-- ถ้าใครเคยอ่านรีวิวผมบ่อยๆ จะจำได้ว่า ย้อนหลังตั้งแต่ปีที่แล้วไป 3 – 4 ปี ผมมีรีวิวทริปท่องเที่ยวมาตลอด จะมาเริ่มซาๆลงก็ปีที่แล้ว พอมาปีนี้เงียบกริบเลยแฮะ … ที่จริงก็ไม่ถึงกับเลิกเที่ยวหรอก ปีใหม่ก็ไปนะ วันเกิดตัวเองก็ไปนะ แต่มันมีเหตุการณ์หลายๆอย่างเข้ามา จนหมดสนุก จนไม่อยากเอามาเขียนรีวิวแหละ
-- จนมาวันนึงช่วงเดือนสิงหาคม อารมณ์อยากเที่ยว มันก็มาอีก เออแล้วจะไปกับใครล่ะ? คนนู้นก็ไม่ไป คนนี้ก็ไม่สน ขนาดบอกว่า เตรียมเงินค่าข้าวตัวเองอย่างเดียวพอ ที่เหลือจ่ายให้หมด ยังไม่มีใครยอมไปกับผมเลยสิ … น่าสงสารนะเนี่ย เอาฟะ ไปเดี่ยวก็ได้ กลัวอะไร รถมี เงินมี ความสุขของเรา ทำไมต้องไปพึ่งคนอื่นล่ะ จริงไหม?
-- คำแรก ที่ได้ยินจากพ่อและแม่ หลังบอกว่า จะไปเที่ยวเชียงรายคนเดียว 5 วันนะ ก็คือ “แกจะบ้าเหรอ” … เอาน่า บ้าหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้แหละ
19 ตุลาคม 2013 วันแห่งความอึดทั้งคน ทั้งรถ
-- คิดไว้ในใจว่า เดี๋ยวันที่ 18 เลิกงานแล้ว จะรีบอาบน้ำ เข้านอน สักทุ่ม สองทุ่ม แล้วตื่นสักเที่ยงคืน ตี 1 เดินทางจากปราจีนสักตี 2 ไม่เกินเที่ยงก็ถึงเชียงรายละ มีเวลาชิวๆเยอะ ซึ่งก็ได้แต่คิด เพราะของจริงก็คือ …
-- เข้านอนสามทุ่ม แถมนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา รำคาญตัวเอง เลยลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว สตาร์ทรถ ลุยเลย ตอน 00.08 น. ครับ ก่อนออกรถก็โด๊ปกาแฟสักกระป๋อง ขับชิวๆ จากนิคม 304 เข้าสุวินทวงศ์ เข้ารามอินทรา ขึ้นวงแหวนตะวันออก ขับเพลินสัก ตี 3 และแล้ว นี่คือภาพที่เห็น !!!!
-- ติดก่อนทางออกบางปะอินสัก 10 กม.ได้ครับ กระดึ๊บๆๆๆๆ ฝนก็ตก บรรยากาศน่านอนจริงๆ ทีแรก นึกว่า มีอุบัติเหตุ โทร.ถาม สวพ.91 จนท.ก็บอกไม่รู้ ไม่เห็น เลยเปิด จส.100 ได้ความว่า ติดรถสายอีสาน รถที่จะไปลงวังน้อย ไปมิตรภาพครับ ระหว่างนั้น ข้างทางก็มีรถจอดนอนเป็นแถวแล้วล่ะ อืมมมม
-- จำได้ว่า ผมหลุดออกมา ตี 4 เศษ น่ะครับ ตอนนั้น กาแฟ หมดฤทธิ์ละ ขับรถไป ทั้งเกาหัว ดึงผม หยิกตัวเอง สลับกับหาวนอน … เออ อาการไม่ดีแล้วแฮะ ช่วงนั้นฝนตก ขับเร็วไม่ได้ เลยยิ่งพลอยง่วงไปใหญ่ เอาฟะ ขอนอนสักงีบแล้วกัน มองซ้ายมองขวา เห็นปั๊มแก๊สแห่งหนึ่ง ปิดไฟป้าย (แปลว่า ไม่ได้ขาย) แต่มีรถจอด เอาฟะ นอนในนั้นดีกว่า จอดรถได้ก็ดับเครื่อง หรี่กระจกด้านคนขับลงมาหน่อย (เห็นประโยนช์ของกันสาด ก็วันนี้แหละ ไม่งั้น ฝนตกๆแบบนี้ หรี่กระจกไม่ได้เลย แถมยุงจะเข้าอีก) จากนั้นปรับเบาะนอน สลบในทันทีครับ
