ขอเท้าความก่อนนะค่ะ อาจจะยาวหน่อย
หนูกับพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องเรียนต่อมาเกือบสองปีแล้วค่ะ ในใจของหนูมีที่ที่หนูอยากเข้าและสาขาที่อยากเรียนตั้งแต่ม.4 แล้วค่ะ เพราะว่าหนูรู้ว่าตัวเองชอบเรียนอะไร ถนัดด้านไหน ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยมีเวลาเตรียมตัวได้นาน ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยากเรียนจนกระทั่งเจอที่ที่อยากเข้า ลองไปเข้าค่ายของทางมหาวิทยาลัย ก็รู้สึกชอบมาก เลยไม่ลังเลที่เลือกที่นี่ แต่พ่อแม่ของหนู ท่านอยากจะให้เข้าเรียนในอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง ยังไงๆก็อยากจะให้เข้าที่นี้ให้ได้ หลายๆครั้งเวลาหนูไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อ แล้วเจอที่ที่หนูสนใจ หนูจะมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง พวกท่านก็มักจะบอกว่า "เข้าม.นี้ให้ได้ก็พอ" จนบ่อยๆเข้าหนูก็เริ่มไม่พอใจ ว่าทำไมต้องยึดติดกับม.นี้เท่านั้น แล้วเราก็เริ่มทะเลาะกัน จากที่หนูเฉยๆ ก็เริ่มปฏิเสธว่าไม่อยากเข้าที่นี่ พวกท่านเลยบอกว่า หนูมีอคติ อะไรที่พ่อแม่เลือกให้ หนูมักจะไม่ยอมรับ หนูรู้สึกทั้งเคืองและเสียใจมาก ที่พ่อแม่คิดอย่างนั้นเพียงเพราะหนูมีจุดยืนและเหตุผลของหนู เกือบทุกครั้ง หนูพยายามจะบอกเหตุผลของหนูให้พวกท่านฟังว่าที่หนูอยากเข้าเรียนที่ที่หนูเลือกก็เพราะหลักสูตรมีปฏิบัติหลักๆอยู่เยอะ ทำให้หนูอยากเรียน ส่วนม.ที่พ่อแม่อยากให้เข้า มันเน้นทฤษฎีมากไป แต่พ่อกับแม่ก็มักจะพูดว่า "พอแล้ว ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก" เลยไม่ได้พูดสุดท้ายก็ต้องกลับมาคุยแล้วทะเลาะกันอยู่ดี
(หนูเลือกที่เรียนจากหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยค่ะ ถ้าอันไหนหนูคิดว่าหนูพอใจที่จะเรียนกับมันไปอีกสี่ปี หนูก็เลือกอันนั้น)
มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูเคยถามแม่ว่า "ทำไมต้องเป็นม.นี้อะแม่ ที่อื่นไม่ได้เหรอ"
แม่ตอบว่า "เพราะคอนแทกมันดี หางานง่าย"
หนูก็แย้งแม่ว่า "แต่หลักสูตรของสาขาที่หนูอยากเรียนของที่นี่ มันไม่เหมาะกับหนูนะแม่"
แม่ตอบกลับมาว่า "ก็ไปเข้าอย่างอื่นที่ไม่ใช่สาขานี้สิ"
หนูเงิบ ก็หนูอยากเรียนสาขานี้นี่นา "แล้วแม่จะให้เข้าอะไรอะ"
แม่ "คณะอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นม.นี้ก็พอ"
หนูเลยประชดแม่ออกไปว่า "งั้นหนูเลือกสังคมสงเคราะห์ก็ได้สินะ" (หนูไม่ได้มีเจตนาว่าสาขานี้นะค่ะ คือหนูแค่ต้องการประชดเฉยๆ)
