รีวิว Galaxy ​Note 3 แชร์ประสบการณ์ใช้จริงร่วมเดือน

ไปอ่านจาก http://droidsans.com/review-samsung-galaxy-note-3-overall-usage ครับ เห็นให้ข้อมูลหลายๆด้าน เลยนำมาแชร์เพื่อนๆครับ
แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากอ่านเยอะ ขอให้อ่านข้อ 6 และภาพรวมพร้อมบทสรุปครับ
เรื่องราวที่เอามาแชร์นี้จะขอเน้นไปที่การใช้งานจริงเป็นหลัก ไม่ขอเน้นไปที่สเปคอะไรมากมาย โดยจะเจาะเป็นหัวข้อๆตามนี้นะครับ

    ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป
    ขนาด หน้าจอ สีสัน และความคมชัด
    การใช้งานโทรศัพท์
    กล้อง และการถ่ายภาพ
    การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท ฯลฯ
    ทดสอบเล่น Features ต่างๆ
    ความยาวนานในการใช้งาน Battery
    การพัฒนา UI/UX จาก Note 2
    ภาพรวม

แนะนำสำหรับคนที่ไม่อยากอ่านเยอะ ขอให้อ่านข้อ 6 และภาพรวมพร้อมบทสรุปครับ
1. ประสิทธิภาพการใช้งานทั่วไป
CPU/GPU/RAM/Android:
Samsung Exynos 5420 Octa-Core (Qual-core 1.9GHz Cortex-A15 & Quad-core 1.3GHz Cortex-A7) / Mali T628 MP6 / 3GB LPDDR3 / Android 4.3

รุ่นที่ได้มาทดสอบเป็น Galaxy Note 3 เวอร์ชั่น Exynos ตัวเดียวกับที่วางขาย ในที่นี้ไม่ขอยุ่งเรื่องปัญหาชิพเซทที่เป็นที่ถกเถียงกันระหว่าง Exynos และ Snapdragon ว่าอะไรดีกว่ากัน เพราะคิดว่าตัวแปรสำคัญที่ทำให้เครื่องไหนๆดีไม่ดี อยู่ที่ซอฟท์แวร์มากกว่าฮาร์ดแวร์

ข้อดี
- เสปคจัดเต็ม ให้แรมมาสูงถึง 3GB และเป็น Android 4.3 ตัวแรกๆของตลาด
- การใช้งานทั่วไปเร็วดีสมกับเป็นรุ่นท็อป แต่ก็ไม่ได้รู้สึกแตกต่างอะไรกันมากในระดับการใช้งานทั่วไปเมื่อเทียบกับแบรนด์อื่นๆ

ข้อสังเกต
- ใช้งานหนักๆมาเป็นระยะเวลาหนึ่งก็พบปัญหาค้าง หน่วง จนบ้างครั้งต้องรีสตาร์ทหรือถอดแบตเลยทีเดียว ซึ่งเพื่อนๆในบอร์ดก็เจอเหมือนกัน (http://droidsans.com/node/142801)
- แรม 3GB ที่มีใน Note 3 อาจจะไม่ได้เยอะอย่างที่คิด เมื่อตัวระบบเองก็กินแรมไปมากกว่า 1.8GB แล้ว ทำให้เหลือพื้นที่จริงไม่มากเท่าไหร่

2. ตัวเครื่อง ขนาดหน้าจอ สีสัน และความคมชัด
Size/Type/Resolution/material
5.7” / SuperAMOLED / FHD (1080x1920) ~386ppi / วัสดุเครื่องพลาสติกและหนังสังเคราะห์

ตัวเครื่องนี้ต้องเรียกว่าเป็น Hilight นึงของ Galaxy Note 3 เลยทีเดียวเพราะมีความเปลี่ยนแปลงที่ค่อนข้างชัด ด้วยขนาดหน้าจอที่เพิ่มขึ้นจาก Galaxy Note 2 (5.5” → 5.7”) แต่ว่าเครื่องแทบจะเท่าเดิม รวมถึงฝาหลังที่เป็นวัสดุ Faux Leather ซึ่งหลายๆคนชอบสัมผัสที่ได้มาก เพราะเหมือนหนังจริงๆพอสมควร แต่เครื่องที่ผมได้มันเป็นสีดำ เลยไม่รู้ว่าสีขาวมันจะดำง่ายขนาดไหน