-- ตื่นอีกทีก็ 6 โมงเช้าพอดีเป๊ะ … ลุยต่อครับ ฝนยังไม่หยุดตกเลย ก็ขับเรื่อยๆครับ 90 – 100 บนสายเอเซีย เข้านครสวรรค์ แยกออกเส้น 117 เข้าพิจิตร – พิษณุโลก ถนนสาย 117 สภาพปุๆปะๆด้วยยางมะตอย จากนครสวรรค์ จนถึง เขตพิจิตร ล่ะครับ แต่ไม่มีหลุมลึกครับ ถ้ารถไม่ได้ใส่ยางบางเฉียบก็รูดผ่านสบาย หรือ จะโยกหลบก็ยังไหว น่าวิ่งกว่าเส้นกำแพงเพชร – ตาก แยะล่ะครับ
-- เหลือบมองเกจ์หน่อย อุ้ยยย เหลืออยู่ 4 ขีดเอง เดี๋ยวต้องขึ้นเขาพลึงด้วย … ช่วงนั้นออกนอกเมืองอุตรดิสถ์มาหน่อย เหลือบเห็นปั๊มบางจาก ปั๊มแรกหลังลงจากเขาพลึงมา ก็จัดการยูเทิร์นไปเติมสักหน่อย ผมมันแฟนบางจากอยู่แล้ว
-- ขับเรื่อยๆครับ มากระตุ้นอะดีนาลีนหน่อย ก็ตรงช่วงเขาพลึง ถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขับสบาย รถน้อย สาดโค้งได้สบายๆครับ ขับได้สักพัก มี EX สีดำ มาเล่นด้วย มาจี้ท้าย รำคาญ เลยหลบให้ แล้วเปลี่ยนเป็นผมไล่มั่ง … ไล่ได้สักพักก็ปล่อยไป ยังไม่อยากเป็นสาเหตุให้ใครเกิดอุบัติเหตุ เพราะช่วงทางตรงเค้ากดหนีใหญ่ แต่พอเจอโค้งปุ๊บ กดเบรคแทบทุกโค้ง แถมไลน์การเข้าโค้งก็ผิด เข้าแรงกว่านี้มีหลุดล่ะครับ … ผมเล่นกับรถตัวเองดีกว่า หนุกกว่าเนอะ
-- แวะเติมพลังกันอีกนิด หลังผ่านเขาพลึงมาถึงสามแยกเด่นชัย ผมเลี้ยวขวาไปแพร่ จากนั้นยูเทิร์นแรกครับ ยูเลย มีร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ อยู่ร้านครับ … กาแฟรสชาติใช้ได้ด้วยนะครับ หอมอร่อย ราคาไม่แพงครับ
-- ที่แพร่ เราวิ่งบนถนนหลวงหมายเลข 101 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 103 เพื่อเข้าพะเยานะครับ ถนนเส้นนี้จะไปตัดที่ อ.งาว จ.พะเยา ครับ ถนน 2 เลน สภาพพอใช้ได้ ไม่มีหลุมลึก เส้นนี้ก็ได้สนุกกับรถอีก เห็นหลายคันกว่าจะแซงได้ เล็งแล้ว เล็งอีก อาจจะเพราะมือใหม่ หรือ ต้องการความมั่นใจ มั้ง … แต่สำหรับผม ผมมองว่า กำลังรถผมพ้น ผมก็กระทืบแล้วแซงเลย รถที่ใครหลายคนว่า อืดแสนอืด คันนี้แหละ … บนถนนเส้นนี้ไม่เห็นมีใครแซงมันได้สักคัน ขับแค่ 110 เองนะ
-- ตัดภาพมาราวบ่ายสองเศษ เข้าเขตเชียงรายแล้ววววว …. สำรวจตัวเอง ยังพอไหวอยู่ หิ้วท้องไว้ก่อน เพราะอยากไปกินข้าว + กินวิว ที่ไร่บุญรอด ที่เค้าว่า สวยนัก สวยหนา นี่แหละ … เส้นทางไปไม่ยากครับ มาจากพะเยา เจอแยกที่จะไปวัดร่องขุ่น เลี้ยวซ้ายเลยครับ ตรงผ่านวัดร่องขุ่น ไปจนสุดทางเป็นสามแยก ให้เลี้ยวขวา ไปอีกสักหน่อย ไร่บุญรอดอยู่ซ้ายมือครับ
