สวัสดีทุกท่านครับ หลังจากเป็นผู้อ่านมานาน วันนี้ขอร่วมแบ่งปันที่พักสวยๆ ให้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชีพจรลงเท้าเหมือนกัน
เป็นหมายการเดินทางครั้งนี้อยู่ที่ปราณบุรี โรงแรมที่จะแนะนำวันนี้ชื่อว่า Pa Prai Villas ครับ ซึ่งผมไปมาช่วงต้นเดือนตุลา

ไม่รู้ว่าใครเป็นเหมือนผมมั้ย ว่าถ้าอยากไปก็ไปเลย ไม่ค่อยได้วางแผนเท่าไหร่ อาศัยว่าคืนวันศุกร์รู้สึกอยากเที่ยวอยากพัก ก็เข้า Agoda เช็ค Booking เลยครับ ว่ามีที่ไหนที่อยู่ในงบบ้าง และพอว่างอยู่ ตอนแรกจะไปวังน้ำเขียว แต่เห็นข่าวน้ำท่วมปราจีนเลยถอดใจ เปลี่ยนไปทะเลดีกว่า55
หัวหินที่ดีๆ ก็เต็ม และแพงไปแล้ว แถมคนยังเยอะอีกต่างหาก ใจอยากไปวิเวกหน่อย เลยขยับเป้าหมายไปปราณบุรี ซึ่งก็ยังมีให้เลือกเยอะเลยครับ ทั้งแบบติดหาด และไม่ติดหาด สำรวจราคาไปมา ก็มาสะดุดตากับชื่อของ Pa Prai Villas นี่แหละครับ ไม่เคยได้ยินเลย (ส่วนตัวนะครับ เค้าอาจจะมีชื่อเสียงอยู่แล้ว) แต่ราคาบน Agoda นี่เล่นเอาผมแทบหยุดหายใจ เพราะห้อง 1 Bed Pool Villa ราคาพิเศษ ถูกมาก ลดจากหลักหลายหมื่น มาเหลือแค่หลักพันต้นๆ ไม่รู้ว่าเป็น Promotion หรืออะไรยังไง ผมไม่ลังเล Confirm ทันที เอาไงเอากัน ไม่ติดทะเลก็ไม่เป็นไร ก็คงไม่ไกลมาก ไปนอน Pool Villa กันครับ

อย่างที่บอกโรงแรมไม่ได้อยู่ติดทะเล แต่จะอยู่บนเนินเขา ขออนุญาติยืมแผนที่จาก web โรงแรมมาประกอบครับ ขับไปจริงๆ จะงงกว่าในแผนที่เล็กน้อย

ถ้ามาจากเพชรบุรี ไม่ต้องเข้าหัวหินนะครับ ให้วิ่งสายนอก ไปประจวบ พอถึงทางร่วมที่แยกมาจากหัวหิน ก็จะเจอไฟแดงแรก ให้เลี้ยวซ้ายไปเลยครับ วิ่งไปตามทางซักพักจะมีทางแยกซ้ายมือ เหมือนเป็นทางในหมู่บ้าน ก็เข้าไปตามทางเรื่อยๆ จะวกไปมาหน่อย ข้ามทางรถไฟสายใต้ แล้วจะมีแยกให้ไปทางขวานะครับ ตรงไปเรื่อยๆ สังเกตว่าจะเห็นสำนักชลประทานอยู่ทางขวามือบนเนินเขา พอเลยจุดนี้ไปไม่ไกล ทางเข้าโรงแรมก็จะเป็นซอยแยกเข้าไปทางขวามือครับ ป้ายอาจจะเล็กหน่อย ถนนทางเข้าโรงแรมเป็นลูกรังเลยครับ ก็ขับระวังหน่อย รถเก็งเล็กเข้าได้ครับ แค่ช่วงสั้นๆ

พอเลี้ยวเข้าโรงแรมฝั่งซ้ายจะเป็นตึกห้องพัก ส่วนขวามือจะเป็นหมู่ Villa ทั้งหลายครับ ในรูปจะเห็นว่ามีรถรับจ้าง มารอรับนักท่องเที่ยวจะไปหาดหรือไปหัวหินก็สุดแล้วแต่เลยครับ


มองย้อนไปจะเห็นหมู่ Pool Villa ทางซ้ายมือครับ ติดไร่สัปปะรดเลยครับ


วิวไร่สัปปะรดแปลกตาไปอีกแบบ ^ ^ ผมพยายามชะเง้อมองหาทะเล กะว่า ไม่ใกล้ก็ขอให้ได้เห็นไกลๆ ก็ยังดี จินตนาการว่า ทะเลน่าจะอยู่หลังทิวต้นไม้นั่น แต่น้องพนักงานโรงแรมบอกว่า ต้องขับรถไปอีกประมาณ 4 กิโล ผมก็เอ่อ โอเค...


