อะ ทุกอย่างมันปิดหูปิดตาไปหมด ก็พยายามยื้อและทำใจยอมรับในสิ่งที่เค้าเป็น ทั้ง ไม่ใส่ใจแฟน ติดเพื่อน ไม่มีความพิเศษในวันสำคัญ (พี่อาทิตเคยบอกว่าทุกวันคือวันสำคัญ) และอีกหลากหลายตามมาไม่หยุด เปรี้ยวมองข้ามมันไปทุกอย่างเพราะคำว่า "รัก" คำเดียว และยังคงนึกถึงวันแรกที่เค้าบอกรักเราเสมอ จนเมื่อปลายปี2555ได้มีโอกาสไปทำงานด้วยกันอีก

          หลังจากที่เปรี้ยวไปลงงานประจำประมาณ4เดือน สิ่งที่ไม่เคยคาดคิดก็เกิดขึ้น ไม่รู้อะไรดลใจให้ไปคว้าโทรศัพท์เค้ามาดู ทั้งที่ปกติไม่เคยดูเลย และแล้วเรื่องก็แดงขึ้น เมื่อพบว่าพี่อาทิตที่เราไว้ใจนักหนาว่าไม่มีเรื่อง "ผู้หญิง" แน่ๆ ก็ไม่ใช่อีกต่อไป เปรี้ยวพบWhatappที่เค้าคุยกับสาวสวยคนนึง ซึ่งอ่านจากข้อความที่คุยกันนั้นจับใจความได้ว่า น้องเค้าเป็นนักร้องในผับ(หน้าตาน่ารักมาก ชื่อเป็นผลไม้ลูกใหญ่น่ากิน^^) ดูจากเวลาที่เค้าคุยกันแล้วน้ำตาไหล นั่นมันเป็นเวลาที่เปรี้ยวทำงาน และมีหลายต่อหลายครั้งที่เปรี้ยวทักเค้าไปแต่ไม่ตอบกลับ ตรงกันข้ามกับน้องนักร้องแทบไม่ต้องรอ ถามปุบตอบปับ

          พอพี่อาทิตเดินเข้ามาในห้องเห็นเปรี้ยวร้องไห้และในมือถือโทรศัพท์เค้า ประโยคแรกที่ออกมาจากปาก "เป็นอะไร แล้วนั่นยุ่งอะไรกับโทรศัพท์พี่" เปรี้ยวส่ายหน้าแล้วร้องไห้โฮ พี่อาทิตบอกมีไรคุยกันร้องแบบนี้มันไม่รู้เรื่องนะ พอเปรี้ยวถาม เค้าก็เอาแต่บอกว่าเป็นแฟนรุ่นน้อง ทักกันธรรมดา พอเค้าโดนซักมากๆก็จนมุม และยอมรับในที่สุดว่าเค้าคุยกับคนอื่นมาซักระยะและ เค้าถามว่าเราจะเอายังไง (ห่าน!ตูต้องถามเมิงซิ) เปรี้ยวบอกพี่นั่นแหละจะเอายังไง ถ้าจะคุยกับคนนั้นก็ไม่ต้องมายุ่งกัน เค้าบอกไม่เอา "พี่ไม่คุยแล้ว พี่จะอยู่กับเรา พี่ขอโทษนะ ไม่ทำอีกแล้ว" อย่างที่บอกค่ะ รักมันบังตา ทำให้ความความผิดครั้งนี้ได้รับการอภัย แต่ความไว้ใจเราไม่เหมือนเดิม

          ก็ยังคบกันต่อมาเรื่อยๆนะ  แม้ว่าจะทำงานคนละที่กัน  เราทั้งคู่ก็พยายามประคองความรักมาตลอด ยอมรับเลยเปรี้ยวชอบชวนทะเลาะเวลาพี่อาทิตออกต่างจังหวัด เพราะว่าไปทีไรต้องมีเที่ยวกลางคืนตลอด แล้วก็จะลืมมาส่งเข้านอน เปรี้ยวไม่เคยห้ามนะจะไปเที่ยวกลางคืน กินเหล้าที่ไหน กลับดึกกลับเช้าไม่ว่า  ขอแค่อย่างเดียวเลย "ต้องส่งเปรี้ยวเข้านอนทุกคืน" แต่หลังๆมานี้เริ่มขาดความสม่ำเสมอ ก็เริ่มมีทะเลาะบ่อยขึ้น บางครั้งไปไหนไม่บอก เปรี้ยวมารู้เองอีกทีจากเฟสบุคเพื่อนเค้า อ๋อ...เรื่องการโพสเฟสบุคนี่ก็ด้วย เปรี้ยวเป็นพวกเก็บอารมณ์ไม่ค่อยอยู่ งอน โกรธ เสียใจ อะไรลงหมดในเฟสบุค เคยทะเลาะจนพี่อาทิตขอเลิกไปและหลายรอบ แต่เปรี้ยวก็ง้อขอคืนดีทุกครั้ง เค้าบอกว่ามันทำให้เค้าดูไม่ดีในสายตาคนอื่น ดูเป็นผู้ชายที่แย่

