ส่วนมากคนจะตอบว่าเป็นครู เป็นล่าม เป็นเลขา แต่ว่ามีคำตอบนึงที่โดนใจและสงสัยตลอดมาคือ
จบอักษรศาสตร์ทำงานได้ทุกสายอาชีพ เพราะการเรียนอักษรศาสตร์ไม่ใช่แค่การเรียนภาษา
แต่ว่าอักษรศาสตร์สอนให้เราเข้าใจมนุษย์
วันเวลาผ่านไปเราก็ยังคงสงสัยว่าอาจารย์เว่อร์สุดๆ
มาวันนี้พิสูจน์แล้วว่าจริง แต่แค่บางส่วน
คนอาจจะเข้าใจว่าเรียนแค่ภาษา แต่จริงๆ เราเรียนประวัติศาสตร์ วรรณคดี การละคร
ตอนเรียนเราเบื่อวิชาพวกนี้มาก เรียนไปทำซากอะไร อยากเรียนธุรกิจ
แต่มาวันนี้ เราเพิ่งเข้าใจ คุณอาจจะเคยได้ยินว่าดูละครแล้วย้อนดูตัว จริงๆมันก็มาจากชีวิตจริง
จิตใจคนลึกและยากที่จะหยั่งถึง
แต่จริงๆมันก็เข้าใจได้ว่าทำไมใครจะตัดสินใจอย่างนั้น
จากเพื่อนรอบตัวการทำงานหลากหลายจริงๆ
และไปได้ไกลพอสมควร อายุรุ่นเรา 30 ต้นๆ เริ่มขยับเป็น junior management กันหลายคน
ส่วนมากเป็นครู ล่าม กองบก นักเขียน hr admin บริษัทต่างชาติ แอร์ อันนี้เยอะสุด (ส่วนมากจบตรีอย่างเดียว หรือต่อโทเอกด้านภาษา)
รองลงมาเป็น ประชาสัมพันธ์ มาร์เก็ตติ้ง พัฒนาธุรกิจ ที่ปรึกษาโรงงาน เซลล์ ผู้จัดการกองทุน เจ้าของกิจการ
ส่วนน้อยมาก แต่จริง คือทำ it นักจิตวิทยา ควบคุมการบิน
2 กลุ่มหลัง คือกลุ่มที่ต่อโทมาร์เก็ตติ้ง บริหาร hr และเฉพาะทาง
สรุป ส่วนที่จริง คือเป็นพื้นฐานทางความคิด
เราสังเกตุว่าส่วนมากจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของคนรอบตัว เข้าใจความเป็นไปของโลก มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
แต่ถ้าจบภาษาอย่างเดียว โอกาสทำอย่างอื่นนอกจากงานด้านภาษาตรงยากมาก
และมีงานหลายอย่างที่ทำไม่ได้คะ ซึ่งส่วนมากคืองานสายอาชีพ เช่นทนาย วิศวกร บัญชี
จบอักษรศาสตร์แล้วทำอะไรได้
จบอักษรศาสตร์ทำงานได้ทุกสายอาชีพ เพราะการเรียนอักษรศาสตร์ไม่ใช่แค่การเรียนภาษา
แต่ว่าอักษรศาสตร์สอนให้เราเข้าใจมนุษย์
วันเวลาผ่านไปเราก็ยังคงสงสัยว่าอาจารย์เว่อร์สุดๆ
มาวันนี้พิสูจน์แล้วว่าจริง แต่แค่บางส่วน
คนอาจจะเข้าใจว่าเรียนแค่ภาษา แต่จริงๆ เราเรียนประวัติศาสตร์ วรรณคดี การละคร
ตอนเรียนเราเบื่อวิชาพวกนี้มาก เรียนไปทำซากอะไร อยากเรียนธุรกิจ
แต่มาวันนี้ เราเพิ่งเข้าใจ คุณอาจจะเคยได้ยินว่าดูละครแล้วย้อนดูตัว จริงๆมันก็มาจากชีวิตจริง
จิตใจคนลึกและยากที่จะหยั่งถึง
แต่จริงๆมันก็เข้าใจได้ว่าทำไมใครจะตัดสินใจอย่างนั้น
จากเพื่อนรอบตัวการทำงานหลากหลายจริงๆ
และไปได้ไกลพอสมควร อายุรุ่นเรา 30 ต้นๆ เริ่มขยับเป็น junior management กันหลายคน
ส่วนมากเป็นครู ล่าม กองบก นักเขียน hr admin บริษัทต่างชาติ แอร์ อันนี้เยอะสุด (ส่วนมากจบตรีอย่างเดียว หรือต่อโทเอกด้านภาษา)
รองลงมาเป็น ประชาสัมพันธ์ มาร์เก็ตติ้ง พัฒนาธุรกิจ ที่ปรึกษาโรงงาน เซลล์ ผู้จัดการกองทุน เจ้าของกิจการ
ส่วนน้อยมาก แต่จริง คือทำ it นักจิตวิทยา ควบคุมการบิน
2 กลุ่มหลัง คือกลุ่มที่ต่อโทมาร์เก็ตติ้ง บริหาร hr และเฉพาะทาง
สรุป ส่วนที่จริง คือเป็นพื้นฐานทางความคิด
เราสังเกตุว่าส่วนมากจะไวต่อการเปลี่ยนแปลงของคนรอบตัว เข้าใจความเป็นไปของโลก มีความมั่นใจในตัวเอง ไม่มีปัญหาเรื่องการสื่อสาร
แต่ถ้าจบภาษาอย่างเดียว โอกาสทำอย่างอื่นนอกจากงานด้านภาษาตรงยากมาก
และมีงานหลายอย่างที่ทำไม่ได้คะ ซึ่งส่วนมากคืองานสายอาชีพ เช่นทนาย วิศวกร บัญชี