-- วิวสวยสมคำร่ำลือ ครับ เสียดายฟ้ามามืด แสงไม่มี เลยได้แค่นี้แหละ แถมทานข้าวเสร็จ จะลงมาถ่ายต่อ ฝนดันไล่ซะนี่ … ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาซ่อมละกัน
-- ว่าแล้วก็ ตั้ง GPS SYGIC ให้พาไป รร.บีทู เชียงราย สักหน่อย … เพราะแผนที่ใน web ของ รร.เอง ไม่ละเอียดเอาซะเลย … เจ้า GPS พาไปถูกนะ แต่พวกพาผมวิ่งทะลุถนนคนเดินซะงั้น พ่อค้าแม่ค้า กำลังตั้งร้านเลย มองหน้ากันเป็นแถว แหะแหะ
เลี้ยวเข้า รร. อึ้งเล็กน้อย โห ทำไมที่จอดรถมันแคบแบบนี้หว่า …
-- ราคาคืนละ 690 บาท ข้อดีคือ ทำเลใกล้ถนนคนเดินมากๆ (แต่ก็ไม่ได้เดิน เพราะฟ้ามามืด พ่อค้า แม่ค้า เก็บของหมดแล้ว ได้ขนมมากินแทนมื้อค่ำหน่อยเดียว) ส่วนข้อเสีย เยอะนะ … ตั้งแต่พนักงานไม่สนใจเลย เดินลงจากรถมา อ้าว ตรูต้องเดินไปติดต่อไหนหว่า เดินผิดเข้าไปห้องหนึ่ง ก็โดนชี้มือไปอีกตึก … ลงทะเบียนเรียบร้อย มีย้ำว่า ให้ใส่ทะเบียนรถ กับ เบอร์โทร.ด้วย เผื่อรถมีปัญหาจะได้โทร.แจ้ง ??? … หุหุ เห็นที่จอดรถก็สยองละ มาพูดแบบนี้อีก อยากย้าย รร.จริงๆ (คนทั่วไปอาจไม่คิดอะไร แต่คนรักรถอย่างผมคิดนะ) จากนั้น พนง.ส่งกุญแจให้ แล้วก็บอกว่า “อยู่อีกตึกนะคะ” แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ เออ แล้วไปทางไหนหว่า ?
-- สภาพห้องตกแต่งแปลกสวยดีครับ เค้าเรียกสไตล์อะไรหว่า เป็นปูนเปลือยซะเยอะ … ติอีกที ก็คือ ห้องน้ำ อาบน้ำนานหน่อย กลายเป็นทะเลสาปย่อมๆเลย คือ ก่อนจองก็เคยเห็น comment นี้นะ จำไม่ได้ว่า ใน pantip หรือ booking แหละ แต่คิดว่า เราคงไม่ซวยเจอแบบนั้นหรอก … อืมมม ปรากฎว่า เราซวย (หรือเป็นทุกห้อง?) จริงๆ แค่เปิดฝาตะแกรงออกมาล้างขี้ดินก็จบละ … แต่เอ มันไม่ใช่หน้าที่แขกอย่างเรานี่หว่าเนอะ
-- สรุปกันนิด วันนี้อยู่ในรถทั้งหมด 14 ชั่วโมงครึ่ง (แวะกินข้าวเที่ยงไม่เกิน 15 นาที เข้าห้องน้ำนี่ 2 นาที) ถ้าหักเวลาที่ขับ โดยลบเวลานอนชั่วโมงครึ่งออก ก็เหลือ 13 ชั่วโมงล่ะครับ … ขับเปิดแอร์ตลอด ทุกครั้งที่จอดแวะพักไม่มีเปิดฝากระโปรงหน้าแบบคันอื่นนะ กับระยะทาง 929.9 กม. ครับ … หมดคำถามนะ “คนไหว รถก็ไหวครับ”
ที่สำคัญ ลงจากรถแล้ว ยังมีปัญญาเที่ยวต่อได้อีกแน่ะ
[CR] * * * คนเดียวก็เที่ยวได้ กับ ทริปเชียงราย – สุโขทัย 4 วัน 5 คืน * * *
-- จนมาวันนึงช่วงเดือนสิงหาคม อารมณ์อยากเที่ยว มันก็มาอีก เออแล้วจะไปกับใครล่ะ? คนนู้นก็ไม่ไป คนนี้ก็ไม่สน ขนาดบอกว่า เตรียมเงินค่าข้าวตัวเองอย่างเดียวพอ ที่เหลือจ่ายให้หมด ยังไม่มีใครยอมไปกับผมเลยสิ … น่าสงสารนะเนี่ย เอาฟะ ไปเดี่ยวก็ได้ กลัวอะไร รถมี เงินมี ความสุขของเรา ทำไมต้องไปพึ่งคนอื่นล่ะ จริงไหม?