ข้อดี
- ชอบวัสดุเคสด้านหลังที่ดูให้สัมผัสเหมือนหนัง หนืดมือดี ไม่ร่วงหล่นง่าย
- หน้าจอใหญ่ ขอบบาง ดูหนัง ถ่ายถาพอะไรเห็นรายละเอียดเยอะดี
- ขอบโครเมียมสามารถเปลี่ยนแยกชิ้นได้ ไม่ลำบากกระเป๋าตังค์ ถ้าทำเครื่องตกแล้วอยากเปลี่ยนอะไหล่ โดยแบ่งเป็นส่วนบนล่าง ซึ่งมีการซ่อนรอยต่อระหว่างชิ้นได้เนียนมากจนดูไม่ออกเลย (ไปดูราคาอะไหล่ Galaxy Note 3)

ข้อสังเกต
- ความความที่เครื่องใหญ่ขอบบาง ทำให้มือไปโดนหน้าจอโดยไม่ตั้งใจ
- หน้าจอ AMOLED จะให้สีสันที่สดใสมากจนทำให้หลายๆครั้งที่เราแชร์ภาพออกไปหรือว่าส่งให้คนอื่นจะรู้สึกว่าคุณภาพลดลงไปเยอะมาก
3. การใช้งานโทรศัพท์ และการรับสัญญาน
SIM/Support Network/Bluetooth/WiFi
microSIM / 3G: 850/900/1900/2100MHz / 4G ไม่รองรับ / Bluetooth v4.0 / 802.11 a/b/g/n/ac

ด้วยความที่ชิพเซท Exynos ที่วางขายในไทยนี้เป็นรุ่นที่ไม่รองรับ 4G จึงทำให้เป็นที่ถกเถียงกันไม่น้อย แต่ยังดีว่า 3G รองรับเป็น Quadband ไม่แยกค่ายเหมือนแต่ก่อน ไม่งั้นคงได้เห็นมหาดราม่าแน่นอน

เรื่องการคุยโทรศัพท์ทั่วไปไม่มีปัญหาอะไร มีไมค์ตัดเสียงรบกวนช่วยให้คุยรู้เรื่องในสภาพเสียงเอะอะได้ซึ่งก็มีในรุ่นท็อปของทุกยี่ห้ออยู่แล้ว สัญญานโทรศัพท์รับได้ดี ไม่มีปัญหาหลุดจาก network ให้เห็น

Bluetooth v4.0 ประหยัดพลังงานดี ตามคำโฆษณา เปิดเอาไว้ทั้งวันก็ไม่ได้รู้สึกว่ากินแบตแต่อย่างไร

WiFi ของ Note 3 ก็เป็นเรื่องที่โดนบ่นเยอะที่สุดเรื่องนึง ซึ่งก็เจอปัญหานี้เองกับตัวเช่นกัน โดยแบ่งเป็นสองส่วนคือ 1. สัญญานอ่อนกว่าชาวบ้าน เมื่อวางเทียบกัน ของแบรนด์อื่นจับได้ดีกว่าเล็กน้อย 2. สัญญานอ่อนแล้วหลุด ทำให้ประสบปัญหาใช้งานไม่สะดวก ซึ่งปัญหาที่สองนี้เมื่ออัพเดทเป็นเวอร์ชั่นล่าสุดแล้ว และไปปิด Auto Network Switch ก็จะอาการดีขึ้นเยอะครับ (ลองเข้าไปอ่านเพิ่มเติมในบอร์ดได้ มีเพื่อนๆมาถามกันเยอะเหมือนกันครับ http://droidsans.com/node/142389)

4. กล้องและการถ่ายภาพ
หลัง13MP + Autofocus + Flash, หน้า 2MP

ภาพของกล้องจาก Galaxy Note 3 หลังจากที่ได้ลองยึดเป็นกล้องเดียวที่ใช้ทั้งทริป ก็จัดว่าพอใจอยู่ ทำได้ดี-ไม่ดีในสภาพแสงต่างๆ โดยผมขอสรุปเป็นสองกรุ๊ปใหญ่ๆตามนี้ละกัน

