ความคิด.. ฉุดรั้งความเจริญของคุณได้อย่างไร!
ผมเขียนเล่นๆนะครับ จากการนั้งมองคนระดับพนักงงานออฟฟิตกับคนระดับล่างคิดเกี่ยวกับการใช้เงินของตัวเอง (ในบริษัทเเห่งหนึ่ง)
ผมอายุ 24 ปี ทำงานได้ไม่ถึงปีกับโรงงานเเห่งหนึ่ง
สิ่งที่ผมเห็นคือความเเตกต่างกันของคน คน คน เเละก็คน
สิ่งที่เเตกต่างกันไม่ใช้ตัวบุคคล เเต่เป็นความคิด ความคิด ความคิด เเละความคิดของพวกเขา
มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าความคิดของคนเรามีพลัง เเละสามารถฉุดรั้งความเจริญของเราเองได้ขนาดไหน
ตัวอย่างนึงที่ผมเห็น.. ความคิดของพนักงานบริษัทเล็กกับคนยกของ (บริษัทเดียวกัน)
มาดูคนเเรก
พนักงานสาวสุดขยัน ขยันทุกอย่างทั้งงานเเละเรื่องคอยจ้องจับผิดคนอื่น
พนักงานคนนี้มีความคิดว่า เงินเราได้ทุกวันอยู่เเล้ว วันละ 380 บาท ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องขวนขวาย ถ้าอยากได้เงินอีก ก็เเค่รอวันพรุ่งนี้
มีเงิน ก็ใช้ไปเรื่อยๆ เดือนนึงจึงไม่ค่อยจะมีเก็บ ที่เเย่กว่านั้นคือ เค้ารู้ตัวว่าไม่มีเก็บ ดังนั้นสิ่งที่ทำคือซื้อสินทรัพย์เเบบผิดวิธีมาเก็บไว้ เดือนเเรกมีเงินเยอะหน่อยซื้อเครื่องซักผ้าราคา 22,000 บาท (เเบบผ่อน) เดือนที่ 2 มีเงินน้อยหน่อยซื้อ iphone มาใช้(เเบบผ่อน) เดือนที่ 3 กลัวเงินหมดเร็ว ต้องรีบใช้ก่อนผ่อนมอไซด์มาให้น้องขับ(เเบบผ่อน) ทุกอย่างเพราะเชื่อว่าการมีสินทรัพย์หลายๆอย่างทำให้เราดูรวยขึ้น โดยไม่รู้เลยว่าสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดเป็นเเบบสินทรัพย์ที่มีมูลค่าความเสียมถดถอยทั้งนั้น ยิ่งซื้อก็นยิ่งจนลงเรื่อยๆ
มาดูกรณีที่สอง คนยกของ รายได้ต่อวัน 340 บาท (อาศัยที่โรงงาน) ขยันกว่า ตื่นเเต่เช้ารับจ๊อบเพิ่มยกน้ำเเข็งส่งของได้เพิ่งอีกประมาณ 500 บาทเพราะต้องตื่นตี 4 มาทำงาน นั้นเท่ากับเดือนนึงได้เงินสองหมืนกว่าบาท ค่าบ้านไม่มี(ซ้อให้อาศัยอยู่) ค่าน้ำค่าไฟไม่มี กินประหยัด ขยัน เเต่…… ไม่เหลือเก็บ!!
มาดูกันว่าเค้าทำอะไรผิดทั้งๆที่เเทบไม่มีรายจ่ายอะไรเลย
1. ติดเหล้า เพราะคิดว่ามันผ่อนคลายเราได้
2. เล่นหวย + พนัน เพราะมองว่าเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง (ส่วนใหญ่ก็เล่นกับสาวออฟฟิตคนเเรก ซึ่งสาวออฟฟิตดวงดีกว่า ได้เงินจนถอยจักรยานได้อีกคัน)
3. ให้เมีย (คนในโรงงานอีกคนที่ขยันเก็บ เอาเงินไปปล่อยกู้ ดอกปานกลาง เเต่ขาดทุนเพราะคนไม่ค่อยคืน คนงานบางคนกู้ 3,000 กว่าเเล้วหนี้ไปก็มี) อีกตัวอย่างนึงของคนไม่มีเก็บ
4. ส่งที่บ้าน ซึ่งผมมองว่าไม่ผิด เเต่ปัญหาคือส่งเยอะเกิน
เเละก็มีอีกหลายต่อหลายคน ซึ่งไม่ต่างกัน เป็นคนดี ขยัน เเต่ไม่มีเหลือ เพราะไม่มีความเข้าใจในเงินเเละวิธีการบริหารเงินอย่างถูกวิธี ซึ่งเเต่ละคนก็มีบางอย่างมาฉุดรั้งไว้ไม่ให้สามารถเก็บเงินได้
สิ่งที่ผมเขียนมาไม่ได้มีเจตนาอะไร เเค่อยากนำสิ่งที่เห็นมาเเบ่งบันกัน
เเล้วคุณมีอะไรเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เก็บเงินหรือเปล่า??
ความคิด.. ฉุดรั้งความเจริญของคุณได้อย่างไร!