-- คำแรก ที่ได้ยินจากพ่อและแม่ หลังบอกว่า จะไปเที่ยวเชียงรายคนเดียว 5 วันนะ ก็คือ “แกจะบ้าเหรอ” … เอาน่า บ้าหรือเปล่า เดี๋ยวก็รู้แหละ
19 ตุลาคม 2013 วันแห่งความอึดทั้งคน ทั้งรถ
-- คิดไว้ในใจว่า เดี๋ยวันที่ 18 เลิกงานแล้ว จะรีบอาบน้ำ เข้านอน สักทุ่ม สองทุ่ม แล้วตื่นสักเที่ยงคืน ตี 1 เดินทางจากปราจีนสักตี 2 ไม่เกินเที่ยงก็ถึงเชียงรายละ มีเวลาชิวๆเยอะ ซึ่งก็ได้แต่คิด เพราะของจริงก็คือ …
-- เข้านอนสามทุ่ม แถมนอนไม่หลับ พลิกไปพลิกมา รำคาญตัวเอง เลยลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัว สตาร์ทรถ ลุยเลย ตอน 00.08 น. ครับ ก่อนออกรถก็โด๊ปกาแฟสักกระป๋อง ขับชิวๆ จากนิคม 304 เข้าสุวินทวงศ์ เข้ารามอินทรา ขึ้นวงแหวนตะวันออก ขับเพลินสัก ตี 3 และแล้ว นี่คือภาพที่เห็น !!!!
-- ติดก่อนทางออกบางปะอินสัก 10 กม.ได้ครับ กระดึ๊บๆๆๆๆ ฝนก็ตก บรรยากาศน่านอนจริงๆ ทีแรก นึกว่า มีอุบัติเหตุ โทร.ถาม สวพ.91 จนท.ก็บอกไม่รู้ ไม่เห็น เลยเปิด จส.100 ได้ความว่า ติดรถสายอีสาน รถที่จะไปลงวังน้อย ไปมิตรภาพครับ ระหว่างนั้น ข้างทางก็มีรถจอดนอนเป็นแถวแล้วล่ะ อืมมมม
-- จำได้ว่า ผมหลุดออกมา ตี 4 เศษ น่ะครับ ตอนนั้น กาแฟ หมดฤทธิ์ละ ขับรถไป ทั้งเกาหัว ดึงผม หยิกตัวเอง สลับกับหาวนอน … เออ อาการไม่ดีแล้วแฮะ ช่วงนั้นฝนตก ขับเร็วไม่ได้ เลยยิ่งพลอยง่วงไปใหญ่ เอาฟะ ขอนอนสักงีบแล้วกัน มองซ้ายมองขวา เห็นปั๊มแก๊สแห่งหนึ่ง ปิดไฟป้าย (แปลว่า ไม่ได้ขาย) แต่มีรถจอด เอาฟะ นอนในนั้นดีกว่า จอดรถได้ก็ดับเครื่อง หรี่กระจกด้านคนขับลงมาหน่อย (เห็นประโยนช์ของกันสาด ก็วันนี้แหละ ไม่งั้น ฝนตกๆแบบนี้ หรี่กระจกไม่ได้เลย แถมยุงจะเข้าอีก) จากนั้นปรับเบาะนอน สลบในทันทีครับ
-- ตื่นอีกทีก็ 6 โมงเช้าพอดีเป๊ะ … ลุยต่อครับ ฝนยังไม่หยุดตกเลย ก็ขับเรื่อยๆครับ 90 – 100 บนสายเอเซีย เข้านครสวรรค์ แยกออกเส้น 117 เข้าพิจิตร – พิษณุโลก ถนนสาย 117 สภาพปุๆปะๆด้วยยางมะตอย จากนครสวรรค์ จนถึง เขตพิจิตร ล่ะครับ แต่ไม่มีหลุมลึกครับ ถ้ารถไม่ได้ใส่ยางบางเฉียบก็รูดผ่านสบาย หรือ จะโยกหลบก็ยังไหว น่าวิ่งกว่าเส้นกำแพงเพชร – ตาก แยะล่ะครับ