แม่ "ใช่ แค่เรียนม.นี้ เขาก็รับทำงานหมดแหละ"
และบทสนทนาแบบนี้จะกลับมาแบบวนลูป คุยเรื่องเรียนต่อมหาลัยทีไร พ่อกับแม่ชอบย้ำประโยคที่ว่า "คณะอะไรก็ได้ แค่ม.นี้ก็พอ" หลายครั้งมาก จนหนูทนไม่ไหว พยายามจะทำความเข้าใจหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จนกระทั่งถึงช่วงสมัครสอบก็แล้ว ตอนนั้นหนูก็กลุ้ม ไหนจะสอบที่โรงเรียน สอบเข้าอีก จะมีที่เรียนไหน จะสอบติดหรือเปล่า เครียดไปหมด ยังต้องมาทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องเดิมๆให้เครียดหนักอีก แทนที่พ่อกับแม่จะคอยเป็นกำลังใจให้ เอาแต่พูดว่า เข้าที่นี่ให้ได้ แล้วพ่อจะให้รางวัล จะให้นั่นให้นี่ เอาของมาล่อหนูทุกอย่าง แต่มันไม่ได้ผลกับหนู (เพราะหนูเป็นคนที่ถือเอาใจตัวเองเป็นหลัก อะไรที่ชอบอะไรที่ใช่จะทุ่มสุดตัว แต่ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เอาเด็ดขาด ยกเว้นแต่ว่าจะมันจำเป็นต้องทำจริงๆ หนูถึงยอม)
และแล้วหนูก็สอบติดที่ที่อยากเข้าจนได้ เย้! ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก ในที่สุดความพยายาม ทั้งอ่านหนังสือ ทำข้อสอบ มันได้ผลลัพธ์ที่น่าภูมิใจมาก หนูปลื้มสุดๆ แต่ก็ปลื้มได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่บอกว่ายังไงก็อยากให้เข้าอีกที่ (แต่พ่อก็ยอมออกเงินค่ามัดจำให้) ก่อนหน้านี้หนูไม่มีหลักประกันอะไร เลยปฏิเสธได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่ตอนนี้มีแล้ว ติดแล้ว เลยปฏิเสธแบบสุดๆว่า ไม่อยากเข้าที่นั่น หนูจะเรียนที่ที่หนูสอบติด พอหนูย้ำๆหลายครั้ง และมีทีท่าว่าจะไม่สอบต่อ พ่อกับแม่ก็ไม่พอใจ ว่าบ้าง ทะเลาะบ้าง จนหนูเลยยอมแพ้ บอกไปว่า หนูจะสอบให้พ่อกับแม่ แต่ยังไงหนูก็จะเรียนที่ที่หนูอยากเรียน ในเมื่อปฏิเสธก็ไม่ได้ผล เลยกะสอบให้ไปเลย แต่พ่อก็ว่าว่า "ยังไงแกก็ไม่ตั้งใจจะสอบอยู่ดี จะไปสอบทำไม"
[หนูก็แบบไม่รู้จะทำไงดี (แต่สมัครสอบแกทแพทไปแล้วล่ะ) คืออย่างที่พ่อว่าหนูคิดว่าคงไม่ตั้งใจสอบแน่ๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะเดามันทุกข้อ คือความตั้งใจที่อยากให้ได้คะแนนสูงมันก็น้อยกว่าตอนสอบเข้าที่ที่อยากเข้าเท่านั้น]
ผ่านไปหลายวันเข้า หนูก็ยังยืนยันความคิดเดิมที่ว่าจะเรียนให้ได้ พ่อกับแม่ก็เหมือนเริ่มปลง แต่ยังออกแนวประชดบ้างว่า "อยากเรียนก็ตามใจ จะให้เรียน แต่อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน" หรือ "เดี๋ยวมันก็รู้เองแหละว่า อะไรๆไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด"
