สักวา เรื่องบางอย่าง แค่น้อยนิด ลองสะกิด ความคิดใหม่ ใช้สมอง
แก้นิดเดียว ได้เกินคาด อาจสมปอง อยากให้เปลี่ยน มุมมอง ลองคิดกัน
“Tipping point” ต้องคอยหา อย่าอยู่เฉย ทำไปเลย อาจเจอ trick จุดพลิกผัน
ถ้านิสัย ชอบทำไร ไปวันวัน แค่วาดฝัน ฉันอยากได้ ไม่มีทาง
จุดพลิกผัน นั้นน่ะหรือ คือกระแส ที่มันแพร่ แผ่กระจาย อย่างกว้างขวาง
พอผ่านจุด ประดุจไฟ ที่ไหม้ฟาง แล้วแผ่กว้าง อย่างรวดเร็ว เหมือนเปลวไฟ
ยกตัวอย่าง facebook ที่ฟลุ๊คฮิต คนดูติด ส่งต่อ รอไม่ไหว
เห็นของดี มีของมันส์ มันโดนใจ ไม่ต้องรอ ส่งต่อไป ในทันที
คล้ายกับหุ้น บางตัว อยู่เหมือนกัน พอถึงจุด พลิกผัน มันวิ่งจี๋
พุ่งขึ้นไป หลายเด้ง มันเจ๋งดี ถ้าเรามี เศรษฐีแน่ แค่หาเจอ
แต่ว่าเรา แค่เม่า เฝ้ารอหุ้น ต้องคอยลุ้น หาหุ้นเด่น เล่นจนเหวอ
มีวิธี หาให้ได้ ง่ายจริงเออ ขอให้เธอ หาหุ้นดี ที่โดนใจ
เมื่อโดนใจ คนส่วนใหญ่ ให้ถือคอย Tipping point ลอยมาแน่ แค่รอไหว
อาจปรับฐาน คลานลงหน่อย คอยต่อไป จุดพลิกผัน ถึงเมื่อไหร่ ได้แน่นา
ธุรกิจ ถ้าคิดเป็น เห็นทางรวย ถ้ามันสวย ด้วยโดนใจ ไปแน่หนา
Tipping point จุดพลิกผัน มันจะมา ขอแค่ว่า เปลี่ยนความคิด สักนิดเอย
เผอิญผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง The Tipping Point ของ Malcolm Gladwell ครับ
มันเหมือนกับของบางอย่าง มันมีจุดอะไรนิดเดียว ที่เรียกว่า "Tipping point"
เป็นจุดที่จะทำให้เกิดการพลิกผัน แพร่กระจาย และฮิตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วครับ
ถ้าเรามีวิสัยทัศน์ ทราบได้ว่าธุรกิจ หรือหุ้นตัวไหน ที่กำลังจะถึงจุดนั้น
ให้เข้าไปซื้อได้เลยครับ ทนถือไว้จนถึง tipping point ก็รวยเอง
ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร ทำธุรกิจ ก็ต้องพยายามหาจุดขายให้ได้
ถ้าจุดขายนั้น "โดนใจ" ก็จะถึงจุด tipping point ได้โดยง่ายครับ
ของบางอย่าง แค่เราเปลี่ยนอะไรมันนิดเดียว ก็อาจได้ tipping point ครับ
ในหนังสือมีหลักการและตัวอย่างต่างๆมากมาย ถ้าสนใจลองไปหาอ่านกันดูนะครับ
วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ ขอให้ท่านโชคดี หา tipping point ให้เจอนะครับ
สักวา เรื่องบางอย่าง แค่น้อยนิด.....ลองสะกิด ความคิดใหม่ ใช้สมอง
แก้นิดเดียว ได้เกินคาด อาจสมปอง อยากให้เปลี่ยน มุมมอง ลองคิดกัน
“Tipping point” ต้องคอยหา อย่าอยู่เฉย ทำไปเลย อาจเจอ trick จุดพลิกผัน
ถ้านิสัย ชอบทำไร ไปวันวัน แค่วาดฝัน ฉันอยากได้ ไม่มีทาง
จุดพลิกผัน นั้นน่ะหรือ คือกระแส ที่มันแพร่ แผ่กระจาย อย่างกว้างขวาง
พอผ่านจุด ประดุจไฟ ที่ไหม้ฟาง แล้วแผ่กว้าง อย่างรวดเร็ว เหมือนเปลวไฟ
ยกตัวอย่าง facebook ที่ฟลุ๊คฮิต คนดูติด ส่งต่อ รอไม่ไหว
เห็นของดี มีของมันส์ มันโดนใจ ไม่ต้องรอ ส่งต่อไป ในทันที
คล้ายกับหุ้น บางตัว อยู่เหมือนกัน พอถึงจุด พลิกผัน มันวิ่งจี๋
พุ่งขึ้นไป หลายเด้ง มันเจ๋งดี ถ้าเรามี เศรษฐีแน่ แค่หาเจอ
แต่ว่าเรา แค่เม่า เฝ้ารอหุ้น ต้องคอยลุ้น หาหุ้นเด่น เล่นจนเหวอ
มีวิธี หาให้ได้ ง่ายจริงเออ ขอให้เธอ หาหุ้นดี ที่โดนใจ
เมื่อโดนใจ คนส่วนใหญ่ ให้ถือคอย Tipping point ลอยมาแน่ แค่รอไหว
อาจปรับฐาน คลานลงหน่อย คอยต่อไป จุดพลิกผัน ถึงเมื่อไหร่ ได้แน่นา
ธุรกิจ ถ้าคิดเป็น เห็นทางรวย ถ้ามันสวย ด้วยโดนใจ ไปแน่หนา
Tipping point จุดพลิกผัน มันจะมา ขอแค่ว่า เปลี่ยนความคิด สักนิดเอย
เผอิญผมเคยอ่านหนังสือเรื่อง The Tipping Point ของ Malcolm Gladwell ครับ
มันเหมือนกับของบางอย่าง มันมีจุดอะไรนิดเดียว ที่เรียกว่า "Tipping point"
เป็นจุดที่จะทำให้เกิดการพลิกผัน แพร่กระจาย และฮิตขึ้นมาได้อย่างรวดเร็วครับ
ถ้าเรามีวิสัยทัศน์ ทราบได้ว่าธุรกิจ หรือหุ้นตัวไหน ที่กำลังจะถึงจุดนั้น
ให้เข้าไปซื้อได้เลยครับ ทนถือไว้จนถึง tipping point ก็รวยเอง
ถ้าคุณเป็นผู้บริหาร ทำธุรกิจ ก็ต้องพยายามหาจุดขายให้ได้
ถ้าจุดขายนั้น "โดนใจ" ก็จะถึงจุด tipping point ได้โดยง่ายครับ
ของบางอย่าง แค่เราเปลี่ยนอะไรมันนิดเดียว ก็อาจได้ tipping point ครับ
ในหนังสือมีหลักการและตัวอย่างต่างๆมากมาย ถ้าสนใจลองไปหาอ่านกันดูนะครับ
วันนี้แค่นี้ก่อนนะครับ ขอให้ท่านโชคดี หา tipping point ให้เจอนะครับ