-- เหลือบมองเกจ์หน่อย อุ้ยยย เหลืออยู่ 4 ขีดเอง เดี๋ยวต้องขึ้นเขาพลึงด้วย … ช่วงนั้นออกนอกเมืองอุตรดิสถ์มาหน่อย เหลือบเห็นปั๊มบางจาก ปั๊มแรกหลังลงจากเขาพลึงมา ก็จัดการยูเทิร์นไปเติมสักหน่อย ผมมันแฟนบางจากอยู่แล้ว
-- ขับเรื่อยๆครับ มากระตุ้นอะดีนาลีนหน่อย ก็ตรงช่วงเขาพลึง ถนนเสร็จเรียบร้อยแล้ว ขับสบาย รถน้อย สาดโค้งได้สบายๆครับ ขับได้สักพัก มี EX สีดำ มาเล่นด้วย มาจี้ท้าย รำคาญ เลยหลบให้ แล้วเปลี่ยนเป็นผมไล่มั่ง … ไล่ได้สักพักก็ปล่อยไป ยังไม่อยากเป็นสาเหตุให้ใครเกิดอุบัติเหตุ เพราะช่วงทางตรงเค้ากดหนีใหญ่ แต่พอเจอโค้งปุ๊บ กดเบรคแทบทุกโค้ง แถมไลน์การเข้าโค้งก็ผิด เข้าแรงกว่านี้มีหลุดล่ะครับ … ผมเล่นกับรถตัวเองดีกว่า หนุกกว่าเนอะ
-- แวะเติมพลังกันอีกนิด หลังผ่านเขาพลึงมาถึงสามแยกเด่นชัย ผมเลี้ยวขวาไปแพร่ จากนั้นยูเทิร์นแรกครับ ยูเลย มีร้านกาแฟบรรยากาศดีๆ วิวสวยๆ อยู่ร้านครับ … กาแฟรสชาติใช้ได้ด้วยนะครับ หอมอร่อย ราคาไม่แพงครับ
-- ที่แพร่ เราวิ่งบนถนนหลวงหมายเลข 101 แล้วเลี้ยวซ้ายเข้าถนนหมายเลข 103 เพื่อเข้าพะเยานะครับ ถนนเส้นนี้จะไปตัดที่ อ.งาว จ.พะเยา ครับ ถนน 2 เลน สภาพพอใช้ได้ ไม่มีหลุมลึก เส้นนี้ก็ได้สนุกกับรถอีก เห็นหลายคันกว่าจะแซงได้ เล็งแล้ว เล็งอีก อาจจะเพราะมือใหม่ หรือ ต้องการความมั่นใจ มั้ง … แต่สำหรับผม ผมมองว่า กำลังรถผมพ้น ผมก็กระทืบแล้วแซงเลย รถที่ใครหลายคนว่า อืดแสนอืด คันนี้แหละ … บนถนนเส้นนี้ไม่เห็นมีใครแซงมันได้สักคัน ขับแค่ 110 เองนะ
-- ตัดภาพมาราวบ่ายสองเศษ เข้าเขตเชียงรายแล้ววววว …. สำรวจตัวเอง ยังพอไหวอยู่ หิ้วท้องไว้ก่อน เพราะอยากไปกินข้าว + กินวิว ที่ไร่บุญรอด ที่เค้าว่า สวยนัก สวยหนา นี่แหละ … เส้นทางไปไม่ยากครับ มาจากพะเยา เจอแยกที่จะไปวัดร่องขุ่น เลี้ยวซ้ายเลยครับ ตรงผ่านวัดร่องขุ่น ไปจนสุดทางเป็นสามแยก ให้เลี้ยวขวา ไปอีกสักหน่อย ไร่บุญรอดอยู่ซ้ายมือครับ