*ม.ที่หนูสอบติดต้องอยู่หอค่ะ เพราะห่างจากบ้าน 2 ชม.กว่าๆได้ ค่อนข้างไกลพอสมควร*
คือหนูคิดว่าหนูเข้าใจเหตุผลความเป็นห่วงของพ่อแม่ทุกอย่างว่าไม่อยากให้ไปไกลบ้าน ด้วยเพราะสุขภาพของหนู ห่วงว่าจะลำบากไหมหลังเรียนจบ ฯลฯ ยกเว้นเรื่องที่ว่าทำไมต้องม.นี้ นั่งคิดนอนคิดก็ไม่เข้าใจ ถ้าแค่เพราะคอนแทกหางาน ถึงแม้จะมีส่วน แต่หนูเชื่อว่าคงไม่ใช่ทั้งหมดแน่ๆ เหตุผลนี้ไม่มีน้ำหนักพอสำหรับหนูที่จะทำให้อยากเรียนในม.ที่พ่อแม่อยากให้เข้า
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดและการกระทำของตัวเองที่คิดว่าต้องทำให้พ่อแม่รู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน เคยคิดหลายครั้งว่า หนูเป็นลูกอกตัญญูหรือเปล่า แค่เข้าเรียนในที่ที่พ่อแม่อยากให้เรียนก็ทำไม่ได้
หนูอยากให้เรื่องนี้มันจบซักทีค่ะ หนูไม่รู้จะหาวิธีอะไรมาคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจได้แล้ว ทางพ่อแม่เองก็คิดว่าหนูไม่เข้าใจพวกท่าน ทั้งที่หนูเข้าใจถึงจะไม่หมดก็ตาม (แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า พ่อกับแม่อาจจะเข้าใจหนูแต่ไม่อยากยอมรับก็ได้ ไม่งั้นพ่อคงไม่ยอมจ่ายเงินมัดจำให้หนู)
อยากให้ที่บ้านกลับมาคุยเหมือนตอนหนูอยู่ม.ต้นเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าเจอหน้ากันทีไรแปดในสิบของเรื่องที่คุยต้องเป็นเรื่องนี้ แล้วจบด้วยการที่อารมณ์เสียทั้งสองฝ่าย
ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ
ทำไงดีคะ สอบได้แล้ว แต่พ่อแม่ไม่อยากให้เรียน + รู้สึกผิดที่ทะเลาะกับพ่อแม่
หนูกับพ่อแม่ทะเลาะกันเรื่องเรียนต่อมาเกือบสองปีแล้วค่ะ ในใจของหนูมีที่ที่หนูอยากเข้าและสาขาที่อยากเรียนตั้งแต่ม.4 แล้วค่ะ เพราะว่าหนูรู้ว่าตัวเองชอบเรียนอะไร ถนัดด้านไหน ตั้งแต่เนิ่นๆ เลยมีเวลาเตรียมตัวได้นาน ได้หาข้อมูลเกี่ยวกับสิ่งที่อยากเรียนจนกระทั่งเจอที่ที่อยากเข้า ลองไปเข้าค่ายของทางมหาวิทยาลัย ก็รู้สึกชอบมาก เลยไม่ลังเลที่เลือกที่นี่ แต่พ่อแม่ของหนู ท่านอยากจะให้เข้าเรียนในอีกมหาวิทยาลัยหนึ่ง ยังไงๆก็อยากจะให้เข้าที่นี้ให้ได้ หลายๆครั้งเวลาหนูไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนต่อ แล้วเจอที่ที่หนูสนใจ หนูจะมาเล่าให้พ่อแม่ฟัง พวกท่านก็มักจะบอกว่า "เข้าม.นี้ให้ได้ก็พอ" จนบ่อยๆเข้าหนูก็เริ่มไม่พอใจ ว่าทำไมต้องยึดติดกับม.