ผมเขียนเล่นๆนะครับ จากการนั้งมองคนระดับพนักงงานออฟฟิตกับคนระดับล่างคิดเกี่ยวกับการใช้เงินของตัวเอง (ในบริษัทเเห่งหนึ่ง)
ผมอายุ 24 ปี ทำงานได้ไม่ถึงปีกับโรงงานเเห่งหนึ่ง
สิ่งที่ผมเห็นคือความเเตกต่างกันของคน คน คน เเละก็คน
สิ่งที่เเตกต่างกันไม่ใช้ตัวบุคคล เเต่เป็นความคิด ความคิด ความคิด เเละความคิดของพวกเขา
มันเป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ว่าความคิดของคนเรามีพลัง เเละสามารถฉุดรั้งความเจริญของเราเองได้ขนาดไหน
ตัวอย่างนึงที่ผมเห็น.. ความคิดของพนักงานบริษัทเล็กกับคนยกของ (บริษัทเดียวกัน)
มาดูคนเเรก
พนักงานสาวสุดขยัน ขยันทุกอย่างทั้งงานเเละเรื่องคอยจ้องจับผิดคนอื่น
พนักงานคนนี้มีความคิดว่า เงินเราได้ทุกวันอยู่เเล้ว วันละ 380 บาท ไม่ต้องดิ้นรน ไม่ต้องขวนขวาย ถ้าอยากได้เงินอีก ก็เเค่รอวันพรุ่งนี้
มีเงิน ก็ใช้ไปเรื่อยๆ เดือนนึงจึงไม่ค่อยจะมีเก็บ ที่เเย่กว่านั้นคือ เค้ารู้ตัวว่าไม่มีเก็บ ดังนั้นสิ่งที่ทำคือซื้อสินทรัพย์เเบบผิดวิธีมาเก็บไว้ เดือนเเรกมีเงินเยอะหน่อยซื้อเครื่องซักผ้าราคา 22,000 บาท (เเบบผ่อน) เดือนที่ 2 มีเงินน้อยหน่อยซื้อ iphone มาใช้(เเบบผ่อน) เดือนที่ 3 กลัวเงินหมดเร็ว ต้องรีบใช้ก่อนผ่อนมอไซด์มาให้น้องขับ(เเบบผ่อน) ทุกอย่างเพราะเชื่อว่าการมีสินทรัพย์หลายๆอย่างทำให้เราดูรวยขึ้น โดยไม่รู้เลยว่าสินทรัพย์ที่มีทั้งหมดเป็นเเบบสินทรัพย์ที่มีมูลค่าความเสียมถดถอยทั้งนั้น ยิ่งซื้อก็นยิ่งจนลงเรื่อยๆ
มาดูกรณีที่สอง คนยกของ รายได้ต่อวัน 340 บาท (อาศัยที่โรงงาน) ขยันกว่า ตื่นเเต่เช้ารับจ๊อบเพิ่มยกน้ำเเข็งส่งของได้เพิ่งอีกประมาณ 500 บาทเพราะต้องตื่นตี 4 มาทำงาน นั้นเท่ากับเดือนนึงได้เงินสองหมืนกว่าบาท ค่าบ้านไม่มี(ซ้อให้อาศัยอยู่) ค่าน้ำค่าไฟไม่มี กินประหยัด ขยัน เเต่…… ไม่เหลือเก็บ!!
มาดูกันว่าเค้าทำอะไรผิดทั้งๆที่เเทบไม่มีรายจ่ายอะไรเลย
1. ติดเหล้า เพราะคิดว่ามันผ่อนคลายเราได้
2. เล่นหวย + พนัน เพราะมองว่าเป็นการลงทุนชนิดหนึ่ง (ส่วนใหญ่ก็เล่นกับสาวออฟฟิตคนเเรก ซึ่งสาวออฟฟิตดวงดีกว่า ได้เงินจนถอยจักรยานได้อีกคัน)
3. ให้เมีย (คนในโรงงานอีกคนที่ขยันเก็บ เอาเงินไปปล่อยกู้ ดอกปานกลาง เเต่ขาดทุนเพราะคนไม่ค่อยคืน คนงานบางคนกู้ 3,000 กว่าเเล้วหนี้ไปก็มี) อีกตัวอย่างนึงของคนไม่มีเก็บ
4. ส่งที่บ้าน ซึ่งผมมองว่าไม่ผิด เเต่ปัญหาคือส่งเยอะเกิน
เเละก็มีอีกหลายต่อหลายคน ซึ่งไม่ต่างกัน เป็นคนดี ขยัน เเต่ไม่มีเหลือ เพราะไม่มีความเข้าใจในเงินเเละวิธีการบริหารเงินอย่างถูกวิธี ซึ่งเเต่ละคนก็มีบางอย่างมาฉุดรั้งไว้ไม่ให้สามารถเก็บเงินได้
สิ่งที่ผมเขียนมาไม่ได้มีเจตนาอะไร เเค่อยากนำสิ่งที่เห็นมาเเบ่งบันกัน
เเล้วคุณมีอะไรเป็นตัวฉุดรั้งไม่ให้เก็บเงินหรือเปล่า??