-- วิวสวยสมคำร่ำลือ ครับ เสียดายฟ้ามามืด แสงไม่มี เลยได้แค่นี้แหละ แถมทานข้าวเสร็จ จะลงมาถ่ายต่อ ฝนดันไล่ซะนี่ … ไว้พรุ่งนี้ค่อยมาซ่อมละกัน
-- ว่าแล้วก็ ตั้ง GPS SYGIC ให้พาไป รร.บีทู เชียงราย สักหน่อย … เพราะแผนที่ใน web ของ รร.เอง ไม่ละเอียดเอาซะเลย … เจ้า GPS พาไปถูกนะ แต่พวกพาผมวิ่งทะลุถนนคนเดินซะงั้น พ่อค้าแม่ค้า กำลังตั้งร้านเลย มองหน้ากันเป็นแถว แหะแหะ
เลี้ยวเข้า รร. อึ้งเล็กน้อย โห ทำไมที่จอดรถมันแคบแบบนี้หว่า …
-- ราคาคืนละ 690 บาท ข้อดีคือ ทำเลใกล้ถนนคนเดินมากๆ (แต่ก็ไม่ได้เดิน เพราะฟ้ามามืด พ่อค้า แม่ค้า เก็บของหมดแล้ว ได้ขนมมากินแทนมื้อค่ำหน่อยเดียว) ส่วนข้อเสีย เยอะนะ … ตั้งแต่พนักงานไม่สนใจเลย เดินลงจากรถมา อ้าว ตรูต้องเดินไปติดต่อไหนหว่า เดินผิดเข้าไปห้องหนึ่ง ก็โดนชี้มือไปอีกตึก … ลงทะเบียนเรียบร้อย มีย้ำว่า ให้ใส่ทะเบียนรถ กับ เบอร์โทร.ด้วย เผื่อรถมีปัญหาจะได้โทร.แจ้ง ??? … หุหุ เห็นที่จอดรถก็สยองละ มาพูดแบบนี้อีก อยากย้าย รร.จริงๆ (คนทั่วไปอาจไม่คิดอะไร แต่คนรักรถอย่างผมคิดนะ) จากนั้น พนง.ส่งกุญแจให้ แล้วก็บอกว่า “อยู่อีกตึกนะคะ” แล้วก็ก้มหน้าทำงานต่อ เออ แล้วไปทางไหนหว่า ?
-- สภาพห้องตกแต่งแปลกสวยดีครับ เค้าเรียกสไตล์อะไรหว่า เป็นปูนเปลือยซะเยอะ … ติอีกที ก็คือ ห้องน้ำ อาบน้ำนานหน่อย กลายเป็นทะเลสาปย่อมๆเลย คือ ก่อนจองก็เคยเห็น comment นี้นะ จำไม่ได้ว่า ใน pantip หรือ booking แหละ แต่คิดว่า เราคงไม่ซวยเจอแบบนั้นหรอก … อืมมม ปรากฎว่า เราซวย (หรือเป็นทุกห้อง?) จริงๆ แค่เปิดฝาตะแกรงออกมาล้างขี้ดินก็จบละ … แต่เอ มันไม่ใช่หน้าที่แขกอย่างเรานี่หว่าเนอะ
-- สรุปกันนิด วันนี้อยู่ในรถทั้งหมด 14 ชั่วโมงครึ่ง (แวะกินข้าวเที่ยงไม่เกิน 15 นาที เข้าห้องน้ำนี่ 2 นาที) ถ้าหักเวลาที่ขับ โดยลบเวลานอนชั่วโมงครึ่งออก ก็เหลือ 13 ชั่วโมงล่ะครับ … ขับเปิดแอร์ตลอด ทุกครั้งที่จอดแวะพักไม่มีเปิดฝากระโปรงหน้าแบบคันอื่นนะ กับระยะทาง 929.9 กม. ครับ … หมดคำถามนะ “คนไหว รถก็ไหวครับ”
ที่สำคัญ ลงจากรถแล้ว ยังมีปัญญาเที่ยวต่อได้อีกแน่ะ