ถ่ายสวย - สภาพแสงกลางวันเจอแดด ภาพมาโคร พานอราม่า ภาพกลางคืน
ถ่ายได้ไม่ประทับใจ แสงสลัวๆ ท้องฟ้ามีเมฆมาก แสงธรรมชาติในร่ม

การถ่ายวิดีโอ

ชิพเซท Exynos สามารถถ่ายวิดีโอที่ความละเอียด 1080p ที่ 30fps และ 60fps และถ่ายภาพ Slow motion ที่ 720p@120fps แต่ไม่สามารถถ่ายที่ความละเอียด 4K ได้ตามที่หลายๆคนน่าจะทราบดีอยู่แล้ว ซึ่งบอกตรงๆว่าผมเฉยๆวิดีโอ 4K มากๆเพราะว่าแค่ 1080p มันก็สูบพื้นที่หน่วยความจำได้โคตรน่ากลัวแล้ว และวิดีโอ 4K ก็มีอุปกรณ์รองรับไม่ได้เยอะนักในตอนนี้ รวมถึงราคาก็แพงมโหฬารด้วย

สำหรับการถ่ายวิดีโอด้วย Galaxy Note 3 จัดอยู่ในระดับน่าพอใจ มีระบบกันสั่นที่ทำให้ภาพไม่ส่ายไปมาจนน่าปวดหัวเกินไป แต่ว่ามีข้อสังเกตที่เมื่อไหร่ที่เรากดบันทึกภาพเมื่อไหร่ มันจะทำการซูมภาพเข้าไปอัตโนมัติ ต้องกะเกณฑ์ระยะดีๆก่อนถ่ายด้วย ไม่งั้นจะต้องมาเดินเข้าๆออกๆเพื่อให้ได้ภาพที่พอดีครับ

5. การเล่นเกม อ่านเว็บ โซเชียล แชท นำทาง ฯลฯ
Internal Memory/GPS
32GB + microSD up to 64GB / A-GPS + GLONASS

การเล่นเกมบน Galaxy Note 3 ยังไม่เจอปัญหาอะไร พอดีไม่ค่อยได้เล่นเกมแนวฮาร์ดคอร์ต้องการกราฟฟิคแรงๆอะไรขนาดนั้น แต่สังเกตว่ายังไม่มีใครบ่นโวยวายอะไรนะ ส่วนตัวจะชอบที่จอใหญ่ เล่นเกมสนุกและสบายตาดี ไม่ต้องเพ่งมากครับ

อ่านเว็บบน Galaxy Note 3 ด้วย Chrome ก็แสดงผลได้ถูกต้องและอ่านง่ายดี ส่วนที่ชอบก็คือมันแก้ไขปัญหาสระลอยและตัดคำไทยสมบูรณ์แล้วใน Chrome รวมถึงทั้งหน้าจอใหญ่ ทำให้อ่านสบายตาขึ้นเยอะเลย

ส่วนเรื่องการเล่น Facebook Twitter Line อะไรพวกนี้ก็เล่นได้ปกติดี ถ่ายรูปแชร์ออกไปก็สะดวก และที่ประทับใจที่สุดคือตัวคีย์บอร์ดที่มากับ Galaxy Note 3 ซึ่งพัฒนาขึ้นกว่าเดิมมาก ไว้จะอธิบายความเจ๋งให้อีกทีครับ

ส่วนเรื่อง GPS ต้องบอกว่าประทับใจกับ Galaxy Note 3 มากๆ จับได้แม่นยำดี และได้ตำแหน่งที่ค่อนข้างละเอียดด้วย ที่ตกใจสุดคือสามารถจับสัญญานได้แม้กระทั่งตอนอยู่บนเครื่องบิน รู้หมดเลยว่ากำลังบินอยู่ตรงไหน ความเร็วเท่าไหร่ ระดับความสูงกี่เมตร ชอบๆๆ