นี้เท่านั้น แล้วเราก็เริ่มทะเลาะกัน จากที่หนูเฉยๆ ก็เริ่มปฏิเสธว่าไม่อยากเข้าที่นี่ พวกท่านเลยบอกว่า หนูมีอคติ อะไรที่พ่อแม่เลือกให้ หนูมักจะไม่ยอมรับ หนูรู้สึกทั้งเคืองและเสียใจมาก ที่พ่อแม่คิดอย่างนั้นเพียงเพราะหนูมีจุดยืนและเหตุผลของหนู เกือบทุกครั้ง หนูพยายามจะบอกเหตุผลของหนูให้พวกท่านฟังว่าที่หนูอยากเข้าเรียนที่ที่หนูเลือกก็เพราะหลักสูตรมีปฏิบัติหลักๆอยู่เยอะ ทำให้หนูอยากเรียน ส่วนม.ที่พ่อแม่อยากให้เข้า มันเน้นทฤษฎีมากไป แต่พ่อกับแม่ก็มักจะพูดว่า "พอแล้ว ฉันไม่อยากคุยเรื่องนี้อีก" เลยไม่ได้พูดสุดท้ายก็ต้องกลับมาคุยแล้วทะเลาะกันอยู่ดี
(หนูเลือกที่เรียนจากหลักสูตรของแต่ละมหาวิทยาลัยค่ะ ถ้าอันไหนหนูคิดว่าหนูพอใจที่จะเรียนกับมันไปอีกสี่ปี หนูก็เลือกอันนั้น)
มีอยู่ครั้งหนึ่งหนูเคยถามแม่ว่า "ทำไมต้องเป็นม.นี้อะแม่ ที่อื่นไม่ได้เหรอ"
แม่ตอบว่า "เพราะคอนแทกมันดี หางานง่าย"
หนูก็แย้งแม่ว่า "แต่หลักสูตรของสาขาที่หนูอยากเรียนของที่นี่ มันไม่เหมาะกับหนูนะแม่"
แม่ตอบกลับมาว่า "ก็ไปเข้าอย่างอื่นที่ไม่ใช่สาขานี้สิ"
หนูเงิบ ก็หนูอยากเรียนสาขานี้นี่นา "แล้วแม่จะให้เข้าอะไรอะ"
แม่ "คณะอะไรก็ได้ ขอแค่เป็นม.นี้ก็พอ"
หนูเลยประชดแม่ออกไปว่า "งั้นหนูเลือกสังคมสงเคราะห์ก็ได้สินะ" (หนูไม่ได้มีเจตนาว่าสาขานี้นะค่ะ คือหนูแค่ต้องการประชดเฉยๆ)
แม่ "ใช่ แค่เรียนม.นี้ เขาก็รับทำงานหมดแหละ"
และบทสนทนาแบบนี้จะกลับมาแบบวนลูป คุยเรื่องเรียนต่อมหาลัยทีไร พ่อกับแม่ชอบย้ำประโยคที่ว่า "คณะอะไรก็ได้ แค่ม.นี้ก็พอ" หลายครั้งมาก จนหนูทนไม่ไหว พยายามจะทำความเข้าใจหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี จนกระทั่งถึงช่วงสมัครสอบก็แล้ว ตอนนั้นหนูก็กลุ้ม ไหนจะสอบที่โรงเรียน สอบเข้าอีก จะมีที่เรียนไหน จะสอบติดหรือเปล่า เครียดไปหมด ยังต้องมาทะเลาะกับพ่อแม่เรื่องเดิมๆให้เครียดหนักอีก แทนที่พ่อกับแม่จะคอยเป็นกำลังใจให้ เอาแต่พูดว่า เข้าที่นี่ให้ได้ แล้วพ่อจะให้รางวัล จะให้นั่นให้นี่ เอาของมาล่อหนูทุกอย่าง แต่มันไม่ได้ผลกับหนู (เพราะหนูเป็นคนที่ถือเอาใจตัวเองเป็นหลัก อะไรที่ชอบอะไรที่ใช่จะทุ่มสุดตัว แต่ถ้าไม่อยากทำก็ไม่เอาเด็ดขาด ยกเว้นแต่ว่าจะมันจำเป็นต้องทำจริงๆ หนูถึงยอม)