เฮ้อ! มาถึงตรงนี้เริ่มเหนื่อยและ เพราะกำลังเข้าสู่โมดดราม่า

               เมื่อพฤษภาคมที่ผ่านมามีโอกาสได้ไปเที่ยวกับพี่อาทิตและเพื่อนๆเค้าด้วย  กิจกรรมต่างๆดำเนินไปตามปกติค่ะ  จนมาถึงกลางคืน พี่อาทิตไปนั่งกินเหล้าที่ห้องเพื่อนโดยที่ไม่ชวนเปรี้ยวเลย  ไม่ถามด้วยว่าหิวมั้ย  กินอะไรรึเปล่า (เค้าเป็นคนติดเพื่อนนะคะ สุดๆ) กลับมายังมานอนหันหลังให้อีก  พอเช้ามาเราก็ไม่ได้คุยกันค่ะ  จนไปขี่จักรยานชมพระราชวัง  เปรี้ยวไม่รู้ว่าเค้าจะมาที่นี่กัน  เเละความที่ใส่ขาสั้นก็เลยทำให้ไม่อยากเข้าไปชม  เลือกขี่จักรยานอยู่รอบนอก  อยากรู้มั้ยว่าพี่อาทิตทำยังไง

                เค้าไปกับเพื่อนค่ะแล้วก็ไม่เรียกเราซักคำเลย  ไม่มีการถามไถ่ใดๆทั้งสิ้น  ไม่สนใจเราเหมือนเราไม่มีตัวตนเลย  จนนั่งรถกลับ เป็นเราเองที่ทนไม่ไหวเข้าไปกอดเค้าก่อน  พี่อาทิตกอดตอบนะ พอได้โอกาสก็เลยถาม "ทำไมพี่ทิ้งนู๋ ไม่สนใจนู๋เลย" (น้ำตาคลอพอพิมมาถึงตรงนี้) พี่อาทิตไม่มองหน้า "จะให้มาคอยตามง้อคนๆเดียว คนที่เหลือก็พลอยเซงไปด้วย แบบนั้นมันควรเหรอ" เออ...เค้าพูดถูกนะ  แต่ในอารมร์นั้นเราน้อยใจมากกว่า ***คือแบบตูเป็นแฟนเมิงนะ  แล้วที่มาเนี่ยก็เพื่อนเมิงทั้งนั้น  ตูเนี่ยมีเมิงคนเดียว  เมิงไม่สนใจตูแล้วตูจะอยู่ไงว่ะ!***
เอาล่ะทริปนี้จบไป

         กลับมาบ้านด้วยความไม่ปลาบปลื้มเอาซะเลย ระหว่างที่คบกันมาเกือบ3ปี เปรี้ยวบอกตรงๆเลยนะ ไม่เคยได้ของขวัญวันพิเศษ ไม่มีการฉลองหรือสิ่งพิเศษใดๆที่คู่รักทั่วไปเค้าให้กัน  มีแต่เปรี้ยวฝ่ายเดียวที่มีทั้งของฝากเวลาไปไหนไกลๆ  ของขวัญวันเกิด  เสื้อผ้า  หรือแม้แต่เวลาเค้าอยากได้โน่นนี่นั่นก็จะพยายามหามาให้ ทุกครั้งที่ไปดูหนังหรือกินข้าวเราจะใช้วิธีแชร์ค่าใช้จ่ายกันตลอด  

          มันเป็นแบบนี้มาแต่แรกแล้วล่ะ  หลายๆคนบอกว่าแบบนี้เป็นเพื่อนกันก็ได้มั้ง  ถ้าต้องแชร์ทุกอย่างเลย  ของขวัญก็ไม่ให้  ไม่มีอะไรพิเศษเลย หวานเองเพื่อนในทีมที่ทำงานอีเว้นท์ด้วยกันก็เคยคุยเรื่องนี้กับเรานะ  บอกว่าถ้าคบกันแล้วมีแต่เอาเปรียบเรานั่นไม่ใช่รักและ  เค้าแค่ใช้ความรักของเราตอบสนองความต้องการของเค้าเท่านั้นเอง
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่