6. ทดลองเล่นฟีเจอร์ต่างๆ
จุดเด่นของซีรีย์ส Galaxy Note ไม่ใช่แค่เรื่องของสเปคที่ยัดใส่ให้มาเต็มที่ในทุกๆครั้งที่มันเปิดตัว แต่เป็นปากกา S Pen และฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาให้ใช้งานได้สะดวกขึ้น เพราะปัจจุบันการใช้งานทั่วไป รุ่นท็อปแต่ละแบรนด์ก็ทำออกมาได้ดีพอๆกันหมดแล้ว ส่วนที่สร้างความแตกต่างและต้องพิจารณาในแต่ละแบรนด์จริงๆคือฟีเจอร์เสริมเหล่านี้นั่นเอง และสำหรับคนที่ไม่เคยใช้ หรือไม่คุ้นชิน การใช้งานปากกากับ SmartPhone อาจจะต้องพยายามปรับตัว ใช้ความสามารถปากกาให้เต็มที่ ถึงจะดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของ Galaxy Note 3 ออกมาได้อย่างเต็มที่ครับ

Galaxy Note 3 ทำฟีเจอร์ต่างๆที่เกี่ยวกับปากกา S Pen ให้ออกมาใช้งานได้ง่ายขึ้น กระตุ้นให้อยากใช้งานกว่า Note I และ Note 2 พอสมควร รวมถึง S Note และ Multi Windows ที่พัฒนาเพิ่มเติมจนน่าใช้กว่าเดิมเยอะ แต่ว่าจะขอแชร์ประสบการณ์ใช้งานฟีเจอร์ต่างๆนี้ในอีก Blog นึงแทน เพราะมันจะค่อนข้างยาว และน่าจะต้องอัดวิดีโอประกอบให้เห็นภาพด้วย

ขอสรุปสั้นๆเกี่ยวกับฟีเจอร์ของ Galaxy Note 3 ว่าถ้าใช้งานเป็น ดึงปากกามาใช้บ่อย จดโน็ตประจำ ชอบทำงานหลายหน้าต่างแล้วล่ะก็ Galaxy Note 3 จะทำให้คุณฟินมากกว่าการใช้งานโทรศัพท์รุ่นอื่นๆเลยล่ะ

7. ความยาวนานของการใช้งาน
แบตเตอรี่ 3,200mAh

ซีรีย์ส Galaxy Note เป็นซีรีย์สที่สร้างชื่อมาตั้งแต่แรกเริ่มว่าเป็นรุ่นที่ทำแบตออกมาได้ทนทาน ใช้งานได้ในหนึ่งวันครบสบายๆ (ในกรณีที่เครื่องไม่มีปัญหาอะไรนะ) ซึ่ง Galaxy Note 3 ก็ยังคงทำออกมาได้ดีเกินมาตรฐาน Android ทั่วไปอยู่ ทดลองใช้งานแบบไม่ได้บีบมันมากก็หนึ่งวัน 14-15 ชม. ผ่านไปได้แบบไม่ต้องห่วง

แต่เคยอัดแบบเต็มๆในทริปญี่ปุ่น ทั้งเปิดจอค้างไว้เกือบตลอด เปิดGPS นำทาง และเล่นเน็ต 3G ไปด้วย เพื่อหาข้อมูลและกันหลงทาง แบตทั้งก้อน 3200mAh หมดใน 5 ชม. และเล่นแบบนี้ตั้งแต่เช้ายันราวๆ 4 ทุ่ม Battery Pack 9000mAh ทั้งก้อนก็หมดตามไปด้วย โดยตัวที่กินแบตมากที่สุดก็หน้าจอ SuperAMOLED ตามเดิม

เท่าที่มีข้อมูลเปรียบเทียบออกมา Galaxy Note 3 ก็ยังทำได้ไม่ดีกว่า Galaxy Note 2 หรือว่า iPhone อยู่ดี เพราะด้วยหน้าจอและชิ้นส่วนบางตัวที่ก็กินไฟเยอะนั่นเอง

กล่าวคือผมไม่ได้ประทับใจอะไรกับแบตของ Galaxy Note 3 เท่าไหร่ ถือว่าดีตามมาตรฐานครับ