และแล้วหนูก็สอบติดที่ที่อยากเข้าจนได้ เย้! ตอนนั้นรู้สึกดีใจมาก ในที่สุดความพยายาม ทั้งอ่านหนังสือ ทำข้อสอบ มันได้ผลลัพธ์ที่น่าภูมิใจมาก หนูปลื้มสุดๆ แต่ก็ปลื้มได้ไม่นานเท่าไหร่ เพราะพ่อแม่บอกว่ายังไงก็อยากให้เข้าอีกที่ (แต่พ่อก็ยอมออกเงินค่ามัดจำให้) ก่อนหน้านี้หนูไม่มีหลักประกันอะไร เลยปฏิเสธได้ไม่เต็มปากเต็มคำ แต่ตอนนี้มีแล้ว ติดแล้ว เลยปฏิเสธแบบสุดๆว่า ไม่อยากเข้าที่นั่น หนูจะเรียนที่ที่หนูสอบติด พอหนูย้ำๆหลายครั้ง และมีทีท่าว่าจะไม่สอบต่อ พ่อกับแม่ก็ไม่พอใจ ว่าบ้าง ทะเลาะบ้าง จนหนูเลยยอมแพ้ บอกไปว่า หนูจะสอบให้พ่อกับแม่ แต่ยังไงหนูก็จะเรียนที่ที่หนูอยากเรียน ในเมื่อปฏิเสธก็ไม่ได้ผล เลยกะสอบให้ไปเลย แต่พ่อก็ว่าว่า "ยังไงแกก็ไม่ตั้งใจจะสอบอยู่ดี จะไปสอบทำไม"
[หนูก็แบบไม่รู้จะทำไงดี (แต่สมัครสอบแกทแพทไปแล้วล่ะ) คืออย่างที่พ่อว่าหนูคิดว่าคงไม่ตั้งใจสอบแน่ๆ แต่ไม่ใช่ว่าจะเดามันทุกข้อ คือความตั้งใจที่อยากให้ได้คะแนนสูงมันก็น้อยกว่าตอนสอบเข้าที่ที่อยากเข้าเท่านั้น]
ผ่านไปหลายวันเข้า หนูก็ยังยืนยันความคิดเดิมที่ว่าจะเรียนให้ได้ พ่อกับแม่ก็เหมือนเริ่มปลง แต่ยังออกแนวประชดบ้างว่า "อยากเรียนก็ตามใจ จะให้เรียน แต่อย่ามาเสียใจทีหลังแล้วกัน" หรือ "เดี๋ยวมันก็รู้เองแหละว่า อะไรๆไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด"
*ม.ที่หนูสอบติดต้องอยู่หอค่ะ เพราะห่างจากบ้าน 2 ชม.กว่าๆได้ ค่อนข้างไกลพอสมควร*
คือหนูคิดว่าหนูเข้าใจเหตุผลความเป็นห่วงของพ่อแม่ทุกอย่างว่าไม่อยากให้ไปไกลบ้าน ด้วยเพราะสุขภาพของหนู ห่วงว่าจะลำบากไหมหลังเรียนจบ ฯลฯ ยกเว้นเรื่องที่ว่าทำไมต้องม.นี้ นั่งคิดนอนคิดก็ไม่เข้าใจ ถ้าแค่เพราะคอนแทกหางาน ถึงแม้จะมีส่วน แต่หนูเชื่อว่าคงไม่ใช่ทั้งหมดแน่ๆ เหตุผลนี้ไม่มีน้ำหนักพอสำหรับหนูที่จะทำให้อยากเรียนในม.ที่พ่อแม่อยากให้เข้า
ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเสียใจกับคำพูดและการกระทำของตัวเองที่คิดว่าต้องทำให้พ่อแม่รู้สึกเสียใจไม่ต่างกัน เคยคิดหลายครั้งว่า หนูเป็นลูกอกตัญญูหรือเปล่า แค่เข้าเรียนในที่ที่พ่อแม่อยากให้เรียนก็ทำไม่ได้
หนูอยากให้เรื่องนี้มันจบซักทีค่ะ หนูไม่รู้จะหาวิธีอะไรมาคุยกับพ่อแม่ให้เข้าใจได้แล้ว ทางพ่อแม่เองก็คิดว่าหนูไม่เข้าใจพวกท่าน ทั้งที่หนูเข้าใจถึงจะไม่หมดก็ตาม (แอบคิดเข้าข้างตัวเองว่า พ่อกับแม่อาจจะเข้าใจหนูแต่ไม่อยากยอมรับก็ได้ ไม่งั้นพ่อคงไม่ยอมจ่ายเงินมัดจำให้หนู)
อยากให้ที่บ้านกลับมาคุยเหมือนตอนหนูอยู่ม.ต้นเหมือนเดิม ไม่ใช่ว่าเจอหน้ากันทีไรแปดในสิบของเรื่องที่คุยต้องเป็นเรื่องนี้ แล้วจบด้วยการที่อารมณ์เสียทั้งสองฝ่าย
ขอคำแนะนำด้วยนะค่ะ