Candlestick มีประโยชน์ในการใช้บอกโมเมนตัมระยะสั้น ว่ามีการเพิ่มขึ้นหรือลดลงอย่างไร เทียบกับวันก่อนหน้าที่ผ่านมา เปรียบเสมือนการบอกอารมณ์ของนักลงทุนว่าอยู่ในอารมณ์ดี หรือแย่แค่ไหน และเมื่ออารมณ์ทางใดมีมากจนไปสุดด้านใดด้านหนึ่งก็มักจะเกิดการเปลี่ยนแปลง หรือกลับตัวไปยังฝั่งตรงข้าม ซึ่งเราจะเห็นการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากโมเมนตัมหรือรูปแบบของแท่งเทียนราคาที่จะบอกความเชื่อมั่นหรือความกลัวของนักลงทุนต่อหุ้นตัวนั้นๆผ่านทางลักษณะของแท่งเทียนได้เช่นกัน
เราลองเอาภาพเหตุการณ์ SET เมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา มาดูจะเห็นแท่งเทียนขนาดเล็กเกิดหลังจากแท่งเทียนขนาดใหญ่ที่ค่า CCI เริ่มลดลงมาจากบริเวณ Overbought ( +100 ) ซึ่งภาวะตลาดขณะนั้นยังอยู่ในภาวะ sideway ( ลองดู ADX ประกอบไปด้วยนะครับ ) ซึ่งลักษณะราคาช่วง sideway มันก็จะแกว่งไปมาระหว่าง OB/OS ของ Momentum Oscillators และสามารถใช้ Momentum Oscillators เป็นตัวบอกโอกาสของการกลับตัวของราคาได้ในกรอบ sideway นี้
เราใช้ความรู้เรื่องแท่งเทียนในการบอกความมีนัยยะสำคัญของลักษณะแท่งเทียนที่เกิดขึ้นได้ว่ามีนัยยะสำคัญมากน้อยแค่ไหน โดยดูเปรียบเทียบระหว่างแท่งเทียน 2-3 แท่งที่เกิดต่อเนื่องกันว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมอย่างไร จะช่วยให้เราเข้าใจต่ออารมณ์ตลาดว่ากำลังรู้สึกอย่างไรในขณะนั้น
การศึกษาเรื่องแท่งเทียนจะมีประโยชน์ในการบอกการเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น แต่หากการเปลี่ยนแปลงนั้นไปเกิดบริเวณที่เป็น Overbought หรือ Oversold มากๆ เช่นปลายขาขึ้น หรือปลายขาลงมากๆ รูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียนก็จะมีความแม่นยำและให้ผลตอบแทนได้สูงมากทีเดียว เพราะจะเข้าลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันที ก่อนการเตือนของ Indicators ต่างๆจะแสดงเสียอีก แต่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีการฝึกฝนมาอย่างดี และมีวินัยสูง พร้อมรับความเสี่ยงสูงด้วย ( High risk high return ) แต่ที่ผมนำมาให้ความรู้ก็เพื่อให้เห็นว่า ความรู้ทางเทคนิคมันมีมากมายไม่มีที่สิ้นสุด แต่จุดประสงค์หลักๆก็เพื่อใช้บอกแนวโน้มหรือให้เรารู้ว่าราคากำลังอยู่ในแนวโน้มอะไร และราคาเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง เร็วแค่ไหน และสุดท้ายคือราคามันมีโอกาสกลับตัวมากน้อยแค่ไหนแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคามันใกล้ หรือกำลังจะกลับตัว และการใช้หลายๆเทคนิคผสมผสาน เพื่อให้เราเห็นรายละเอียดปลีกย่อยในหลายๆมิติ และนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนในการลงทุนต่อไป ............สวัสดีครับ...
รูปแบบ Candlesticks กับการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมระยะสั้น
เราลองเอาภาพเหตุการณ์ SET เมื่อวันอังคาร ที่ผ่านมา มาดูจะเห็นแท่งเทียนขนาดเล็กเกิดหลังจากแท่งเทียนขนาดใหญ่ที่ค่า CCI เริ่มลดลงมาจากบริเวณ Overbought ( +100 ) ซึ่งภาวะตลาดขณะนั้นยังอยู่ในภาวะ sideway ( ลองดู ADX ประกอบไปด้วยนะครับ ) ซึ่งลักษณะราคาช่วง sideway มันก็จะแกว่งไปมาระหว่าง OB/OS ของ Momentum Oscillators และสามารถใช้ Momentum Oscillators เป็นตัวบอกโอกาสของการกลับตัวของราคาได้ในกรอบ sideway นี้
เราใช้ความรู้เรื่องแท่งเทียนในการบอกความมีนัยยะสำคัญของลักษณะแท่งเทียนที่เกิดขึ้นได้ว่ามีนัยยะสำคัญมากน้อยแค่ไหน โดยดูเปรียบเทียบระหว่างแท่งเทียน 2-3 แท่งที่เกิดต่อเนื่องกันว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงโมเมนตัมอย่างไร จะช่วยให้เราเข้าใจต่ออารมณ์ตลาดว่ากำลังรู้สึกอย่างไรในขณะนั้น
การศึกษาเรื่องแท่งเทียนจะมีประโยชน์ในการบอกการเปลี่ยนแนวโน้มระยะสั้น แต่หากการเปลี่ยนแปลงนั้นไปเกิดบริเวณที่เป็น Overbought หรือ Oversold มากๆ เช่นปลายขาขึ้น หรือปลายขาลงมากๆ รูปแบบการกลับตัวของแท่งเทียนก็จะมีความแม่นยำและให้ผลตอบแทนได้สูงมากทีเดียว เพราะจะเข้าลงทุนได้อย่างรวดเร็วทันที ก่อนการเตือนของ Indicators ต่างๆจะแสดงเสียอีก แต่วิธีนี้จะเหมาะกับคนที่มีการฝึกฝนมาอย่างดี และมีวินัยสูง พร้อมรับความเสี่ยงสูงด้วย ( High risk high return ) แต่ที่ผมนำมาให้ความรู้ก็เพื่อให้เห็นว่า ความรู้ทางเทคนิคมันมีมากมายไม่มีที่สิ้นสุด แต่จุดประสงค์หลักๆก็เพื่อใช้บอกแนวโน้มหรือให้เรารู้ว่าราคากำลังอยู่ในแนวโน้มอะไร และราคาเปลี่ยนแปลงขึ้น-ลง เร็วแค่ไหน และสุดท้ายคือราคามันมีโอกาสกลับตัวมากน้อยแค่ไหนแล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าราคามันใกล้ หรือกำลังจะกลับตัว และการใช้หลายๆเทคนิคผสมผสาน เพื่อให้เราเห็นรายละเอียดปลีกย่อยในหลายๆมิติ และนำข้อมูลมาใช้ในการวิเคราะห์และวางแผนในการลงทุนต่อไป ............สวัสดีครับ...