8. การพัฒนา UI/UX จาก Galaxy Note 2
สำหรับคนที่ไม่ได้ใช้งานฟีเจอร์ตามข้อ 6 และปากกา S Pen น่าจะไม่รู้สึกถึงการเปลี่ยนแปลงที่เด่นชัดมากนัก UI/UX แทบจะไม่ต่างจากเดิมเลย จะมีก็คือเรื่องฟีเจอร์การถ่ายภาพที่ Galaxy Note 3 ได้รับจาก Galaxy S4 มาแล้ว และถ้า Samsung ไม่กั๊ก Galaxy Note 2 ก็น่าจะได้อัพเดทตามออกมาด้วย

9. ภาพรวม
Galaxy Note 3 เป็นโทรศัพท์ที่มาพร้อมกับ Spec จัดเต็มสมกับเป็นรุ่นท็อปจากทาง Samsung แต่ปัญหาเรื่องการใช้ชิพเซท Exynos ก็ยังเป็นเรื่องที่ค้างคาใจหลายๆคนอยู่ แต่เท่าที่ใช้งานมา Exynos ก็ไม่ได้แย่อะไร 4G ที่หลายๆคนร้องหา ความครอบคลุมของสัญญานและความเสถียรก็จัดอยู่ในระดับไม่น่าสนใจ และปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นกับ Galaxy Note 3 คิดว่า Exynos ไม่ได้เป็นต้นเหตุเพียงอย่างเดียว คุณภาพซอฟท์แวร์ที่เหมือนจะยังไม่สมบูรณ์ 100% มากกว่าที่เป็นต้นเหตุ เพราะเครื่องทดสอบที่ได้มาผมก็เจออาการค้างและรีสตาร์ทอยู่เรื่อยๆ และปัญหาหยุบหยิบหลายๆอย่าง ซึ่งตรงนี้ทางเราได้รวบรวมปัญหาแจ้งในฟอรั่มแล้ว ลองเข้าไปดูกันได้ (http://droidsans.com/galaxy-note-3-problems) แต่เชื่อว่าปัญหาเหล่านี้จะเป็นแค่ระดับ Software ซึ่ง Samsung ก็มักจะมีตัวแก้ปล่อยตามออกมาให้เสมอ ฉะนั้นก็น่าจะเบาใจได้ในระดับนึงครับ

สรุป
จุดเด่น
    จอใหญ่ 5.7” แต่ขนาดไม่เทอะทะจนจับถือลำบากเกินไปนัก
    วัสดุ Faux Leather ที่ทำมาคล้ายหนัง ได้สัมผัสดี
    S Pen และ S Note ที่ทำงานได้ดี เหมาะกับคนชอบใช้ปากกา
    ซอฟท์แวร์เฉพาะทางที่มีแถมมาให้ในเครื่อง
ข้อควรพิจารณา

    Software ณ วันนี้ (22 ตุลาคม 56) ยังคงพบปัญหายิบย่อยอยู่มาก
Galaxy Note 3 อาจจะไม่ใช่มือถือที่เพอร์เฟค แต่ก็จัดว่าเป็นมือถือที่น่าซื้อไปใช้อยู่ โดยเฉพาะคนที่ชอบหน้าจอใหญ่ๆ และใช้ปากกาขีดเขียน ซึ่งถ้าดึงความสามารถมันออกมาได้ครบ มันก็คุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป แต่ถ้าคิดว่าซื้อไปแล้วกะว่าจะไม่ใช่งานปากกาเลย ราคา 23,500 บาทก็อาจจะดูไม่คุ้มค่าเท่าใดนักครับ

ยังไงรออ่านตอน 2 ที่จะมาพูดถึงฟีเจอร์ต่างๆของ Galaxy Note 3 นะครับ ผมว่าน่าจะเห็นประโยชน์และความน่าสนใจของ Galaxy Note 3 มากขึ้นเยอะเลย

คำถามที่ได้ยินบ่อย และเห็นคนพยายามเชียร์เครื่องนอกกันเยอะ ผมยังคิดว่า Exynos ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ แต่ผมกลับมองว่าการประกันที่ได้รับเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า เพราะเห็นเพื่อนๆในบอร์ดเจอปัญหาซื้อมาแล้วเครื่องเน่าและต้องรอส่งไปซ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่