วิลล่าหลังที่ผมพักชื่อ Wuyu ครับ หลังแรก ซ้ายมือเลย


ลวดลายประตูออกแบบได้มีดีไซน์ อันนี้ผมถ่ายจากในวิลล่ามองย้อนออกไปนะครับ


Surprise สุดๆ ครับ เพราะห้องที่จองไว้ คือ 1 Bed Pool Villa แต่พอเข้ามาจริงๆ ได้เป็น 2 Bed Pool Villa เลยครับ กว้างขวางมาก 550 ตารางเมตร คือมี 1 Master Bedroom ห้องน้ำในตัว พร้อมอ่างจากุชชี่ อีก 1 Twin Bed Room + ห้องน้ำ แต่ไม่มีจากุชชี่ และห้อง Living room ที่มีชุด Sofa + TV Home Theater และ Mini Pantry โอ้วคุณพระ!! ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ไปดูสุดยอด Pool ก่อนครับ ไม่ใช่แค่แช่ตัว แต่ว่ายไปกลับได้เลย แถมเป็นระบบเกลือ มีหัวพ่นน้ำไว้นวดตัวด้วย สุดยอด




ผมชอบภาพนี้สุดๆ ครับ ได้บรรยากาศมาก เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเลย ถ้าฝนไม่ตกจะเยี่ยมไปเลยครับ


ถ่ายจากอีกฝากนึงของสระครับ จะมีศาลาขนาดย่อม ถ้าใครมาปาร์ตี้กับเพื่อน ก็สามารถใช้มุมนี้เตรียมเครื่องดื่ม อาหาร คนที่ไม่ว่ายน้ำก็อยู่ศาลา ปาร์ตี้กันไป คนที่ว่ายแล้วหิวก็แวะมาจิบเครื่องดื่มเย็นๆ ได้ที่มุมนี้ครับ แต่ผมไม่ได้ไปกับเพื่อนๆ ก็ได้ภาพแบบโล่งๆ แบบนี้มาให้ดูแทนละกันนะครับ 55


บรรดาห้องนอนและ Living Room จะอยู่อีกฝากของสระครับ เดี๋ยวเราไปดูกัน


เริ่มจากห้องนอนใหญ่ Master Bedroom กันก่อนเลยครับ เตียงหนานุ่ม นอนสบายมากครับ


มี Safe ให้ด้วย


จากเตียงมองไปเห็นอ่างจากุชชี่ได้เลยครับ


คราวนี้ไปดูห้องน้ำสุดอลังการกันครับ ตรงกลางห้องเป็นจากุชชี่เลย ส่วนใครอยากอาบแบบยืนอาบ ก็มีห้องแยกต่างหากเป็นแบบ Rain Shower ด้วย


แช่ตัวในจากุชชี่ มองวิวสระ สวน เพลินตา เพลินใจ เซ็กซี่ที่สุด


อ่างล้างหน้ามี 2 อ่าง แปรงฟันพร้อมกัน ไม่ต้องแย่งกันครับ 555


อีกมุมครับ คลานลงจากเตียงมาลงอ่างได้เลย ไม่ไกลนะ เอิ๊กกก


ไปดูห้องนอน 2 กันบ้าง เป็นเตียงคู่นะครับ มากันเป็นครอบครัว ไม่ต้องแย่งกันใช้ facility เลยครับ เหลือเฟือ


ห้องน้ำในตัวเหมือนกัน แต่ไม่มีจากุซชี่เท่านั้น


ไปต่อที่ห้อง Living Room กันครับ ซึ่งจริงๆ แล้วจากประตูวิลล่าเข้ามาก็จะเจอกับส่วนนี้ก่อนครับ แล้วค่อยเป็นห้องนอน
มุมนี้นั่งดูทีวี ฟังเพลง กันชิวๆ



มี Pantry เล็กๆ สำหรับคนที่ชอบทำอาหาร เตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็น แก้วน้ำ จานชาม มีด ช้อน ส้อม อุปกรณ์ล้างจาน มีให้หมด


ทำเสร็จแล้วนั่งทานตรงนี้ได้


กินไปนั่งดูน้องช้างไป น่ารักดีครับ


ผมชอบโคมไฟเค้านะ สวยดี


หรือถ้าทานกันเป็นเรื่องเป็นราว ก็มีโต๊ะอาหาร ไม้จริง ใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่ม อยู่ริมสวน


ปิดท้ายกันด้วยภาพชายหาดปราณบุรี ยามโพล้เพล้ ในวันครื้มฝน ฟ้ากับทะเลแทบจะเป็นสีเดียวกันเลย
โชคดีที่วันแรกฝนไม่ตก พอมีโอกาสได้ถ่ายภาพสวยๆ เก็บไว้บ้าง ส่วนอีกวันฝนเทกระหน่ำตั้งแต่ยังไม่รุ่งสาง เลยอดเที่ยวเลย หุหุ


ผมไม่ได้มาปราณบุรีร่วม 10 ปีได้ จริงๆ เมืองมันก็เปลี่ยนตัวเองไปทุกปี อาจไม่สงบเงียบเหมือนก่อนก็จริง
แต่สำหรับที่นี่ผมว่าเวลามันเดินช้ากว่าที่อื่น สายลมเอื่อยๆ พัดหวนเอาความทรงจำเก่าๆ
คิดแล้วน้ำตาจะไหล...


ขอบคุณที่ร่วมติดตามครับ